คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #11 : เวลาแห่งความสุข
Chapter 11 เวลาแห่งความสุข
ภายในโรงหนัง
มาม่อนกับเบลเข้าไปนั่งประจำที่ เพื่อรอดูหนังเป็นที่เรียบร้อย ทั้งที่วันนี้เป็นวันหยุดแต่กลับมีลูกค้าเพียงน้อยนิดซึ่งส่วนมากได้หนีตะเลิดไปเพราะบอสแห่งวาเรียมาอาละวาดถึงที่ ดวงตาสีม่วงกวาดสายตาสำรวจไปทั่วแล้วมาสิ้นสุดที่คนข้างๆ คิ้วเรียวขมวดมุ้นเมื่อเจ้าชายหัวทองที่นั่งข้างๆทำหน้าตื่นๆเลิ่กลักๆ
“นายเป็นอะไรน่ะ
”
“กระเป๋าตัง
กระเป๋าตังของเจ้าชายอยู่ไหนอ่ะ!?”
“อ้าว! ไปลืมไว้ที่ไหนรึเปล่า”มาม่อนสอดส่ายสายตา ช่วยมองหาอีกแรง แต่ไม่ว่าจะช่วยหาขนาดไหน ก็ไม่มีวี่แววว่าจะเจอเลย
“โอ๊ย! เจ้าชายเอาไปไว้ไหนเนี่ย”เบลทิ้งตัวลงนั่งที่เดิม ด้วยอารมณ์ที่เสียสุดๆ จนคนที่แอบมองมานานอดสงสัยไม่ได้
“มีอะไรในนั้นสำคัญหรอ?”
“ก็
เปล๊า ไม่มีอะไรเลย ไม่มี้ไม่มี ชิชิชิ”
‘เฮอๆ
จะให้เจ้าชายบอกไปได้ยังงัยล่ะ ว่าในนั้นมีรูปตอนนอนของมาม่อนที่เจ้าชายแอบถ่ายเอาไว้น่ะ ชุดนอนตอนนั้นน่ะ มันก็บางแนบเนื้อแล้วสายเสื้อก็หล่นลงมาจนเห็นไหล่ไล่เรื่อยจนเกือบจะเห็นหน้าอกแหน่ะ เจ้าชายเกือบอดใจไม่ไหวเลยน้า
แล้วขืนเจ้าชายบอกมาม่อนไปล่ะก็ คงได้กลายรูปเป็นปาติมากรรมน้ำแข็งแน่ๆ’
“
บล
เบล!”
“หา อะไรหรอ”
“ฉันเรียกตั้งหลายรอบ คิดอะไรลามกๆอยู่ใช่มั้ยล่ะ หน้าถึงได้แดงแปร๊ดขนาดนั้น”คำพูดย้ำความคิด(ลามก)ยิ่งทำให้หน้าที่แดงอยู่แล้วของเบล แดงขึ้นไปอีก รีบพูดแก้ตัวเป็นพัลวัน
“เปล๊า
เจ้า
เจ้าชาย
ไม่ได้คิดอะไร
เจ้าชายไม่ได้คิดอะไรลามกกับมาม่อนจริงๆนะ”
“หืม?”
“เจ้าชายไม่เลวขนาดแอบถ่ายภาพมาม่อนตอนนอนมาเก็บไว้ในกระเป๋าหรอก ชิชิชิ ชิชิชิ”
“หา?
”มาม่อนแกล้งถามเสียงขุ่น มองคนที่นั่งดูดน้ำกลบเกลื่อนอย่างเอาเป็นเอาตายด้วยใบหน้าแดงก่ำแล้วนึกขำในใจ
‘รู้ตัวบ้างรึเปล่าน่ะ ว่าเมื่อกี้สารภาพออกมาเองหมดเลย คิกๆๆ เฮ้อ
เอาเหอะ เห็นแก่วันนี้ทำตัวน่ารัก จะยอมยกให้ครั้งนึงก็แล้วกัน’
“มาม่อน~~หนังเริ่มแล้วนะ”
“อืมๆ”มาม่อนมองคนที่เปลี่ยนอารมณ์ได้อย่างรวดเร็วด้วยรอยยิ้มน้อยๆ แล้วก็ต้องถอนหายใจเฮือกเมื่อได้ดูหนังที่เจ้าชายตัวดีบอกว่าคลายเครียดได้ดี
‘เชือด~ชำแหละ~ชิม
เออ
.เจริญ เลือกหนังได้ยอดเยี่ยม(แย่)มาก’
ภาพหนังที่มีตั้งแต่การชำแหละศพ มีทั้งผีและคนบ้าครบในเรื่องเดียวเรียกเสียงกรี๊ดกร๊าดจากคนขวัญอ่อนที่นั่งดูอยู่ร่วมกับพวกเธอได้ไม่ยาก
“เฮ้อ~~
เอ๊ะ!”น้ำหนักที่กดลงบนไหล่ซ้ายเรียกสายตาร่างบางให้หันไปมอง เจ้าชายตัวดีที่ตอนนี้หลับโดยเอาไหล่เธอเป็นหมอน ริมฝีปากบางคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยน นิ้วเรียวสัมผัสไปตามแก้มที่ชอบทำป่องเวลางอนใคร ไล่เรื่อยไปยังจมูกโด่งสันได้รูป ก่อนจะมาหยุดที่ริมฝีปากที่ทั้งหวานและอบอุ่นเวลาที่ได้สัมผัส
“นายน่ะ หล่อและมีเสน่ห์มากเลยรู้มั้ย เบล”พูดจบริมฝีปากบางก็ก้มลงทาบทับกับริมฝีปากหนาของร่างสูงอย่างเนิ่นนาน ก่อนจะค่อยๆถอนจูบออกมาอย่างช้าๆก่อนจะเอ่ยกระซิบข้างหู
“รู้มั้ย ว่ามีแต่เด็กที่จะหลับเวลาดูหนังแบบนี้น่ะ”มาม่อนหัวเราะน้อยๆก่อนจะหันกลับไปดูหนังต่อ โดยที่ไม่ได้รับรู้เลยว่า คนที่เพิ่งขโมยจูบไปเมื้อกี้ยังไม่ได้หลับเลยแม้แต่น้อย หัวใจของเบลที่ได้รับความอบอุ่นจากคนตรงหน้าเต้นแรงเสียกลัวว่าคนที่ตัวเองนอนซบอยู่จะได้ยิน
‘เจ้าชายดีใจมากเลย รู้มั้ย มาม่อน เจ้าหญิงของเจ้าชาย
’
หลังจากดูหนัง เวลา 12.00 น.
“โอ๊ย! เจ้าชายหิวแล้วอ่ะ กินซูชินะ”
“อิตาลี่มีด้วยหรอ?”มาม่อนถาม
“ชิชิชิ เจ้าชายรู้อยู่ที่นึง ไปสิ”พูดจบก็พา(ลาก)มาม่อนตรงไปยังจุดหมายทันที
เบลพามาม่อนมายังย่านอาหารแห่งหนึ่ง เป็นแหล่งอาหารนานาชาติ ไม่ว่าจะเป็นอาหารญี่ปุ่น อาหารจีน อาหารไทย หลากหลายเต็มข้างทาง มาม่อนมองรอบบริเวณอย่างเพลิดเพลินก่อนจะสะดุ้งสุดตัวเมื่อสัมผัสได้ถึงรังสีอำมหิตที่ทำเอาหลังเสียววาบ
“อ๊ะ!...”
“หืม
เป็นอะไรรึเปล่ามาม่อน ถึงร้านที่เจ้าชายบอกแล้วน้า”เบลถามด้วยความสงสัย ก่อนจะชี้ไปร้านร้านหนึ่งที่อยู่ตรงหัวมุม
“อะ
ปะ ป่าว ไม่มีอะไรหรอก”
“หรอ
เข้าไปกินกันเถอะ ชิชิชิ”
‘ความรู้สึกเมื่อกี้ มันอะไรกันนะ’
บริเวณร้านอาหารฝั่งตรงข้ามร้านที่ทั้งสองคนเข้าไป ปรากฏร่างของชายในชุดสีดำปกปิดในหน้าด้วยหน้ากาก ดวงตาที่ฉายออกมานั้นแสดงถึงความโกรธแค้นชิงชัง ขณะมองคนที่ตนแอบสะกดรอยมานาน
“พระองค์จะต้องชดใช้สิ่งที่ทำเอาไว้กับหม่อมฉัน เจ้าชาย”
“ชิชิชิ มาม่อนจะกินอะไรเอ่ย”เบลถามมาม่อน แล้วก็ต้องขมวดคิ้วมุ้นเมื่อมองเห็นอาหารระแวดระวังตัวอย่างผิดปกติของคนตรงหน้า
“มาม่อน?”
“อะ เออ ว่าไง”
“เป็นอะไรน่ะ มีอะไรรึป่าว?”
“รู้สึกเหมือนมีคนตามมาน่ะ แต่คงจะคิดไปเองล่ะมั้ง ช่างเถอะ หิวแล้ว สั่งให้หน่อยสิ น่าจะรู้ว่าอะไรอร่อยไม่ใช่หรอ”
“อืม ชิชิชิ”เบลหันไปสั่งอาหารกับพนักงาน ระหว่างนั้นมาม่อนก็พิจารณาร้านแห่งนี้ ร้านนี้สร้างบรรยากาศเสมือนว่าตอนนี้รับประทานอาหารอยู่ที่ญี่ปุ่นจริงๆ ทั้งพนักงานที่แต่งชุดกิโมโน ทั้งเสียงเพลงญี่ปุ่นสมัยก่อนคลอเบาๆให้ความเพลิดเพลิน แถมยังมีฉากกั้นระหว่างโต๊ะ ทำให้ดูเป็นส่วนตัวมากๆ
‘ชอบจัง บรรยากาศสงบๆ เป็นส่วนตัวแบบนี้’มาม่อนยิ้มออกมาบางๆ ก่อนหันไปมองคนที่พาเข้าร้านมา
‘ไม่ยักรู้ว่าเจ้าชายคนนี้มีรสนิยมแบบนี้แฮะ เห็นปกติชอบเล่นสนุกๆ ชอบอะไรที่มันวุ่นวายนี่นา’
“เจ้าชายก็ไม่ค่อยชอบหรอก”คำพูดที่ราวกับอ่านใจเธอออก เล่นเอามาม่อนหน้าเหวอไปชั่วครู่
“รู้ได้ไงว่าฉันคิดอะไรอยู่”
“เปล่าหรอก ก็แค่
ตอนที่เจ้าชายพามาม่อนตอนเด็กมาครั้งแรก มาม่อนก็เคยถามเจ้าชายน่ะ”
“อ๋อ
นี่ แล้วถ้าไม่ชอบ จะพาเข้ามาทำไมเนี่ย?”
“เพราะมาม่อนชอบ”คำพูดที่เหมือนแอบแฝงอะไรบางอย่างที่พิเศษ ทำให้แก้มใสแดงระเรื่ออย่างไม่มีสาเหตุ
“เจ้าชายรู้ว่ามาม่อนไม่ชอบที่ที่มีคนพลุกพล่าน ชอบความสงบ และก็ชอบที่ที่ทำให้รู้สึกสบายใจน่ะ”
“
”
“เจ้าชายก็เลยพามาที่นี่ไงล่ะ”น้ำเสียงที่แสนจะอบอุ่นนั้นทำเอาหัวใจเต้นผิดจังหวะ
“ละ แล้ว
นายก็ไม่ชอบน่ะสิ คราวหลังไม่ต้องมา
”
“ใครบอก”
“หืม?”
“แค่เห็นมาม่อนยิ้มอย่างมีความสุข เจ้าชายก็มีความสุขแล้ว”ความหมายที่แสนวิเศษนั้น ทำให้มาม่อนดีใจจนบอกไม่ถูก ดวงหน้าแดงขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า
“มาม่อน”เบลคว้ามือมาม่อนขึ้นมาจุมพิต ก่อนจะหยิบของบางอย่างออกมาจากกระเป๋า
แหวนทำจากทองคำขาวบริสุทธิ์ประดับด้วยทับทิมล้อมด้วยเพชรเม็ดเล็กๆอย่างสวยงามปรากฏตรงหน้า
“นี่มัน”ยังไม่ทันที่จะได้ถามอะไรมากความ เบลก็สวมแหวนนั้นเข้ากับนิ้วนางข้างขวาของมาม่อนเสียแล้ว
“อะไรน่ะเบล?”
“แหวนไง”
“ฉันรู้แล้ว นี่มันแหวนอะไรน่ะ”
“แหวนของเสด็จแม่ของเจ้าชายน่ะ”
“หา?”มาม่อนเบิกตากว้าง รีบจะถอดออกแต่ก็ถูกคนตรงหน้ารั้งมือเธอไว้ก่อน
“เบล
”
“ให้เพราะว่ารัก”
“อึ่ก”
“เห็นแก่ความรักของเจ้าชาย ช่วยรับไว้เป็นเจ้าของได้มั้ย อย่าถอดเลยนะ”คำพูดที่จริงจังและแฝงไปด้วยคำอ้อนวอน ทำให้มาม่อนยอมจำนนอย่างช่วยไม่ได้
“อืม รับไว้ก็ได้”เบลที่ได้ยินดังนั้น ก็ยิ้มกว้างดีใจอย่างที่สุด
“มาม่อนยอมเป็นเจ้าของมันแล้วนะ”
“อืม..ว่าแต่นี่มันแหวนอะไรหรอ”
“ชิชิชิ”
“เอ๋?”มาม่อนมองเบลก่อนจะเริ่มรู้ถึงลางร้ายเมื่อคนตรงหน้าเผยยิ้มแปลกๆ
“เป็นแหวนประจำราชวงศ์ เป็นแหวนของที่ผู้ใช้มายาที่เก่งกาจที่สุดในยุคนั้นสามคนสร้างขึ้น พลังมากมายมหาศาล อาจมีพลังมากกว่าวองโกเล่ริงค์ด้วยซ้ำ แต่แหวนนี้มีสมบัติในการปกป้องเจ้าของมัน ซึ่งตอนนี้ก็คือมาม่อน
แหวนวงนี้มีกฎว่าเมื่อเจ้าชายของราชวงศ์นั้นสวมให้กับหญิงคนไหน แล้วหญิงคนนั้นตอบรับเป็นเจ้าของมัน...แล้วยิ่งหญิงนั้นมีความสามารถในการใช้ภาพมายาด้วยแล้ว มันจะมอบพลังมหาศาลให้ด้วยน่ะ”
“แล้วไงอีก? ฟังแล้วก็ยังไม่เห็นจะมีอะไรเกี่ยวกับฉันเลยนี่”
“เกี่ยวเต็มๆเลยล่ะ”
“หืม?”
“แหวนวงนี้คือสัญลักษณ์ของผู้หญิงที่จะมาเป็นว่าที่พระชายาของเจ้าชายไงล่ะ!!!”
ทุกอย่างเงียบกริบเมื่อคนนึงกำลังมองปฏิกิริยาของคนที่ฟังส่วนอีกคนกำลังประมวลผลสิ่งที่ได้ยินเมื่อครู่
‘ชายาของเจ้าชาย’
‘ชายาของเจ้าชาย’
‘หมายความว่า’
‘ฉันกับเบลต้อง
’
“ไม่จริ๊งงงงงงงงงงงงงงงง”เสียงร้องที่เล่นเอาชาวบ้านชาวช่องสะดุ้งตกใจ เบลมองมาม่อนที่พยายามเอาแหวนออกจากนิ้วมืออย่างเอาเป็นเอาตายด้วยรอยยิ้มขำ
“ไม่มีทางถอดออกหรอก”
“หา”
“ถ้าผู้เป็นเจ้าของไม่ตาย ก็ไม่มีทางถอดออกหรอก ชิชิชิ”
“เบลเฟกอลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลลล”
ตกเย็นคืนนั้น
ณ สวนสาธารณะ
“น่านะ~~มาม่อนเลิกโกรธเจ้าชายเหอะนะ
น้า~~”เบลเดินตามง้อคนตรงหน้านี้มาตั้งหลายชั่วโมง ก็ไม่มีทีท่าว่ามาม่อนจะหายโกรธเลยสักนิด แถมยังทำเย็นชาใส่ ไม่พูดอะไรสักคำ
“มาม่อน อย่างน้อยพูด(ด่า)เจ้าชายสักคำก็ยังดี นะ”เบลทำแก้มป่องอย่างขัดใจ ก่อนจะหูผึ่งเมื่อคนตรงหน้าอ้าปากพูด
“เบล”
“จ๋า~~”
“ก้มหัวลงมาหน่อย”
“เอ๋ ทำไมล่ะ”ถามไปอย่างนั้นแต่ก็ก้มหัวไปหาแต่โดยดี
มาม่อนถอนหายใจเฮือก ก่อนจะ
“นี่แน่ะๆๆๆๆๆๆๆ”
“โอ๊ยยยยยยยย เจ็บๆๆๆๆๆ”เบลร้องลั่น เมื่อโดนมาม่อนเอามือยีหัวอย่างแรงจนเจ็บแปร๊บ หัวที่ฟูยุ่งอยู่แล้วยิ่งดูไม่ได้เข้าไปใหญ่ มาม่อนมองก่อนจะค่อยๆหลุดขำอย่างอดไม่อยู่
“ใจร้าย~~”
“สมน้ำหน้า ทำอะไรหัดคิดถึงคนอื่นบ้างนะ ถ้ามีคราวหน้าอีก
ฉันจะเอาหัวนายไปถูกับพื้นคอนกรีตเลย คอยดูสิ หึ”
“โหดชะมัด”เบลแอบบ่นอุบอิบ
“ว่า-ไง-น้า-~~”
“เปล่าครับ จะไม่ทำอีกแล้วครับ
คุณผู้หญิง”
“หึ กลับกันได้แล้ว
เร็ว”
“นี่
มาม่อน”
“อะไรอีกล่ะ”
“ไม่อยากได้
แหวนนั่นจริงๆหรอ”เสียงเศร้าๆอย่างน่าสงสาร ทำให้มาม่อนหันมาหา มือบางเอื้อมขึ้นจับใบหน้าชายหนุ่มที่ทำแก้มป่องอย่างน่ารัก
“ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้”
“หืม”เบลทบทวนคำพูดเมื่อกี้อีกครั้ง
‘ไม่ใช่ว่าไม่อยากได้ ก็แปลว่า
’
“มาม่อน”เบลคว้าคนร่างบางตรงหน้าเข้ามากอด
“เจ้าชายดีใจมากเลยรู้มั้ย ชิชิชิ”มาม่อนอมยิ้มน้อยๆ คิดถึงเรื่องที่ตนเองทำก่อนที่จะมาเดทวันนี้ เมื่อเช้าเธอเข้าไปหาบอสวาเรีย ให้ช่วยเล่าเรื่องตัวเธอในยุคนี้กับเบลตั้งแต่แรกจนจบ และก็ไม่รู้ทำไม พอเธอได้ฟังเรื่องทั้งหมด เธอกลับเห็นภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในยุคนี้จากภาพมายาของใครสักคนอย่างน่าประหลาด พอถามจางนีนิที่น่าจะรู้เรื่องนี้ เขาก็ตอบมาว่าเรื่องที่ฉันเห็นภาพตัวเธอกับเบลในยุคนี้นั้น มันไม่ใช่เหตุบังเอิญ แต่คนที่รู้ความจริงเรื่องนี้ คือ อิริเอะ โชอิจิ ซึ่งเป็นคนที่ส่งอัลโกบาเลโน่มาที่นี่ด้วย เขาเป็นใครกันนะ
“มาม่อนเป็นอะไรรึเปล่า”
“เปล่านิ”
“มาม่อน
”
“ว่าไงล่ะ?”
“รักเจ้าชายบ้างมั้ย?”
“อะ คือ
”มาม่อนอึ้งกับคำถามที่ได้รับจนตั้งตัวไม่ถูก
“
”
“คือว่า
”
“เจ้าชายรักมากนะ”มาม่อนเงยหน้ามอง ในใจนึกอยากจะมองทะลุเส้นผมนั่น มองดวงตาคนตรงหน้าสักครั้ง อยากเห็นว่าเบลมองเธอด้วยสายตาแบบไหนกันแน่
“เบล
คือว่า”
“เอาเถอะ
ไม่อยากพูดก็ไม่เป็นไร เจ้าชายรอได้ ในเมื่อเจ้าชายก็เป็นฝ่ายรอมาตั้งนานอยู่แล้วนิ”
“อึ่ก”
“ชิชิชิ เรากลับกันเถอะ”มาม่อนมองคนที่หันหลังให้เธอ สัมผัสได้ถึงความเศร้าและความผิดหวังจนเธอแทบอยากร้องไห้
‘ทำไมถึงได้ดูอ้างว้างแบบนี้นะ’มาม่อนมอง ก่อนสูดหายใจเข้าเต็มปอดอย่างเรียกกำลังใจ ตัดสินใจที่จะพูดออกไปทั้งหมด
“เบล”
“หืม”เบลหันกลับมามอง ดวงตาทั้งคู่สบกัน
“ความจริงแล้ว
..”
“
”
“ฉันก็รั
..”
“มีความสุขจังเลยนะ หือ”มาม่อนกับเบลรีบหันขวับไปตามต้นเสียง แล้วก็ต้องเอ่ยชื่อคนตรงหน้าด้วยความตกใจสุดขีด
“บะ
เบียคุรัน/เบียคุรัน”
“ยินดีที่ได้รู้จักนะ และ Good bye!!!”
เปรี้ยง!
“กรี๊ด/โอ๊ยยยยยยยย”
ความคิดเห็น