ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [fic reborn BM]ถึงตาย...ฉันก็ไม่ยอมเสียเธอ

    ลำดับตอนที่ #10 : เดทแรก

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.58K
      14
      21 มี.ค. 53

    Chapter 10 เดทแรก

     

     

    เช้าวันต่อมาทางออกทางตะวันตกของฐานทัพวาเรีย

    มาม่อน~ เจ้าชายตื่นสาย ขอโทษนะที่มาช้า ชิชิชิเบลในชุดลำลองวิ่งมาหามาม่อนอย่าเร่งรีบ เมื่อรู้ว่าตนเองมาเลยเวลานัดมาตั้งหนึ่งชั่วโมง

    ช้าชะมัด เสียเวลา เดี๋ยวก็เก็บเงินซะหรอกมาม่อนในชุดเดรตสั้นสีม่วงอ่อนเอ่ยอย่างขัดใจ

    เป็นคนนัดเอง ยังมาช้าอีกนะ

    คิดในใจขณะพิจารณาคนตรงหน้า เบลวันนี้ใส่ชุดเสื้อเชิ๊ตแขนยาวสีขาวที่ปลดกระดุมออกสองสามเม็ดเผยแผ่นอกกว้างกับกางเกงแนบเนื้อสีดำ รวมทั้งเอามงกุฎที่ชอบใส่เป็นประจำออกไปด้วย ถึงจะไม่ได้ใส่อะไรมาก แต่คนมองก็อดที่จะชมไม่ได้ว่าคนตรงหน้านั้น ไม่ว่าจะใส่อะไรก็ดูดีไปซะหมด

     จ้องหน้าเจ้าชายทำไมหรอ เจ้าชายหล่อแทงใจใช่มั้ยล่ะ ชิชิชิพูดพร้อมยื่นหน้าเข้ามาใกล้พร้อมรอยยิ้มกรุ้มกริ่มจนมาม่อนต้องรีบใช้มือดันออกไปด้วยใบหน้าขึ้นสี เรียกเสียงหัวเราะจากร่างสูงตรงหน้า จนอดที่จะโวยใส่ไม่ได้

    หึ เนี่ยหรอหล่อ เลวี่ยังดูดีกว่าตั้งเยอะน่า อย่าหลงตัวเองไปหน่อยเลย เบลพูดจบก็เชิดหน้าไปอีกทาง เตรียมตัวรอฟังเสียงโวยของเบล แต่ทว่า รอตั้งนานก็ไม่มีเสียงใดกลับมาจนคนรอต้องขมวดคิ้วมุ้น ก่อนหันกลับไปมองช้าๆ ก็สบกลับดวงตาภายใต้เส้นผมที่มองตนอยู่นาน

    มองอะไรของ…”

    ไม่ชอบหรอ?

    ห๊ะ?

    เบลยื่นหน้าเข้ามาใกล้ ก่อนจะเอ่ยถามด้วยเสียงเศร้าๆนิดๆ

    มาม่อนไม่ชอบให้เจ้าชายแต่งตัวแบบนี้หรอ?

    คือคือว่า…”

    งั้นเจ้าชายไปเปลี่ยนดีมั้ยล่ะ?พูดจบก็ทำท่าจะเดินออกไปจริงๆ จนร่างบางต้องรีบคว้ามือหนาไว้

    ฉันประชดตังหากเล่า แล้วนายจะมาแคร์คำพูดฉันทำไมล่ะ หืม

    ก็เพราะว่าเป็นมาม่อนน่ะสิ

    เอ๋?แต่ก็ต้องรีบเบือนหน้าหนีด้วยใบหน้าแดงจัด เมื่อได้ฟังคำพูดหวานๆที่ทำเอาใจเต้นแรง

    ถ้าเจ้าชายไม่แคร์คนที่เจ้าชายรัก แล้วจะให้เจ้าชายไปแคร์ใครที่ไหนล่ะหืม มาม่อน~”เอ่ยเสียงหวานเมื่อเรียกชื่อคนตรงหน้าที่บัดนี้หน้าแดงจนไม่รู้จะแดงยังงัยแล้ว เบลอมยิ้มกับปฏิกิริยาของคนตรงหน้าก่อนจะรีบคว้ามือบางลากออกไปจากฐานทัพ

    อ๊ะ! เดี๋ยวสิ รีบมากนักรึไง

    ชิชิชิ เปล๊า เจ้าชายก็แค่คิดว่าขืนเจ้าชายรอให้มาม่อนเขินต่อไป วันนี้คงไม่ได้เที่ยวกันพอดีน่ะ ชิชิชิ

    อีตาบ้า

    ชิชิชิ

    มาม่อนมองค้อนเบลก่อนจะมองมือของตนที่ถูกกุมไว้ด้วยมืออบอุ่นด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม ก่อนจะนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เราคืนดีกัน…..

     

    กลับไปสู่เหตุการณ์เมื่อวาน

    หลังจากเหตุการณ์ที่ห้องสมุด มาม่อนก็มานั่งอยู่ในสวนดอกกุหลาบภายในฐานทัพ(มันปลูกยังงัยฟระ)เพื่อระงับอารมณ์

    ไอ้บ้า ผู้ชายงี่เง่า ไร้ความคิด ไอคิวต่ำ ปัญญาอ่อน ไร้สมอง…”

    แล้วไงอีก?

    นาย!!”มาม่อนเอ่ยเสียงดังแทบจะเป็นตวาด เมื่อเห็นว่าใครกำลังเดินตรงมาหาเธอ สภาพคนตรงหน้าดูไม่จืด เลือดอาบทั่วตัวอย่างน่าสงสัยว่าทำไมถึงเดินไปมาได้ปกติขนาดนั้น

    นายเกลียดฉันมากรึไง

    “…”

    มีปัญหาอะไรกับฉันนักหนา

    “…”

    แล้วไง

    จะตามมาฆ่าฉันอีกรึไง?มาม่อนเอ่ยอย่างฉุนนิดๆ ขณะกำลังจะลุกขึ้นเดินหนีร่างสูงตรงหน้าที่จงใจหย่อนตัวนั่งข้างๆเธอ

    หมับ!

    มือของคนที่เงียบมาตลอดคว้าหมับที่มือเธอ ร่างบางทั้งหยิก จิก ตี ก็ไม่ยอมปล่อย

    นายจะเอายังงัยกับฉันอีก!?

    มาง้ออ่ะ~~”เสียงอุบอิบเอ่ยขึ้นเบาๆ จนมาม่อนต้องขมวดคิ้ว

    เมื่อกี้ว่าไงนะ

    เจ้าชายมาง้อเสียงที่ปิดความเขินไว้ไม่มิด แก้มที่ขึ้นสีจัด พร้อมกับปล่อยรังสีวิ๊งๆ~ อย่างที่มาม่อนใส่หูกับหางไปให้เรียบร้อยแล้ว

    เจ้าชายขอคุยด้วยหน่อยได้มั้ยเสียงสุดท้ายสั่นเครือจนคนฟังใจกระตุก สุดท้ายก็ยอมนั่งลงฟังแต่โดยดี

    ว่ามา

    เจ้าชายน่ะเจ้าชายน่ะเกิดมาไม่เคยรู้จักกับคำว่าความอบอุ่นและความสุขจริงๆสักครั้ง มีพี่ พี่ก็เป็นศัตรู ครอบครัวมองเจ้าชายเหมือนเป็นคนนอก จนวันนึง ความอดทนของเจ้าชายก็สิ้นสุดลง เจ้าชายเชือดทุกๆคนในปราสาททิ้ง ก่อนจะหนีมาเข้าวาเรียในฐานะผู้พิทักษ์วายุ พอเข้ามา เจ้าชายก็ได้รู้จักกับบอส บอสทำให้เจ้าชายได้สัมผัสกับความรู้สึกของคำว่าพ่ออย่างที่พ่อจริงๆของเจ้าชายไม่เคยให้เจ้าชายเลยตั้งแต่เกิดมา เจ้าชายเจอสคอลโล่ที่เหมือนเป็นทั้งแม่และพี่ในเวลาเดียวกัน เจอกับลุซเซอเรียที่เหมือนแม่นมของเจ้าชาย เจอกับเลวี่ที่ทนมือทนทีนเจ้าชาย และยังได้ระบายความรู้สึกกับเจ้าโกล่ามอสก้า ที่ไม่ว่าเจ้าชายจะพูด จะบ่นอะไรก็รับฟังโดยไม่โต้เถียง เจ้าชายตอนนั้นมีความสุขแต่ว่าเรื่องในอดีตก็ฝังใจเจ้าชายมาตลอด ทำให้เจ้าชายมีนิสัยก้าวร้าว เอาแต่ใจตนเอง เรียกว่าเลวแบบสุดๆเลยก็ได้ เจ้าชายใช้ชีวิตอย่างนั้นมาเรื่อยๆ จนกระทั่งวันนึง วันที่ 22 ธันวา วันเกิดเจ้าชาย วันนั้นทางวาเรียรับสมาชิกใหม่ คนที่จะเข้ามารับหน้าที่ผู้พิทักษ์สายหมอกวาเรีย ครั้งแรกที่เจ้าชายเห็นนั้น ชิชิชิ เจ้าชายยังนึกหมันไส้เลย เด็กอะไรก็ไม่รู้ เห็นเงินเป็นอาหารรึไงถึงได้งกนัก ดูนิ่งๆเฉยๆแต่เวลาโมโหน่ากลัวกว่าบอสซะอีกอ่ะ แต่ว่า เธอมีบางสิ่งที่พิเศษที่คนที่รู้จักจริงๆเท่านั้น ถึงจะสัมผัสได้ ทั้งความอบอุ่นและความอ่อนโยน เธอเป็นเพียงคนเดียวที่หาเจ้าชายเจอ ไม่ว่าเจ้าชายจะแอบหนีเที่ยว แอบหนีงาน หรือว่า แอบไปนั่งร้องไห้เงียบๆ เธอก็เป็นคนเดียวที่หาเจ้าชายจนเจอ เป็นคนที่คอยปลอบใจเจ้าชายอย่างที่ไม่มีใครทำได้ เป็นคนที่น่ารักที่สุดในโลกเลย~~ เธอเป็นเหมือนดังของขวัญของพระเจ้าที่เจ้าชายเชื่อว่าไม่เคยเหลียวแลคนอย่างเจ้าชายเลยมอบให้ เป็นคนแรกและเป็นคนเดียวที่เจ้าชายรักแต่ว่าวันนึง เวลาแห่งความสุขก็หายไป เมื่อเธอคนนั้นได้จากไปจากเจ้าชาย โดยทุกคนเชื่อว่า เป็นฝีมือของเจ้าชายเอง ความรู้สึกตอนนั้น มันเหมือนเจ้าชายสูญเสียทุกสิ่งทุกอย่างไป สับสน เสียใจ เหมือนทุกอย่างมันมากดดันเจ้าชายจนแทบจะกลายเป็นบ้า แล้วหลังจากนั้น ก็มาเจอกับคนที่ตัวเองรักมากที่มาจากอดีต โดยที่เขาไม่รู้จักแม้แต่ชื่อของเจ้าชาย เหมือนเป็นคนอีกคนที่ไม่รู้จัก แม้แต่ชื่อชองเธอก็เปลี่ยน เจ้าชายเครียด เครียดมาก เก็บกด จนในที่สุดวันนี้มันก็ระเบิดออกมาจนเผลอทำร้ายคนที่ตอนนี้ไม่รู้เรื่องอะไรเลยเจ้าชายขอโทษนะ ไวเปอร์

    เรียกชื่อฉันถูกสักทีนะ

    ชิชิชิ

    ผู้หญิงที่นายบอกน่ะ คือฉันในยุคนี้สินะ

    อืม

    มือบางเอื้อมไปกุมมือหนาอย่างให้กำลังใจ อมยิ้มน้อยๆ

    หายโกรธแล้วล่ะ

    จริงอ่ะ?

    จริงสิ พอฟังที่นายพูดมา ฉันก็เข้าใจแล้ว ว่าสาเหตุที่นายมาทำบ้าๆกับฉันมันเพราะอะไร และก็นะ ฉันน่ะ เชื่อนะว่านายไม่ได้ฆ่าตัวฉันในยุคนี้ เพราะงั้น เลิกโทษตัวเองซะที เอาเวลาที่นายคิดมากไปหาตัวคนร้ายที่ก่อเรื่องแบบนี้ดีกว่านะ เอ้า ลุกขึ้นไปทำแผลได้แล้วพูดพร้อมกับค่อยๆลุกขึ้น ก่อนจะยื่นมือบางมาตรงหน้าเบล เบลมองมือนั้นอย่างชั่งใจ และดูเหมือนมาม่อนจะสัมผัสความรู้สึกนั้นได้

    ถึงฉันจะไม่ค่อยรู้เรื่องอะไรมาก แต่ว่า ฉันจะให้โอกาสนายแก้ตัว ตกลงมั้ยจะว่าไป ยังไม่รู้จักชื่อนายเลย ชื่ออะไรหรอ

    เบลฉันชื่อเบลเฟกอล

    ขอเรียกว่าเบลเฉยๆละกันนะ

    ขอเรียกว่าเบลเฉยๆละกันนะ

    คำพูดที่เหมือนกันกับตัวเล็กมาม่อนที่ทักเขาเมี่อสิบปีก่อนไม่มีผิด ทำให้เบลยิ้มออกมาอย่างไม่ฝืนและสบายใจที่สุดเป็นครั้งแรกในรอบหลายวัน เบลเอื้อมมือไปจับกับมือเรียวที่รออยู่นานแล้วอย่างมีความสุขที่สุด

    ขอบคุณมากนะ มา เอ๊ย ไวเปอร์

    อยากเรียกก็เรียกไปสิ

    เอ๋?มาม่อนสบตากับเบลที่ทำหน้างงๆอย่างน่ารัก

    อยากเรียกชื่อมาม่อนก็เรียกไป ฉันยอมให้นายเรียกฉันด้วยชื่อนี้ได้คนเดียวนะ รู้ไว้ด้วย

    ขอบคุณจริงๆนะ มาม่อน

    ขอบคุณเหมือนกัน

    ขอบคุณเรื่องอะไรล่ะ?

    ขอบคุณที่ทำให้ฉันรู้ว่า ฉันก็เชื่อใจคนอื่นเป็น ยอมรับเลยนะ ว่าถึงฉันจะเพิ่งรู้จักกับนาย แต่ว่าฉันกับเชื่อใจนายมากอย่างน่าประหลาด อย่างกับรู้จักกันมานานอย่างนั้นแหล่ะ รู้สึกว่านายจะมีความสำคัญกับฉันพอสมควรเลยน้า เบล

    มาม่อน…”

    ไปทำแผลได้แล้ว

    ชิชิชิ เจ้าชายมีความสุขที่สุดเลย~~”

     

    กลับสู่ปัจจุบัน

    คิดอะไรอยู่หรอ มาม่อน

    อ่ะ ปล่าวหรอก คิดอะไรเรื่อยเปื่อยน่ะ แล้วจะไปเที่ยวไหนล่ะ

    เที่ยวไหนก็ได้ แต่ต้องไปกินซูชิด้วยน้า ชิชิชิ

    กินบ่อยๆไม่เบื่อรึไง

    ไม่เบื่อหรอก คราวนี้มีคนไปป้อน วันนี้มาม่อนต้องป้อนอาหารให้เจ้าชายทั้งวันเลยนะ

    ไม่มี…”

    “123 เป็นอันตกลง ไปกันเหอะพูดจบก็ลากขึ้นรถแท็กซี่โดยไม่ฟังเสียงทักท้วงของคนที่ต้องทำหน้าที่ป้อนอาหารให้เจ้าชายที่ทำตัวไม่รู้จักโตคนนี้สักนิด

    เดี๋ยวก่อน

    หืม

    ใช้ภาพมายาของฉัน จะเดินทางไวกว่านะ

    งั้นก็ได้

    จับมือฉันไว้ล่ะ

    ทั้งสองคนค่อยๆหายไปช้าๆ โดยไม่รับรู้ถึงสายตาสองคู่ที่มองมาเลย

    สคอลจัง เจ๊ว่าแอบตามไปอย่างนี้ ถ้าสองคนนั้นรู้ เราสองคนอาจจะไปนอนหยอดข้าวต้มที่โรงพยาบาลได้นะจ๊ะ

    เว้ย แกจะบ่นให้มันได้อะไรขึ้นมาว่ะ ลุซเซอเรีย มาคิดดีกว่าว่าจะตามพวกนั้นไปยังงัย

    อืม/อืมและในขณะนั้นเอง โครมผู้แสนโชคดี(?)ก็เดินเข้ามาทักทาย

    อรุณสวัสค่ะ พวกคุณสคอลโล่กับลุซเซอเรียสบตากัน ก่อนจะหันไปหาโครม

    นี่โครมจังจ๊ะ

    ?

    ช่วยอะไรพวกเจ๊หน่อยได้มั้ย

     

    ณ โรงหนังแห่งหนึ่ง

    ขอน้ำอัดลมกับนมสตอเบอรี่มาม่อนสั่งพนักงานขายของระหว่างรอเบลไปซื้อตั๋วดูหนังรอบเที่ยงวัน และระหว่างจะจ่ายเงินนั้นเอง ดวงตาสีม่วงคู่สวยก็เหลือบไปเห็นคนในกระจกที่สะท้อนจากข้างหลัง

    คนนึงผมสีเงิน อีกคนหัวเขียว อีกคนหัวสับปะรดแต่มีผ้าปิดตา สคอลโล่ ลุซเซอเรีย โครมหึ กล้ามากนะที่แอบตามมา แต่ขอโทษนะ พอดีว่าฉันชอบความเป็นส่วนตัวน่ะ

    มาม่อนคว้าโทรศัพท์ขึ้นมา กดเบอร์ที่ต้องการ

    นั่นใคร ไอ้สวะ

    นั่นแซนซัสใช่มั้ย?

    ไวเปอร์หรอ มีธุระอะไร

    ก็แค่หวังดี โทรมาบอกว่าสคอลโล่สุดที่รักของคุณตอนนี้กำลังหนีเที่ยวกับผู้ชาย

    ว่าไงนะเสียงดังตวาดใส่หูโทรศัพท์

    บอกแค่นี้แหล่ะ ระดับอย่างคุณ คงจะตามหาได้ไม่ยากหรอกนะ โชคดี

    ดะ เดี๋ยว

    มาม่อนตัดสายโทรศัพท์ก่อนจะโทรหาคนถัดไป

    คึหึหึหึ ไม่ทราบว่าคุณมีธุระอะไรกับผมหรอครับ

    สวัสดี โรคุโด มุคุโร แค่หวังดีโทรมาบอกน่ะว่า โครมของนายออกมาเที่ยวกับผู้ชาย

    ใครครับเสียงปลายสายที่ส่อแววไม่พอใจ ทำให้มาม่อนเหยียดยิ้ม

    แล้วคิดว่าใครที่โครมยอมไว้ใจขนาดนั้นกันล่ะ

    หรือว่าจะเป็น ฮิบาริ เคียวยะ

    ก็แล้วแต่นายจะคิด ผู้ใช้มายาอย่างนายคงหาเองได้นะ แค่นี้แหละ

    มาม่อนตัดสาย ก่อนจะโทรหาเป้าหมายสุดท้าย

    ตรู๊ด~~

    นั่นใคร

    ฮิบาริ เคียวยะ ใช้มั้ย

    เธอเป็นใคร

    ไม่สำคัญเท่าเรื่องที่ฉันจะบอกหรอก

    มีอะไร อย่ามาทำฉันเสียเวลานะ

    โครม โดคุโร กำลังจะถูกใครบางคนงาบไปกิน ตอนนี้อยู่ที่โรงหนังที่ใหญ่ที่สุดของอิตาลี่ รีบมาล่ะ บาย~~”

    มาม่อน เจ้าชายมาแล้ว ได้ตั๋วมาแล้วล่ะ ชิชิชิพูดพร้อมโชว์ของในมือ ก่อนจะขมวดคิ้วมุ้นเมื่อมองร่างบางที่เอาแต่จ้องนาฬิกาไม่วางตา

    อีกตั้งสิบห้านาทีกว่าจะถึงเวลา รีบอะไรหรือเปล่า

    เปล่าหรอก ฉันกำลังรอ…”

    ปัง!

    ไอ้สวะ อยู่ที่ไหนการปรากฏของแซนซัสของวาเรีย พร้อมกับกระสุนปืนห่าใหญ่ยิงกราดไปทั่ว ทำเอาชาวบ้านชาวช่องบริเวณนั้นแตกกระเจิง

    อ้าว ทำไมบอสถึงมาโผล่ที่นี่ได้ล่ะ ชิชิชิไม่ทันที่จะเดินเข้าไปหาบอส เบลก็ถูกมาม่อนลากเข้าไปหลบมุมหนึ่งเสียแล้ว

    นี่มันอะไรกันน่ะ มาม่อน?

    เอาน่า อยู่นิ่งๆก่อน

    ฉันถามว่า ไอ้สวะเสคลบี สคอลโล่ อยู่ที่ไหน

    เว้ย!!ไอ้บอสเฮงซวย มีอะไรนักหนาว่ะสคอลโล่ที่ทนต่อเสียงเรียกของบอสวาเรียไม่ไหว รีบเดินเข้ามาหาอย่างเอาเรื่อง

    มีอะไรว่ะบอส

    ชู้แกอยู่ไหน

    หะห๊า แกพูดเรื่องอะไรวะ

    เหอะ เอาไว้แก้ตัวบนเตียงเหอะแซนซัสกระชากผมสีเงินนั้นตรงเข้ารถของตนไป โดยไม่สนสายตาประชาชีที่มองมาด้วยความงง

    เสร็จไปหนึ่ง เหลืออีกสองมาม่อนคิดในใจ

    คุณลุซเซอเรีย นี่มันเกิดอะไรขึ้นค่ะ โครมงง

    นั่นสิ ผมก็อยากรู้เหมือนกันนะครับ ว่ามันเกิดอะไร โครมที่น่ารักของผม

    ท่านมุคุโร่โครมหันไปมองด้วยความตกใจ ก่อนจะตกใจหนักเข้าไปอีก เมี่อได้ยินเสียงอีกเสียงทางด้านหลัง

    ยัยสายหมอก

    คุณผู้พิทักษ์เมฆา

    ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่ได้ล่ะ

    โครมยืนจ้องชายหนุ่มสองคนที่ยืนประจันหน้าพร้อมซัดกันได้ทุกเมื่อด้วยความสับสน ไม่แพ้ลุซเซอเรียที่ช๊อกตั้งแต่บอสเดินเข้ามาแล้ว

    คึหึหึหึ คุณน่ะหรอครับคนที่โครมไว้ใจ

    แล้วสัตว์กินพืชอย่างแกน่ะหรอ จะมาแย้งคนของฉัน

    คนของผมตางหาก

    หึ ฉันไม่แคร์พูดจบต่างฝ่ายก็ซัดกันอย่างไม่เกรงใจชาวบ้านที่ต้องวิ่งหนีตายกันอีกรอบ โครมพยายามห้ามอย่างสุดชีวิต ส่วนลุซเซอเรียก็รีบกลับไปหาสควอโล่โดยทิ้งโครมไว้รับชะตากรรมซะงั้น มาม่อนที่เห็นแบบนั้นก็ยิ้มกว้างอย่างอดไม่อยู่ จนเบลต้องสะกิดถาม

    นี่มันเกิดอะไรหรอ มาม่อนมาม่อนหันไปทางเบลก่อนจะเล่าเรื่องราวให้ฟังทั้งหมด

    ชิชิชิ แสบเหมือนกันนะเนี่ย~~”

    เพิ่งจะรู้หรอ ไปกันได้แล้วไป เดี๋ยวก็ไปดูหนังไม่ทันหรอก

    เดี๋ยวไปดูหนังไม่ทันหรือกลัวขาดทุนกันแน่น่ะ ชิชิชิ

    นายน่ะ เงียบไปเลย

    ชิชิชิ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×