ลำดับตอนที่ #7
คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : จดหมายสามฉบับ [100%]
ตอนที่ 7 จดหมายสามฉบับ
ซอฮยอนที่อยู่ในอาการตะลึงงันนั้นค่อยๆ เงยหน้าสบตาพี่สาวต่างมารดาด้วยอารมณ์ความรู้สึกที่เปลี่ยนไป
"ท่านพี่ นางในอะไรกัน พี่พูดเรื่องตลกอะไรหรือ" หญิงสาวถาม แววตาที่มองฮวารยอนดูราวกับว่าพี่สาวตนเองนั้นได้เสียสติไปแล้ว
"พี่อยากให้เจ้าแฝงตัวเข้าวังหลวงเป็นนางใน แก้แค้นคนที่มันทำให้พี่เป็นอย่างนี้และล้างมลทินให้พี่"
"ท่านพี่เลอะเทอะอะไรรึเจ้าคะ ถ้าท่านพี่จะมาหาข้าด้วยเรื่องเหลวไหลเช่นนี้ก็เชิญกลับไปเถิดเจ้าค่ะ" ซอฮยอนพูดตัดบท
ฮวารยอนนิ่งไปทันที นางนั่งชันเข่าข้างหนึ่งขึ้นมา สายตาอ่อนล้ามองออกไปอีกทางอย่างเศร้าโศก เปลวเทียนในห้องวูบไหวทำให้เกิดเงาของสตรีสองร่างกระเพื่อมพลิ้วบนผนังห้องไปมา
หลายปีมาแล้วซอฮยอนเคยถูกหมอดูแถวท่าเรือมาพูลเข้ามาทำนายทายทักดวงชะตา นางรีบเดินหนีเพราะไม่อยากเสียเงินอันน้อยนิดของตนให้กับเรื่องโชคลางอนาคตอันไร้สาระ ทว่าหมอดูชราผู้นั้นก็ยังตามติดนางมาตลอดและพูดกรอกหูซ้ำไปซ้ำมาว่า
"เจ้าจะได้เป็นกุงเนียว(1)ในราชสำนักผู้เปลี่ยนโฉมหน้าประวัติศาสตร์แผ่นดินโชซอน"
ครานั้นนางอยากจะหันไปหาหมอดูเฒ่าและหัวเราะเยาะใส่เหลือเกิน เพราะไม่ว่าอย่างไรซอฮยอนก็ไม่มีวันเข้าวังหลวง และต่อให้อยากเข้าเพียงไร ฝ่ายในของราชสำนักก็ไม่มีวันรับลูกอนุฯ อย่างนางที่เป็นชนชั้นไพร่เข้าไปให้แปดเปื้อนเป็นแน่ แต่เมื่อหญิงสาวหันไป หมอดูรายนั้นก็หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยเสียแล้วราวกับไม่ได้มีตัวตนมาแต่แรกฉะนั้น
แต่ถ้าวันหนึ่งนางจำเป็นต้องเข้าวังขึ้นมาเล่า ซอฮยอนมองหน้าพี่สาวตนเองอีกครั้ง หรือว่าที่อดีตพระชายามาอ้อนวอนให้ตนแฝงกายเข้าไปในราชสำนักนั้นอาจเกี่ยวพันถึงคำทำนายของหมอดูลึกลับผู้นั้นหรือ
หากแต่จุดประสงค์ของการเข้าวังคือเพื่อไปแก้แค้นแทนพี่สาวอย่างนั้นรึ นี่มันไร้สาระสิ้นดี
ท่ามกลางความเงียบ ฮวารยอนที่นั่งชันเข่าอยู่ก็เอ่ยขึ้นมา น้ำเสียงคราวนี้มิใช่การอ้อนวอนเช่นที่แล้วมาไม่ ทว่าคล้ายการเล่าระบายความทุกข์ตรมในห้วงหทัย
"เจ้าคงจะคิดว่าพี่มีวาสนาสูงส่งที่ได้รับคัดเลือกเข้าเป็นพระชายา หนทางข้างหน้านั้นคือเส้นทางสู่อำนาจ เส้นทางที่ไต่เต้าไปสู่ตำแหน่งเซจาพิน(2) และท้ายที่สุดแล้วก็คือตำแหน่งพระมเหสี" อดีตพระชายาหยุดเว้นจังหวะการพูดไปสักพักเพราะไอออกมา
"เอ่อ ข้าเสียมารยาทจริง ท่านพี่มาถึงเรือนแต่กลับไม่ยกน้ำชามาต้อนรับ" ซอฮยอนกล่าวขึ้นมาอย่างนึกขึ้นได้ นางมัวแต่ตกใจการปรากฏตัวของพี่สาวต่างมารดาจนลืมธรรมเนียมปฏิบัติที่ต้องทำเมื่อแขกผู้สูงศักดิ์กว่ามาเยี่ยมเยียนถึงชานเรือน
ฮวารยอนคว้ามือเนียนละมุนของน้องสาวไว้และส่ายหน้าช้าๆ ซอฮยอนจึงค่อยๆ นั่งลงตามเดิม อดีตพระชายาจึงเล่าต่อ
"พี่ถูกเคราะห์กรรมขัดขวาง ถูกคนชั่วช้าในราชสำนักให้ร้ายจนต้องโทษประหาร พี่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะแก้ตัวด้วยซ้ำ"
"ใส่ร้ายหรือ ใครเป็นผู้ทำเรื่องเช่นนี้" ซอฮยอนถามด้วยความตกใจ
"คิมซิลวา" อดีตพระชายาตอบอย่างเคียดแค้น
"คิมซิลวา? ใครกันเจ้าคะ"
"นางเป็นซังกุงในสกุลคิม ตระกูลคู่อริกับสกุลซินของเรา นางมีอิทธิพลมากในวังหลวง สับเปลี่ยนซังกุงคนสนิทแต่เดิมของพี่และมาเป็นแทน ครานั้นพี่ช่างโง่เขลาเบาปัญญานัก นางบอกว่าตนเองเป็นคนในสกุลคิมจากเกาะวัว ไม่ใช่สกุลคิมใหญ่ในเมืองหลวง พี่จึงหลงเชื่อ ท้ายที่สุดนางก็ใส่ร้ายพี่ วางยาพิษพี่ โยนร่างพี่ไปทิ้งไว้ในห้องดองผักที่เหม็นคละคลุ้ง
"แต่นางในที่เป็นคนของสกุลซินตามหาพี่จนพบ ต้มน้ำถั่วเขียวให้ดื่มเพื่อถอนพิษ ก่อนจะแบกร่างพี่ออกมาทางประตูซอนิมมุน(3)จนถึงบ้านสกุลคิม"
ซอฮยอนนั่งฟังด้วยความตื่นตะลึง เรื่องราวทั้งหมดนี้เหลือเชื่ออย่างยิ่ง อีกทั้งเป็นเรื่องที่เกี่ยวพันถึงราชสำนัก นางไม่เคยคิดมาก่อนว่าในวังหลวงจะมีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้น
"ด้วยเหตุนี้หรือท่านพี่จึงมาหาข้า เพื่อให้ข้าเข้าวังเป็นนางในแก้แค้นคิมซังกุงแทนท่านอย่างนั้นหรือ" ซินซอฮยอนถามขึ้น
"จริงๆ ยังมีคนที่เจ้าต้องแก้แค้นอีก ซึ่งเจ้าจะต้องอ่านจากจดหมายสามฉบับนี้ เนื้อหาภายในคือสิ่งที่พี่ปรารถนาอยากให้เจ้าทำ จงเปิดอ่านทีละฉบับ ฉบับแรกคือจดหมายที่มีแต้มด้วยหมึกสีแดง จงเปิดอ่านฉบับนี้ก่อนเมื่อเจ้าได้ขึ้นเป็นนางในเต็มตัว จงจำไว้ให้มั่นว่าต้องเป็นนางในเต็มตัวก่อนเท่านั้นจึงจะเปิดจดหมายฉบับแรกออกอ่านได้ ส่วนอีกสองฉบับห้ามเปิดอ่านเด็ดขาด เพราะจดหมายฉบับแรกจะบอกเจ้าเองว่าควรเปิดฉบับที่สองเมื่อใด เวลาใด"
ซอฮยอนหัวเราะออกมาลั่นห้องจนอดีตพระชายาผงะไปด้วยความตกใจ
"เจ้าหัวเราะอันใด"
"หัวเราะสิเจ้าคะ จู่ๆ ท่านก็มาสั่งให้ข้าทำสิ่งนั้นทำสิ่งนี้ จัดแจงพูดถึงการเปิดจดหมายสามฉบับราวกับว่าข้าตอบตกลงกับท่านแล้วว่าจะเข้าวังเป็นนางใน"
"นะ... นี่แสดงว่าเจ้า" ฮวารยอนเอ่ยขึ้นช้าๆ
"ไม่เจ้าค่ะ ท่านพี่ ข้าไม่ไปไหนทั้งนั้น" ซอฮยอนปฏิเสธพลางเบือนหน้าหนี
"ซอฮยอน!" พี่สาวต่างมารดาร่ำร้อง "ข้าไม่มีใครแล้ว ข้าไม่ไว้ใจใคร มีเจ้าคนเดียวเท่านั้นที่ช่วยแก้แค้นและล้างมลทินให้ข้าได้"
"แล้วเหตุไฉนไม่ทำเองเล่าเจ้าคะ มาขอร้องลูกอนุฯ ต่ำต้อยอย่างข้าทำไม"
"เพราะ... เพราะว่าข้ากำลังจะตาย" อดีตพระชายาเอ่ยขึ้น
ซอฮยอนหันขวับมามองพี่สาวตนเต็มตา
"ท่านพี่พูดจาเหลวไหลอะไรกัน"
"ยาของบรรดาหมอแค่ยื้อชีวิต มิได้ช่วยชีวิต อีกไม่นานพิษที่คิมซังกุงให้กับพี่จะกำเริบอีกครั้ง พี่คงอยู่ไม่พ้นคืนนี้เป็นแน่ จึงแอบออกจากบ้านสกุลซินมาหาเจ้าโดยที่ท่านพ่อไม่รู้"
"สภาพที่ท่านถ่อมาถึงเรือนข้ากลางดึกดูไม่เหมือนคนที่กำลังจะตายเลยนะเจ้าคะ ข้าคิดว่าอย่างไรพี่ก็ต้องรอด อย่าเอาข้าไปเกี่ยวกับความแค้นของท่านด้วยเลย ข้ามิใช่คนมักใหญ่ใฝ่สูงในทางผิดที่คิดจะเอาไฟล้างไฟ ข้าขออยู่เป็นไพร่สามัญต่อไปตามเดิมดีกว่าเจ้าค่ะ อีกอย่างข้ายังมีท่านแม่และฮูหยินแชที่ต้องดูแล ท่านมาหาคนผิดแล้ว ไปหาผู้อื่นเถิดเจ้าค่ะ"
"ซอฮยอน เจ้าไม่เห็นแก่ข้า ก็เห็นแก่วงศ์ตระกูล เห็นแก่สกุลซิน มีเจ้าคนเดียวที่จะกอบกู้ชื่อเสียงบ้านเรากลับมาได้" อดีตพระชายาเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ้อนวอน
"บ้านหรือเจ้าคะ" ซอฮยอนกล่าวเสียงสูง คิ้วโก่งงดงามนั้นเลิกขึ้นอย่างเย้ยหยัน "ท่านพูดว่าบ้านเราหรือ" ฮวารยอนอึ้งไปชั่วครู่ สักพักก็พูดออกมาช้าๆ
"เจ้าเลิกมองว่าตนเองเป็นเพียงแค่ลูกอนุฯ ได้รึไม่ เลิกดูถูกตนเองว่าต่ำต้อย อย่าคิดว่าตนเองทำการใหญ่มิได้ ดูสิ่งที่เจ้าทำสิ" พี่สาวต่างมารดาผายมือไปทางบรรดากองหนังสือที่ซอฮยอนเขียนขึ้น
"จะมีหญิงในชนชั้นต่ำกี่คนที่ทำได้เช่นเจ้า กี่คนที่จะสามารถอ่านออกเขียนได้ มีตำรา มีงานประพันธ์จนเป็นที่เลื่องลือเช่นเจ้า ส่วนมากถ้าไม่ต้องขายตัวเป็นทาสก็ต้องทำงานในหอนางโลม ทว่าเจ้ากลับบากบั่นจนมาถึงจุดนี้ เหตุใดจึงยังดูถูกตนเองเล่า อย่าลืมสิว่าไม่ว่าอย่างไรเจ้าก็เป็นสกุลซิน"
"สกุลซิน!" ซอฮยอนขัดขึ้น "สกุลซินที่ไม่เคยเหลียวแลข้า รังเกียจเดียดฉันท์ข้า เฉดหัวข้าออกมาให้กลายเป็นไพร่ชั้นต่ำเช่นนั้นหรือ พวกท่านเคยทำสิ่งใดให้กับข้าบ้าง"
"ไม่ใช่ความผิดของแม่เจ้าเช่นนั้นหรือ ถ้าแม่เจ้าไม่ฆ่าแม่ของข้า พวกเจ้าก็คงไม่ต้องมาทุกข์ยากเช่นนี้" อดีตพระชายาเผลอพูดออกมาก่อนจะหยุดตนเองได้ทัน
"ท่านพี่! ท่านอย่าได้... อย่าได้บังอาจลบหลู่มารดาข้า" ซอฮยอนกล่าวด้วยน้ำเสียงน่ากลัว ฮวารยอนรู้ตัวว่าพูดเกินไปจึงรีบขอโทษ
"เอ่อ ข้า... ข้าไม่"
"เรื่องสมัยนั้นเราไม่มีทางรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ฉะนั้นท่านพี่อย่าได้พูดจาเช่นนี้อีก" น้องสาวกล่าว "ท่านกลับไปเถิด ข้าไม่มีวันเข้าวัง ข้ามีความสุขดีพอกับสภาพที่เป็นอยู่แล้ว ได้โปรดอย่าหาเรื่องวุ่นวายมาให้เลย อีกอย่างข้ามิใช่บ่าวไพร่ที่ท่านจะมาหาเพื่อใช้งานอย่างไรตอนไหนก็ได้ ทว่าเป็นมนุษย์คนหนึ่ง ท่านกลับไปเสียเถิด ข้าต้องพักผ่อน เช้ามืดแม่ข้าก็จะกลับมาผลัดเวรให้ข้าไปดูแลฮูหยินแชต่อ"
"พี่ไม่เคยมองเจ้าเป็นเฉกเช่นนั้นเลยนะน้องพี่ จริงอยู่ที่บ้านสกุลซินทำกับเจ้าหนักหนา ใหญ่หลวงเกินกว่าจะให้อภัย แต่พี่มองเจ้าเป็นน้องสาวแท้ๆ มาโดยตลอด"
นั่นเป็นเรื่องจริง ในอดีตฮวารยอนมักแอบมาหานางเพื่อพาไปเรียนหนังสือ ไปเที่ยวเล่นในแหล่งที่ชนชั้นต่ำไม่สามารถย่างกรายเข้าไปได้ ยามลำบากพี่สาวต่างมารดาคนนี้ก็จะแอบหาข้าวของเครื่องใช้ เสื้อผ้าอาภรณ์ อาหารการกินดีๆ รวมถึงเงินตรามาให้เสมอ จนในที่สุดใต้เท้าซินรับรู้เรื่องนี้จึงสั่งห้ามทั้งคู่พบกันอีกเป็นอันขาด
"เรื่องที่พี่โดนพิษเจียนตาย เจ้าอาจจะไม่เชื่อ แต่เรื่องที่วอนขอให้เจ้าเข้าวัง ได้โปรดเถิด เวลานี้พี่อับจนหนทางมืดแปดด้าน เจ้าช่วยทำการนี้ให้พี่เถิด ถ้าเจ้าเข้าวังเป็นนางในมารดาเจ้าก็จะสุขสบายไปด้วย"
"ท่านพูดเหมือนคนมิรู้กฎของราชสำนักฝ่ายใน นางกำนัลต้องเข้าวังเพื่อฝึกหัดตั้งแต่อายุห้าหกขวบด้วยซ้ำ ตอนนี้ข้าอายุสิบหก อย่างไรก็เป็นนางกำนัลไม่ได้นะเจ้าคะ" ซอฮยอนโต้ตอบ
"มีนางกำนัลหลายคนเข้ารับการทดสอบเข้าวังตอนโตแล้วมากมาย แต่จะเข้าได้ในกรณีเดียวคือต้องมีผู้ใหญ่ในราชสำนักหนุนหลัง อุปถัมภ์ฝากฝัง ซึ่งบิดาเราทำให้ได้" พี่สาวต่างมารดาอธิบาย
"เขาคือบิดาท่านพี่คนเดียว มิใช่บิดาข้า" ซอฮยอนแก้
"ซอฮยอน เมื่อใดเจ้าจะหยุดโกรธท่านพ่อ--"
"ไม่มีวันนั้นเจ้าค่ะ"
ทั้งคู่นิ่งเงียบไปอีกครั้ง เมื่อเวลาผ่านไปสักพัก อดีตพระชายาก็ก้มหน้าและยอมรับความพ่ายแพ้ ท่าทางของน้องสาวตนอย่างไรก็ไม่มีวันทำตามคำขอของตน ฮวารยอนพยายามครั้งสุดท้ายเพื่อจะสบตากับซอฮยอนหวังจะให้นางเห็นใจ ทว่านางก็ไม่หันมามองแม้เพียงนิด ยังคงนั่งหันข้างให้กับตนเองเช่นนั้น
อดีตพระชายาลุกขึ้นยืนช้าๆ นางโอนเอนเล็กน้อยเมื่อพยายามทรงตัว ใบหน้าเศร้าโศกเหลือบมองน้องสาวตนเองเป็นครั้งสุดท้ายก่อนที่จะเลื่อนประตูไม้กรุกระดาษเปิดออก นางหยุดยืนนิ่งอยู่
"เจ้าใจดำนัก"
พี่สาวต่างมารดาปิดประตูตามหลังและเดินออกจากบ้านไป ซอฮยอนยังคงนั่งนิ่งอยู่เช่นนั้น เวลาผ่านไปไม่นานนางก็รีบลุกขึ้นเปิดประตูและมองออกไป
ภายนอกมืดสนิท ลมหนาวและละอองหิมะพัดโหมไปมา ไม่มีร่างพี่สาวตนเองยืนอยู่ นางกลับไปแล้ว ฝ่าหิมะกลับไปโดยที่ไม่ได้รับความช่วยเหลือใดๆ จากน้องสาวต่างมารดาเลยแม้เพียงนิด
ความรู้สึกบางอย่างแล่นพรวดขึ้นมา ขอบตาร้อนผ่าวอย่างอธิบายไม่ได้ ซอฮยอนยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาก่อนจะปิดประตูตามเดิม รู้สึกใจหายอย่างแปลกประหลาด นางกลับเข้ามาในห้องเพื่อหลบลมหนาว หญิงสาวค่อยๆ นั่งลงก่อนจะเหลือบไปเห็นบางอย่าง
จดหมายสามฉบับนั้นยังวางอยู่ พี่สาวต่างมารดาของนางลืมเอากลับไปด้วย
หรือไม่ก็จงใจทิ้งไว้...
ซอฮยอนรีบรวบรวมจดหมายทั้งสามไว้ในมือ ทำท่าจะวิ่งออกไปคืนให้เจ้าของ แต่ก็ฉุกคิดขึ้นได้ว่าพี่สาวนางคงเดินไปไกลแล้วและไปทางไหนตนเองก็ไม่อาจรู้ได้ ซอฮยอนนั่งคิดไปมา หรือจะรอตอนเช้าเพื่อไปคืนให้ที่บ้านสกุลคิม ความคิดอย่างหลังตกไปทันที ซอฮยอนไม่มีวันไปเหยียบบ้านนั่นให้คนในที่นั้นรวมถึงบิดาแท้ๆ ของตนมองอย่างเหยียดหยามแน่นอน
แต่จดหมายสามฉบับนี้ก็มิใช่ของของนาง อีกทั้งยังมิใช่ธุระใดๆ ที่นางต้องรับรู้และแบกรับ
ซอฮยอนจ่อซองจดหมายสีขาวเข้ากับเปลวไฟบนเชิงเทียนอย่างช้าๆ
ฉับพลันนางก็รีบดึงซองจดหมายออกให้ห่างจากเปลวไฟ ไม่รู้ว่าเพราะอะไรซอฮยอนจึงทำเช่นนี้ หญิงสาวตัดสินใจเก็บจดหมายสามฉบับไว้ในอกเสื้อช้าๆ
ซอฮยอนนั่งกอดเข่าผิงผนังบ้านพลางนึกทบทวนบทสนทนาที่คุยกับพี่สาวของตน ไม่นานความง่วงงุนก็เข้าครอบงำหญิงสาวจนนางค่อยๆ หลับไป
เวลาผ่านไปนานเท่าใดไม่รู้ได้ ซอฮยอนสะดุ้งตื่นขึ้นด้วยความตกใจ นางหลับไปกี่ชั่วยามแล้วหนอ หญิงสาวหันมองรอบตัวอย่างสะลึมสะลือ แสงแดดอ่อนๆ ส่องลอดเข้ามาในบ้าน เสียงไก่ขันดังขึ้นไม่ไกล
"เช้าแล้วรึนี่" ซอฮยอนอุทานด้วยความตกใจพลางรีบลุกขึ้นเปิดประตูและเดินไปห้องของมารดา เหตุใดแม่นางกลับมาตอนเช้ามืดถึงไม่ปลุกนางกัน
ทว่าห้องนอนของมารดาว่างเปล่า นางมิได้กลับมา...
ซอฮยอนเดินกลับมาบริเวณหน้าบ้านด้วยความแปลกใจ ไม่แน่ว่ามารดานางอาจจะอยู่ดูแลฮูหยินแชต่ออีกหน่อยก็เป็นได้
เสียงสะอื้นเบาๆ ดังขึ้น ซอฮยอนหยุดชะงักพลางเงี่ยหูฟัง เสียงปริศนาดังมาจากบริเวณรั้วต้นไม้หน้าบ้าน นางค่อยๆ เดินออกไปดู
สตรีวัยกลางคนนั่งกอดเข่าพิงต้นไม้พลางยกมือปิดหน้าร้องไห้ด้วยความเศร้าโศก ศีรษะไว้คาเชลักษณะไม่ใหญ่มากพันรอบอยู่เพื่อให้ดูรู้ว่าแต่งงานแล้ว
"ท่านแม่!" ซอฮยอนร้องขึ้นด้วยความตกใจ "ท่านมาทำอะไรตรงนี้เจ้าคะ ทำไมไม่เข้าบ้าน แล้วนั่น... นั่นท่านร้องไห้อยู่หรือ"
อนุภรรยาของใต้เท้าซินยืนขึ้นช้าๆ ดวงตาบวมแดงช้ำเพราะร้องไห้อย่างหนัก นางจับรั้วไม้เพื่อพยุงตัว ทั้งกายสั่นสะท้าน
"ท่านแม่ เกิดอะไรขึ้นเจ้าคะ" ผู้เป็นลูกสาวถามด้วยความงุนงง
"ฮวารยอนพี่สาวเจ้า... พี่เจ้า สะ... เสียแล้วตอนเช้ามืด"
โปรดติดตามตอนต่อไป
เชิงอรรถ
(1) กุงเนียว (บางตำราเรียก กุง-นยอ) หมายถึง นางกำนัล นางใน นางข้าหลวงในราชสำนัก เป็นคำเรียกรวมๆ อันหมายถึงสตรีที่ทำงานรับใช้เชื้อพระวงศ์ในวังหลวง
(2) เซจาพิน หมายถึง ตำแหน่งพระชายาขององค์รัชทายาท เป็นประมุขฝ่ายในส่วนเซจากุง (ฝ่ายในของรัชทายาท)
(3) ประตูซอนิมมุน หมายถึง ประตูด้านข้างของพระราชวังชางคยอง ตามประวัติศาสตร์กล่าวกันว่าประตูนี้คือประตูที่ขนย้ายพระศพพระสนมเอกจางฮีพิน(จางอ๊กจอง)ออกไปจากวังหลวงหลังจากถูกประหารชีวิตด้วยการประทานยาพิษจากพระเจ้าซุกจง
เก็บเข้าคอลเล็กชัน
ความคิดเห็น