คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #7 : - 6 ` { 2WEEK } กาแฟแก้วโปรด .
กาแฟแก้วโปรด
10/01/xx
“ คยองซู ตั้งใจเรียนนะครับ ”
“ ครับ พี่ลู่หาน~ ”
รอยยิ้มที่ดูสดใสทำให้ลู่หานชื้นใจหน่อย คยองซูยังคงมีแผลเล็กน้อยแต่โดยรวมแล้วก็ยังคงมีสุขภาพจิตที่โอเคอยู่
คยองซูไม่ได้ยืนรอจงอินที่เดิมแล้ว เขาเดินขึ้นห้องทันทีเนื่องจากความน้อยใจเพื่อน ช่างมัน ทีมันยังไม่แคร์เขาเลย ไม่เคยโทรมาถามสักคำว่าเป็นอย่างไรบ้าง ก็ปล่อยให้อยู่ตัวคนเดียวไปเถอะ
คยองซูเปิดประตูห้องเรียนเข้าไปช้าๆ สิ่งแรกที่พบก็คือเงื้อมือของใครบางคนมาดึงคอเสื้อเขาไป
“ นายมันแย่จริงๆเลยโดคยองซู! ”
“ นายปล่อยให้จงอินโดนต่อย ”
“ นายมันเป็นเพื่อนที่แย่ที่สุดเลย! ”
ไม่ทันได้ตั้งตัว พอรับรู้ก็พบว่าตัวเองโดนก่นด่า ดวงตากลมโตสอดส่ายหาที่พึ่งก็พบกับจงอินที่นั่งอยู่ที่โต๊ะ ไม่ได้มองมา และที่สำคัญ...
จงอินไม่ได้นั่งข้างเขาแล้ว
“ จ..จงอิน! นายบอกพวกนี้ไปสิว่าวันนั้นนายเป็นคนโทรเรียกฉันไป! ”
จงอินก็ยังคงไม่สนใจ พลางเสียบหูฟังใส่หูพร้อมมองออกไปนอกหน้าต่าง คยองซูพยายามที่จะฝ่าฝูงเพื่อนในห้องไปหา แต่ก็โดนกระชากกลับ
“ นายยังมีหน้าจะไปหาจงอินอีกหรอ! ดูนายทำสิ จงอินมีแผลเต็มไปหมดเลย ”
“ ฉันคิดว่าคนที่ผลการเรียนแบบนายน่าจะมีหัวคิดนะ ”
“ ไม่คิดเลยว่านายจะเป็นพวกใช้ความรุนแรง น่ารังเกียจจริงๆ! ”
หลายคำด่าสารพัด คยองซูไม่เคยใส่ใจอยู่แล้ว เพราะเขาเข้มแข็งมากพอ
แต่ทำไมกันนะ
แค่คนๆเดียวไม่ได้หันมามอง ไม่ได้แสดงความสนใจ
แค่คนเพียงคนเดียว
กลับทำให้โลกของผมดูมืดมนเหลือเกิน...
ผมไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นในระหว่างที่ผมยังไม่มา บางทีจงอินอาจจะพูดกับพวกนั้นว่าเขาเป็นคนพาจงอินออกไปหาเรื่อง เพราะยังไงซะ จงอินก็พูดเรื่องชานยอลไม่ได้อยู่แล้ว คนตัวเล็กนั่งลงตรงที่เดิมอย่างหมดแรงพลางมองจงอินที่นั่งข้างหน้า อยากจะสะกิด อยากจะถาม แต่ก็ไม่กล้าเลย ยังไม่กล้าเหมือนเคย...
เวลาล่วงเลยมาถึงตอนเที่ยง แน่นอนว่าคยองซูย่อมกินข้าวคนเดียว ร่างเล็กนั่งลงตรงริมโรงอาหารด้านหลังพยายามไม่มองสบตาใครทั้งนั้น ไม่งั้นความอ่อนแอที่เก็บสะสมไว้จะพานทำให้น้ำตาไหลลงมา
เสียงโหวกเหวกโวยวายดังขึ้นมาเรื่อยๆจากทางต้นของโรงอาหาร คยองซูยังคงนั่งกินต่ออย่างไม่สนใจจนกระทั่งเสียงนั้นมาหยุดอยู่ตรงหน้าเขา
“ ค...คยองซู พวกฉันขอโทษ! ”
นักเลงสามคนในวันนั้นกำลังนั่งลงคุกเข่าอยู่ข้างๆคยองซู ในมือมีดอกกุหลาบสีสวยอยู่คนละหนึ่งดอก ใบหน้าของพวกมันมีรอยโดนชกต่อย...? แต่เอ วันนั้นพี่ลู่หานกับพี่ชานยอลไม่น่าจะต่อยเยอะแบบนี้นะ? พวกมันวางดอกไม้ไว้ข้างเท้าคยองซูพลางก้มลงกราบ คนตัวเล็กตกใจมากจนต้องลุกขึ้นหนี
“ พวกนายบ้าป่ะเนี่ย! ไม่ต้องมาขอโทษฉัน ไปขอโทษจงอินนู่น ฉันไม่เป็นไร! ”
“ พวกฉันมันเลว นายด่าฉันสิ จะเตะจะต่อยพวกฉันก็ได้ ฆ่าพวกฉันเลย! ”
“ บ...บ้ากันไปแล้วหรอ! แค่ขอโทษก็พอจะมากราบกันทำไม! ”
“ ย...ยกโทษให้พวกฉันเถอะนะ คยองซู ”
พวกนักเลงมีสีหน้าหวาดกลัว แผลบางแผลยังคงมีเลือดไหล่ คยองซูก้มลงเก็บดอกไม้ทั้งหมดแล้วพยักหน้าให้ พวกมันยิ้มดีใจแล้ววิ่งหายออกไปทันที คยองซูหัวเราะออกมาเล็กน้อย แปลกคน วันนั้นจะฆ่าให้ตาย ส่วนวันนี้มาขอโทษซะงั้น? ตลกดี
“ เธอดูสิ ผู้ชายที่ชื่อคยองซูไง เขาว่ามีเรื่องกับนักเลงโรงเรียนนั้นล่ะ... ”
“ ตัวกระเปี๊ยกขนาดนี้เนี่ยนะ? แต่คงจะโหดจริงมั้ง เรียนยิงปืนด้วยสิเนี่ย... ”
“ เห็นเขาว่าคยองซูไปขู่ฆ่าพ่อแม่ของพวกนั้นเลยนะ ทุเรศจริงๆ ”
“ ต๊าย หน้าตาไม่ให้เลยเนอะเธอ... ”
เสียงซุบซิบนินทาเริ่มดังเข้ามาในโสตประสาทของคยองซู โอ้ยหงุดหงิด ไม่กินมันละข้าว ไปกินที่บ้านแล้วกัน คยองซูเดินหนีพวกนั้นออกมาก่อนจะถึงทางออก ดวงตากลมโตก็มองเห็นจงอินซึ่งสบสายตากันพอดี หากแต่คยองซูไม่ได้สนใจ เพียงแค่ยักไหล่แล้วเดินหนีไป
ก็แค่คนที่ไม่เคยแคร์เรา จะสนใจไปทำไม
คนตัวเล็กเดินขึ้นมาถึงชั้นดาดฟ้าที่เดิมที่เคยนัดกับจงอิน คยองซูเดินไปตรงระเบียง สายลมหนาวมาปะทะใบหน้า สายลมโกรกที่ทำให้รู้สึกสบายและโล่งใจ...
“ โว้ยยยยยยย!!! ”
อดไม่ได้ที่จะตะโกนออกมาด้วยความอดกลั้น มือเล็กทุบไปทั่วราวระเบียงจนกำปั้นเริ่มแดง เอาสิต่อยมันคยองซู คิดซะว่านี่เป็นหน้าจงอิน ต่อยแรงๆสิ!!!
“ ถ้าแค้นขนาดนั้น เดินไปต่อยเจ้าตัวเลยดีกว่าไหม? ”
เสียงที่ค่อนข้างคุ้นเคยดังขึ้นมาข้างหลัง เมื่อหันไปก็พบกับแบคฮยอนที่นั่งมองดูอยู่ตรงหลังประตู
“ นาย... เอ้ย รุ่นพี่มาแอบดูผมทำไม! ”
“ ฉันสิควรต้องถาม นายมารบกวนการนอนของฉันทำไม ”
เอ้า ก็ใครจะไปรู้ว่ามีหมานอนอยู่ตรงนั้น
“ อย่ามาด่าฉันในใจนะคยองซู คิดว่าฉันดูหน้านายแล้วไม่รู้รึไง? ”
เบื่อหมารู้ทัน
คยองซูกำลังจะเดินลงไปข้างล่างแต่ก็โดนกระชากแขนไว้ คยองซูพยายามสะบัดออกแต่แรงอีกคนก็มีมากจนต้านไม่ไหว
“ ปล่อยผมนะไอ้หมาบ้า!!! ”
“ นี่นายว่าฉันเป็นหมาหรอห้ะ! ”
“ ก็ใช่สิ นายอ่ะชอบทำหน้าหมาๆ ปากก็หมา นิสัยก็หมา! ”
“ อยากโดนหมาจูบอีกรอบไหมล่ะ? ”
ราวกับเป็นคำศักดิ์สิทธิ์ คยองซูหยุดความพยศลงแต่ก็พยายามจะแกะมือออกพลางเม้มปากไว้แน่น แบคฮยอนมองอีกคนแล้วหัวเราะออกมาเล็กน้อยพลางถามด้วยความเป็นห่วง
“ นักเลงพวกนั้นมาขอโทษนายแล้ว ดีขึ้นไหม? ”
“ น...นายรู้ได้ไงว่าพวกนั้น...ผม... ”
“ ฉันจะรู้ได้ยังไงก็ช่างฉันเถอะ... แล้วนายดีขึ้นไหม? ”
คำพูด น้ำเสียงและแววตาที่อ่อนโยนทำให้คยองซูนิ่งสงบลง เขาพยักหน้าเล็กน้อยพลางก้มหน้าลงแล้วแอบอมยิ้มขำๆ
“ อื้อ โอเคขึ้นแล้วล่ะ ผมก็สงสัยนิดๆนะว่าพวกนั้นมาขอโทษได้ไง ”
“ ฉันกระทืบพวกมันเองแหละ แผลทั้งหมดนั่น ฉันทำเอง ”
แบคฮยอนกระตุกยิ้มมุมปากให้อีกคน คยองซูเบะปากใส่ทันที
“ อี๋ พวกชอบใช้กำลัง ว่าแต่... วันนั้นนายแอบตามฉันไปหรอ ถึงรู้เรื่องทั้งหมด? ”
แบคฮยอนสะอึกทันที รอยยิ้มทั้งหมดหุบลงและเริ่มมีอาการเลิ่กลั่ก
ไอ้บ้านี่มันแอบตามเขา ทุเรศจริงๆ...
“ พี่... จะตามจีบผมหรอ พยอนแบคฮยอน? ”
“ พ...พูดมั่วๆ! ฉันแค่ไม่อยากเห็นคนอ่อนแอโดนทารุนเท่านั้นเอง โห่ว ”
“ วันนั้นพี่แอบตามผมไปสินะ? จะจีบผมล่ะสิ ชอบผมรึไงห้ะ! ”
“ นี่ ฉันเป็นรุ่นพี่นายสองปีนะ กรุณาให้เกียรติด้วย ”
“ ไอ้คนชอบเปลี่ยนเรื่อง! ”
บ้าที่สุด!
คยองซูค้อนสายตาใส่เล็กน้อยก่อนจะเดินหนีไปแต่ก็โดนลากตัวกลับมา
“ จะไปไหน? ”
“ ไปเรียนไงครับคุณรุ่นพี่ผู้อาวุโสแก่กว่าผมสองปี ”
“ ไม่ให้ไป ”
“ เอาแต่ใจ! ”
แบคฮยอนไม่โต้ตอบอะไร หากแต่มือเรียวคู่นั้นยกขึ้นมาลูบเบาๆที่แผลมุมปากของคยองซู ร่างเล็กสะดุ้งเล็กน้อยแต่ก็ไม่คัดค้าน แบคฮยอนยิ้มให้อย่างเอ็นดู
“ เดี๋ยวฉันทำแผลให้ ”
“ คุณทำเป็นหรือไง? ”
“ พยอนแบคฮยอนพ่อทุกสถาบันนะครับ ทำแผลไม่ได้ก็ควรลาออกจากทุกสถาบัน ”
“ แต่พี่ยังซ้ำชั้นสถาบันนี้อยู่เลยนะครับแบคฮยอน ”
“ ถ้าเป็นสถาบันการทำแผล ผมชำนาญนะครับ ”
“ แต่แผลนี่จะหายแล้ว จะทำไปเพื่ออะไร? ”
เฮ้อ หลอกแต๊ะอั๋งหน่อยก็ไม่ได้ เซ็ง...
แบคฮยอนส่ายหัวอย่างเซ็งๆ เจ้าเด็กนี่มันขัดซะทุกเรื่อง!
“ โดนพ่อตีไหมล่ะ? ”
“ ...จะเหลือหรอ? ”
คยองซูหน้าเง้างอดทันที พ่อดุขนาดนี้ไม่จับตีก็บ้าแล้ว แบคฮยอนก็ขำกร๊ากทันที สู้กับนักเลงได้ไม่เคยยอมแพ้ แต่ไอ้เด็กบ้านี่ดันต้องกลับไปโดนตีก้นซะงั้น
“ ตีก้นหรอ เจ็บไหม? ”
“ พี่ก็มาลองโดนแบบผมบ้างเซ่! ”
“ ทำแผลให้ไหม? ”
“ พ...พี่จะทำยังไง? ผมโดนตีก้นนะ! ”
“ ก็ถอดกางเกงสิ จะไปยากอะไร? ”
“ คนบ้า! บ้าที่สุด!!! ”
อ้าว นี่ถามแบบใสใสแล้วนะ ไม่ได้หื่นเลยสัดนิด ฮึ่ม...
แสดงความหื่นไปได้นิดเดียว แบคฮยอนก็โดนกำปั้นจากคนตัวเล็กทุบลงมาที่เต้นแขนแบบรัวๆ ก็ดูไอ้รุ่นพี่แบคฮยอนสิ ถามอย่างเดียวไม่ว่า จะมาเล่นหูเล่นตาเป็นประกายวิบวับทำไมไม่ทราบ!
คยองซูนั่งลงปุ๊กอย่างอ่อนแรงพลางพิงหลังไปที่กำแพงแล้วหลับตา แบคฮยอนยิ้มเอ็นดูกับภาพนั้นพลางนั่งลงข้างๆแล้วผลักหัวอีกคนให้ซบไหล่ตัวเอง คยองซูไม่ได้ขัดขืน เพราะความเหนื่อยที่ทำให้อ่อนล้า พอมาเจอสัมผัสที่อ่อนโยนก็หมดแรงจะขัดขืน
“ จงอินเพื่อนนาย... ไม่ยอมคุยด้วยหรอ? ”
คยองซูก้มหน้าทันที ใบหน้านั้นเริ่มเศร้าหมองลงจนแบคฮยอนสัมผัสได้ เขาดึงอีกคนมากอดไว้อย่างกล้าๆกลัวๆ แหม่ ไอ้เด็กบ้านี่เก่งยิงปืนนะครับ ยิงปืน... เกิดมันบ้าคลั่งไม่ชอบกอดอันแสนดีของผมขึ้นมา หัวก็เป็นรูโบ๋พอดี
หากแต่คยองซูไม่ได้ขัดขืน คนในอ้อมกอดค่อยๆซบลงที่แผ่นอกอันอบอุ่น หัวเล็กกลมๆซบอยู่อย่างนั้นไม่มีทีท่าว่าจะลุกขึ้น แบคฮยอนรู้ว่าคนตัวเล็กกำลังร้องไห้ เค้ารู้ว่าคยองซูรู้สึกอย่างไร เขารู้เสมอ
“ ฮึก... ”
จะสะอื้นทำไมคยองซู ฉันกำลังเป็นพระเอกแบบหล่อๆแล้วเชียว!
แขนแกร่งโอบรอบตัวอีกคนอย่างแนบน่น ใบหน้าเล็กๆเริ่มซบใกล้มากขึ้นจนเขาสัมผัสได้ถึงหยาดน้ำอุ่นๆตรงแผ่นอก มือเรียวยกลูบหัวอีกคนอย่างปลอบใจ ให้คำแนะนำไม่เป็นเพราะทุกวันนี้ชีวิตก็เหลวเป๋วพออยู่แล้ว สิ่งที่เขาทำให้คยองซูได้ก็คือกอดไว้แน่นๆและรับฟังปัญหาภายในใจ
แหม่ เราก็หล่อดีไม่ใช่น้อยนะเนี่ย...
ทันใดนั้น สายตาแบคฮยอนก็หันไปเห็นบุคคลมาใหม่ตรงประตู
จงแดของพี่
อย่าแซวนะ
“ วีดวิ้ว~ ”
บอกว่าอย่าแซว
เสียงมาไม่ถึงแต่กูสัมผัสได้นะครับว่าล้อเลียน...
จงแดทำหน้าทะเล้นใส่แบคฮยอนเล็กน้อย ยังไม่ทันจะหันหลังเดินกลับลงไป เพื่อนตัวดีก็ตบก้นตัวเองเบาๆ พร้อมทำปากเป็นคำพูดที่แสนจะ...
‘ อู้ย เอาอีกสิฮะ...’
ไอ้จงแด!!
แบคฮยอนเอื้อมมือจะคว้ารองเท้าแล้วขว้างใส่แต่จงแดก็วิ่งลงไปแล้ว
เพราะการขยับอย่างแรงของแบคฮยอนเมื่อกี้ทำให้คยองซูสะดุ้งเล็กน้อย ใบหน้าที่กำลังเคลิ้มหลับนั้นงัวเงียเหมือนแมวน้อยดูน่ารัก กำปั้นเล็กๆยกขึ้นมายีตัวตัวเองเล็กน้อย นี่ร้องไห้จนหลับเลยหรอ...
“ นอนต่อเถอะ วันนี้ไม่ต้องเรียนแล้วนะเด็กดี ”
แบคฮยอนดันให้อีกคนนอนลงบนตักตัวเอง คยองซูตอนง่วงนอนนั้นว่าง่ายเหลือเกิน แบคฮยอนนั่งอมยิ้มมองคนหลับไปตลอดวัน
///////////////////////////////////////////////
“ พี่ลู่หานครับ เมื่อไหร่จะถึงอ่า... ”
“ เดี๋ยวก็ถึงแล้วนะครับ อีกนิดเดียว ”
“ ผมทนไม่ไหวแล้วนะ... ”
“ ทนอีกหน่อยนะครับ มินซอกใจเย็นหน่อยสิ ”
“ แต่ผมหิวแล้วนะ ท้องร้องดังไปหมดแล้ว ”
โครกกกก... ครากกกก...
“ ครับๆ ข้างหน้านี่ก็ถึงแล้วนะ ”
ลู่หานขับหาที่จอดรถใกล้เสร็จแล้ว เขาพามินซอกไปที่ร้านคอฟฟี่ช็อปร้านนั้นที่เขาเคยมาประจำ เมื่อเปิดประตูเข้าไป กลิ่นกาแฟหอมกรุ่นก็ลอยมาแตะจมูกทันที คนตัวเล็กสูดลมหายใจเข้าอย่างสดชื่นพลางหันมายิ้มให้อย่างน่ารักน่าเอ็นดู
“ หอมจังเล้ย~ ”
มินซอกวิ่งไปนั่งตรงเก้าอี้ริมหน้าต่าง เป็นที่เดิมที่มินซอกเคยนั่งเมื่อหลายปีก่อน
“ มินซอก...? ทำไมนายไปนั่งตรงนั้นล่ะครับ ชอบหรอ? ”
“ ก็ตรงนี้แสงดีจะตาย เวลาแดดส่องเห็นพี่ลู่หานชัดแจ๋วเลย ”
‘ พี่ลู่หาน กินกาแฟร้านนี้นะฮะ ร้านมีคุณกระต่ายด้วย ’
‘ พี่ลู่หานไปนั่งฝั่งนู้นเลยนะมินซอกจะนั่งตรงนี้ ’
‘พี่ลู่หานรู้ไหมฮะว่าทำไมมินซอกมานั่งตรงนี้’
‘ก็ตรงนี้มองเห็นหน้าพี่ลู่หานชัดแจ๋วเลย~’
‘พอเห็นหน้าพี่ลู่หานแล้วกินไปด้วยนะ กาแฟแก้วนี้อร่อยม๊ากมาก~ ’
ราวกับมีภาพในอดีตซ้อนทับ ต่างไปจากเดิม แต่ก่อนเขาได้แต่จินตนาการว่ามินซอกนั่งและยิ้มให้อยู่ในความทรงจำ พอเจอมินซอกอีกครั้งแล้วรู้ว่าตัวเล็กความจำเสื่อม ภาพทุกอย่างก็ถูกทำลาย มินซอกคงจำไม่ได้แล้วว่าครั้งแรกที่เรากินกาแฟที่ร้านนี้คนตัวเล็กเคยพูดไว้ว่าอย่างไร แต่พอมาวันนี้ ความหมดหวังทุกอย่างถูกทำลายลง
อย่างน้อย มินซอกก็ยังคงจำได้ในเบื้องลึกแห่งความทรงจำ
อย่ายอมแพ้นะลู่หาน! มินซอกจะต้องจำนายได้และรักกันเหมือนเดิม
“ ทำไมต้องมองเห็นหน้าพี่ชัดๆด้วยล่ะ? กินกาแฟไปสิจะมามองหน้าพี่ทำไม ”
“ กาแฟจะอร่อยไม่อร่อย ขึ้นอยู่กับคนที่มาด้วยนะครับ ”
พอแล้วมินซอก...
หยุดพูดจาให้พี่รักเรามากไปกว่านี้เลย
“ แล้ว... ถ้ามองหน้าพี่ กาแฟจะอร่อยขึ้นหรอ? ”
“ ต้องอร่อยสิครับ ก็มินซอกมีความสุขนี่หน่า ~ ”
คนตัวเล็กยิ้มมาให้อย่างมีความสุข ดวงตาที่เล็กหยีคู่นั้นดูเล็กลงไปอีก รอยยิ้มโชว์ฟันกระต่าย แก้มย้วยๆที่น่าฟัดเล่น ทุกอย่างรวมตัวออกเป็นมินซอก คนที่ทำให้ลู่หานหลงใหลจนโงหัวไม่ขึ้น อยากจะกระโจนไปหาแล้วดึงมากอดไว้ แต่ต้องห้ามใจ
เดี๋ยวมินซอกก็ได้เกลียดเขาอีกรอบพอดี
“ สั่งอะไรดีคะ... อ้าว พี่ลู่หาน หายไปไหนมาคะ ”
เด็กสาวคนเดิมยิ้มให้อย่างดีใจเมื่อเห็นลูกค้าประจำที่หายหน้าหายตาไป เธอชื่อยุนอา เธอมาดูแลร้านแทนแม่ที่เริ่มชราตามอายุขัย ยุนอาและมินซอกอายุใกล้เคียงกัน ทั้งสองจึงเล่นกันบ่อยๆ แต่ไม่รู้ว่า... เธอจะจำมินซอกได้ไหมนะ?
“ อ้าว? ...มินซอก! ”
ยุนอาสะดุ้งตกใจเมื่อเห็นหน้าอีกคนที่ลู่หานพามาด้วย เธอรีบทิ้งเมนูแล้วจับแขนมินซอกแน่น ตัวเล็กดูตื่นตกใจทันที
“ มินซอก! นายหายไปไหนมา รู้ไหมฉันต้องเล่นคนเดียวเนี่ย คิดถึงจะแย่! ”
ยุนอากอดอีกคนด้วยความคิดถึงแต่มินซอกกลับผลักออก
“ ผมไม่รู้จักคุณนะ ”
“ พูดบ้าๆ! เมื่อก่อนนายชอบมากินกาแฟที่ร้านฉัน คาปูชิโน่ของโปรดนายไง! ”
“ ผมไม่รู้จักคุณ ปล่อยผมสักที! ”
มินซอกเริ่มโวยวายพยายามผลักยุนอาออก แต่แน่ล่ะ ยุนอาไม่ใช่ผู้หญิงแรงน้อย เธอกอดไม่ปล่อยแต่ทำหน้างุนงง ลู่หานจึงรีบจับแยกออกจากกันก่อนที่มินซอกจะเริ่มงอแงแล้วจะยุ่งยากกว่านี้
“ ยุนอาครับ เดี๋ยวพี่อธิบายให้ฟังนะ ”
“ พี่ลู่หานคะ แต่... ”
“ ยุนอา เอาแบบเดิมที่เคยกินสมัยก่อนนั่นแหละ เดี๋ยวพี่เดินไปหานะ เธอไปทำกาแฟก่อน ”
ยุนอามองอย่างสงสัยเล็กน้อยแต่ก็เดินไปทำกาแฟตามที่บอกทันที สายตาของหญิงสาวเศร้าลงเมื่อเพื่อนสมัยเด็กจำเธอไม่ได้ มินซอกทำหน้าไม่พอใจใส่ทันที มินซอกไม่รู้จักผู้หญิงคนนี้แต่ทำไมต้องมาแตะเนื้อต้องตัว น่ารำคาญที่สุดเลย
“ ผมจะกลับบ้านแล้ว ”
“ มินซอก อย่าเอาแต่ใจแบบนี้ ใจเย็นก่อนนะครับ ”
“ ผมไม่อยากกินแล้ว พาผมกลับบ้าน ”
“ มินซอกครับ ไม่เอาไม่ดื้อนะ กาแฟร้านนี้อร่อยมากเลยนะครับ ”
“ ไม่เอา! กาแฟแถวบ้านอร่อยๆก็มี พี่ลู่หานจะถ่อมาทำไมตั้งไกล ”
“ มินซอก! ”
คำพูดเอาแต่ใจ คนพูดไม่ได้รู้เลยว่าทำร้ายคนฟังแค่ไหน
เพราะที่นี่มันเป็นที่ในความทรงจำตั้งครึ่งหนึ่ง
เพราะนายเคยรักที่นี่มากไงมินซอก
คนตัวเล็กเมื่อรู้ว่าพูดแรงไปก็หน้าเสียทันที ใบหน้าเล็กแสดงความรู้สึกผิดเล็กน้อยก่อนจะมีสีหน้าเอาแต่ใจตามเดิม
“ ผมอยากกลับบ้า... ”
“ เดินกลับไปสิ ”
เอาสิ เถียงมาเถียงกลับ เหตุผลไม่ได้ก็ใช้ความกวนประสาท
“ พี่พาผมมาพี่ก็ต้องพาผมกลับ! ”
“ ฉันจะพานายกลับก็ต่อเมื่อนายกินกาแฟหมดแล้ว ”
“ ผมเหนื่อยแล้ว... อยากกลับบ้าน ”
“ มันเรื่องของนาย พี่สบายดี ”
มินซอกทำท่าทางฟึดฟัดทันทีที่อีกคนไม่ตามใจเขา ลู่หานยิ้มอย่างผู้ชนะ
“ ผมไม่เข้าใจ ”
“ นายไม่เข้าใจอะไรมินซอก? ”
“ ทุกคน... พูดเหมือนว่าผมมีอีกคนในอดีต อีกคนที่ผมจำไม่ได้ ”
“ ใช่ ”
“ พี่ลู่หานเจอหน้าผม พี่ลู่หานก็รู้จักผมแต่ผมจำไม่ได้ เจอผู้หญิงคนนี้ เขาก็ทำเหมือนพี่ลู่หาน... ผมไม่เข้าใจ ”
“ ไม่เข้าใจตรงไหน? ”
“ มินซอกคนปัจจุบันไม่ดีหรอ? ทำไมถึงมีแต่คนถามหามินซอกในอดีต... ”
“ ม...มันไม่ใช่นะมินซอก ”
“ ผมตื่นขึ้นมา พ่อก็ทำหน้าเหมือนผิดหวังสุดๆ ส่วนคยองซูก็มองผมด้วยความเสียใจตลอด ทุกคนเอาแต่ถามผม เมื่อไหร่มินซอกคนเดิมจะกลับมา
แล้วที่ผมเป็นมินซอกคนนี้มันไม่ดีใช่ไหม? ”
“ ไม่ใช่นะมินซอก นายดีที่สุดแล้ว ”
“ ถ้าผมดีที่สุด แล้วทุกคนจะถามหาคนเก่าทำไม? ”
“ ....... ”
“ พี่คิดว่าผมเบื่อไหม? เวลาเจอใคร ก็มีแต่คนรู้จักในขณะที่ผมจำอะไรไม่ได้เลย ทุกคนเอาแต่พูดเรื่องในอดีตที่ผมจำไม่ได้ แล้วทำไมไม่มีคนพูดถึงปัจจุบันของผมบ้าง ผมมันไม่ดีขนาดที่ทุกคนอยากได้คนเก่ากลับมาขนาดนั้นเลยหรอ? ”
“ มินซอก... ”
“ ผมมันแย่เกินไปใช่ไหม ทุกคนถึงไม่ต้องการผม... ”
พอแล้วกับความอึดอัดนี้ เขาไม่ได้เป็นคนใจร้าย มินซอกแค่ไม่เข้าใจว่าทุกคนเอาเรื่องเก่ามาพูดทำไม เขาแค่จำใครไม่ได้ แค่นั้น? แต่ทำไมทุกคนต้องมีสีหน้าผิดหวังแบบนั้น
เขาทำอะไรผิด?
“ มินซอก ฟังพี่นะ นายไม่ได้แย่หรือเลวร้ายขนาดนั้น ที่ทุกคนต้องการจากนายก็คือความทรงจำในอดีต เพราะนายจำทุกคนไม่ได้ เขาถึงเสียใจไงล่ะ ”
“ แล้วทำไมไม่สร้างความทรงจำอันใหม่ด้วยกันล่ะ? อดีตที่ผ่านไปแล้วผมไม่รู้ว่ามันเป็นยังไง แต่ทำไมไม่ทำความรู้จักกับผมคนนี้ก่อน แค่สร้างความจำใหม่ๆที่ดีด้วยกัน ความทรงจำในอดีตมันผ่านไปแล้วก็ช่างมัน แต่ก็... ไม่มีใครเข้าใจผมเลย ”
มินซอกก้มหน้าลงเก็บอาการสะอื้นไว้ทันที ความอึดอัดที่สะสมมาตลอด ทำไมต้องมาระเบิดวันนี้ด้วยนะ... ลู่หานเห็นดังนั้น จึงรีบเดินไปนั่งข้างๆแล้วกอดอีกคนเอาไว้เพื่อให้กำลังใจ เพื่อบอกอีกคนว่า ยังไงซะ เขาก็ยังจะอยู่ตรงนี้
ยังไงคนคนนี้ก็คือมินซอกคนเดิมของเขา
ถ้าจำเรื่องราวเก่าไม่ได้ ก็ช่างมัน
สร้างความทรงจำใหม่ที่แสนดีขึ้นมาก็จบ...
บางที เขาไม่ควรตามหาความทรงจำให้มินซอก
แต่เขาควรสร้างความทรงจำอันใหม่ให้คนคนนี้ต่างหาก
“ พี่ลู่หานคะ มินซอก เป็นอะไร?”
ทันทีที่เขาทำให้มินซอกยิ้มได้ประมาณหนึ่ง ก็รีบเดินมาหาเด็กสาวตรงเค้าท์เตอร์
“ มินซอกความจำเสื่อมน่ะ ”
เด็กสาวอ้าปากค้างด้วยความตกใจ มิน่าล่ะมินซอกถึงผลักเธอออกมา ยุนอาได้ยินดังนั้นก็รีบหันหลังไปทำกาแฟทันที
“ งั้นฉันจะทำคาปูชิโนแบบที่แม่เคยทำ ”
“ ขอบใจนะ ”
“ เผื่อความทรงจำมินซอกจะกลับมาเหมือนเดิม”
ลู่หานพยักหน้ายิ้มๆให้ยุนอาไป เขารีบกลับไปนั่งที่เดิม สักพักกาแฟร้อนๆสองแก้วก็มาเสิร์ฟ คาปูชิโนและอเมริกาโน พร้อมกับขนมเค้กช็อคโกแล็ตอีกสองก้อนให้คิมมินซอก
ตี้ด
เสียงเตือนข้อความเข้าของโทรศัพท์ลู่หานดังขึ้น เจ้าของเครื่องรีบเปิดทันที
‘อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกแต๊ะอั๋งลูกชายฉัน
กลับบ้านภายใน 4 โมงเย็นเท่านั้น!’
กลัวจังเลยอี้ฝาน
ลู่หานกดลบข้อความทิ้งแล้วหันมากินกาแฟต่อ มินซอกยังคงไม่ยอมกิน
“ ผมไม่อยากกินอ่ะ มันขม... ”
“ นายลองแล้ว? ”
“ ฮื่อ... ยังไงมันก็ขมอยู่ดีอ่ะ ”
“ มินซอก... ”
ลู่หานกดเสียงต่ำอย่างหมดความอดทน มินซอกพอรู้ว่าโดนดุก็ยกแก้วกาแฟนั้นขึ้นมากินอย่างช่วยไม่ได้ ทันทีที่ลิ้นเล็กสัมผัสกับรสชาติของกาแฟ คนร่างเล็กก็เบิกตาโพลง
“ อร่อยจัง... ”
คำพูดเบาๆที่ทำให้ลู่หานยิ้มออกมาอย่างมีความสุข คนข้างหน้ากินคาปูชิโนของโปรดจนหมดรวมทั้งเค้กสองก้อนนั้นด้วย ดวงตาเล็กมองหน้าลู่หานอย่างออดอ้อน คนตัวสูงส่ายหน้ายิ้มๆแล้วหันไปสั่งเค้กมาเพิ่มอีกสองก้อนและกาแฟคาปูชิโนเพิ่มอีกแก้ว
“ ง่ำๆๆๆ ”
สามก้อน
“ อร่อยที่สุดเลย~ ”
สี่ก้อน
“ เค้กอร่อยมากเลยครับ ”
ห้าก้อน
“ งื้อ อันนี้มีตุ๊กตาน้ำตาลรูปคุณกระต่ายด้วย อร่อยจัง ”
หกก้อน
“ พี่ลู่หาน เค้กอันนี้อร่อยที่สุดเลยนะครับ ”
เจ็ดก้อน
“ ทำไมอร่อยแบบนี้นะ ให้คยองซูทำให้กินดีกว่า ”
แปดก้อน...
“ พี่ลู่หานครับ ร้านนี้เค้กอร่อยจัง แหะๆ~ ”
ไม่ต้องบอกก็รู้ครับมินซอก ดูจานเค้กสิ เต็มโต๊ะไปหมดแล้ว
แต่ตังค์พี่หายแวบเลยครับ...
“ อิ่มแล้วใช่ไหมครับ? ”
“ อิ่มตื้อเลยครับ คาปูชิโนอร่อยที่สุด ผมอยากลองทำบ้างจัง ”
“ ไว้วันหลังนะครับ วันนี้ไปรับคยองซูก่อนนะ เดี๋ยวน้องจะรอนาน ”
“ ง่า โอเคครับ~ ”
เมื่อจ่ายเงินเสร็จ เขาก็พามินซอกขึ้นรถทันที เดินทางประมาณหนึ่งชั่วโมงเนื่องจากร้านกาแฟค่อนข้างไกลจากโรงเรียนบวกกับรถที่แสนจะติด พามินซอกลงจากรถ ร่างเล็กๆของน้องชายก็พุ่งเข้ามากอดทันที
“ วันนี้พี่มินซอกมารับผมด้วย~ ”
คนเป็นพี่ชายหอมแก้มน้องดังฟอดทั้งสองข้าง คนเป็นน้องก็หอมแก้มกลับไปอย่างแรง แล้วคนขับรถนี่ขอหอมบ้างได้ไหม? ลู่หานอยากหอมมินซอกบ้างแต่กลัวโดนฟาดจังเลย ไว้สองต่อสองแล้วกันนะ
ลู่หานยิ้มและมองไปรอบๆก็พบเจอกับชานยอล ผู้ชายที่มาต่อยคยองซูวันนั้น ลู่หานหุบยิ้มทันที ตากวางมองแข็งกร้าวใส่อีกคน ชานยอลซึ่งหันมาเห็นพอดีก็กระตุกยิ้มกลับไปอย่างไม่สนใจ เขาโอบเอวจงอินขึ้นรถทันที
ส่วนคยองซูที่หันมาเห็นภาพนั้น นัยน์ตาก็สลดทันที ชานยอลที่เห็นก็ยิ้มเยาะเย้ยอย่างสะใจ
ทำไมจะไม่รู้ว่าไอ้เด็กเตี้ยนี่แอบรักเมียเขา
“ เฮ้ยไอ้จงแด ค่าข้าววันนี้ไม่มีจะกินแล้วนะ มึงเอาไปทำอะไรหมด ”
“ โธ่มึง กูก็เอาไปซื้อนู่นซื้อนี่... ”
“ อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกเล่นพนัน... ”
หลังจากชานยอลขับรถออกไป เป็นช่วงเวลาที่แบคฮยอนเดินออกมาพอดี คยองซูยิ้มเล็กน้อยเชิงทักทายจงแดก่อนจะวิ่งเข้าไปหาแบคฮยอนแล้วลากมาหาพี่ชาย
“ พี่มินซอกฮะ นี่รุ่นพี่แบคฮยอน เพื่อนของผมเอง แล้วคนนู่นก็รุ่นพี่จงแดเพื่อนสนิทของพี่แบคฮยอนฮะ ”
คนเป็นพี่ยิ้มกว้างทักทายทั้งสองคน แบคฮยอนเกาหัวแก้เก้อ
“ นาย เอ้ย... รุ่นพี่แบคฮยอน นี่พี่มินซอก พี่ชายของผมเอง น่ารักไหม~ ”
คยองซูยิ้มกว้างให้แบคฮยอน คนตัวสูงกว่าเล็กน้อยก็พยักหน้าให้คำตอบ
น่ารัก
คยองซูน่ารัก...
“ ไอ้พวกนักเลงวันนั้นมากราบขอโทษผมด้วยฮะ พี่แบคฮยอนเป็นคนบังคับพวกมัน ”
คยองซูบอกอย่างมีความสุขกับพี่ชายและพี่ลู่หาน แบคฮยอนที่ยิ้มเคลิ้มๆก็สะดุ้งทันที
“ เอ้ะ แต่... ”
จงแดอ้าปากจะพูดอะไรบางอย่างแต่ก็โดนแบคฮยอนตะครุบปากไว้ คยองซูมองอย่างสงสัยแต่ก็ไม่ได้สนใจ
“ ขอบใจมากนะแบคฮยอน แต่ไม่เป็นอะไรหรอก อย่าใช้กำลังกันเลยนะ ”
ลู่หานก้มหัวเล็กน้อยขอบคุณอีกคน แบคฮยอนสะดุ้งและก้มหัวต่ำจนเกือบติดพื้น
“ ไม่เป็นอะไรหรอกครับ คยองซูเป็นรุ่นน้องผม ผมต้องดูแล ”
ลู่หานยิ้มกว้างให้อีกคน ถึงแบคฮยอนจะดูเป็นเด็กเกเร แต่แววตาก็ดูเป็นคนดีไม่มีเล่ห์เหลี่ยมอะไรให้น่ากังวลใจ ถ้าทำให้คยองซูยิ้มกว้างได้ขนาดนี้คงไม่ต้องสอบสวนเพิ่มเติมอีกแล้วมั้ง
หลังจากคยองซู มินซอกและลู่หานกลับไปแล้ว แบคฮยอนก็หันไปหัวเราะแหะๆให้จงแดทันที
“ เอาความดีเข้าตัวคนเดียวเลยนะมึง ที่กูไปกระทืบพวกมันเกือบตายนี่ไม่มีใครคิดจะขอบคุณกูเลยใช่มั้ย ”
จงแดมองหน้าอย่างหาเรื่องพลางล็อกคอเพื่อนตัวแสบไว้ แบคฮยอนพยายามดิ้นให้หัวหลุดออกมาแต่อีกคนก็ล็อกแน่นเหลือเกิน
“ ให้กูหล่อต่อหน้าน้องเขาหน่อยนะ นิดเดียวเองมึง กุ๊งกิ๊ง ”
“ กุ๊งกิ๊งบ้าอะไรวะ ปัญญาอ่อน กูงอนอยู่ไม่ต้องมาพูดเลย ”
จงแดปล่อยแขนออกแล้วเดินหนีทันที แบคฮยอนก็วิ่งแล้วตามง้อเพื่อนทันที
โธ่ไอ้เพื่อนบ้า
คนเราก็อยากเป็นพระเอกในสายตาคนที่เราสนใจดิ
เอ้ย ไม่สนๆๆ
คยองซูไม่เห็นน่าสนใจสักนิด ก็แค่รุ่นน้องคนหนึ่ง
แค่รุ่นน้องจริงๆ เชื่อไหมล่ะ?
///////////////////////////////////////////
หลังจากทานข้าวเย็นเสร็จ ลู่หานก็ออกมารับลมยามดึกทันที เหมือนกับว่าฤดูหนาวจะผ่านไปแล้ว หิมะไม่ตกแต่ลมยังคงเย็นเยือก ออกมาได้สักพักก็ได้ยินเสียงสิ่งมีชีวิตอยู่แถวนี้จึงเดินออกไปดูใกล้ๆ
“ ฮึ่บ! ย่าห์!! ”
เทากำลังฝึกร่างกายกับไม้ตะบองหนึ่งอัน การออกกำลังกายของเทาค่อนข้างเข้มแข็งและดูมีกำลัง
ต่างจากของเขากับอี้ฝานโดยสิ้นเชิง
“ อ้าว มายืนทำอะไรมืดๆตรงนี้ ไม่ให้สุ้มเสียงเดี๋ยวผมก็ฟาดหรอก ”
เทาหันมาเห็นลู่หานพอดีจึงเอ่ยปากทักทาย ลู่หานยิ้มรับแล้วเดินเข้าไปหา
“ ถามอะไรหน่อยสิ ”
ลู่หานเอ่ยปากถามด้วยความสงสัย จื่อเทาเลิกคิ้วอย่างสงสัยเล็กน้อยไม่ได้พูดอะไร
“ ทำไมนายถึงมาทำงานกับอี้ฝานล่ะ? ”
เทาหยุดกระบวนการออกกำลังกายทันที ดวงตาคู่คมมองอีกคนพลางครุ่นคิด
“ เพราะอี้ฝานชุบชีวิตผม เขาให้ชีวิตใหม่แก่ผม ”
“ แล้ว... นายต้องทำอะไรให้อี้ฝานบ้าง ”
เทาไม่ได้ตอบอะไร เขายิ้มเพียงเล็กน้อยแล้วเก็บอุปกรณ์การออกกำลังกายใส่กระเป๋า เมื่อเก็บเสร็จก็แบกขึ้นหลังแล้วเดินจากไป ยังไม่ทันลับตา เสี้ยวหน้าของจื่อเทาก็หันมา
“ บางที... คุณลู่หานควรรู้นะครับว่าบนโลกมีสิ่งนี้อยู่เสมอ ”
“ อะไรล่ะ? ”
“ ความลับไงครับ ”
----------------------------------------------------------------------------------
เกิดอาการเบลอๆแปลกๆ เลยกลับมาแก้ชื่อตอนค่ะ 5555555555
ขอบคุณที่ติดตามนะคะ ♥
ความคิดเห็น