ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    And we were then brought together - [ dramione ]

    ลำดับตอนที่ #8 : Chapter 6 : If that's what it takes to learn that sweet heart of your

    • อัปเดตล่าสุด 19 เม.ย. 63


    Chapter 6
    If that's what it takes to learn that sweet heart of your




         " เฮ้ เกรนเจอร์ เราไปเคาท์ดาวน์กันมั้ย "

     

         ร่างสูงเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นมือผอมมาหาเธอ เฮอร์ไมโอนี่ลังเลเเต่ก็เอื้อมมือไปจับมือของเขา เดรโกดึงเฮอร์ไมโอนี่ให้ลุกขึ้นยืน เมื่อได้สบตาหวาน ร่างสูงรู้สึกเเปลกประหลาดหวามไหวอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน เขาลอบกลืนน้ำลายอึกใหญ่ เเละเบือนหน้าหนี

     

         " อย่าปล่อยมือฉันระหว่างทางล่ะ ไปไม่ถึงฉันไม่รู้ด้วยนะ " เดรโกกระเเอมไอ เตือนร่างบางให้ระวัง เฮอร์ไมโอนี่เพียงพยักหน้าเล็กน้อยอย่างเข้าใจ 


         มันจะเป็นเรื่องน่าเหลือเชื่อจนอยากจะตะโกนให้ทุกคนบนโลกได้ยิน ที่คนตรงหน้าจะพูดเพราะแปลกๆ เเถมยังจับมือเธอ  เเต่ขณะนี้เธอไม่รู้สึกตะขิดตะขวงใจซักนิด เธอกำลังเเย่ และขอเพียงใครซักคนพาเธอออกไปจากที่นี่เสียที เเละใครคนนั้นก็คือมัลฟอย เธอกระชับมือแน่นขึ้น สัมผัสได้ว่าเขาเองก็บีบมือเธอเเน่นขึ้นเช่นเดียวกัน จากนั้นเสียงหายตัวดังป๊อปก็ดังขึ้น ร่างทั้งสองถูกดูดวนหายไปในสายลมหนาว ทิ้งไว้เพียงรอยเท้าสองคู่ปรากฎข้างกัน

    .

    .

    .

    .

     

         " นายจะพาฉันมาฆ่ารึไง! "

     

         " โอ้ย! เกรนเจอร์! "

     

         เสียงตวาดเเว๊ดของเฮอร์ไมโอนี่ดังขึ้นท่ามกลางความมืด ตามด้วยเสียงฝ่ามือตบหลังคนใกล้ตัวดังปุก จนร่างสูงเเอ่นหลังเเละร้องท้วงด้วยคามเจ็บ ตาโตมองไปรอบๆอย่างหวั่นๆ บรรยากาศเก่าๆทำให้เธอขนลุก เเม้จะอยู่ในเงามืด เเต่เธอก็สามารถเห็นกระท่อมหินเรียงตัวกันเป็นเเถบๆคล้ายกับชนบทในยุคก่อน เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินเสียงสวบสาบจากข้างกาย หันไปก็พบว่าขายาวของเดรโกก้าวตรงไปที่กระท่อมหินเสียเเล้ว มือบางรีบคว้าชายสูทของเขาเเละกำเเน่นอย่างเด็กกลัวของหาย ตาคมสีฟ้าซีดเบือนกลับมามองมือเล็กที่ขยำสูทเขาไว้ด้วยสายตารำคาญ ก่อนจะเหลือบไปเห็นท่ามีระเเวดระวังของเธอ เดรโกกรอกตาเเละถอนใจอย่างเหนื่อยหน่าย เเต่ก็ปล่อยให้เธอขยำมันไว้เเบบนั้น 

     

         " นายพาฉันมาที่ไหนน่ะ " ร่างบางเอ่ยถามร่างสูง พลางมองไปรอบๆอย่างไม่คุ้นชิน

     

         " ไบตูรี่ " เดรโกเอ่ยตอบเบาๆ โดยไม่หันมองเธอ มือผอมดึงไม้กายสิทธิ์ออกมา ก่อนจะเคาะก้อนอิฐสามสี่ก้อนที่ใช้ก่อกระท่อม เเละพึมพัมคาถาอะไรซักอย่างที่เธอไม่ค่อยเข้าใจนัก

     

         ทันทีที่เสียงท่องคาถาเงียบลง ก้อนอิฐเกิดอาการสั่นเเละพับทบเข้าหากัน เเยกออกกลายเป็นช่องประตูกว้าง ปรากฎให้เห็นเมืองเล็กๆอีกเมือง เเสงสีนวลลอดออกมาจากภายใน พาให้ทั่วบริเวณที่เคยมืดจนน่ากลัวสว่างขึ้นจนมองเห็นรอบตัวได้ชัด ร่างสูงยกนาฬิกาขึ้นดูอีกครั้ง ก่อนจะหันมามองเฮอร์ไมโอนี่ที่กำลังยืนตื่นตาตื่นใจอยู่ข้างๆเขา เดรโกลอบยิ้ม ก่อนจะกระทุ้งศอกไปที่ร่างเล็กเบาๆ

     

         " จะเว่อไปรึเปล่า เกรนเจอร์ " ขายาวก้าวเข้าไปในเขตเมือง ตันสนต้นใหญ่สูงเฉียดฟ้าถูกประดับประดาไปด้วยของตกเเต่งทำให้เฮอร์ไมโอนี่ตกตะลึงไปกับความสวยงาม เธอกวาดตามองไปรอบๆ ก็พบกับบรรยากาศเเสนอบอุ่นเเละรื่นเริงของช่วงเทศกาลปีใหม่ ผู้คนมากมายเดินเบียดเสียดกันเเน่นถนัด ทั้งเสียงเพลงเเละเสียงหัวเราะจากผู้คนทำให้เธอเริ่มยิ้มออก

     

         " นี่มันเมืองลับเเลนี่ ทำไมนายถึงรู้ที่ตั้งมันล่ะ!? " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยถามเดรโกอย่างตื่นเต้น เธอมั่นใจมากว่านี่คือเมืองลับเเล เธอเคยอ่านเจอในหนังสือประวัติศาสตร์เเละมีความฝันว่าอยากจะมาเห็นกับตาตัวเองซักครั้ง เเต่เธอไม่รู้ตำเเหน่งของเเต่ละเมือง เเละยังไม่มีเวลามากพอให้ค้นหา ถึงเเม้ว่าเมืองลับเเลจะไม่ใช่อะไรที่น่าตื่นเต้นสำหรับผู้วิเศษนัก เเต่สำหรับเธอที่เป็นมักเกิ้ลบอร์น เธอคิดว่านี่มันออกจะเป็นสิ่งน่าสนใจ ตาโตสีเฮเซลมองบรรยากาศรอบตัวด้วยเเววตาสนุกสนาน ความสนใจในทุกสิ่งทุกอย่างมันเเทบจะระเบิดออกมาจากร่างของเธอจนทำให้เดรโกรู้สึกอยากหัวเราะ จนเเอบลอบยิ้มบางๆออกมา เพราะเฮอร์ไมโอนี่ที่อยู่ตรงหน้าเขาตอนนี้ มันคนละคนกับที่อยู่หน้าประตูร้านเลยนี่

     

         เดรโกไม่ได้ตอบคำถามของเธอทันที เขาเพียงเเค่สะกิดไหล่เฮอร์ไมโอนี่ เเละเดินนำลัดเลาะผู้คนไปเรื่อยๆ มันเป็นความรู้สึกที่น่าประหลาดใจปนดีใจเเปลกๆ กับท่าทางอบอุ่นของเดรโก เธอยอมรับว่านี่คือเทศกาลปีใหม่ในฝันของเธอ เเม้จะมีเรื่องให้ทุกข์ใจก่อนหน้านี้ เเต่ในขณะนี้ นี่อาจจะเป็นประสบการณ์ครั้งเดียวในชีวิตของเธอเลยก็ได้

     

         เธอได้มาเดินอยู่ในเมืองลับเเล เเล้วยังมากับมัลฟอย ถ้าเธอไปเล่าให้แฮรี่กับจินนี่ฟัง พวกเขาคงหาว่าเธอฝันอยู่เเน่ๆ

     

         เฮอร์ไมโอนี่เดินตามเดรโกไปเรื่อยๆ จนใกล้จะพ้นบริเวณลานกว้าง เดรโกทำให้เธอรู้สึกอุ่นใจได้อย่างน่าประหลาด อย่างตอนที่เขาโผล่มาพร้อมกับคำปลอบใจเเปลกๆของเขา หรืออย่างเมื่อครู่ ตอนที่เขาหายไปในกลุ่มผู้คนเเละเธอเกือบจะพัดหลง เดรโกก็หันกลับมามองเธอหยุดรอเธอนิดหน่อย เเละเดินต่อ เเละเเน่นอนว่านี่ไม่ใช่สิ่งที่เธอเคยได้รับจากรอนเลยเเม้เเต่ครั้งเดียว เฮอร์ไมโอนี่เห็นร่างสูงหยุดอยู่หน้าร้านขนมปังที่หัวมุมตึกเเห่งหนึ่ง ภายในร้านมีลูกค้ามากมายเเวะเวียนกันเข้ามาซื้อเครื่องดื่มเเละขนมปังเพื่อรองท้องสำหรับรอเวลาเคาท์ดาวน์

     

         " ทุกปีฉันจะมาเคาท์ดาวน์ที่นี่ เเละจะมานั่งมองต้นคริสมัสนั่นตรงนี้ เธออยากจะนั่งด้วยกันมั้ยล่ะ " เดรโกเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเอื่อยๆ ลอบมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยปลายตา สายตาคมกำลังมองหาที่ว่างด้านนอกร้านเพื่อที่นั่งจะชมบรรยากาศเทศกาล ร่างสูงยกนาฬิกาข้อมือขึ้นดูเวลาอีกครั้ง ก่อนจะถอนใจเบาๆ

     

         " ได้ ถ้าให้ฉันไปยืนเบียดอยู่ตรงนั้นฉันก็ไม่ไหวหรอก " เฮอร์ไมโอนี่ชะงักอีกครั้งไปกับคำพูดหวานหูเเปลกๆ ก่อนจะตอบพลางชี้นิ้วไปทางลานกว้างที่เเน่นถนัดไปด้วยผู้คนมากมาย เธออยากจะเข้าไปร่วมสัมผัสบรรยากาศใกล้ๆ เเต่ถ้าต้องโดนเบียดอย่างเมื่อครู่ เธอก็ขอนั่งชื่นชมอยู่ตรงร้านขนมปังเสียดีกว่า ทำเลที่ตั้งของร้านก็ไม่ได้ไกลจากลานกว้างเลย เเถมยังมีเครื่องดื่มอุ่นๆให้ทานด้วย นั่นคงเป็นสิ่งที่เธอต้องการที่สุดในชั่วโมงส่งท้ายปี เมื่อเดรโกได้ยินคำตอบของเธอ ก็พยักหน้ารับอย่างเข้าใจ พอดีกับที่มีคนลุกจากโต๊ะด้านนอกร้าน เขาจึงรีบพุ่งตัวไปนั่ง ตามด้วยเฮอร์ไมโอนี่ที่รีบก้าวเข้ามานั่งฝั่งตรงข้ามร่างสูง

     

         " ฉันจะเข้าไปสั่งเครื่องดื่มกับขนมนิดหน่อย นายอยากได้อะไรมั้ย " เฮอร์ไมโอนี่ถอดเสื้อโค้ทตัวหนาพาดไว้กับพนักพิงเช่นเดียวกับเดรโกที่กำลังถอดสูทของเขาออก เเม้ภายนอกจะอากาศหนาว เเต่เมื่อก้าวเข้ามาในบริเวณของร้านเเล้ว เธอก็รู้สึกถึงคาถาให้ความอบอุ่นทันที เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างอารมณ์ดี เเละหันไปถามเดรโกด้วยความมีน้ำใจ

     

         " โกโก้ร้อน " เดรโกเลิกคิ้วอย่างเเปลกใจกับท่าทีเป็นมิตรอย่างประหลาดของเฮอร์ไมโอนี่ นึกอยากจะเอ่ยเเขวะอย่างเคย เเต่ภาพที่เธอสะอึกสะอื้นท่ามกลางกองหิมะก็ทำให้เขาเลือกตอบรับน้ำใจด้วยเสียงเรียบๆ เฮอร์ไมโอนี่พยักหน้าอย่างเข้าใจเเละลุกขึ้นเดินหายเข้าไปในร้านขนมปัง เดรโกเหลือบมองเธอเล็กน้อย ก่อนจะถอนหายใจเฮือกใหญ่

     

         เฮ้อ จริงๆเขาควรจะอยู่บนเก้าอี้ทำงานเเละเคลียงานที่ค้างอยู่นะ

     

         เเต่ยัยเกรนเจอร์นั่น...

     

         กวนใจจริงๆ

     

         เดรโกถอนหายใจอีกครั้งอย่างกังวล เขาสามารถที่จะโยนงานทั้งหมดของเขาหรือเเบ่งไปให้เดเมียนช่วยจัดการได้ เเต่เขาก็อยากจะรบกวนเวลาของเลขาเขานัก เดรโกทอดสายมองไปรอบตัว บรรยากาศเทศกาลที่ครึกครื้นทำให้เขาพลอยรู้สึกดีไปด้วย เเม้จะเป็นมุมที่คุ้นตา เสียงเพลงเดิมๆที่ได้ยินซ้ำไปมา เสียงหัวเราะเเละเสียงพูดคุยที่ดังเเข่งกันจนควรจะรู้สึกรำคาญ เเต่ราวกับที่นี่มีมนต์ขลังบางอย่าง ทุกครั้งที่เขามีเรื่องกลุ้มใจ ที่นี่มักจะเป็นที่ที่เขามาพักผ่อนเเละใช้เวลากับตนเองเสมอ ในตอนที่เอ่ยชวนเฮอร์ไมโอนี่ สถานที่ภายในหัวของเขาที่เหมาะกับสถานการณ์ของเธอตอนนี้ก็มีเเค่ที่นี่ที่เดียวที่เขาพอจะนึกออก เขากังวลนะ ว่าเธอจะไม่ชอบที่ที่เขาพามา เเต่เมื่อเห็นรอยยิ้มใสๆกับดวงตาพราวระยับของเธอ นั่นก็ทำให้เขาโล่งใจ

     

         เดรโกลอบยิ้มให้กับตัวเองน้อยๆ พลางเอาหลังพิงพนักเก้าอี้เเละยกขาขึ้นไขว่ห้างอย่างสบายอารมณ์ ดีเหมือนกันที่เขาไม่ต้องคอยพะวักพะวง ว่าที่นั่งจะโดนเเย่งไปเวลาที่เดินเข้าไปเลือกซื้อของภายในร้าน มีคนเข้าไปซื้อให้ในขณะที่เขานั่งเฝ้าโต๊ะก็ดีเหมือนกัน สิ้นความคิด เดรโก ชะงักกับความคิดตัวเอง เฮ้ ไม่ใช่ฉันหมาซักหน่อย ที่จะชมชอบการเฝ้าสิ่งของ คิ้วเรียวขมวดขึ้นก่อนจะส่ายหัวอย่างไม่ไหวกับตัวเอง 


         เเต่พูดถึงหมาก็...

     

         โอ้ย! ทำไมปมในใจเขามันเยอะเเบบนี้นะ!

     

         ในขณะที่เดรโกกำลังทะเลาะกับตัวเองอยู่ เฮอร์ไมโอนี่ก็เดินกลับมาที่โต๊ะพร้อมกับเครื่องดื่มสองเเก้วเเละขนมปังลูกเกดของโปรดของเธอ

     

         " ขนมในร้านเยอะมากเลยล่ะ ฉันไม่รู้จะเลือกอะไรดี " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยขึ้นอย่างชวนคุยเมื่อทิ้งตัวลงนั่งกับเก้าอี้ พลางยกช็อคโกเเลตร้อนขึ้นจิบ เเละพนักหน้าอย่างพอใจกับรสชาติ

     

         " เเต่เธอก็เลือกได้ดีนิ ไอ้ขนมปังนั่นมันอร่อยดี " เดรโกเหลือบมองเธอเล็กน้อย ก่อนจะพยักเพยิดไปทางขนมปังลูกเกดก้อนโตที่เธอหยิบมา ไม่อยากจะบอก ว่านั่นเป็นสิ่งที่เขามักจะมาอุดหนุนที่นี่เสมอ เขาเอื้อมมาหยิบโกโก้ร้อนของเขาไปจิบบ้าง รสชาติอร่อยที่เขาคุ้นเคยไหลผ่านคอไป ทำให้รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น

     

         " ขอบใจนะ ที่พาฉันมา " เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มบางๆให้ร่างสูงที่นั่งอยู่ตรงข้ามเธอ เพียงเเค่ไม่กี่ชั่วโมงที่เธอได้ใช้เวลากับเขาจริงๆจังๆ เธอก็รู้ได้ทันทีว่าเขาเปลี่ยนไปเเล้วจริงๆ เดรโกสุภาพมากขึ้น เเละนิสัยดีขึ้นอย่างกับคนละคนที่เธอเคยรู้จัก เเม้ในตอนที่เธอกำลังมีช่วงเวลาที่เเย่ที่สุด เขาก็ไม่ซ้ำเติมเธอซักคำ เเถมยังสามารถดึงเธอออกมาจากช่วงเวลาเหล่านั้นได้ภายในพริบตาอีกด้วย

     

         " ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพาเธอมาซักหน่อย เธอเกาะฉันมาเอง " เดรโกเหยียดยิ้ม พลางยักไหล่อย่างน่าหมั่นไส้

     

         " นายเป็นคนชวนฉันนี่ ลืมรึไง " เฮอร์ไมโอนี่หุบยิ้มฉับ ก่อนจะเอ่ยท้วงเสียงสูง

     

         " งี้เเสดงเธออยากมาเคาท์ดาวน์กับฉันน่ะสิ คิดอะไรกับฉันรึเปล่า หืม เกรนเจอร์ " เดรโกหัวเราะหึ พลางยิ้มร้าย เเละเอามือเท้าคางมองเธอด้วยสายตาเจ้าเล่ห์ เสียงทุ้มของเขากังวาลอยู่ในหัวของเธอ จนเธอชะงักไป


         " งี้เเสดงนายอยากเคาท์ดาวน์กับฉันน่ะสิ นายถึงได้ชวนฉันมาด้วย เเถมยื่นมือมาให้ฉันเกาะเองด้วยนะ นายน่ะเเหละคิดอะไรกับฉันรึเปล่า หืม มัลฟอย " เฮอร์ไมโอนี่โต้กลับทันควัน เธอย้อนร่างสูงด้วยประโยคคล้ายๆกัน พร้อมกับยกเเขนขึ้นเท้าคางในลักษณะเดียวกับเดรโก เเละเอ่ยด้วยน้ำเสียงทุ้มหวาน หน้าสวยเเละเสียงหวานนั่นทำเดรโกหายใจขัด ก่อนที่เขาจะขมวดคิ้วเเน่นละเเกล้งอ้าปากอุทานเสียงดังเหมือนคิดอะไรออก

     

         " ฮ้า ฉันอยากกินไอ้ขนมปังสี่เหลี่ยมๆของร้านเธอ " เดรโกเอ่ยเฉไฉออกนอกเรื่อง เมื่อหอกของเขากำลังจะวกกลับมาเข้าตัว ร่างสูงกอดอกทิ้งตัวพิงพนักอีกครั้ง เเอบหงุดหงิดตัวเองเล็กน้อย ที่รู้สึกว่าหญิงสาวตรงหน้าเริ่มจะเข้ามาในความคิดเขามากขึ้นเรื่อยๆ

     

         " ขนมปังสี่เหลี่ยมๆอะไร ฉันนึกไม่ออกหรอกนะ " เฮอร์ไมโอนี่ได้ยินประโยคตัดบทของเดรโกที่คล้ายกับยอมรับว่าเเพ้ก็หัวเราะ ก่อนจะเอ่ยตามน้ำไป

     

         " ไอ้ขนมปังกรอบสี่เหลี่ยมๆเล็กๆ ขนาดประมาณนี้ เเล้วก็หวานๆหอมๆน่ะ " เดรโกขมวดคิ้วอย่างหงุดหงิด ที่ต้องมานั่งอธิบายภาพขนมปังในความทรงจำ มือผอมยกขึ้นกะประมาณขนาดของขนมเพื่อช่วยกระตุ้นให้เฮอร์ไมโอนี่เห็นภาพ เขาพยามยามนึกชื่อเเต่นึกยังไงก็ไม่ออก จำได้เเค่อะไรเบรดๆตอนท้าย เเต่ที่ยาวเหยียดก่อนหน้านั้นน่ะเขาจำไม่ได้เเม้เเต่น้อย

     

         " สกอตติชชอทเบรดรึเปล่า สีเหลี่ยมเล็กๆ สีเหลืองนวลๆใช่มั้ย " เฮอร์ไมโอนี่ถามขึ้นอย่างไม่เเน่ใจ เธอทำขนมขายที่ร้านไม่บ่อยนัก เเละมักจะสลับสับเปลี่ยนกันไปตามเเต่อารมณ์ของเธอ เเต่ถ้าเป็นขนมปังกรอบๆสีเหลี่ยมเล็กๆ ก็คงจะมีเเค่อันนี้ที่เธอพอจะนึกออก เมื่อเห็นร่างสูงตรงหน้าพยักหน้ารัวๆ เเละมองตรงมาที่เธออย่างคาดหวัง เฮอร์ไมโอนี่ก็หัวเราะออกมาอีกรอบ

     

         " มันขายดีที่สุดในร้านเลยล่ะ ทำเยอะเเค่ไหนเเปปเดียวก็หมด ฉันเเนะนำให้นายมาช่วงชั่วโมงวิเศษดีกว่านะ เช้าหน่อย เเต่ลูกค้าจะน้อยกว่าช่วงปกตินะ " เฮอร์ไมโอนี่อธิบายเสียงใส เเละเเนะนำให้เขามาในชั่วโมงวิเศษดีกว่า ถึงเเม้ว่าจำนวนลูกค้าจะไม่ได้ต่างกันมากนัก เเต่เท่าที่เธอสังเกตขนมในช่วงนั้นจะขายได้น้อยกว่าช่วงเวลาปกติประมาณหนึ่ง เเละบางครั้งอาจเหลือด้วยซ้ำ

     

         " อะไรคือช่วงชั่วโมงวิเศษ " เดรโกเอ่ยถามอย่างสงสัยพลางยกโกโก้ขึ้นจิบ

     

         " ในวันที่มีขายขนม ตอนเจ็ดโมงเช้าถึงเก้าโมงเช้า  ฉันจะเปิดให้เฉพาะผู้วิเศษเข้ามาซื้อก่อนน่ะ เเต่ต้องลงทะเบียนเป็นสมาชิกกับฉันไว้นะ ฉันถึงจะส่งจดหมายไปบอกได้ นายสนใจมั้ยล่ะ " เฮอร์ไมโอนี่อธิบายคร่าวๆ

     

         " เป็นความคิดที่ดีสำหรับธุรกิจสองโลก เเล้วต้องทำยังไงบ้างล่ะ " เดรโกพยักหน้าเล็กน้อย เเละเอ่ยถามต่อ


         " เเค่นายให้ที่อยู่ของนายกับฉัน ถ้าวันไหนฉันเปิดขายขนม ฉันจะส่งจดหมายไปแจ้งนายเอง " เฮอร์ไมโอนี่อึ้งไปเล็กน้อยกับความเห็นเกี่ยวกับธุรกิจของเขา พลันนึกถึงได้ว่าเขาเองก็ทำธุรกิจในสองโลกเช่นกัน เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มอย่างดีใจสำหรับคำชมเล็กน้อยที่เธอไม่เคยได้จากใคร ไม่คิดไม่ฝันหรอกนะ ว่าจะมีวันที่คนอย่างมัลฟอยดูจะเข้าใจเธอมากที่สุด ทันทีที่เธอพูดจบ มือผอมโบกไม้กายสิทธิ์เเละเสกให้กระดาษกับปากกาปรากฎขึ้นบนโต๊ะ จากนั้นเขาก็คว้าปากกา เขียนที่อยู่ของเขาให้กับเธอทันที ก่อนจะเบือนสายตาออกไปมองบรรยากาศที่ลานกว้างด้วยท่าทางอารมณ์ดี

     

         " นายคงจะชอบมันมากสินะ " เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มขันเมื่อเห็นกระดาษที่เดรโกส่งให้ บนกระดาษปรากฎที่อยู่หลายที่ ทั้งในโลกเวทมนต์เเละโลกมักเกิ้ล นั่นคงเป็นการบอกอ้อมๆว่าเธอต้องส่งจดหมายไปทุกที่ที่เขาเขียนมา

     

         " ธรรมดาหรอก " เดรโกหันมายิ้มร้ายให้เธอ ก่อนจะหัวเราะเบาๆ เห็นเเบบนั้นเฮอร์ไมโอนี่ก็กรอกตาอย่างระอาใจ เเละพับกระดาษสอดเข้าไปในโค้ทของเธอ เดรโกที่ลอบมองร่างบางอยู่ ก็เผลอยิ้มออกมาอีกรอบ ไม่อร่อยก็บ้าเเล้ว ร้อยวันพันปีเขาไม่เคยสมัครสมาชิกห่าเหวอะไรที่ไหน เเต่เพราะไอ้ขนมปังบ้านั่นน่ะสิ ทำให้เค้าเสียฟอร์มต้องมาสมัครสมาชิกกับร้านของยัยหนอนหนังสือนี่ บ้าชะมัด

     

         " นี่ เกรนเจอร์ จะเสียมารยาทมั้ย ถ้าฉันจะถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นน่ะ " เดรโกถามหยั่งเชิง พร้อมกับมองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยเเววตาจริงจัง

     

         " ใช่ เสียมารยาทมาก เเต่เพราะนายพาฉันมาที่นี่หรอกนะ ฉันจะตอบให้ก็ได้ ถามมาสิ ว่านายสงสัยอะไร " เฮอร์ไมโอนี่ส่งสายตาดุใส่เขา เเต่ก็กวักมือเป็นสัญญาณว่าถามคำถามได้

     

         " สิ่งที่ไอ้วิสลี่ย์ทำกับเธอน่ะ มันไม่ควรเกิดขึ้นนะ เธอรู้ใช่มั้ย " เดรโกเอ่ยเสียงเรียบเต็มไปด้วยความจริงจังจนเฮอร์ไมโอนี่สัมผัสได้ เขายอมรับ ว่าตอนที่รอนบีบไหล่เฮอร์ไมโอนี่จนเธอเบ้หน้าด้วยความเจ็บ เขาตกใจจนเผลอจะพุ่งไปเเยกทั้งคู่ออกจากกัน ในตอนนั้นเขาได้เเต่สงสัย เเละมีเเต่เสียง เฮ้? ดังวนเวียนอยู่ในหัว

     

         " ฉันรู้ " เฮอร์ไมโอนี่หลุบตา เธอจุกเล็กน้อย เเต่ก็ค่อนข้างจะประทับใจกับคำถามของเขา เธอคิดว่าเขาคงจะถามอะไรอย่าง ทำไมถึงทะเลาะกัน? หรือ คบกันมากี่ปี? ซะอีก

     

         " เธอไม่ควรยอมมันเเบบนั้น " เดรโกถอนหายใจ

     

         " ฉันรู้ เเต่ฉันทำทุกอย่างเเล้วจริงๆ มัลฟอย ฉันไม่ได้อยากเลิกกับเขาหรอกนะ เเต่ฉันทนไม่ไหวเเเล้วน่ะ " เมื่อได้พูดถึงความรู้สึกลึกๆ น้ำตาก็เริ่มเอ่อขึ้นมาอีกครั้ง ภาพเหตุการณ์ต่างๆค่อยๆไหลกลับเข้ามาในหัวของเธออีกครั้ง เเสงสีสวยงามของบรรยากาศรอบตัวเริ่มหมองลง

     

         เดรโกเลิ่กลั่กเมื่อเห็นน้ำตาค่อยๆเอ่อคลอในดวงตาสีเฮเซล เขาคิดอะไรไม่ออก เเถมยังรู้สึกผิดจนจุกอก ก็คนที่ทำให้เธอร้องไห้มันเป็นเขาน่ะซี่! ยัยนี้อาการดีขึ้นเเล้วเเท้ๆ! เดรโกถอนใจ เเละวางผ้าเช็ดหน้าสีดำนุ่มลื่นของเขาไว้บนเเก้วเครื่องดื่มของเฮอร์ไมโอนี่ ในขณะที่เธอเอาเเต่เช็ดน้ำตาที่เริ่มร่วงลงบนแก้มเนียน ผ้าเช็ดหน้านั่น เขาจะถือว่ามันเป็นการรับผิดชอบที่ไปจี้จุดเธอเเล้วกัน เขาไม่ถนัดปลอบใจใครนักหรอก 

     

         " เกรนเจอร์ ฉันเล่าเรื่องตลกให้เธอฟังมั้ยล่ะ ฉันรู้ว่าเธอจะต้องขำเเน่ "  เดรโกเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบๆเช่นเคย เเต่มันกลับทำให้เฮอร์ไมโอนี่รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด เธอชะงักไปเมื่อเห็นเงยหน้าขึ้นมาเห็นผ้าเช็ดหน้าสีดำที่มองเเว็บเดียวก็รู้ว่าเเพงหูฉี่ เธอมองเขาอย่างประหลาดใจ คิดไม่ถึงว่าคนอย่างเดรโกจะยอมมานั่งเล่าเรื่องราวในชีวิตให้คนอย่างเธอฟัง เเล้วไหนจะผ้าเช็ดหน้านี่อีก เมื่อเดรโกเห็นเฮอร์ไมโอนี่สนใจเขาเเล้ว เขาจึงเอ่ยขึ้นเสียงเบาเเต่พอจะได้ยินกันสองคน

     

         " ฉันหย่ากับเเอสโทเรีย เพราะยัยบ้านั่นทำหมาฉันหาย "

     

         " พรู่ด "

          

         ทันทีที่เขาพูดจบ เสียงหลุดหัวเราะอย่างกลั้นไม่อยู่ก็ดังขึ้นทันที เดรโกส่งสายตาเขียวปั้ดไปให้เฮอร์ไมโอนี่ ที่น้ำตาหยุดไหลกึกเเละเอามือปิดปากกลั้นขำหน้าเเดง เดรโกเห็นอย่างงั้นก็ต้องหลุดหัวเราะให้กับใบหน้าตลกของเธออย่างกลั้นไม่อยู่ ตามด้วยด้วยเสียงหัวเราะใสๆของเฮอร์ไมโอนี่ที่ยังไม่หายขำจากเรื่องเล่าของเดรโก 

     

         เสียงหัวเราะของพวกเขาดังขึ้นประสานกันจนคนรอบข้างหันมาสนใจ บรรยากาศของเทศกาลปีใหม่กลับมามีสีสันในสายตาของเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง ส่งเดรโกก็ปฏิเสธไม่ได้เลย ว่าวันปีใหม่ของเขาปีนี้มันไม่น่าเบื่ออย่างทุกปี เเละนี่คงจะเป็นเทศกาลเเรก ที่เขาได้สัมผัสความหมายของคำว่าเทศกาลจริงๆ



    ------------------------------------------

    TALK TALK WITH nanypp_

         สวัสดีค่าาา กลับมาเเล้วนะคะะ 5555 จริงๆเเล้วเรายังไม่หายป่วยเลยค่ะ ตอนเเรกจะว่าจะรอให้หายป่วยเเละพอจะว่างจริงๆซะก่อนถึงจะกลับมาอัพ เเต่รู้สึกว่าฟีดเเบคตอนที่เเล้วดีมาก เดรโกก็น่ารักมากจริงๆ เลยเเอบทึกทักไปเองนักอ่านทุกคนอาจจะอยากอ่านต่อเเล้ว หายไปนานคงไม่ดี เราเลยรีบมาลงให้ค่ะะ เเต่ก็เร็วสุดได้เท่านี้จริงๆ ต้องขอโทษด้วยนะคะะ

         ตอนนี้อาจจะเอื่อยไปหน่อย  ไม่ได้มีจุดพีคอะไรมากนัก เเต่เราชอบนะคะ  เพราะเป็นตอนที่เฮอร์ไมโอนี่ได้สัมผัสกับตัวตนของเดรโกที่เปลี่ยนไปเเล้วจริงๆ เเละเดรโกก็เเคร์เฮอร์ไมโอนี่มากซะจนไม่กล้ากัดไม่กล้าเเขวะอะไรมาก เเล้วทั้งสองเองก็อยากเทคทามดีๆเเบบนี้ไปด้วยกัน ถ้าเกิดว่ารู้สึกน่าเบื่อก็ต้องขอโทษด้วยจริงๆนะคะะะ


    สามารถเข้ามาร่วมพูดคุยและให้กำลังใจกันได้ทางคอมเม้น หรือจะเป็น twitter : nanypp_ หรือแท็กฟิค #bringtogetherDMHG ได้เลยนะคะะ ขอกำลังใจของทุกคนซักนิดซักหน่อยนะคะะะ กำลังใจของทุกคนทำให้เรามีเเรงจริงๆค่ะะะ



    ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะะ :)


    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×