ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    And we were then brought together - [ dramione ]

    ลำดับตอนที่ #7 : Chapter 5 : But I can't say you goodbye

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.09K
      192
      18 ต.ค. 62

    Chapter 5
    But I can't say you goodbye





         " อเมริกาโน่ร้อน "

     

         ไอ้เฟอเรทงี่เง่า!

     

         เฮอร์ไมโอนี่หน้าบึ้งเมื่อเห็นใบหน้ายียวนของร่างสูงผมบลอนด์คนเดียวกับเมื่อสามวันก่อน นัยตาสีฟ้าซีดสบประสานกับนัยตาสีเฮเซลอย่างต้องการเอาชนะ ก่อนจะเขาพยักพเยิดให้เธอจดออเดอร์ด้วยรอยยิ้มกวน เดรโกรู้ว่าสาวเจ้าของร้านไม่พอใจที่เขามาอุดหนุนซักเท่าไหร่ เขาเองก็ไม่ได้อยากจะมานักหรอก เเต่ร้านกาแฟในระเเวกนี้รสชาติไม่ได้เรื่องซักร้าน ช่วยไม่ได้เขาเลยต้องกลับมาตายรังที่ร้านหนังสือของเธอ 

     

         " มาทำอะไรอีก " และเฮอร์ไมโอนี่เป็นฝ่ายยอมเเพ้ เมื่อเหลือบไปเห็นลูกค้าอีกคนเดินเข้ามาต่อหลังร่างสูง มือบางจดออเดอร์ลงกระดาษใบเล็ก เเล้วส่งให้เอลล่าที่ยืนรอรับออเดอร์ด้านหลัง ก่อนจะหันมาถอนหายใจ เเละเอ่ยถามอย่างไม่สบอารมณ์

     

         " เมื่อกี้ฉันว่าฉันเพิ่งจะสั่งกาแฟไปนะ " เสียงยานคางเอ่ยอย่างขอไปที ร่างสูงซุกมือเข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนจะสอดส่ายสายตาไปรอบๆ ทำทีเป็นสนใจสิ่งอื่นมากกว่า

     

         " ไหนบอกว่าไม่อยากจะมา " ตาหวานกรอกตามองบนพลางถอนหายใจ ก่อนจะถามกลับด้วยน้ำเสียงเเขวะ

     

         " ก็ไม่ได้อยากมาจริงๆนี่ " ฝ่ายร่างสูงก็ไม่ยอมเเพ้ โต้ด้วยน้ำเสียงแขวะกลับ เขาปรายตามองเฮอร์ไมโอนี่เล็กน้อย เเล้วยิ้มเหยียดพลางยักไหล่อย่างไม่ใส่ใจ

     

         " กาแฟร้านฉันมันอร่อยนักรึไง " เฮอร์ไมโอนี่ยกยิ้มน้อยๆอย่างภูมิใจ เเน่ซิ จะไม่อร่อยได้ยังไงกัน กว่าเธอจะปรับสูตรให้เป็นของเธอเองได้ ก็เลือดตาแทบกระเด็น

     

         " ออกจะธรรมดา " เดรโกหัวเราะหึ ก่อนจะเอ่ยออกมาด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก พร้อมกับยิ้มใส่เธอ

     

         " งั้นก็ไม่ต้องมาอีก! " เฮร์ไมโอนี่กลับมาหน้าบึ้งอีกครั้ง เเล้วเอ่ยเสียงกระเเทกใส่ร่างสูงที่ยืนกวนประสาทอยู่น่าเคาท์เตอร์

     

         " ไม่ล่ะ ฉันจะมาซื้อกาแฟ " ร่างสูงเอียงคออย่างกวนโมโห สายตาคมของเขาพราวระยับไปด้วยความสนุกที่ได้เห็นเธอฟึดฟัดใส่เขา

     

         " แสดงว่ากาแฟฉันอร่อยล่ะสิ " เฮอร์ไมโอนี่ยกมือข้างหนึ่งเท้าเอวอย่าเหนื่อยใจ พลางหรี่ตามองใบหน้าเเหลมที่แจ่มใสแปลกๆ

     

         " หลงตัวเองน่ะ เกรนเจอร์ " เดรโกทำหน้าเเหยใส่เธอ เเล้วยกแขนขึ้นกอดอก สายตาเหยียดของเขายังไม่ยอมละไปจากเธอ

     

         " งั้นนายจะมาทำไม " เฮอร์ไมโอนี่ถอนหายใจเฮือกใหญ่ อีกคนก็กวนโมโห อีกคนก็ต้องการจะเอาชนะ  ทั้งสองคนยืนเถียงกันเหมือนเด็ก ต่างกันเพียงทั้งคู่ไม่ชี้ไม้กายสิทธิ์ขู่จะสาปใส่กัน เเละไม่มีเเรงอาฆาตส่งหากันเหมือนเเต่ก่อน ส่วนสถานการณ์ไม่ได้อึมครึมเหมือนครั้งเเรกที่เจอกัน อาจเป็นเพราะพวกเขาสัมผัสได้ ว่าแต่ละคนก็ต่างเปลี่ยนไป

     

         " มาซื้อกาแฟ " เดรโกยิ้มร้าย พลางยกมือขึ้นชี้แก้วกาแฟที่กำลังถูกยกมาเสิร์ฟบนเคาท์เตอร์

     

         " โอ้ย! ประสาท! " เธอเอ่ยจิกด้วยความหงุดหงิดใส่เดรโกทันทีที่เขาพูดจบ เฮอร์ไมโอนี่เหลือกตาใส่อย่างไม่พอใจ ก่อนจะกระเเทกเแก้วกาแฟของเขากับเคาท์เตอร์ เดรโกเห็นเเบบนั้นก็ทำลอยหน้าลอยตาไม่สนใจ ไม่พอยังทำท่าล้อเลียนตอนเธอพูด เฮอร์ไมโอนี่เเทบระเบิด เเต่ก็ทำได้เเค่ปาทิชชู่จากกองทิชชู่ใกล้มือใส่เขาเท่านั้น

     

         " เกรนเจอร์! เธอกล้าโยนทิชชู่ใส่ฉันงั้นเรอะ!? " เดรโกตวาด พร้อมกับผงะไปเมื่อทิชชู่ปะทะหน้าของเขา ใบหน้าหล่อชักสีหน้าไม่พอใจใส่เฮอร์ไมโอนี่ที่ปาของใส่ เเต่เฮอร์ไมโอนี่ก็ทำเพียงพยักหน้าน้อยๆอย่างยอมรับ พลางยิ้มกว้าง เเละผายมือเป็นสัญญาณเชิญให้ออก เดรโกขมวดคิ้วแน่น ก่อนจะคว้าแก้วกาแฟเเละก้าวยาวๆออกจากร้านไปด้วยอารมณ์หงุดหงิด

    .

    .

    .

    .


         เดรโกทิ้งตัวพิงเก้าอี้ตัวโตอย่างอ่อนล้า พลางถอนหายใจเฮือกใหญ่กับงานที่กองพะเนินตรงหน้า ถึงเเม้ว่าอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะขึ้นปีใหม่ แต่งานบนโต๊ะเขา มันก็มากเกินกว่าที่เขาจะกล้าทิ้งงานไปฉลองเทศกาลอย่างพนักงานทั่วไป เขากวาดตามองเอกสารบนโต๊ะอย่างเหนื่อยใจ พลางเเหงนคอถอนหายใจอีกรอบ มือผอมยกขึ้นนวดคอเบาๆเพื่อช่วยผ่อนคลายความเครียด เเต่ก็ไม่ได้ผลซักเท่าไหร่นัก


         เดรโกเหนื่อยเกินกว่าจะมีเเรงจับปากกาตรวจงานอีกครั้ง เเละหลังจากการนั่งทำงานมาราธอนมาทั้งวัน เขาก็รู้สึกล้าจนอยากได้ขนมหวานๆกระแทกปากเพื่อเพิ่มพลังงาน เเต่จะไปหาจากไหน? เขาไม่ใช่คนชอบทานของหวาน กลับเป็นเลขาต่างหากที่ชอบทาน เเต่เมื่อชั่วโมงที่ผ่านมาเขาก็ไล่เดเมียนกลับบ้านไปเเล้ว เดรโกเม้มริมฝีปากอย่างใช้ความคิด ตาลายเริ่มเห็นภาพขนมหวานนาๆชนิดล่องลอยอยู่ในห้องทำงานของเขา เดรโกถอนหายใจ ก่อนจะยกนาฬิกาข้อมือขึ้นมาเพื่อดูเวลา

     

         20:50

     

         ร้านของยัยเกรนเจอร์ปิดสามทุ่มนี่

     

         เดรโกลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะหายตัวไป


     

         ฟุ่บ


         ร่างสูงปรากฎตัวขึ้นอีกครั้งที่ตรอกเล็กๆในย่านร้านค้า ขายาวก้าวออกจากตรอกนั้นด้วยท่วงท่ามั่นใจ หางตาเหลือบไปเห็นร้านสีน้ำตาลอบอุ่นคุ้นตา เดรโกสอดมือเข้ากระเป๋ากางเกงพร้อมกับก้าวช้าๆไปที่จุดหมาย ถึงแม้เขาจะสวมสูทราคาเเพง เเต่เมื่อมีลมหนาวพัดมาก็สามารถทำให้เขาสั่นได้ นึกหงุดหงิดตัวเองที่รีบจนลืมหยิบเสื้อโค้ทติดมาด้วย เดรโกรีบสาวเท้าให้ไวขึ้น หวังจะเข้าไปพึ่งความอบอุ่นจากเวทมนต์ในร้านหนังสือ

     

         เเต่ฝันของเขาก็สลาย เมื่อแสงไฟสีนวลในร้านดับลง พร้อมกับร่างบางของเจ้าของร้านผมลอนก้าวออกจากร้าน เดรโกสบถเบาๆอย่างเสียดาย เเต่ก่อนที่เขาจะหันหลังกลับ ตาคมเหลือบไปเห็นร่างหนาคุ้นตาของโกลเด้นทรีโอ้คนผมแดงซะก่อน วิสลี่ย์ก้าวเข้ามาผลักเฮอร์ไมโอนี่จนเธอเซ เดรโกขมวดคิ้วมุ่น เฮ้ ไม่มีใครควรทำอย่างนั้นกลับผู้หญิงหรอกนะ เดรโกรู้สึกได้ว่าอาจมีเหตุการณ์เเย่ๆเกิดขึ้น เขาไม่ควรจะกลับตอนนี้ใช่มั้ย? สิ้นเสียงความคิด เดรโกก็เสกคาถาอำพรางกายและเเอบหลบอยู่ที่มุมร้านเพื่อคอยดูสถานการณ์

    .

    .

    .

    .

     

         เฮอร์ไมโอนี่เดินฮัมเพลงออกจากร้านอย่างอารมณ์ดี อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะขึ้นปีใหม่แล้ว เเละเธอก็ตื่นเต้นกับมันมาก ในหัวเธอกำลังวางแผนจะไปเที่ยวนอกเมือง เนื่องจากต้องการจะใช้เวลาอยู่กับตัวเองให้มากขึ้น เเละเพื่อพยายามรักษาแผลเหวอะในใจ ภายนอกเธออาจจะดูร่าเริงและมีความสุขดี เเต่ไม่มีใครรู้ว่าเมื่อกลับห้องไปเธอต้องทุกข์ทรมานกับเรื่องราวที่ผ่านมามากเเค่ไหน เเละที่สำคัญเธอยังไม่เคลียกับรอนให้ชัดเจนเรื่องความสัมพันธ์ของเรา ถึงเเม้เธอจะส่งใบหย่าพร้อมลายเซ็นของเธอไปหารอนที่บ้าน เเละเธอคิดว่ามันชัดเจนพอให้รอนเข้าใจอะไรบ้างเเล้ว 


         หากถามว่าเธอยังรักรอนมั้ย เธอก็ตอบได้ทันทีว่า เธอยังรักเเละหวังดีกับรอนในฐานะเพื่อน เเต่ในฐานะคนรักเธอคิดว่ามันคงเหลือเพียงเเค่ความผูกพันเท่านั้น เเละเธอมั่นใจว่าจะสามารถตัดมันขาดได้ในเร็วๆนี้ เธอยอมรับกว่าการย้ายออกมาจากที่ที่เธอเรียกว่าบ้านมันยากและทรมาน เเต่ในตอนนี้เธอก็สามารถที่จะมีความสุขกับตัวเองได้ง่ายกว่าตอนอยู่ที่บ้านหลังนั้นมาก

     

         เมื่อเธอดึงประตูเช็คว่าล็อคเรียบร้อยเเล้ว ร่างบางหันหลังตั้งใจจะเดินทางกลับอพาร์ทเมนต์ เเต่ไม่ทันจะได้ก้าวซักก้าว เธอก็ต้องชะงัก เพราะร่างหนาของรอนพุ่งตัวมาผลักเธอจนเซไปข้างหลัง โชคดีที่มือบางคว้ามือจับประตูไว้เป็นหลักยึดได้ทัน ถึงเเม้เเรงผลักนั้นจะไม่ได้แรงมาก เเต่ด้วยพื้นที่เเฉะะจากหิมะทำให้เธอเกือบล้ม ตาโตตวัดมองร่างสูงด้วยอารมณ์โกรธ ขาเรียวหยัดตัวขึ้นเต็มความสูง พลางจ้องตารอนด้วยอารมณ์โกรธสุดขีด

     

         " เป็นบ้าอะไรของนาย! " เฮอร์ไมโอนี่ตวาดลั่นจนเสียงของเธอสะท้อนไปทั่วบริเวณ รอนตกใจรีบยกมือขึ้นตะครุบปากของเธอ เเละหันไปยิ้มกลบเกลื่อนให้กับผู้คนที่เดินผ่านไปมา ที่หันมาสนใจพวกเขาจากเสียงตวาดเมื่อครู่

     

         " เธอจะตวาดทำไมเฮอร์ไมโอนี่! " ร่างสูงกระซิบเสียงเข้มอย่างหัวเสีย ก่อนจะเอามือที่ปิดปากเธอลง และยกไม้กายสิทธิ์ขึ้นมาแอบร่ายมนต์ไม่ให้ใครได้ยินบทสนทนานี้

     

         " นายผลักฉันนี่ มันไม่ใช่สิ่งควรทำเลยนะรอน " เฮอร์ไมโอนี่ตอบกลับทันควันด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ ก่อนจะเบือนหน้าหนีร่างสูง

     

         " เเล้วทำไมถึงไม่กลับบ้าน เธอไปอยู่ที่ไหน " รอนปล่อยผ่านเรื่องที่เขาผลักเธอไปอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้น เเละถามในสิ่งที่เขาสงสัยต่อทันที เขาโมโหเเทบบ้าที่สามวันก่อนเขากลับไปเเล้วไม่เจอเธอ บ้านทั้งหลังมืดเเล้วเงียบกริบ สิ่งของของเธอก็ไม่หลงเหลืออยู่ในบ้านซักชิ้น เเถมยังมีม้วนเอกสารการหย่าตกอยู่ภายในบ้านอีก ในคืนนั้น เขาไปเค้นหาความจริงกับจินนี่ จินนี่ก็เอาเเต่ปิดปากเงียบไม่ยอมพูดกับเขา เขาตั้งใจจะมาตามหาเธอให้เจอภายในคืนนั้น เเต่ก็มีคำสั่งจากกระทรวงให้เขาออกไปทำภารกิจเสียก่อน เขาจึงได้มาหาเธอเอาซะวันสิ้นปี

     

         " ฉันจะอยู่ไหนมันก็เรื่องฉัน " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยเสียงสั่น พยายามกลั้นน้ำตาที่กำลังจะไหลออกมา เธอสูดจมูกก่อนจะหันไปพูดเสียงเเข็งกับรอน

     

         " นายเซ็นใบหย่ารึยัง "

     

         " เฮอร์ไมโอนี่ เธอจะบ้ารึไง เราจะหย่ากันทำไม " รอนส่ายหน้าพลางขมวดคิ้วอย่างไม่เข้าใจ

     

         " หย่ากันทำไมงั้นหรอ นายถามฉันว่าหย่ากันทำไมงั้นหรอ ใช่สิ นายไม่ใช่ฉันนายจะไปรู้อะไร นายไม่ใช่คนที่โดนทำร้ายจิตใจ ไม่ใช่คนที่โดนทำร้ายเวลาที่นายโมโห ไม่ใช่คนที่พยายามจะเเก้ปัญหาจนหัวหมุนเเต่นายไม่เคยคิดจะช่วย นายไม่ใช่คนที่โดนบังคับให้ลดเวลางานเพื่อมาอยู่กับนาย นายไม่ใช่คนที่ไม่มีความสุขนี่! " น้ำตาที่พยายามกลั้นไหลลงมาอย่างพรั่งพรู เฮอร์ไมโอนี่ตวาดรอนกลับเสียงดัง ด้วยความเหลืออดกับความไม่สนใจอะไรเลยของเขา เขาสนใจเพียงแต่ตัวเองเท่านั้นล่ะ!


         " เฮอร์ไมโอนี่ เธอพูดอะไรของเธอน่ะ ไร้สาระน่า! " รอนขมวดคิ้วอย่างเริ่มมีน้ำโห เขารู้ตัวว่าเป็นคนความอดทนต่ำ และเขาไม่ชอบเอาซะเลยกับการที่มีเสียงแหลมๆปนเสียงสะอื้น ตวาดใส่หน้าเขาเป็นวรคเป็นเวรขนาดนี้ เขาชักจะทนไม่ไหว

     

         " ไร้สาระ!? ฉันอยากจะรู้จริงๆว่าอะไรบังตานายอยู่ ทิฐิของนายหรือความไม่สนใจของนายกันเเน่ ฉันไม่ไหวกับนายเเล้วรอน เเละฉันไม่คิดว่าเราจะไปต่อกันได้ " เฮอร์ไมโอนี่ขึ้นเสียงแหลม รู้สึกสมเพชตัวเองที่มายืนพูดความในใจปาวๆให้คนที่เห็นความเจ็บปวดของเธอเป็นเพียงเรื่องไร้สาระ คำพูดของรอนทำเธอช็อก ใบหน้าของเธอเหยเก ก้อนเนื้อในอกของเธอเหมือนถูกมือหนากำและบีบมันอย่างแรง เฮอร์ไมโอนี่เจ็บใจจนอกเธอแทบระเบิด ถึงแม้มันจะเป็นคำพูดเล็กน้อย แต่มันเป็นดั่งไม้พายกวนสิ่งที่ตกตะกอนอยู่ในใจเธอให้กลับมาขุ่นครัก

     

         " อะไรของเธอ ที่เธอส่งใบหย่าอะไรนั่นมาคือเธออยากหย่ากับฉันจริงๆน่ะหรอ!! " รอนตวาดกลับใส่เธอ พลางคว้าหมับเข้าที่ไหล่บางอย่างแรง เฮอร์ไมโอนี่เหลือบเห็นต้นไม้หน้าร้านของเธอขยับไหวแม้จะไม่มีลม แต่ก็ไม่มีเวลาสงสัยนัก เพราะมือหนาของรอนเพิ่มแรงบีบมากขึ้น เธอพยายามขืนตัวออกจากมือหนา แต่ก็ไม่สำเร็จ

     

         " ใครจะบ้าส่งใบหย่าให้ถ้าไม่อยากหย่าล่ะ " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยตอบอย่างคนหมดแรง น้ำตาไหลไหลเปรอะเปื้อนไปทั่วใบหน้าสวย

     

         " ทำไม ทำไมฉันจะต้องหย่ากันเธอ? เราก็ไม่ได้ปัญหาอะไรซักหน่อยนี่ " รอนเอ่ยเสียงเสียงสูง และส่ายหน้าอย่างไม่เข้าใจ

     

         " ใช่สิ อยู่กับฉันนายก็มีความสุขดี อยากทำอะไรก็ทำ อยากไปไหนก็ไป เเต่นายไม่เคยคิดถึงฉันเลยไงรอน นายไม่คิดว่าฉันจะรู้สึกยังไงกับการกระทำของนายบ้างหรอ " เฮอร์ไมโอนี่เอ่ยด้วยน้ำตัดพ้อ เธอเลิกขัดขืนและก้มหน้าอย่างยอมแพ้

     

         " มันก็เเค่ตอนฉันโมโหเท่านั้นเเหละ เฮอร์ไมโอนี่ " รอนชะงัก ก่อนจะปล่อยไหล่บางของเธอ และเบือนหน้าหนี เชื่อเถอะว่า รอนไม่อยากเห็นผลงานจากการกระทำแย่ๆของเขานักหรอก

     

         " เเล้วนายโมโหสัปดาห์ละกี่ครั้งล่ะ นายกล้าตอบฉันมั้ย! " เฮอร์ไมโอนี่ระเบิดขึ้นอีกรอบ มือบางผลักรอนจนเขาลื่นล้ม

     

         " อย่าผลักฉันเฮอร์ไมโอนี่! ฉันเจ็บ! " รอนตวาดกลับด้วยความเดือดดาล ตาของเขาจ้องเธอเขม็ง ก่อนจะลุกขึ้นประจันหน้ากับเธออีกครั้ง

     

         " พึ่งจะรู้รึไงว่ามันเจ็บ! ฉันรู้ว่ามันเจ็บมาตั้งนานเเล้วรอน ปล่อยฉันไปเถอะ " เฮอร์ไมโอนี่ขึ้นเสียงใส่ ก่อนจะยกมือปิดหน้าและร้องไห้ออกมาอย่างไร้ทางออก สิ่งที่เธอนึกออกตอนนี้ มีเพียงขอร้องให้เขาสงสารและปล่อยเธอไปเท่านั้น

     

         " เรื่องอะไรฉันจะปล่อยเธอไปเฮอร์ไมโอนี่ " รอนถอนหายใจอย่างไม่อยากจะเชื่อว่าคนที่เป็นเกือบครึ่งชีวิตของเขากำลังร้องไห้และบอกให้เขาปล่อยเธอไป

     

         " ขอร้อง รอน " ร่างบางเอ่ยขอร้องด้วยเสียงอันเบาหวิว ราวกับเธอจะแตกสลาย

     

         " ไม่ " เสียงขอร้องเบาๆของเฮอร์ไมโอนี่ราวกับมีดกรีดใจของรอน เขาได้เพียงส่ายหน้าเบาๆ อย่างไม่อยากรับรู้

     

         " ฉันเหนื่อยเหลือเกินรอน เเละฉันรู้ตัวเลย ว่าฉันทนต่อไปไม่ไหวเเล้ว ชีวิตฉันไม่ควรที่จะมาเจอเรื่องอะไรเเบบนี้ " เฮอร์ไมโอนี่ร้องไห้หนักขึ้นจนแทบจะไม่มีแรงยืน หัวของเธอปวดเหมือนถูกค้อนทุบ ขาทั้งสองข้างของเธอสั่นก่อนจะทรุดลงไปนั่งกับพื้น และพูดพึมพัมด้วยเสียงเบา

     

         " เธอหาว่าฉันเป็นจุดตกต่ำในชีวิตของเธอหรอ เฮอร์ไมโอนี่! " ด้วยความเสียใจและอารมณ์ที่แสนอ่อนไหวของเขาในขณะนี้ ทำให้ความสามารถในการแปลความหมายของเขาลดลง รอนเบิกตากว้างมองเฮอร์ไมโอนี่อย่างโมโห พายุอารมณ์ของเขาก่อตัวขึ้นอีกครั้ง

     

         " ฉันยังไม่ได้พูดเเบบนั้นเลยนะรอน! " เฮอร์ไมโอนี่หน้าเหวอกับการตีความหมายของรอน เธอรู้สึกเสียใจจึงพูดออกไปโดยไม่ได้คิด เธอไม่คิดเลยว่าเธอจะทำร้ายรอนด้วยคำพูดของเธอเอง เฮอร์ไมโอนี่รีบยันตัวลุกขึ้นหวังจะอธิบาย และพยายามจะเข้าไปแตะใบหน้าของเขาเพื่อเรียกสติของรอนให้กลับมา

     

         " เธอรู้อะไรมั้ย เฮอร์ไมโอนี่ ฉันก็ทนกับความเพอร์เฟกต์ของเธอไม่ไหวเเล้วเหมือนกัน! อยู่กับเธอฉันกลายเป็นไอ้รอนงี่เง่าในสายตาคนอื่นทุกครั้ง! เธอไม่รู้หรอกว่าฉันต้องเจอกันอะไรบ้าง " รอนปัดมือบางออกอย่างแรงด้วยความโมโห เเละควบคุมด้วยเองไม่อยู่ คำพูดของเธอสะกิดแผลเหวอะในใจของเขาที่สะสมมาหลายปี เมื่อเทียบกับเพื่อนของเขาทั้งสอง ผู้คนต่างสรรเสริญเเฮรี่ เเละชื่มชมเฮอร์ไมโอนี่ โดยที่เขามักจะได้รับเพียงรอยยิ้มน้อยๆไร้คำชื่นชม นี่เป็นสิ่งที่กดดันเขามาตลอด ทำให้เขารู้สึกว่าต้องดี ต้องเด่น ต้องดัง เเละเขาเหนื่อยเต็มทนกับการพยายามในสิ่งที่เขาคิดว่าไม่มีวันเป็นได้

     

         " นี่คือเหตุผลที่นายมาทำตัวเเย่ๆใส่ฉันหรอ!? " เธอชะงักกับสิ่งที่รอนพูด น้ำตาพานหยุดไหลเสียดื้อๆ คิ้วเรียวขมวดแน่นอย่างไม่เข้าใจ รอนไม่เคยพูดประเด็นนี้ให้เธอหรือใครเคยฟัง ตั้งแต่รู้จักรอนมา เธอสามารถสัมผัสได้ในบางครั้งว่าเขาค่อนข้างไม่มั่นใจในตนเอง แต่การทำตัวแย่ๆใส่เธอเพราะว่าเธอดีกว่าเขา นั่นเป็นอะไรที่ไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง

     

         " เธออยากจะหย่านักใช่มั้ย ได้ ฉันเซ็นให้เธอตอนนี้เลยก็ได้ ฉันไม่ไหวกับเธอเเล้วเหมือนกันเฮอร์ไมโอนี่ พอใจรึยัง!? " รอนตวาดเสียงดังก้องไปทั่วบริเวณ พลางหยิบใบหย่าออกมาจากกระเป๋าเสื้อโค้ทของเขา และจัดการเซ็นลายเซ็นของเขาลงไปด้วยความโมโห ก่อนจะโยนใบหย่านั่นใส่เธอ

     

         " รอน! " เฮอร์ไมโอนี่เรียกชื่อเขาอย่างต้องการเรียกสติ

     

         " เธอเอาเเต่พูดว่าเธอเจ็บ เธอไม่มีความสุข เเล้วฉันที่ต้องโดนดูถูกตลอดเวลาเพราะเธอล่ะ เธอคิดว่าฉันไม่เจ็บบ้างรึไง! " รอนตวาดใส่เธออยากเหลืออด ในเวลานี้ไม่มีอะไรจะสามารถกู่เขากลับมาได้เเล้ว แม้จะเป็นเสียงหวานๆที่เขาหลงรักก็ตาม 

     

         " ... " ร่างบางอ้าปากค้างอย่างไม่อยากเชื่อ

     

         " สมใจเธอเเล้วใช่มั้ย!? เธอต้องการเเค่นี้ใช่มั้ย! เเละฉันจะบอกให้เธอรู้ไว้นะ ฉันไม่ต้องการจะเป็นคนโง่เง่าในสายตาใครทั้งนั้น จะเพื่อน พ่อเเม่ หรือคนนอก ฉันไม่ต้องการ! เเต่มันเป็นเพราะเธอ! เฮอร์ไมโอนี่ " น้ำตาของรอนไหลออกมาในตอนสุดท้ายอย่างสุดจะกลั้น และหายตัวไป ทันทีที่รอนหายไป เฮอร์ไมโอนี่ทรุดลงกับพื้นอีกครั้ง แม้แต่แรงยืนของเธอก็ไม่มี เธอปล่อยให้น้ำตาไหลอาบแก้มของเธออีกครั้ง และครั้งนี้เธอไม่สามารถกลั้นเสียงสะอื้นได้อีต่อไป ร่างบางสะอื้นฮักอย่างเจ็บปวด โลกทั้งโลกของเธอราวกับค่อยๆเปลี่ยนเป็นสีเทา สีสันของทุกอย่างรอบตัวซีดลงเรื่อยๆอย่างน่าประหลาด มือบางคว้าใบหย่าที่ตกข้างตัวมาดูก่อนจะกอดไว้แนบอก

     

         เดรโกที่แอบสังเกตการณ์อยู่ที่มุมร้านตั้งแต่ต้น มองเฮอร์ไมโอนี่ด้วยความรู้สึกที่ต่างออกไป เขารู้ดีว่าทุกคนต้องมีมุมอ่อนแอ แต่เขาก็ไม่คิดว่าจะเป็นเขาที่บังเอิญมาเห็นมุมแตกสลายของร่างบางตรงหน้า สาวแกร่งแห่งกริฟฟินดอร์นั่งร้องไห้จะเป็นจะตายอยู่ตรงหน้า เดรโกยอมรับว่าตกใจจนเผลอพุ่งตัวออกไปหาวิสลี่ย์ตอนที่เขาบีบไหล่เธอ ถึงแม้เขาจะไม่เข้าใจความรู้สึกของเขานัก แต่มันไม่ใช่เรื่องที่ควรทำเลย 


         เดรโกถอนหายไปตั้งใจจะหายตัวกลับไปทำงาน อารมณ์อยากกินขนมหวานของเขาเหี่ยวอย่างกับต้นไม้ขาดน้ำ แต่ก่อนที่เขาจะหายคัวไป นกฮูกสีน้ำตาลที่เขาเคยเห็นในร้านหนังสือ ร่อนลงไปหาร่างบางที่หน้าประตูเฉียดใบหน้าเขาไป เฮอร์ไมโอนี่ผูกใบหย่าเข้ากับขานกฮูกตัวนั้น และมันก็บินจากไป เธอมองตามไปจนลับสายตา แล้วเสียงสะอื้นของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง

     

         พลันภาพเหตุการณ์หลังจบสงคราม ถูกฉายขึ้นมาในหัวของเขา ความรู้สึกหดหู่ หัวใจที่แหลกสลาย ความกลัวที่จะเผชิญกับสิ่งที่เกิดขึ้น หลากหลายความรู้สึกประเดประดังเข้ามาในใจ ภาพที่เขากรีดร้องด้วยความเสียใจ ภาพที่เขานอนไร้เรี่ยวแรงจากการทำตามคำสั่งของท่านผู้นั้น ภาพที่เขาต้องเดินขึ้นศาลด้วยความรู้สึกพังทลาย


         เเม้ว่าเหตุการณ์ของเขาตอนนั้นกับของเธอมันไม่ได้เกี่ยวกับซักนิดเลยเถอะ แต่ภาพหญิงสาวคนนี้กำลังแตกสลายกลับทำให้เขาจำความรู้สึกทรมานในตอนนั้นได้ดี สิ่งที่ทำให้เขามีพลังกลับมาลุกขึ้นยืนได้อีกครั้งคือครอบครัว แต่ในสถานการณ์คล้ายๆกันนี้ เกรนเจอร์มีใครล่ะ?

     

         เดรโกหันซ้ายขวามองไปรอบๆ ที่ตรงนี้ ในเวลานี้ มีแค่เขา

     

         เดรโกถอนหายใจอย่างกังวลแปลกๆ พลางคลายคาถาพรางตา และเดินตรงไปหาร่างบางที่นั่งร้องไห้ปานจะขาดใจอยู่ที่พื้นหิมะ เมื่อใกล้ถึงตัวของเธอ เขาเสกคาถาเพิ่มความอบอุ่นในบริเวณนั้น ก่อนจะย่อตัวลงเพื่อให้อยู่ในระดับเดียวกัน

     

         " เหตุผลของเขาน่ะ โง่เง่าสุดๆไปเลยล่ะ "

     

         " มัลฟอย " เฮอร์ไมโอนี่สะดุ้ง น้ำเสียงทุ้มที่แสนคุ้นหูดังขึ้นใกล้ๆเธอ เฮอร์ไมโอนี่เงยหน้าขึ้น เธอก็พบใบหน้าเย็นชามองตรงมาที่เธอนิ่งๆ กว่าเธอจะรู้สึกตัว มือชาๆของเธอก็สัมผัสได้ถึงความอบอุ่น ลมหายใจที่เย็นเสียดปอดของเธอเริ่มอบอุ่นขึ้นทีละน้อยๆ ตาโตเหลือบมองร่างสูงที่ตัดสินใจหย่อนตัวลงนั่งคู้เข่าแบบเดียวกับเธอ ใบหน้าของเขายังคงเฉยเมย แต่ไม่มีความหยิ่งทะนงหลงเหลืออยู่บนใบหน้านั้นเลยเเม้เเต่น้อย

     

          นายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ ถึงแม้เฮอร์ไมโอนี่จะเอ่ยถามเสียงเบาหวิว แต่เดรโกก็ได้ยินชัด เธอไม่คิดว่าในเวลาที่เธอย่ำแย่ที่สุด คนที่โผล่มาหาจะเป็นเดรโก เขาในวันนี้อบอุ่นจนเเทบจะเรียกน้ำตาของเธอให้เอ่อล้นได้ เพียงเสี้ยววิที่เขาปรากฏตัว ภาพแย่ๆของเขาที่เธอเคยฝังแน่นในหัว ก็สลายหายไปเหมือนกับขนมสายไหมจุ่มน้ำ ความพูดหรือบทความมากมายเกี่ยวกับการปรับปรุงตัวของเขา เด่นชัดขึ้นมาในความทรงจำอย่างน่ามหัศจรรย์

     

         ' ฉันปลี่ยนไปแล้ว เกรนเจอร์  ' คำพูดของเขาเมื่อสามวันก่อนดังขึ้นในหัวของเธอ จนเธอต้องแอบยิ้มกับตัวเอง

     

         " ตั้งเเต่เเรก แต่ฉันไม่ได้ตั้งใจจะเเอบฟังหรอกนะ " เดรโกที่ได้ยินคำถามของเฮอร์ไมโอนี่ก็ตอบตามความจริง แต่เมื่อเค้าเหลือบไปเห็นน้ำใสๆที่เอ่อคลอในดวงใตสีน้ำตาล เขาก็รีบแก้ตัว แม้จะเป็นคำโกหกก็ตาม เดรโกเลิ่กลั่ก เพราะเขาที่ยืนหลบอยู่มุมนู้นน่ะได้ยินทุกอย่างชัดเหมือนเป็นประตูร้านเลยล่ะ ในตอนที่วิสลี่ย์เสกคาถากันรบกวน เขาก็รีบคลายคาถานั่นกับตัวเขาเองทันที และตอนนี้ถ้าเกรนเจอร์จะว่าเขาว่า ปลิ้นปล้อน หรือ สอดรู้สอดเห็น เขาก็จะลองให้อภัยเธอซักครั้ง

     

         " ไม่ตั้งใจฟังเเต่นายก็ได้ยินน่ะนะ ไอ้งั่ง " เฮอร์ไมโอนี่ยิ้มหัวเราะเบาๆกับคำแก้ตัวที่ฟังไม่ขึ้นของเขา

     

         " ฉันจะไม่ใส่ใจกับคำพูดของเธอเเล้วกัน " เดรโกโคลงหัวและยกยิ้มบางให้เฮอร์ไมโอนี่ เมื่อเห็นรอยยิ้มของเธอเขาก็โล่งใจ เเล้วตัดสินใจจะกลับไปทำงานที่ค้างไว้ต่อ เดรโกลุกขึ้นยืนเต็มความสูง ชักสีหน้าเล็กน้อยเมื่อรู้สึกถึงความเปียกชื้นจากหิมะที่ก้น เดรโกไม่ใส่ใจนัก ก่อนจะหันมาหาเฮอร์ไมโอนี่อีกครั้ง ตั้งใจจะเอ่ยลา แต่เมื่อเห็นสายตาที่เธอเงยมองเขา เดรโกก็ชะงัก คำลาของเขาจุกอยู่ที่ลำคอ เสียงของเขาแห้งหายไปราวกับไม่ได้ดื่มน้ำนานสามวัน


         เดรโกส่ายหัวให้กับตัวเอง เเละเลือกที่จะพูดอีกอย่างออกไป

     

         " เฮ้ เกรนเจอร์ เราไปเคาท์ดาวน์ด้วยกันมั้ย "




    -------------------------------

    TALK TALK WITH nanypp_

         สวัสดีค่าาา กลับมาเเล้วนะคะะ หายไปสองสามวัน 5555555

        ตอนนี้ไม่มีอะไรมากเลยค่ะะ เเค่รู้สึกอยากจะได้เดรโกเป็นของตัวเอง งู้ยยยยย อยากหัวหอม


         สามารถเข้ามาร่วมพูดคุยและให้กำลังใจกันได้ทางคอมเม้น หรือจะเป็น twitter : nanypp_ หรือแท็กฟิค #bringtogetherDMHG ได้เลยนะคะะ เข้ามาให้กำลังใจเราเยอะๆๆๆๆน๊าาาา ต้องการมั่กๆเลยค่าาา ดูดพลังจริงๆ 555555



        ขอบคุณที่คลิกเข้ามาอ่านกันนะคะ :)



         

    TB
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×