คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #25 : Chapter: 19 (BumHyuk + TeukHyuk
ง่วง...ซ้อมเต้นหนักเว่อร์ๆ
ศุกร์นี้ก็ออแล้ว เฮ้อ...วงยังไม่ดีเลย
ฟิคก็คนอ่านน้อยลง
เซ็งนะเว้ยยยยย
ถ้าไม่อยากอ่านก็บอกกันดิ
ไม่ต้องหายไปอย่างนี้...เซ็งงง
“อ้อ...เดี๋ยวก็คงมาล่ะ เห็นบอกว่าจะมาสายน่ะ เรามาซ้อมกันก่อนดีกว่า”ลีทึกตอบน้องชายพร้อมรอยยิ้ม ก่อนจะเดินไปฉุดคังอินที่นั่งอืดตรงมุมห้องอย่างระอาใจ โตป่านนี้แล้วยังจะต้องให้เขาดูแลอยู่เรื่อยเลย ฮยอกแจนั่งมองภาพของลีทึกกับคังอินอย่างมีความสุข พร้อมรอยยิ้มจางๆ สองคนนี้ขาดกันไม่ได้เลยสิน้า...ลีทึกเป็นพี่เลยต้องดูแลคังอินที่ชอบทำตัวดื้อบ่อยๆ แต่ด้วยความแข็งแรงของคังอิน จึงทำให้คังอินต้องคอยปกป้องลีทึกเสมอๆ ราวกับว่าสองคนนี้เป็นที่พึ่งของกันและกัน ที่ห่างกันไม่ได้จริงๆ
“คิดถึงคิบอมเหรอ”ทงเฮที่นั่งข้างๆฮยอกแจถามขึ้นด้วยความน้อยใจ ทำไมกันล่ะ ทั้งๆที่เขานั่งอยู่ข้างๆ ทำไมฮยอกแจต้องคิดถึงหมอนั่นด้วย
“อืม...ไม่ได้คุยกันเลย ตั้งแต่วันที่ไปคิสด้วยกันน่ะ”ฮยอกแจพยักหน้ารับพร้อมกับบ่นด้วยสีหน้าเศร้าๆ ทำให้ทงเฮรู้สึกอารมณ์เสียไม่น้อย
“แล้วทำไมไม่ไปนอนค้างที่หอคิบอมล่ะ”ทงเฮประชดเสียงขุ่น แต่ก็ไม่ได้ทำให้ร่างบางรู้ตัวได้เลยสักนิด
“ก็ไม่มีตังโทรหานิ อีกอย่างคิบอมมีถ่ายละครดึกด้วย ชั้นไปก็ไม่รู้ว่าคิบอมจะกลับหอรึเปล่า”ฮยอกแจตอบกลับ ใบหน้าหวานยู่ลงเล็กน้อยด้วยความไม่สบอารมณ์
“เอ้า ลุกมาได้แล้ว ฮยอกแจ ทงเฮ มาซ้อมเร็วๆ”ลีทึกหันมาสั่งน้องสองคนที่ยังนั่งกองที่พื้นเสียงดัง
“ครับผม”ฮยอกแจรับคำ ก่อนจะลุกขึ้นเดินไปประจำที่ หลังจากนั้นทุกคนก็เข้าประจำที่ เสียงเพลงจึงดังขึ้น แล้วการซ้อมก็เริ่มขึ้นทันที
ครืด... เสียงเปิดประตูห้องซ้อมดังขึ้น พร้อมกับปรากฎร่างหนึ่งขึ้น ทำให้การซ้อมหยุดกระทันหัน
“คิบอม มาแล้วเหรอ”ฮยอกแจหันไปเห็นคนที่มาใหม่ จึงทักขึ้นอย่างเป็นกันเอง
“ครับ...สวัสดีครับทุกคน ขอโทษนะครับที่ทำให้รอ”คิบอมกล่าวทักทายสมาชิกคนอื่นอย่างนอบน้อม ก่อนจะเดินไปวางกระเป๋าตรงมุมห้อง แล้วรีบก้าวเข้าประจำที่
“ไม่เป็นไรหรอก มาก็ดีแล้ว มา ซ้อมๆๆ”ลีทึกเอ่ยบอกอย่างเป็นกันเอง ก่อนจะเริ่มการซ้อมต่อจากเดิม การซ้อมดำเนินไปเรื่อยๆ มีหยุดพักบ้าง มีเล่นกันบ้างแต่ก็กินเวลาไปจนถึงช่วงเย็น ที่แต่ละคนต้องแยกย้ายกันไปทำหน้าที่ของตน
“คิบอม...วันนี้ชั้นไปนอน...”ฮยอกแจเดินเข้าไปหาคิบอมพร้อมรอยยิ้ม แต่ก่อนที่จะได้พูดจนจบประโยค ทงเฮก็ขัดขึ้นมาเสียก่อน
“คิบอม คืนนี้นายมีงานอะไรรึเปล่า”ทงเฮถามด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย แต่ว่าสีหน้ากลับฉายแววโกรธเคืองอย่างเห็นได้ชัด
“อ่ะ...ไม่มี”คิบอมตอบออกมาอย่างไม่ค่อยเต็มใจนัก
“งั้น...”ทงเฮอ้าปากจะหาเหตุผลมาขัดไม่ให้ฮยอกแจไปนอนค้างหอคิบอม แต่ก็ไม่ทันเสียแล้ว ฮยอกแจขัดขึ้นมาเสียก่อนนี่สิ
“อ๊ะ จริงนะ งั้นชั้นไปนอนด้วยนะคิบอม”ฮยอกแจเอ่ยด้วยน้ำเสียงร่าเริง ก่อนจะกอดแขนคิบอมอย่างอ้อนๆ
“อ่า...ได้ครับ”คิบอมพยักหน้าเขินๆ ใบหน้าคมแอบยิ้มน้อยๆตรงมุมปาก ก็ฮยอกแจมาทำน่ารักอย่างนี้ จำไม่ให้รู้สึกเอ็นดูสักนิดเลยได้ยังไงล่ะ แล้วไหนจะสีหน้าที่โกรธเคืองจนแทบจะฆ่าเขาได้จากทงเฮอีกล่ะ ตลกชะมัด
“งั้น เดี๋ยวชั้นจัดคิสเสร็จ ชั้นจะไปหานะ”ฮยอกแจเอ่ยพร้อมรอยยิ้ม
“ครับ ได้ครับ”คิบอมพยักหน้ารับอย่างมีความสุข ก่อนที่จะเหลือบมองสีหน้าทงเฮอีกครั้ง สายตาคมของทั้งสองปะทะกันอย่างไม่มีใครยอมใคร
“ฮยอกแจ คืนนี้ชั้นจะโทรไปหานะ รับด้วยล่ะ รักมากนะ”ทงเฮเอ่ยบอกร่างเล็ก ก่อนจะเน้นย้ำในคำสุดท้ายเสียงดัง แล้วฉกชิงความหอมจากพวงแก้มขาวไปอีกครั้ง
“อื้อ รักเหมือนกัน”ฮยอกแจพยักหน้ารับอย่างเขินๆ ก่อนจะมองหน้าคิบอมที่มีสีหน้าหมองลงอย่างเห็นได้ชัด
“พี่ทงเฮฮะ...มานี่หน่อยสิ”เป็นคยูฮยอนอีกครั้งที่ช่วยคิบอมไว้ คยูฮยอนที่นั่งอยู่กับซองมินเอ่ยเรียกทงเฮเสียงดังพร้อมทำสีหน้าจริงจัง ราวกับต้องการจะสื่อว่า พี่ต้องมาหาผมเดี๋ยวนี้ ทำให้ทงเฮต้องตัดสินใจเดินไปหาคยูฮยอนอย่างช่วยไม่ได้
“ฮยอกแจ...คืนนี้จะไม่นอนกับทงเฮเหรอ”คิบอมเอ่ยถามอย่างน้อยใจ ใบหน้าคมหลุบตาลงมองพื้น ไม่อยากจะมองหน้าตรงหน้ามากไปกว่านี้ กลัวว่าตัวเองจะห้ามใจไม่ได้ กลัวว่าความหวงแหนในตัวร่างบางจะทำให้ตัวเองดึงร่างบางเข้ามาหอมทับตรงที่ทงเฮหอม กลัวว่าแขนตัวเองจะดึงร่างบางเข้ามากอดทับรอยของทงเฮ อยากจะทำให้ฮยอกแจเป็นของตนคนเดียว แม้รู้ว่าตัวเอง ‘ไม่มีสิทธิ’
“ทำไมต้องไปนอนกับไอ้ปลาบ้านั่นด้วยล่ะ นอนกับทงเฮจนเบื่อแล้วล่ะ คนอะไรไม่รู้ กอดแน่นชะมัด”ฮยอกแจบ่นอย่างน่ารัก ร่างบางแลบลิ้นออกมาเล็กน้อย ยิ่งทำให้ร่างสูงเห็นความน่ารักของคนตรงหน้ามากเพิ่มขึ้นไปอีก
“อืม...เหรอ”คิบอมพยักหน้ารับรู้อย่างเศร้าๆ แม้ว่าในใจจะเจ็บปวดมากเท่าไร ที่ได้ยินเรื่องของฮยอกแจกับทงเฮ
“คิบอม...ทำไมถึงทำหน้าเศร้าอย่างนั้นล่ะ”ฮยอกแจที่สังเกตถึงความผิดสังเกตของคนตรงหน้าถามขึ้นอย่างเป็นห่วง
“อ้อ...ไม่มีอะไรหรอก”คิบอมส่ายหน้าไปมา ปกปิดความจริงในใจ
“อื้อ ถ้างั้นเดี๋ยวชั้นไปเตรียมตัวไปคิสก่อนนะ เดี๋ยวพี่ทึกบ่นน่ะ”ฮยอกแจกล่าวลา แล้วเดินไปหาพี่ชายที่สนิทอย่างลีทึก
“พี่ลีทึก ไปเลยรึเปล่าครับ”ฮยอกแจเอ่ยถามลีทึก
“อื้ม ไปเลยก็ได้ รถก็มารอแล้วล่ะ”ลีทึกพยักหน้ารับแล้วยิ้มจางๆให้กับน้องชายอย่างอ่อนโยน
“ครับ”ฮยอกแจพยักหน้า ก่อนจะเดินไปคว้ากระเป๋าเป้ของตนมาสะพาย
“ป่ะ ไปกันเถอะ ลุงขับรถจะได้ไม่รอนาน”ลีทึกบอกฮยอกแจพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่จะเลื่อนมือเข้ามาจับมือเล็กๆของฮยอกแจไว้
“ทุกคน ผมไปก่อนน้า...บ้ายบาย”ฮยอกแจหันไปโบกมือให้กับทุกคน ก่อนที่จะเดินออกจากห้องซ้อมพร้อมๆกับลีทึก
“หมีคังรักนางฟ้าทึกกี้น้า...”เสียงของคังอินดังขึ้นไล่หลังมา เรียกสีเลือดฝาดขึ้นบนแก้มบางของลีทึกอย่างไม่ต้องสงสัย
“แหม...พี่คังนี่รักพี่ทึกจังเลยนะครับ ผมอิจฉาจัง”ฮยอกแจแซวลีทึก
“ไม่ต้องมาอย่างนี้เลยนะ นายก็เหมือนกันนั่นแหละ”ลีทึกเถียงอย่างเขินๆ มืออีกข้างที่ไม่ได้จับกับมือฮยอกแจเลื่อนขึ้นมาปิดหน้าอย่างน่ารัก
“เหมือนกัน เหมือนตรงไหนฮะ ผมไม่มีใครมาบอกรักอย่างพี่ซักหน่อย”ฮยอกแจเถียง
“จริงเร้อ...ไม่อยากจะเชื่อเลยแฮะ”ลีทึกทำหน้าไม่เชื่อ แต่ใบหน้าหวานกลับประดับไปด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์อย่างที่ไม่ค่อยจะได้เห็น
“ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อเลยฮะ ชิ”ฮยอกแจสะบัดหน้าหนีลีทึกอย่างงอนๆ
“อ่า...ฮยอกแจอ่า...พี่ล้อเล่นเฉยๆ ไม่ได้จริงจังน้า...”ลีทึกง้อน้องชายอย่างน่ารัก ใบหน้าหวานฉีกยิ้มเล็กๆด้วยความเอ็นดูน้องชายคนนี้เสียเต็มประดา
“อ๊า...ไม่สนและ ผมขึ้นรถดีกว่า”ฮยอกแจเอ่ยอย่างงอนๆ ก่อนจะรีบวิ่งปู๊ดขึ้นรถที่จอดรอเขา โดยไม่รอลีทึก
“เดี๋ยว...ฮยอกแจ...รอพี่ด้วยๆ”ลีทึกรีบวิ่งตามน้องชายไปทันทีที่เห็นว่าน้องชายคนดื้อนั่งในรถเรียบร้อยแล้ว
“แบร่...พี่ลีทึกวิ่งไม่ทันผมอ่ะสิ แก่แล้วๆ ฮ่าๆๆๆ”ฮยอกแจหัวเราะลั่น ใบหน้าหวานเปื้อนยิ้ม คนที่ถูกล้อก็ขำกับสิ่งที่น้องชายล้อเช่นกัน
“หนอย...ใครว่าพี่แก่...พี่แค่อ่อนแอกว่านายต่างหาก ฮ่าๆๆๆ”ลีทึกเอ่ยก่อนจะหัวเราะลั่น ใบหน้าหวานใสของผู้สูงอายุกว่าฉายแววแห่งความสุข
“ฮ่าๆๆๆ ไม่เกี่ยวเลยนะพี่”ฮยอกแจเอ่ยขำๆ ก่อนที่ลีทึกจะเข้าประจำที่ เมื่อเห็นว่าคนที่ตนมารับเข้าที่เรียบร้อยแล้ว คุณลุงคนขับรถจึงออกรถทันที
“เออนี่ ฮยอกแจ พี่คิดถึงประเทศไทยอ่ะ ฮยอกแจคิดถึงเหมือนกันมั้ยอ่ะ”ลีทึกถาม
“คิดถึงสิพี่ ผมน่ะ รักประเทศไทยมากๆเลยน้า...”ฮยอกแจตอบรับ ใบหน้าหวานยิ้มกว้าง
“แหม...ไม่บอกพี่ก็รู้น่า ไปไหนๆ ก็บอกคนอื่นหมดว่า I’m from
“แหม...พี่ก็...ประเทศไทยออกจะอบอุ่น เอล์ฟไทยก็ออกจะน่ารัก ตาก็หว้าน...หวาน...ผมล่ะชอบจริงๆเลย”ฮยอกแจเอ่ยอย่างมีความสุข
“ฮ่าๆๆ ไม่ใช่เหตุผลเพราะว่าอาหารอร่อยหรอกเร้อ...”ลีทึกแซว
“อ่า...อันนั้นมันเหตุผลรองครับ ฮิๆ”ฮยอกแจยอมรับออกมาเขินๆ ทว่ารอยยิ้มบนใบหน้าก็ยังไม่หดหาย
“เออใช่ นายรู้มั้ย ว่าเอล์ฟไทยน่ะส่งข้อความมาสอนภาษาไทยทางคิสทุกวัน รู้เปล่า ตอนนี้เอล์ฟไทยทำพจนานุกรม คำศัพท์น่ารักๆส่งมาให้เราด้วยน้า...”ลีทึกเอ่ยอวดฮยอกแจ ดวงตาหวานฉายแววความสุขอย่างเต็มเปี่ยม
“จริงเหรอฮะ ทำไมพี่ทึกไม่เอามาให้ผมดูบ้างล่ะ ขี้โกงนี่...”ฮยอกแจเอ่ยงอนๆ ใบหน้าหวานใสง้ำงออย่างน้อยใจ
“อ่า...ก็พี่ลืมนิ ฮ่าๆๆ แต่พี่ก็ยังฝึกๆพูดได้ไม่เท่าไรหรอก เพราะพี่ไม่รู้ความหมาย ฮ่าๆๆๆ”ลีทึกเอ่ยแล้วระเบิดหัวเราะออกมา
“อ้าว...แล้วเค้าไม่ได้เขียนบอกความหมายมาด้วยเหรอฮะ”ฮยอกแจขมวดคิ้วยุ่งอีกครั้งด้วยความสงสัย
“เปล่า มีน่ะมี แต่พี่อ่านอังกฤษไม่ออก...”ลีทึกบอกเหตุผลพร้อมรอยยิ้ม ก่อนที่เสียงหัวเราะของทั้งลีทึกและฮยอกแจจะดังขึ้นพร้อมกัน
“เอ้อใช่ พี่ก็ให้คิบอมแปลให้สิ”ฮยอกแจเสนอ
“เออใช่ ทำไมพี่ลืมคิบอมไปได้อ่ะ สงสัยจะแก่แล้ว”ลีทึกเอ่ยพร้อมเกาหัวตัวเองเบาๆ
“ฮ่าๆ ไม่ต้องสงสัยหรอกพี่ พี่น่ะแก่แล้ว ฮ่าๆๆๆๆ”ฮยอกแจระเบิดหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เป็นผลพลอยให้ลีทึกก็หัวเราะมาด้วยอีกครั้ง แต่เมื่อทั้งสองหัวเราะกันจนเหนื่อยแล้ว ก็
“ฮยอกแจ...พี่อยากรู้ความหมายของคำว่า “เพื่อนกันไม่ทำแบบนี้” อ่ะ เห็นมันเขียนว่า ‘For KangTeuk and EunHae’ ด้วยนะ”ลีทึกเอ่ยอย่างสนอกสนใจ
“อ๊า...เค้าต้องสื่ออะไรถึงคู่แน่เลย ฮ่าๆๆๆ ผมกับทงเฮเนี้ยนะ ไม่มีทางเป็นจริงซะหน่อย”ฮยอกหัวเราะร่าเริง
“ก็นั่นแหละนะ เค้ามีแรงจิ้นก็จิ้นกันไป แต่ก็ไม่แน่น้า...ต่อไปนายกับทงเฮอาจจะเป็น...”ลีทึกเอ่ยด้วยสำเนียงหยอกเย้า ดวงตาหวานแสนซุกซนแกล้งจองไปที่ใบหน้าหวานของน้องชายอย่างนึกสนุก
“ไม่มีทางหรอกพี่ลีทึก ผมกับทงเฮเพื่อนกันจริงๆน่า...”ฮยอกแจเถียงทันควัน
“อ่า...เพื่อนกันก็เพื่อนกัน แล้วพี่จะคอยดู ฮ่าๆๆๆ”ลีทึกหัวเราะเสียงใสอีกครั้ง ก่อนที่ทั้งสองจะเปลี่ยนเรื่องคุยไปเรื่อย เสียงหัวเราะดังขึ้นเป็นระยะๆ คงเป็นเพราะนิสัยของคนทั้งสอง บวกกับความผูกพันของคนทั้งคู่ด้วยล่ะมั้ง ทำให้รถคันนี้มีแต่ความสุขขึ้นเรื่อยๆ
~หลังจัดคิสเสร็จ ภายในรถคันเดิมที่มีทั้งลีทึกและฮยอกแจนั่งอยู่ภายใน~
“ฮยอกแจ พรุ่งนี้รถจะไปรับนายที่หอคิบอมตอนแปดโมงนะ เพราะฉะนั้น รีบตื่นซะด้วย ถ้าจำไม่ผิด คิบอมก็ต้องมีถ่ายละครตอนแปดโมงครึ่งเหมือนกัน ยังไงก็ต้องช่วยกันปลุกละกันนะ ไม่ใช่ว่าไปนอนด้วยกันพากันตื่นสายล่ะ”ลีทึกสั่งน้องชายอย่างเป็นการเป็นงาน
“ฮะ พี่ลีทึก ผมรู้หน้าที่อยู่แล้ว”ฮยอกแจพยักหน้ารับคำสั่งจากพี่ชายอย่างนอบน้อม
“อื้ม ดีแล้ว รับผิดชอบหน้าที่อย่างนี้พี่ก็ไม่ว่าอะไรหรอก เอ้อ รับโทรศัพท์ทงเฮมันด้วยล่ะ เดี๋ยวมันจะงอนตุ๊บป๋องอีก”ลีทึกสั่งอีกครั้ง
“คร๊าบ...รับทราบครับ”ฮยอกแจพยักหน้ารับอีกครั้ง
“อ่ะ ถึงแล้วครับคุณฮยอกแจ”คุณลุงคนขับรถจอดรถแล้วเอ่ยขึ้นอย่างสุภาพ
“ครับคุณลุง ขอบคุณมากนะครับที่มาส่ง ขับรถดีๆนะครับ ผมไปก่อนนะครับพี่ทึก ฝันดีนะครับ”ฮยอกแจเอ่ยขอบคุณคุณลุงคนขับอย่างสุภาพ ก่อนจะหันไปบอกลีทึก
“จ้า...บาย ฝันดีเช่นกันล่ะ”ลีทึกโบกมือให้กับน้องชายก่อนที่ประตูรถจะปิด แล้วรถก็ขับเคลื่อนตัวออกจากจุดนั้นทันที
“เฮ้อ...คิบอมจะกลับรึยังนะ”ฮยอกแจพึมพำกับตัวเอง ก่อนที่จะเดินเข้าหอของคิบอม แต่เมื่อเดินมาถึงหน้าห้องของคิบอมแล้ว มือบางก็สอดเข้าไปในเป้ใบใหญ่ของตน ควานหากุญแจพวงเล็กๆที่คิบอมมอบให้เขาตอนที่มาค้างครั้งล่าสุด
“อ๊ะ เจอแล้ว”ฮยอกแจพึมพำกับตัวเองเมื่อควานหากุญแจเจอ มือบางหยิบพวงกุญแจเล็กๆนั้นออกมา ก่อนที่จะไขประตูเปิดเข้าไปในห้องกว้างของคิบอม
“อ๊ะ ฮยอกแจ มาแล้วเหรอ ทำไมไม่เคาะประตูเข้ามาล่ะ”คิบอมที่กำลังนั่งดูทีวีที่โซฟากลางห้องกลางของหออยู่หันมาทักร่างบางอย่างประหลาดใจ
“อ้อ ก็ชั้นนึกว่านายจะกลับดึกกว่านี้น่ะ ฮ่ะๆ”ฮยอกแจหัวเราะฝืดๆก่อนที่จะเดินไปนั่งข้างๆคิบอมตรงโซฟา
“ฮยอกแจ ไปอาบน้ำนอนเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่สบายอีกนะ”คิบอมบอกร่างบาง ใบหน้าคมปิดซ่อนความรู้สึกภายในไว้อย่างแนบเนียน แม้ภายในอยากจะบอกฮยอกแจออกไปว่าไปอาบน้ำแล้วมานอนด้วยกันเถอะ อยากจะประชดออกไปว่าทำไมไม่ไปนอนกับทงเฮล่ะ อยากจะบอกออกไปว่ารักมากแค่ไหน แต่มันก็ทำอะไรไม่ได้สักนิด
ไม่กล้า... ไม่กล้าที่จะบอกออกไปว่ารัก ไม่กล้าที่จะขอร้องให้ร่างบางเป็นของเขาคนเดียว ไม่กล้าที่จะประชดอะไรร่างบางเพราะกลัวร่างบางจะโกรธแล้วไม่คุยด้วย
ทำไมกันนะ ทั้งๆที่เขามีสิทธิจะบอกรักฮยอกแจมากกว่าทงเฮขนาดนี้ แต่ทำไมความกล้าของเขามันถึงหดหายไปอย่างนี้ ความกล้าที่เคยใช้ในการแสดงละครกี่เรื่องๆ ความกล้าที่จะใช้ฉากเลิฟซีนต่างๆ ทำไมมันถึงหายไปอย่างนี้
จะนึกๆดูแล้ว มันก็ไม่ใช่ความผิดของร่างบางสักหน่อย มันเป็นความผิดของทงเฮต่างหาก ถ้าทงเฮไม่ทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของของฮยอกแจอย่างนี้ ไม่ทำตัวหึงหวงฮยอกแจขนาดนี้ ไม่ทำให้ฮยอกแจกับเขามีระยะห่างกันมากขนาดนี้ เขาคงจะรู้สึกดีกว่านี้เป็นแน่ เขาคงจะมีความกล้าที่จะบอกรักฮยอกแจมากกว่านี้เป็นแน่
หึ คิมคิบอม...แกมันก็ทำได้แค่นี้แหละนะ ทำได้แต่ด่าคนอื่นไปวันๆ ทั้งๆที่แกก็ผิดไม่น้อยเช่นกัน ทำไมล่ะ ไปโยนความผิดให้คนอื่นทำไม ตัวแกก็ผิดเหมือนกันไม่ใช่เหรอ ผิดที่แกไม่มีความกล้า ผิดที่แกมันขี้ขลาด ผิดที่แกกลัวว่าฮยอกแจจะเปลี่ยนไปถ้ารู้ความจริง หึ แกมันก็เป็นได้แค่นี้แหละนะคิบอม ใครเห็นแกก็ต้องสมเพชแกกันทั้งนั้น
คิบอมได้แต่นั่งด่าตัวเองในใจอย่างคนที่ไม่รู้จะทำยังไง ใบหน้าคมนิ่งสนิทเหมือนปกติ แต่ทว่าในใจกลับวุ่นวายเหลือเกิน
แม้ทีวีที่เปิดอยู่จะฉายรายการตลกที่น่าจะสร้างเสียงหัวเราะให้กับร่างสูงได้เป็นระยะๆ แต่มันกลับไม่ได้อยู่ในสายตาของร่างสูงแม้แต่นิด สายตาคมคายมองออกไปทางนอกระเบียงที่อยู่ถัดจากส่วนของห้องกลางไปเล็กน้อย อย่างใช้ความคิด
“คิบอม...”เสียงหวานใสดังขึ้นต่อหน้าร่างสูงที่กำลังนั่งนิ่งคิดถึงเรื่องราววุ่นวายในใจ จึงทำให้ร่างสูงไม่ได้ยินเสียงที่ฮยอกแจเรียก
“คิบอม...”ฮยอกแจยังคงเรียกร่างสูงอีกครั้ง ใบหน้าหวานขมวดคิ้วเล็กน้อย ทำไมขนาดเค้าอยู่ใกล้ขนาดนี้ยังไม่ได้ยินอีกนะ
“คิม คิบอม!!!”ฮยอกแจเรียกร่างสูงเสียงดัง จึงทำให้คนที่นั่งเหมื่ออยู่สะดุ้งอย่างตกใจ
“ฮะ...อะไรนะ”คิบอมเอ่ยถามฮยอกแจอย่างตกใจไม่น้อย ใบหน้าคมเข้มยังคงเก็บอาการภายในใจได้อย่างแนบเนียน
“คิดอะไรอยู่น่ะ ทำไมชั้นเรียกถึงไม่ได้ยินล่ะ”ฮยอกแจถามด้วยความรู้สึกน้อยใจน้อยๆ
“อ่ะ อ้อ...พอดีผมคิดถึงบทละครที่ต้องเล่นพรุ่งนี้น่ะครับ ขอโทษนะที่ไม่ได้ฟัง เมื่อกี้ได้พูดอะไรรึเปล่า”คิบอมปั้นเสียงถามอย่างนุ่มนวล
“เปล่าหรอก แค่ชั้นจะมาเรียกไปอาบน้ำน่ะ ชั้นอาบเสร็จแล้ว”ฮยอกแจเอ่ยตอบ ก่อนที่จะนั่งลงข้างๆร่างสูง แต่เมื่อร่างสูงได้ยินประโยคจากร่างบางจบจึงเพิ่งสังเกตเห็นว่าตอนนี้ฮยอกแจอยู่ในชุดนอนเหลืองอ่อนลายหมีน่ารัก เข้ากับนิสัยของฮยอกแจไม่น้อย
“อ้อ...ครับ ฮยอกแจไปนอนก่อนก็ได้นะ นี่มันก็ดึกมากแล้ว เดี๋ยวผมจะตามไปนอนทีหลัง”คิบอมเอ่ยบอกเสียงนุ่ม ใบหน้าคมผุดรอยยิ้มอ่อนโยน
“อื้อ ไม่เป็นไรหรอก ชั้นรอได้นะ รีบไปอาบน้ำสิ”ฮยอกแจกล่าวเสียงใส ใบหน้าหวานประดับไปด้วยรอยยิ้มกว้าง
“ครับ เดี๋ยวผมจะรีบอาบนะ”คิบอมพยักหน้ารับ ก่อนที่จะเดินไปคว้าผ้าเช็ดตัวผืนหนาที่วางพาดอยู่ตรงราวแขวนขนาดกลางตรงหน้าห้องน้ำ แล้วเดินเข้าห้องน้ำไป โดยมีสายตาคู่หนึ่งมองตามไปจนประตูจะถูกปิดลง
“งื้ม...มีอะไรดูบ้างน้า...”ฮยอกแจพึมพำกับตัวเอง มือบางเลื่อนไปขว้ารีโมตมากดเปลี่ยนช่องไปมา ก่อนที่จะหยุดดูรายการเพลงที่ตนเองชื่นชอบ
“เอ๊...อาทิตย์นี้มีเพลงไหนขึ้นชาร์ตบ้างนะ”ฮยอกแจยังคงพึมพำกับตัวเอง ดวงตาหวานไล่มองไปตรงส่วนล่างของหน้าจอทีวี ที่กำลังฉายรายชื่อเพลงฮิตประจำสัปดาห์
“อ๊า...มีเพลงของชายนี่ด้วยแฮะ ดีจัง... น้องใหม่วงนี้เก่งๆกันจังเลย”ฮยอกแจยังคงพึมพำกับตัวเองด้วยความภาคภูมิใจ โดยไม่รู้เลยว่าใครอีกคนที่เพิ่งจะออกมาจากห้องน้ำกำลังลอบมองอย่างมีความสุข
“ดูอะไรอยู่ครับ...”คิบอมเดินเข้าไปหาร่างบางพร้อมถามเสียงนุ่ม
“อ้อ...ดูรายการเพลงน่ะ ชั้นจะดูเพลงฮิตประจำอาทิตย์นี้น่ะ เป็นดีเจก็ต้องอัพเดทบ่อยๆน่ะ ฮ่าๆๆ”ฮยอกแจหันมาตอบร่างสูงอย่างน่ารัก ก่อนที่จะหัวลั่นออกมา
“ฮยอกแจ...ดึกแล้ว ไปนอนเถอะ”คิบอมเอ่ยบอก มือหนาคว้าแขนเล็กพยายามจะดึงคนตัวเล็กขึ้นจากโซฟา
“งื้อ...คิบอม...ชั้นยังอยากดูอยู่เลย”ฮยอกแจงอแง
“นอนได้แล้วนะครับ...อย่าดื้อ พรุ่งนี้มีงานนะ”คิบอมสั่งเสียงเข้ม ใบหน้าคมตีสีหน้าขรึม
“อ่า...คิบอม...”ฮยอกแจยังคงดื้อต่อ
“ไม่เอานะฮยอกแจ...นอนเถอะ ไม่งั้นผมจะฟ้องพี่ลีทึกนะ”คิบอมขู่
“อื้อ ก็ได้ ชั้นโป้งคิบอมแล้ว...”ฮยอกแจงอแงก่อนจะเดินกระทึบเท้าเข้าห้องนอนไป โดยมีคิบอมมองตามหลังไปอย่างรู้สึกไม่ดี
“ขอโทษนะฮยอกแจ...”คิบอมพึมพำกับตัวเองเบาๆ ก่อนจะเดินตามร่างบางเข้าไปในห้องนอน
“ฟี้...ฟี้...”เสียงหายใจเบาๆของร่างบางดังขึ้นแผ่วๆ ทำให้ร่างสูงรู้ว่าฮยอกแจหลับไปแล้ว ร่างสูงจึงยิ้มกับตัวเอง ใบหน้าคมฉายแววเศร้าอย่างชัดเจน ขาเรียวพาเจ้าของร่างไปนั่งบนเตียงข้างๆคนที่นอนหลับอยู่อย่างมีความสุข
“ฮยอกแจ...รักผมบ้างมั้ย หรือว่ารักทงเฮไปแล้ว...ตอบผมที...”คิบอมกล่าวกับร่างบางที่หลับไม่รู้สึกตัว ก่อนที่จะตัดสินใจล้มตัวนอนเหมือนกัน แขนแกร่งโอบกอดร่างเล็กเอาไว้อย่างหวงแหน
ขอแค่เวลานี้เท่านั้น...
ขอแค่ให้ผมได้กอดร่างๆนี้
ขอให้ผมถ่ายทอดความอบอุ่นให้ร่างๆนี้
ขอแค่นี้จะได้มั้ย...
ในอีกด้านหนึ่งของทงเฮ
~Life couldn’t get better...~เสียงโทรศัพท์เครื่องเล็กที่วางอยู่บนหัวเตียงดังขึ้น ทำให้เจ้าของเครื่องต้องเอื้อมไปหยิบมาดูว่าใครโทรมา ก่อนที่จะกดรับสายอย่างสุภาพ
“สวัสดีครับแม่”ทงเฮเอ่ยทักปลายสายอย่างสุภาพ
“สวัสดีเจ้าตัวแสบ ชั้นมีเรื่องสำคัญอยากจะบอกแกนะ”เสียงปลายสายของมารดาดังขึ้น
“อะไรครับแม่”ทงเฮถาม
“แกจำหนูเจสสิก้าได้มั้ย ที่น้องเค้าไปเรียนต่อนอกมาน่ะ”
“จำได้ครับแม่ ทำไมเหรอ”
“ชั้นกับพ่อหนูเจสสิก้าตกลงกันไว้แล้วนะ ว่าภายในปีนี้ แกกับหนูเจสสิก้าต้องแต่งงานกัน”ผู้เป็นมารดาพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง ราวกับต้องการจะบังคับปลายสาย
“อะไรนะแม่!!!”ทงเฮถามแม่เสียงดังอย่างตกใจ
“ชั้นบอกให้แกกับหนูเจสสิก้าแต่งงานกัน เข้าใจรึยัง ถ้ายังไง พรุ่งนี้แกช่วยมารับน้องเค้าด้วย เทคแคร์ดูแลน้องเค้าดีๆล่ะ อ้อ อย่าบอกว่าติดงาน ชั้นโทรไปถามจองซูมาแล้ว พรุ่งนี้แกมีงานแค่ตอนเย็น แกก็มารับน้องเค้าตอนเช้า โอเคมั้ย? ถ้างั้นแค่นี้ล่ะ”ผู้เป็นมารดาสั่งอย่างรวดเร็ว ก่อนจะวางสายไป
“แม่! แม่...อะไรของเค้านะ”ทงเฮเรียกปลายสายอย่างหัวเสีย ก่อนที่จะเก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิม แล้วล้มตัวลงนอนคิดถึงเรื่องที่ตนเองเพิ่งจะได้ยินมาอย่างไม่รู้จะทำยังไง คิ้วหนาขมวดเข้าหากันจนยุ่ง ในหัวมีเรื่องตีกันจนมึนไปหมด
ฮยอกแจ...
ชั้นไม่อยากจะห่างนายเพราะเรื่องบ้าๆนี่เลย
ไหนจะไอ้หมอนนั่นที่ชอบอยู่ใกล้ๆนายอีก
พูดตรงๆชั้น ‘หึง’ นาย
ก็คนมันขี้หึง...
นิดหนึ่งก็คิดไกล...
มันคิด...
ระแวงไปอยู่เสมอ...
ชั้นรู้ดีว่าไม่มีสิทธิที่จะหึงนาย
แต่ทำยังไงได้...
ในเมื่อชั้นถอนตัวไม่ขึ้นแล้ว
---------- To be Continue ----------
ไม่อยากอ่านก็บอกนะ จะลบอ่ะ
ความคิดเห็น