ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #155 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค อารยะ-อิท (ตอน จะผิดคำสัญญาหรือเปล่า )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.24K
      8
      21 ต.ค. 53

     ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค อารยะ-อิท ตอน จะผิดคำสัญญาหรือเปล่า 










    หากไม่ย้อนกลับมาคงไม่เห็นหรอก ว่ามีคนที่ทำให้เสียน้ำตา...........กำลังร้องไห้เหมือนกัน

    แย่แล้ว

    ทำไมล่ะ ทำไมถึงร้องไห้ล่ะ ร้องไห้ทำไม ทำไมถึงร้อง ไม่รู้ ไม่รู้สาเหตุ แต่ไม่อยากให้ร้อง
    ถ้าจะร้องก็ไม่อยากให้ใครได้เห็น

    อิท อิท เป็นอะไร เป็นอะไรอารยะที่มายืนอยู่ตรงหน้าทำให้อิทธิพล ต้องลุกพรวดพราดขึ้นยืน
    ใช้หลังมือปาดน้ำตาทิ้ง และพยายามจะทำหน้าให้เป็นปกติ

    ปลายนิ้วพยายามจะเกลี่ยหยดน้ำตาออกจากใบหน้าที่เปรอะเปื้อน

    แต่ใบหน้าคมกลับสะบัดหนี ไม่บอกเหตุผล ไม่บอกอะไรสักคำ

    แต่กลับลุกขึ้นยืนและเดินหนี

    แม้จะคว้าแขนเอาไว้ แต่กลับถูกสะบัดออก

    น้องอิท ........... ช่างขี้งอน แต่ไม่รู้ว่างอนอะไร
    อารยะน่าจะเป็นฝ่ายงอนมาก นี่ถ้าไม่กลับมาคงไม่รู้ ว่าอิทกำลังร้องไห้ ร้องอย่างกับเด็ก ๆ
    แล้วเป็นอะไร ทำไมถึงได้ร้องขนาดนี้ ไม่อายคนรอบข้างหรือไง

    อิทธิพลครับ เป็นอะไรครับ อิทครับ

    อารยะเฝ้าแต่เพียรถามซ้ำ ๆ แต่อิทธิพลกลับนิ่งเงียบ และยกหลังมือขึ้นปาดน้ำตาที่ยังหลั่งริน

    ใบหน้าเรียบเฉย นิ่งเงียบ ไม่ยอมพูดอะไรสักคำ
    เอาแต่ก้มหน้าก้มตา ไม่ยอมพูดคุย

    กลับบ้านกันนะ กลับบ้านกัน

    ดวงตาหมองเศร้า น้ำเสียงสั่น ๆ ที่เอ่ยถามทำให้อิทธิพลเงยหน้าขึ้นมอง
    ก่อนจะก้มลงอีกครั้ง

    วันนี้ไม่บอกรักก็ได้ เดี๋ยวจะทำให้โกรธอีก เวลาที่เราโกรธกันทีไร มันเจ็บในหัวใจพิกล

    เสียงที่เอ่ยบอก สั่นสะท้านอยู่ในที นั่นยิ่งทำให้อิทธิพลอยากจะร้องไห้ให้หนักขึ้น

    ไม่ได้โกรธ อยากได้ยิน
    อยากได้ยินทุกคำพูด แต่แสดงออกไม่ได้ แสดงท่าทางว่าชอบไม่ได้

    เพราะอารยะบังคับให้สัญญา ว่าต้องทำเหมือนไม่รู้จักกัน

    ใบหน้าคมยิ่งก้มลง น้ำตาไม่ยอมหยุดไหล

    แล้วทำไมยังร้องไม่หยุดอย่างนี้ล่ะ เกลียดกันถึงขนาดไม่อยากมองหน้าเลยเหรอ

    คำถามยิ่งตอกย้ำให้เจ็บปวด
    แล้วจะทำอะไรได้ ก็ทำได้แค่นิ่งเงียบ

    นิ่ง อยู่อย่างนั้น

    รถมาแล้ว จะขึ้นไปร้องไห้บนรถอีกหรือเปล่า ไม่เอาแล้วนะ ไม่กลัวเสียฟอร์มเหรอ เมื่อก่อนเห็นกลัวเสียฟอร์มยิ่งกว่าอะไรไม่ใช่หรือไง แล้วร้องอย่างนี้ก็เสียฟอร์มแย่เลยนะ ผมยังพยายามไม่ร้องเลยเห็นมั้ย ขนาดอิทเกลียดผม ผมยังพยายามไม่ร้องเลย เดี๋ยวค่อยกลับไปร้องที่บ้านก็ได้

    คำพูดหยอกล้อของอารยะ ทำให้อิทธิพลค่อยมีรอยยิ้มออกมาบ้าง

    ไม่ร้องแล้วนะ

    เหมือนกับว่าตอนนี้เป็นผู้ปกครองเด็ก ทำไมอะไรมันกลับกันไปหมด อิทเอ้ย อิท
    เมื่อไหร่ที่ทำท่าทางออดอ้อนแบบนี้นะ อ้อนเหมือนเด็ก ๆ เลย

    มันยิ่งทำให้รักมากขึ้นนะแบบนี้

    อารยะกระตุกแขนของคนที่ยืนก้มหน้าให้ขึ้นไปบนรถด้วยกัน โชคดี ที่ไม่ค่อยมีผู้โดยสารมากนัก
    ที่นั่งด้านหลังจึงเป็นที่นั่งของทั้งสองคน

    เมื่อขึ้นมานั่ง.......แล้วต่างคนก็ต่างเงียบ
    อิทธิพลหันไปมองที่นอกหน้าต่าง ในขณะที่อารยะเหลือบมองใบหน้าด้านข้างของร่างที่นิ่งเงียบหลาย

    ฝ่ามืออุ่น ๆ ค่อยเอื้อมไปแตะที่มือที่วางนิ่งไว้บนหัวเข่า

    กุมเอาไว้อย่างนั้น อย่างกล้า ๆ กลัว ๆ

    กลัวว่าจะสะบัดหนี กลัวจะทำให้โกรธอีก แต่อิทธิพลกลับนิ่งเฉย ทำเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

    ถ้าคืนนี้ร้องไห้จนตาบวม....อิทจะใจอ่อนมั้ย....จะเริ่มคิดเรื่องของเราหรือเปล่า

    อิทธิพลค่อยหันหน้ากลับมามองใบหน้าของอารยะอีกครั้ง

    ก่อนจะก้มมองที่มือที่ถูกเกาะกุมเอาไว้

    อยากจะพูดออกไป อยากจะพูดออกไปให้หมด แต่ไม่กล้า ไม่มีความกล้ามากพอ

    จึงได้แต่นิ่งเฉย ขอโทษที่พูดออกไปไม่ได้ ขอโทษที่ไม่ยอมพูดอะไร

    ขอโทษนะ เพราะตอนนี้ แม้แต่ตัวเอง ก็ยังไม่รู้ว่ากำลังทำอะไรอยู่กันแน่ มีแต่ความสับสนว้าวุ่นยุ่งเหยิงไปหมด
    อย่าโกรธกันเลยนะ
    ถ้ายะโกรธ อิทก็คงเจ็บปวดหัวใจไม่ต่างกัน

    ขอเวลาหน่อยเถอะ ขอเวลาทบทวนอะไรให้เข้าใจก่อน

    เพราะตอนนี้แม้แต่ตัวเองยังตัดสินใจไม่ได้ว่าจะทำยังไงต่อไป

    ++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++

     

    อารยะทิ้งกายลงนอนบนเตียงนอนภายในห้อง นิ่งมองเพดาน ด้วยความสับสน

    อิทเอ้ย อิท
    ทำยังไงถึงจะรักมึงน้อยลงวะ

    มันยิ่งเพิ่มขึ้นทุกวัน ทุกวัน จะให้ทำยังไงดี
    สงสัยว่านี่คือผลตอบแทนที่กูเคยทำไว้กับมึงจริง ๆ สินะ ถึงได้เป็นทุกข์อย่างนี้
    อยากจะร้องไห้จริง ๆ เลย

    ร้องไปซะเลยดีมั้ย

    อิทเอ้ย อิท ขยันทำให้กูร้องไห้จริง ๆ

    เฮ่อ กว่าจะได้มันมาเป็นแฟน กูจะเสียน้ำตาอีกกี่กระบุงวะเนี่ย แม่งเอ้ย

    ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด แต่ยิ่งเครียดก็ยิ่งคิด

    จด ๆ จ้อง ๆ อยู่นาน ว่าจะโทรไปหาดีมั้ย

    แต่จนแล้วจนรอดก็ไม่ได้โทรไป กำลังเคลิ้มใกล้หลับ ก็พอดีได้ยินเสียงสัญญาณเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือ

    ไม่อยากจะรับเลย ด้วยซ้ำ ใครกันที่โทรมาตอนคนกำลังกลุ้มใจ

    เมื่อเอื้อมหยิบ มาดูหมายเลขที่โทรเข้าถึงได้รู้ว่าใคร อิทนี่หว่า เอ้ย อิทจริง ๆ เหรอเนี่ย

    อื้อ อิทเหรอ มีอะไรหรือเปล่า แยมไม่สบายเหรอ

    ก็แล้วจะให้ถามอะไรในเมื่ออิทมันคงไม่ได้มีธุระอะไรมากมายหรอก
    เสียงที่เงียบหายไป ทำให้อารยะต้องเอ่ยถามอีกครั้ง

    เป็นอะไรหรือเปล่า

    แต่ก็ยังมีแต่ความเงียบอยู่เหมือนเดิม คราวนี้เลยต่างคนต่างเงียบ
    และฝ่ายที่ต้องเอ่ยขึ้นทำลายความเงียบก่อนก็คืออิทธิพล

    พรุ่งนี้จะมาหา....เอ่อ...แยมหรือเปล่า

    เสียงที่เอ่ยถามดูลังเลและไม่แน่ใจ

    แล้วอยากให้ไปหรือเปล่า ถ้าไม่อยากให้ไปจะได้ไม่ไป....

    คำตอบ ตัดพ้ออยู่ในที ทำให้อิทธิพลใจเสีย
    อ๋อ ตอบแบบนี้เลยเหรอ จะได้รู้ไว้ ว่าไม่อยากมา

    งั้นก็ไม่ต้องมาก็ได้.......น้องแยม....แค่คิดถึงลุงยะแค่นั้นแหละมั้ง....เห็นร้องไห้งอแง.....แต่ถ้าลุงยะไม่มาหาน้องแยม ก็คงไม่เป็นไรหรอก เพราะแยมเป็นเด็ก คงยังไม่ค่อยเข้าใจ

    ถามอีกอย่างกลับตอบอีกอย่าง แต่อารยะเข้าใจในทันที อย่างนี้แปลว่าอะไร ถ้าแบบนี้ พูดแบบนี้
    จะแปลว่าอะไร ถ้าไม่ใช่...........

    อ๋อ ..... น้องแยมคิดถึงหรอกเหรอ....อือ...แล้วน้องอิท...ก็คงไม่คิดถึงหรอกมั้ง....ขนาดตอนเย็นถามว่าเมื่อไหร่จะคิดเรื่องของเรา....น้องอิทก็ไม่เห็นจะตอบเลยนี่

    ใบหน้าที่เคร่งขรึม ค่อยมีรอยยิ้มกระจ่างบนใบหน้า อิท ไอ้อิทนะไอ้อิท ชอบทำให้ใจสั่นเรื่อยเลย
    แยมคิดถึงเหรอ
    แยมคิดถึงจริงหรือเปล่า

    แล้วพ่อแยมล่ะ คิดถึงหรือเปล่า ไหนบอกให้ฟังหน่อยสิ
    บอกให้ดีใจหน่อยเถอะ

    ไม่รู้....แล้วแต่น้องแยม

    แล้วแต่น้องแยมเหรอ อ้าว ถ้าแยมคิดถึง อิทก็ต้องคิดถึงเหมือนกันสิ แบบนี้

    เมื่อไม่กี่นาทีก่อน นั่งเครียด ไม่รู้จะจัดการกับชีวิตตัวเองยังไงดี แต่ตอนนี้ นั่งยิ้ม เพราะไม่รู้จะจัดการยังไงให้หุบยิ้มได้ซะที

    นอนแล้วนะ......ถ้าไม่มาก็ได้....ไม่ได้บังคับ....

    อ๋อ ถ้าไม่มาก็ไม่ได้บังคับ แต่จะคิดถึงมากขึ้น แปลว่าอย่างนั้นหรือเปล่า
    ถ้าใช่ แบบนี้ไม่ว่าฝนตกแดดออกก็คงต้องไปล่ะ........เล่นโทรมาทำเสียงน่ารัก น่ารัก ให้ฟังกลางดึกแบบนี้
    ใครจะไม่ไปกันล่ะ ต่อให้บังคับว่าไม่ให้ไป
    ก็จะไปหาจนได้น่ะแหละ ไปหาหลาน แล้วก็.........ต้องไปหาพ่อของหลานด้วย.......ไม่อย่างนั้นพ่อของหลาน
    จะงอน เพราะพ่อของหลาน ขี้งอน ถ้าไม่ง้อ เดี๋ยวจะยิ่งพาลน้อยใจ ปิดประตูเข้าห้อง ไม่ให้เจอหน้าอีก เดี๋ยวจะยิ่งยุ่งไปกันใหญ่

    งั้นพรุ่งนี้ไปหา....เอ่อ....น้องแยม....แล้วกันนะ....

    อารยะแกล้งตอบกวนประสาทไปอย่างนั้น ทั้งที่รู้ว่าคงทำให้อิทธิพลน้อยใจอีกเป็นแน่ ใบหน้าที่ไม่สามารถหุบยิ้มได้ ยิ่งยิ้มเข้าไปใหญ่

    เงียบสนิทเลย เป็นอย่างที่คิดไว้จริง ๆ

    งั้นอิทพักผ่อนเถอะ จะนอนแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวพรุ่งนี้ตื่นสาย....ไปหาช้าคงแย่...
    เพราะตอนนี้คิดถึงน้องอิทมาก.....น้องอิทคนดีนอนห่มผ้าด้วย
    เดี๋ยวไม่สบายไป....คนทางนี้คงจะไม่สบายตามไปด้วย....คิดถึงนะครับ

    ปลายสายถูกกดวางไปแล้ว โดยที่อิทธิพลยังคงงง กับคำพูดแปลก ๆ ที่อารยะพูด
    น้องอิท มันเรียกน้องอิทได้ไง ต้องเรียกน้องแยมสิ ถึงจะถูก.....น้องอิท

    คิดถึงนะครับ

    ห๊า.......น้องอิทมันกูนี่หว่า.......ไอ้ยะ.......ไอ้.....ไอ้

    อิทธิพลอยากจะตะโกนด่า แต่เมื่อหันกลับไปมองเด็กหญิงที่นอนดูดนมในขวด ตาแป๋วแหววนิ่งมองพ่อที่ทำหน้าแปลก ๆ แล้วเด็กหญิงก็ปล่อยขวดนมออกและหัวเราะเสียงดังเอิ๊กอ๊าก

    แยม...หัวเราะได้ไง..พ่ออิทกำลังเขินนะ...ทำไมแยมหัวเราะอ่ะ เอ้ายังหัวเราะอีก พ่ออิทอายนะเนี่ย
    เดี๋ยวหาพ่อให้แยมอีกคนหรอก ดีมั้ย หัวเราะไม่เลิก อย่างนี้ต้องถูกทำโทษ จุ๊บแก้มร้อยครั้ง

    แก้มของเด็กหญิงถูกตะโบมจูบซ้ำ ๆ กลิ่นแป้งเด็กอ่อน ๆ ที่ชื่นชอบ เสียงหัวเราะอ้อแอ้ของลูกสาว
    ทำให้อิทธิพลมีความสุขที่สุด

    พ่ออิทสัญญาว่าไม่มีกิ๊ก ถ้ามีขึ้นมา จะทำยังไงล่ะ.....แยมจะโกรธพ่ออิทหรือเปล่านะ แยมโกรธหรือเปล่า
    ถ้าแยมโกรธพ่อจะทำยังไงดี

     

    ***************************************

    น้องอิทน่ารักโคตรๆ  

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×