ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #143 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค อารยะ-อิท (ตอน เราไม่เคยคิดรักกัน )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.59K
      16
      9 ต.ค. 53

     ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค อารยะ-อิท  ตอน เราไม่เคยคิดรักกัน






    ปลายจมูกที่ซุกไซร้อยู่ที่ข้างแก้ม
    ปลายนิ้วอุ่น ๆ ที่เกลี่ยไล้หยดน้ำตาที่หลั่งรินไหล ไม่ขาดสาย

    เสียงสะอื้นแผ่ว ๆ ของอิทธิพล ทำให้อารยะอยากจะทะนุถนอมร่างนี้ และมอบความรู้สึกที่แท้จริงให้สักครั้ง

    "เกลียด.....อย่ามาทำเป็นร้องไห้ให้เห็นใจหน่อยเลย..."

    คำพูดที่ยังคงพรั่งพรูออกมาจากริมฝีปากของร่างที่ทาบทับอยู่เบื้องบนไม่ได้ทำให้ร่างที่หลับใหลรู้สึกตัวเลยสักนิด

    "อื้อ...ฮึก..ฮือ"

    ใบหน้าของอิทธิพลเอียงหลบปลายจมูกที่ถาโถมลงมาที่ข้างแก้ม อยากหนี ไม่อยากมีอะไรกับไอ้ยะแล้ว
    มีแต่ความเจ็บปวด กลัว... เจ็บจนกลัว

    เจ็บจนชินชา

    แต่ถึงอย่างนั้นแล้ว ก็ยังต้องฝืนทนต่อไป

    "เกลียด...ไอ้พวกไม่รักษาคำพูด..ไม่รักษาสัญญา"

    ฝ่ามืออุ่น ลากไล้ไปที่ยอดอก ลูบไล้วนเวียนกระตุ้นความรู้สึก ให้คนที่นอนร้องไห้ ไม่ยอมตอบรับความรู้สึกกันสักนิดได้รู้สึกร่วมกันบ้าง

    ริมฝีปากเย็นชื้นถูกครอบครองด้วยริมฝีปากร้อนรุ่ม สัมผัสแผ่ว ๆ เบาบาง ก่อนจะรุกเร้ามากขึ้น

    "อื้อ.."

    เสียงครางประท้วง ไม่ยินยอมรับปลายลิ้นที่สอดแทรกเข้าไป ยิ่งทำให้ร่างที่ทาบทับ อยากลิ้มลองรสชาติหวานล้ำภายในมากขึ้น
    เฝ้าสัมผัสแผ่วเบา เนิ่นนาน สัมผัสร้อนแรงร้อนรุ่ม แต่กลับอ่อนโยนอยู่ในที
    เป็นนานกว่าที่ริมฝีปากที่ขบเม้มแน่นจะค่อยเปิดรับ
    ปลายลิ้นที่สอดแทรกเข้ากระหวัดดูดดุนเร่งเร้าให้ตอบสนอง

    ไม่จริง.....เรื่องตลกอะไร

    เรื่องตลกอะไรกัน....ชั่วขณะหนึ่ง อิทธิพลรู้สึกเหมือนกับว่าร่างกายกำลังล่องลอย อยู่เหนือการควบคุม
    อยากจะดึงสติให้กลับคืนมา

    แต่เหมือนกับว่า ถูกช่วงชิง ความเป็นตัวของตัวเองไป จนแทบไม่รู้สึกตัวว่า ความรู้สึกและสัมผัสอ่อนโยนที่ได้รับ เป็นเรื่องจริง หรือความฝันกันแน่

    ฝัน.........ฝันหรือเปล่า

    ไม่มีทางที่ไอ้ยะมันจะอ่อนโยนให้

    ไม่เคยเล้าโลมไม่เคยออดอ้อน เอาความรู้สึกของตัวเองเป็นใหญ่

    แต่คนที่มอบความรู้สึกอบอุ่นอ่อนโยนให้เวลานี้....คน ๆ นี้เป็นใครกัน

    ฝัน.........เป็นความฝันหรือเปล่า

    หรือมันจะเป็นแค่ความฝัน

    "อิท...." เสียงกระซิบ.....ชื่อของใคร...อิท...ชื่อของใครกันนะ...น้ำเสียงแสนอ่อนโยน

    ใบหน้าคม มีรอยยิ้มเจือจาง หวานจังเลย....เรียกใครนะ...เรียกใคร

    "ยะ.....อื้อ...อึก..อ่ะ"

    ความรู้สึกนี้มันอะไรกัน..อ่อนโยน..อ่อนหวาน..ออดอ้อนให้หลงใหล

    ฝ่ามืออุ่น ๆ ที่โลมไล้ไปทั่วร่าง สัมผัสส่วนไหน กลับทิ้งความร้อนไว้ทุกที่ ที่สัมผัส

    ปลายลิ้นร้อน ลากไล้สัมผัสทั่วร่างที่สั่นสะท้านเพราะความรู้สึกที่ตื่นตัวขึ้น
    ขบฟันเน้นย้ำให้เกิดร่องรอย ไว้ทุกส่วน ที่ได้สัมผัส

    ก่อนจะเคลื่อนลงประทับรอยที่หน้าท้องแกร่ง และค่อยเข้าครอบครองแก่นกายที่แข็งขืนและตื่นตัว
    รับความรู้สึกอย่างช้า ๆ

    ร่างที่สั่นสะท้าน สะดุ้งสุดตัว ดวงตาคมหรี่ปรือตื่นขึ้น และได้เห็นว่ารอบตัวมีแต่ความมืดมิด

    อะไร....

    อะไร....

    อะไร...

    อะไร... ตอนนี้เกิดอะไรขึ้น...ทำอะไรอยู่...

    สติที่หลุดลอยกลับคืนอีกครั้ง และได้รับรู้ ว่าความอ่อนโยนที่ไห้รับไม่ใช่ความฝัน และเวลานี้ มันกำลังเกิดขึ้น

    "อ๊า...ไม่เอา....ไม่ไหว...มันทนไม่ไหว..." เสียงร้องครางแผ่วในลำคอ ประท้วงด้วยการขยับร่างหนีห่าง

    "อื้อ....อ่ะ"

    อิทธิพลพยายามจะมองให้ชัด จ้องมองฝ่าความมืดให้เห็น แต่กลับทนไม่ไหว เมื่อรู้สึกว่าร่างกายกำลังจะถึงจุดสิ้นสุด

    อยากหนี แต่ทำได้แค่ขบริมฝีปากเอาไว้ พยายามกลั้นเสียงร้อง ที่ไม่ว่าครั้งไหน ก็ไม่เคยหลุดรอดออกมา แต่ครั้งนี้ไม่ใช่

    ร่าง ทั้งร่าง สั่นไหวไปด้วยแรงอารมณ์ ที่ปะทุขึ้น

    ความร้อนที่ครอบครองร่างกายเอาไว้ สัมผัสจากปลายลิ้น ที่แตะต้องไปทั่วจากส่วนปลาย และไล้ระเรื่อย รุนแรงขึ้นทุกขณะ ร่างกายเกร็งแน่น และฝืนทนต่อไปอีกไม่ไหว ร่างกายแข็งเกร็งทุกส่วน และเมื่อถึงจังหวะสุดท้าย จึงรับรู้ว่าร่างกายกระตุกวูบ ร่างกายชาวาบ ไร้ความรู้สึกในทันที ภายในสมองขาวโพลน มองไม่เห็นภาพใด ๆ อีก

     

    "อึก อ๊า........" เมื่อถึงที่สุด ร่างกายที่ไม่อาจฝืนทน... จึงปลดปล่อยความร้อนที่อัดแน่นอยู่ในร่างออกมาจนหมดสิ้น

    ลมหายใจที่หอบหนัก....ค่อยปรับกลับเข้าสู่สภาวะปกติอย่างช้า ๆ และรับรู้ถึงบางสิ่งบางอย่างที่แทรกสอดเข้ามาภายในร่างอย่างเชื่องช้า

    หยาดหยดร่างกายที่ทิ้งเอาไว้ พอช่วยให้บรรเทาความเจ็บปวดที่จะต้องได้รับลดลงบ้าง

    "อึก อือ" บางอย่างที่สอดแทรกเข้าไป ใหญ่โตเกินกว่าจะรับได้ในคราวเดียว แต่เมื่อสอดแทรกเข้าไปจนสุด กลับมอบความรู้สึกบางอย่างมาให้

    ไม่เหมือนทุกครั้ง ที่ส่วนนั้น กระแทกกระทั้นเข้ามา เป็นครั้งแรกที่ได้รับรู้ถึงร่างกายของอีกฝ่าย ที่สอดประสานรวมกันนับครั้งไม่ถ้วน

    และเป็นครั้งแรกที่ไม่ได้รู้สึกถึงความรุนแรง และไม่ได้รู้สึกเจ็บปวดจนอยากหลีกหนีเหมือนทุกครั้ง

    "ดีมั้ย.....หือ...เจ็บหรือเปล่า"

    น้ำเสียงที่เอ่ยถาม อ่อนโยนและห่วงใย..ยิ่งทำให้อิทธิพลประหลาดใจ.....ไม่รู้ว่าต้องตอบอะไรออกไป
    ทำได้แค่ส่ายหน้า แทนคำตอบ

    สัมผัสเบาบางอ่อนโยนที่มาพร้อมการสอดแทรกร่างกายอย่างเชื่องช้าแผ่วเบา ทำให้รู้สึกว่าร่างกายที่เพิ่งได้รับการปลดปล่อย ค่อยตื่นตัวขึ้นอีกครั้ง

    ปลายจมูกที่คลอเคลียอยู่ที่ข้างแก้ม ไล้เรื่อยสัมผัสเข้าที่หน้าผาก และจรดริมฝีปากประทับอย่างอ่อนโยน

    ก่อนที่ร่างนั้นจะหยัดกายขึ้น และปลดผ้าที่รัดที่ข้อมือตลอดหลายวันมานี้ออกให้

    สิ่งแรกที่รู้สึกคือ....

    มือขยับไม่ได้....เหมือนกับว่ามือชา จนขยับเขยื้อนไม่ได้

    และเมื่อถูกช้อนแผ่นหลัง ยกให้ร่างทั้งร่าง ขึ้นมากดทับคนที่กำลังครอบครองทุกส่วนของร่างกายเอาไว้ ถึงได้รู้

    เรียวแขนถูกยกให้โอบรัดรอบคอของอารยะเอาไว้

    ฝ่ามือแกร่งลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลังเนียน และกดสะโพกมนให้แทรกร่างกายลงมาเพื่อสัมผัสกันให้มากขึ้น

    "อือ...." น้ำเสียงที่ครางเครืออยู่ในลำคอ ของอิทธิพล ถึงกับทำให้อารยะยิ้มรับอย่างยินดี

    สองร่างขยับกายตามความรู้สึก จากเรียบง่าย กลายเป็นเร่าร้อนขึ้นทุกขณะ
    ไม่รู้สึกถึงความโกรธเกลียดที่เคยมีให้กัน...รู้สึกถึงแต่ความสุขสม และความหวานชื่นที่ประเดประดังเข้ามา
    รู้สึกถึงแต่ความยินดี ที่มอบให้กันและกัน

    "ฮ่า...อะ"

    "ไหวมั้ย...." น้ำเสียงทุ้มนุ่มเอ่ยถาม เสียงพร่า และได้รับการส่ายหน้าเป็นคำตอบ

    "ไม่ไหว....อีก...แรงอีก..แบบนี้ไม่ไหว..อือ."

    เสียงที่ออดอ้อนอยู่ในที โดยที่เจ้าตัวไม่รู้สึก ทำให้อารยะยินดี และกอดรัดร่างที่ยังคงเคลื่อนไหวไปตามกัน เอาไว้แน่น

    ทุกส่วนของร่างกายแทบหลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกัน

    ทุกจังหวะที่ขยับกาย ทุกจังหวะที่สอดแทรก สร้างความรู้สึกเป็นสุขให้จนไม่อาจจะหยุดยั้งได้อีกต่อไป

    "อึก...อ๊า"

    ร่างกายที่สอดประสานกันอย่างลงตัว ขยับกายไปตามกัน
    เนิ่นนาน
    ที่ปล่อยให้ความรู้สึกที่แท้จริงเข้าครอบครอง
    เป็นนาน ที่หลงลืมความรู้สึกโกรธเกลียดกันไป

    ต่างสอดประสานร่างเข้าด้วยกัน ด้วยความเต็มใจ ไม่มีการขัดขืน
    มีแต่ความอ่อนโยนและอ่อนหวาน ที่มอบให้กัน

    และเมื่อถึงจังหวะสุดท้าย ความรุนแรงเร่าร้อนกลับโหมกระหน่ำซัดสาดไม่อาจหยุดยั้งได้อีก

    ต่างฝ่ายต่างทุ่มเทเรี่ยวแรงที่มีอยู่ให้กันและกัน

    ภายในที่บีบรัดแน่น ทำให้อารยะทนต่อไปอีกไม่ไหว กระแทกกระทั้นร่างกายเข้าออกอย่างรุนแรง

    รับรู้ถึงความเจ็บปวดที่บริเวณลาดไหล่ของร่างที่มอบความสุขให้
    ปลายเล็บที่จิกเข้าไปที่เนื้อ ร่างที่อยู่เบื้องบนเกร็งร่างกายแน่นรับแรงกระแทกกระทั้นรุนแรง
    เอาไว้จนหมดสิ้น

    "อึก อือ"

    หยาดหยดอุ่นร้อนที่กักเก็บอยู่ภายในร่างกายหลั่งรินออกมาจนหมดสิ้น

    ความอุ่นร้อนที่ฉีดพ่นเข้าไปภายในร่าง เมื่อถึงจังหวะสุดท้ายยิ่งทำให้รู้สึก

    อิทธิพลเอนศรีษะซบลงที่ไหล่ของร่างที่สงบนิ่งลงแล้ว

    รับรู้ถึงลมหายใจที่หอบหนักของอีกฝ่าย

    ไม่มีคำพูด.....มีแต่ความเงียบจนน่าอึดอัดใจ

    มีความรู้สึกร่วมกันได้มากขนาดนี้เลยเหรอ ทั้งที่เกลียดกันมากขนาดนี้
    กลับทำเรื่องแบบนี้ได้อย่างไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยหรือไงกัน

    ฝ่ามืออุ่น ๆ ยังคงลูบไล้ไปทั่วแผ่นหลัง และดูเหมือนเจ้าตัวเองก็คงยังไม่รู้สึกตัว
    ว่าเผลออ่อนโยนกับคนที่เกลียดไปแล้ว

    เงียบ......

    ต่างฝ่ายต่างเงียบงัน.....อะไรบางอย่างที่ก่อตัวภายในใจเงียบ ๆ

    เงียบสงบ นิ่งเงียบ โดยที่ไม่เคยรู้สึกตัว ว่ามีความรู้สึกนี้อยู่ปนมากับความเกลียดและโกรธแค้นด้วย

    "พรุ่งนี้....ต่างคนต่างไป....อย่ามาเจอกันอีก....ต่อไปนี้....ถือว่าหมดเวรหมดกรรมต่อกัน....
    ถึงเจอกันแต่จะไม่รู้จักกันอีก....ทุกอย่างที่ผ่านมาถือว่ามันไม่เคยเกิดขึ้น....เราไม่เคยเจอกัน...แล้วเราก็ไม่เคยรู้จักกัน..."

    คำพูดเรียบเรื่อย น้ำเสียงเย็นชา ทำให้อิทธิพลต้องซุกหน้าลงที่ลาดไหล่กว้างอีกครั้งและโดยที่ไม่ทันคาดคิด
    ว่าตัวเองจะถึงกับต้องหลั่งน้ำตาหลังได้ฟังคำพูดที่แสนเย็นชาของอีกฝ่าย

    หยดน้ำที่หลั่งรินที่หน่วยตา

    ก่อนจะไหลลงอาบแก้ม ร่างทั้งร่างสั่นสะท้านเพราะแรงสะอื้นไห้จนร่างที่โอบกอดเอาไว้รับรู้ได้

    "เราไม่เคยเกลียดกัน...เราไม่เคยเป็นเพื่อนกัน...เราไม่รู้จักกัน..."

    อีกครั้งที่คำพูดที่ถ่ายทอดออกมาจากริมฝีปากของอารยะ ยิ่งบีบคั้นหัวใจของร่างที่กำลังสั่นไหวให้รู้สึกเจ็บปวดรวดร้าวยิ่งขึ้น

    "เราไม่เคยเกลียดกัน....เราไม่เคยเป็นเพื่อนกัน...เราไม่รู้จักกัน.......ขอบใจนะ...ขอบใจมาก..."

    อิทธิพลทวนคำพูดของอดีตเพื่อนอย่างหมองเศร้า พยายามสะกดกลั้นเสียงสะอื้นไห้ในลำคอเอาไว้

    นี่คงเป็นทางออกที่ดีที่สุดแล้ว......

    เราไม่เคยเกลียดกัน.....ใช่แล้ว...เราไม่เคยเกลียดกัน
    เราไม่เคยเป็นเพื่อนกัน...ใช่แล้ว..เราไม่เคยเป็นเพื่อนกัน
    เราไม่เคยรู้จักกัน...ใช่แล้ว...เราไม่เคยรู้จักกัน

    เราไม่เคย....ผูกพันกัน...เราไม่เคยร้องไห้ด้วยกัน...ใช่....ใช่....ใช่.....ใช่

    แล้วเราก็ไม่เคยรักกันด้วย........ใช่.....เรา.....ไม่เคยแม้แต่จะคิด.....ว่าเราจะรักกัน...ได้มากขนาดนี้

    ใช่......เราไม่เคยคิดว่า.......เราจะรักกัน

     

    ************************************

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×