ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #133 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค อารยะ-อิท (ตอน ครุ่นคิด )

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.55K
      12
      28 ก.ย. 53

      ปรัชญาช่างกลยามศึกเรารบยามสงบเราซ้อมรักกันเอง ภาค อารยะ-อิท ตอน ครุ่นคิด





    ดึกแล้วเหรอ........มืดอีกแล้ว.....

    วันที่เท่าไหร่แล้วนะ...............จำไม่ได้

    แยมกินนมแล้วหรือยัง ใครเปลี่ยนผ้าอ้อมให้แยมล่ะ พ่ออิทไม่อยู่.......สงสัยไม่ใช่ย่าเล็กก็ย่าใหญ่แน่ ๆ เลย
    ใบหน้าคมยิ้มระรื่นอย่างมีความสุขเมื่อนึกถึงลูกสาวตัวน้อย ที่มักจะยิ้มอยู่เสมอ เมื่อเขาทำหน้าตาตลก ๆ ใส่
    ก่อนจะค่อยเครียดขรึมลงอีกครั้ง

    แยม.....พ่ออิทจะตายอยู่ในนี้แล้วไม่ได้กลับไปเห็นหน้าแยมหรือเปล่านะ..........พ่อคิดถึงลูกเหลือเกิน....

    หยดน้ำคลออยู่ที่ดวงตาคม ก่อนจะหลั่งรินลงช้า ๆ

    คิดถึงลูก
    อยากกลับไปหา
    แต่คงจะตายอยู่ที่นี่

    แยม......อยากเห็นแยมโตเป็นผู้ใหญ่ อยากพาแยมไปส่งที่โรงเรียนอนุบาล

    พ่ออิทจะหัดถักเปียให้แยม เวลาไปโรงเรียน

    แต่ตอนนี้พ่ออิทไปไม่ได้แล้ว พ่อจะตายอยู่ที่นี่หรือเปล่านะ

    ดวงตาคมหรี่ปรือลงอีกครั้ง พร้อมกับหยดน้ำใสที่ยังคลออยู่ที่หน่วยตา ความอ่อนล้า จากฝีมือของคนที่นอนนิ่งสงบอยู่เคียงข้างทำให้อิทธิพลค่อยผล็อยหลับไปอีกครั้งด้วยความอ่อนเพลีย ไม่รับรู้เรื่องราวต่าง ๆ รอบตัวอีก

    อารยะหันใบหน้าไป จ้องมองใบหน้าของคนที่นอนนิ่ง ๆ อยู่เคียงข้าง ก่อนจะยกแขนขึ้นก่ายหน้าผากด้วยความกลัดกลุ้ม

    กี่รอบ........ทำอย่างนั้นไปกี่รอบแล้ว
    นี่แค้นไอ้อิทมากจนถึงขนาดนี้เลยเหรอ......เวลาโมโห เหมือนมีอะไรมาบังตา
    ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี รู้แต่อยากทำให้หายแค้น

    แต่พอทำไปเรียบร้อยแล้ว

    แรงไปหรือเปล่า

    แบบนี้ไม่เท่ากับตายทั้งเป็นหรอกเหรอ.........

    ก็ดีแล้วไง.....สาสมแล้ว.....ให้มันไม่กล้าสู้หน้าใคร ๆ ให้มันรู้อยู่แก่ใจของมัน ว่าโดนทำอะไรไปบ้าง
    มันจะได้ไม่มีศักดิ์ศรี แบบนี้แหละดีแล้ว สะใจสุด ๆ จะไปสนใจมันทำไมกัน

    แม้จะคิดอย่างนั้น แต่อารยะกลับลุกขึ้นนั่ง และค่อยหันไปมองร่างที่นอนสงบนิ่งอยู่เคียงข้างด้วยความรู้สึกหลากหลาย


    ความรู้สึกสับสน ตีกันพัลวันในความคิด สะใจดีแล้วแบบนี้ แค่นี้มันยังน้อยไป พรุ่งนี้จะเอามันอีกหลาย ๆ รอบให้มันตายห่าไปเลยยิ่งดี จะแก้แค้นอย่าใจอ่อน ให้มันจำ จำไปจนวันตายเลยยิ่งดี

    ถึงแต้จะคิดอย่างนั้นแล้ว แต่กลับไม่รู้จะทำยังอย่างไรต่อไป

    เมื่อก่อนไอ้อิทมันเรียนห้องเดียวกันสมัยเรียน ปวช. แล้วก็เล่นด้วยกันมาตลอด ไปวิ่งไล่ตีกับชาวบ้านจนขึ้นโรงพักไม่รู้กี่หัน ไม่ได้อยากทำแบบนั้นหรอก เพื่อนมันพาไป ก็คึกคะนองไปตามวัย ไปนั่งตบยุงเล่นอยู่ในห้องขังกันก็เคยมาแล้ว วิ่งไล่เตะกันก็บ่อย


    แต่ตอนนี้เรียน ปวส. แล้วอีกไม่กี่เดือนก็จะจบแล้ว เพิ่งมาแยกกับไอ้อิทจริง ๆ ก็ปีกว่า ๆ แล้วมันก็ไปเที่ยวไปค้างที่บ้านบ่อย ๆ จนเป็นเรื่องปกติ


    ตอนที่รู้ว่ามันแอบมายุ่งกับน้องสาวแล้วก็ไม่นึกว่ามันจะเอาจริง ๆ


    ตอนหลังถึงได้รู้ว่าถูกมันหยามเข้าแล้ว มิหนำซ้ำน้องสาวดันท้องกับมันอีก พ่อแม่รู้เรื่อง เลยยิ่งไปกันใหญ่ ไม่นึกว่าไอ้อิทมันจะทำแบบนี้ ตั้งแต่มันพาน้องสาวออกไปอยู่ที่บ้านของมัน มันก็ยังเที่ยวไปยุ่งกับผู้หญิงคนนั้นคนนี้อีก คิดแล้วก็อดสงสารน้องสาวไม่ได้ แต่ตอนนั้นไม่ได้พูดกันอีกแล้ว แม้แต่หน้าก็ยังไม่มองกันเลยด้วยซ้ำ

    ที่จริงไอ้อิทมันเป็นพวกชอบแกล้ง ชอบหยอกล้อคนนั้นคนนี้ไปทั่ว อยู่ใกล้กับมัน ก็หัวเราะบ่อย ๆ
    เพราะมันชอบหาว่าเขาทำหน้าเครียดและมันก็มันจะล้อเลียนอยู่เป็นประจำ สุดท้ายก็หัวเราะเพราะไอ้อิทอยู่บ่อย ๆ มันเป็นมือกีต้าร์ประจำห้อง ...............ใครอยากร้องเพลงอะไรมันเล่นได้หมด
    แต่งเพลงก็เป็น เพลงบ้า ๆ บอ ๆ อะไรของมันก็ไม่รู้ แต่ก็กลายเป็นเพลงประจำกลุ่มไป
    แถมมันยัง ปากหวานจนสาว ๆ ติดกันเกรียว...... แต่ตอนนี้.............

    อารยะคิดถึงเรื่องเก่า ๆ ที่ผ่านมาแล้วก็หันหน้าไปมองคนที่นอนนิ่งเงียบ อยู่เคียงข้างอีกครั้ง
    ตอนนี้เริ่มคิดหนัก...ว่ามาถูกทางแล้วหรือเปล่า
    แต่ตอนนั้นที่ทำไป.........ก็คิดทบทวนมาแล้ว ว่าอยากสั่งสอนมันให้รู้สำนึกบ้าง...
    แต่ตอนนี้...หลังจากได้ระบายความแค้นที่อัดแน่นอยู่ในใจออกไปแล้ว
    ความรู้สึกที่จวนเจียนจะระเบิดมันถึงค่อยบรรเทาลงบ้าง

    แล้วนี่กูเกิดจะเห็นใจมันขึ้นมาหรือไงวะ..... ไม่มีทางหรอก ทำแล้วไม่มีทางมาเสียใจที่หลังเด็ดขาด
    พรุ่งนี้ หรือวันถัดไป ก็จะทำอย่างนี้อีก ให้มันสลบไปเลยยิ่งดี สะใจดี หรือจะให้ดีกว่านี้ก็เล่นให้มันตายไปเลย
    คนอย่างไอ้อิท......มันต้องเจอแบบนี้ มันถึงจะสาสม

    แม้จะคิดอย่างนั้น แต่ใบหน้าที่เคร่งเครียดอยู่เสมอกลับยิ่งเคร่งขรึมมากกว่าที่เป็น
    เมื่อทำอะไรไม่ได้อีกจึงได้แต่เอนหลังลงนอน
    และยกแขนขึ้นก่ายหน้าผากนิ่งคิดอยู่อย่างนั้นด้วยความสับสนว้าวุ่นใจ

    แล้วพรุ่งนี้ล่ะ พรุ่งนี้จะเอายังต่อไปดี อารยะครุ่นคิดไปมาหลายตลบ แต่ข่มตาให้หลับไม่ได้สักที

     

    *********************************

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×