คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #81 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ปู- ฝน (ตอน พ่อ แม่ ลูก)
“ตอนแรกผมว่าจะทอดไข่ดาวแล้วก็ทำอาหารเช้า...เมื่อวานผมกับน้องกุ้งเลยไปซื้อของมาเต็มตู้เย็นเลย...แล้วกลายเป็นว่าคุณปูต้องมานั่งทำเองอย่างนี้....ผมใช้ไม่ได้เลยเนอะ”
เสียงบ่นงึมงำมาพร้อมกับที่หนุ่มร่างสูงใหญ่ ทำได้แค่เป็นคนสังเกตการณ์และหยิบนั่นหยิบนี่ส่งให้เป็นบางครั้ง
“ถ้วย....” คำสั่งของไอ้ปู ทำให้น้ำฝนต้องรีบคว้าถ้วยมาส่งให้
โดยมีเด็กหญิงตัวเล็กอีกคน กำลังนั่งเด็ดผักอยู่ห่างออกไปเพื่อจะให้พี่ชายใช้ในการประกอบอาหาร
“พี่ปูหนูเด็ดใบตำลึงเสร็จแล้ว” เสียงแหลมเล็กของเด็กหญิง เรียกให้พี่ชายหันกลับมามอง และชูตะกร้าใส่ผักให้พี่ชายดู
“เก่ง ๆ งั้นตีไข่ด้วย....” เสียงตอบกลับทำให้เด็กหญิงตัวเล็กขะมักเขม้นกับการตอกไข่ใส่ถ้วย และใช้ช้อนส้อมคนไปมา
“แล้วผมทำอะไรอ่ะ
ยืนส่งจานให้คุณปูเหรอ....ผมก็อยากทำอย่างอื่นบ้างเหมือนกันนะครับ”
เสียงบ่นงึมงำพร้อมกับที่น้ำฝนทำหน้ายุ่งเหยิง
ยืนมองแกงส้มในหม้อที่กำลังเดือด สีสันน่ากิน เห็นแล้วก็เริ่มหิวขึ้นมา
“อยากจะลองทำเองมั้ยล่ะ...จะได้ให้ทำ” ไอ้ปูหันมายักคิ้วให้กับคนที่ยืนทำหน้ายุ่งอยู่ข้าง ๆ แล้วน้ำฝนก็ทำได้แค่เบะหน้า แล้วก็ยืนมองพ่อครัวทำอาหารต่อไป
“แค่ไข่ดาวยังไม่รอดเลยครับ....อย่างอื่นสงสัยจะกินไม่ได้” ร่างสูงใหญ่เดินมานั่งข้าง ๆ เด็กหญิงและนั่งมองว่าจะทำอะไรได้บ้าง
“พี่ปูทำกับข้าวอร่อยที่สุดในโลก...รองจากแม่จ๋าของหนูเล้ย” เสียงหัวเราะทำให้น้ำฝนหันไปมองคนที่กำลังขะมักเขม้นกับการเติมเครื่องปรุงลงในหม้อ
“พี่ก็คิดว่างั้นแหละน้องกุ้ง....เสียอย่างเดียว...โหดไปหน่อย...ชอบเอาพี่ไปทำกระสอบทรายเตะเล่น”
ใบหน้าคมหัวเราะเสียงเบา จงใจประชดให้ไอ้ปูได้ยิน และก็ได้ผล เมื่อคำพูดนั้นยุให้คนที่กำลังทำอาหารหันหน้ามามองก่อนจะทำท่าเหมือนจะขว้างทัพพีมาใส่คนพูด
“เดี๋ยวโดน...เดี๋ยวโดน...จะกินดี ๆ หรือจะกินด้วยน้ำตา” เสียงดังโวยวายของไอ้ปู ทำให้ทั้งเด็กหญิงตัวเล็กและน้ำฝนต้องหัวเราะขำกันอยู่สองคน
“พี่บอกแล้วว่าพี่ปูโหด....เห็นมั้ยน้องกุ้ง...พูดยังไม่ทันขาดคำเลย...” เสียงกระซิบกระซาบตามมาด้วยเสียงหัวเราะ
ทำให้ไอ้ปูนึกขำอยู่ในใจ......
มีกระซิบกระซาบกันด้วยนะ ชักจะเข้ากันเกินไปแล้ว
“ฝน...ชิมดิ..เปรี้ยวไปมั้ย....ไหนมาลองชิมก่อน...เดี๋ยวไม่ถูกใจเจ้าของบ้านจะมาว่าคนทำไม่ได้นะ”
น้ำฝนลุกขึ้นยืนและเดินไปยืนอยู่ข้าง ๆ พ่อครัว
และทัพพีที่มีน้ำแกงส้มร้อน ๆ ก็ถูกเป่าให้คลายร้อนก่อนจะส่งให้ชิมรสชาด
“อือ...รสนี้ก็ได้ครับ...ไม่ค่อยเผ็ด...อร่อยดี...” คำบอกเล่า ทำให้ไอ้ปูตักน้ำแกงมาชิมอีกครั้ง และก็ยกหม้อลงจากเตา ก่อนจะตั้งหม้อน้ำเพื่อทำต้มจืดเป็นกับข้าวอีกอย่าง
“สับหมูเสร็จหรือยัง...เดี๋ยวจะเอามาสับใส่กระเทียม...น้ำซุปจะได้หอม ๆ “
คำสั่งทำให้น้ำฝนต้องเดินไปหั่นหมูชิ้นใหญ่ใส่เขียงอย่างทุลักทุเล ก่อนจะรีบหันไปเอ่ยถาม
“มันจะพอเหรอครับ....แค่นี้...แล้วหั่นชิ้นใหญ่มั้ยครับ” เสียงที่ถามทำให้ไอ้ปู ต้องรีบเดินมาคว้ามีดเพื่อสาธิตการหั่นให้น้ำฝนดูเป็นตัวอย่าง....
“เป็นมั้ยเนี่ย..ชิ้นประมาณนี้แหละ...แล้วก็เอาแค่ครึ่งเดียวแล้วกัน...ไหนจะวุ้นเส้นไหนจะผักอีก...เนี่ยแหละ
แล้วก็สับให้ละเอียดด้วย....”
พ่อครัวสั่งลูกมือ ก่อนจะหันไปสนใจกับหม้อน้ำบนเตา
“พี่น้ำฝนหนูปอกกระเทียมเสร็จแล้ว....เอาใส่เลยนะ...”
กระเทียมเม็ดเล็ก ๆ ถูกนำมาโปรยใส่หมูบนเขียง และที่เหลือก็เป็นหน้าที่ของน้ำฝนแค่นั้นเอง
เสียงสับดังสนั่น และภายในเวลาไม่ถึงสามนาที หมูบนเขียงก็แหลกละเอียด
“ได้ยังอ่ะครับ....แค่นี้ใช้ได้หรือยัง”
ต้องถามเป็นระยะ เพราะไม่มีความสามารถในการทำอาหารจริง ๆ ต้มมาม่ากินเองได้ก็นับว่าเป็นบุญแล้ว
“เอาใส่ชามมาเลย จะเอาใส่หม้อแล้ว น้ำเดือดพอดี” หมูสับบนเขียง ถูกลำเลียงใส่ถ้วย และถูกปั้นเป็นก้อนกลม ๆ หย่อนลงในหม้อน้ำเดือด จนหมด
“พี่ปู...ใส่ผักตำลึง...หนูเด็ดเสร็จแล้ว....”
ตะกร้าผักถูกนำมายื่นให้กับพี่ชาย และผักในตะกร้าก็ลงไปอยู่ในหม้อน้ำ
“ตักแกงสิ....แล้วก็ยกข้าวออกไปเลย.....เตรียมจานออกไปได้แล้ว...หิวว่ะ”
คำสั่งถูกส่งผ่านมาถึงลูกมือ และทั้งเด็กหญิงตัวเล็ก กับชายหนุ่มตัวโต ก็กลายเป็นพนักงานเสริฟอาหารในทันใด
“เดี๋ยวทำต้มจืดเสร็จ เดี๋ยวยกออกไปเอง.......ตักข้าวไว้ก่อนก็ได้....เดี๋ยวจะร้อนเกิน”
ไอ้ปูสาละวนอยู่กับการชิมรสชาติของแกงจืด...และก็ยืนรอให้ส่วนผสมในหม้อเข้ากันเท่านั้น
ส่วนคนรอกินข้าว ก็ไปยืนรอที่โต๊ะอาหารนอกครัวแล้ว
เป็นนานจนน้ำฝนต้องเดินเข้ามาหาคนในครัว ที่ยืนนิ่งเฉยอยู่......ไม่ยอมออกไปสักที
และภาพที่เห็น....คนที่เคยเอาแต่เอะอะโวยวายกำลัง ยกแขนขึ้นปาดน้ำตา....ที่ไหลลงอย่างช้า ๆ
เหมือนกำลังนิ่งคิดอะไรบางอย่าง.......ทำไมเวลาของความสุขไม่หยุดอยู่แค่นี้...
ทำไมเข็มนาฬิกาต้องเดินไปไม่ยอมหยุด
“คุณปูครับ.....”
เสียงของคนที่เรียกชื่อทำให้เจ้าของชื่อถึงกับสะดุ้ง ก่อนจะรีบหันหลังกลับไปขะมักเขม้นกับการตักแกงจืดใส่ชาม และใช้จานรองไว้กันร้อน ก่อนจะถือเอาไว้ เพื่อน้ำไปเสริฟ
แต่ก็ถูกอีกฝ่ายคว้าเอวเอาไว้ และถูกสวมกอดจากด้านหลัง
“ไอ้ฝน....ถ้าถ้วยแกงจืดตกแตก....มึงรับผิดชอบเลยนะ” เสียงเอ็ดไม่ได้ทำให้น้ำฝนสะทกสะท้านเลยสักนิด
“ครับ...” การตอบรับเบา ๆ พร้อมกับที่สองร่างหยุดยืนนิ่งอยู่กับที่ ...แต่ก็ทำได้แค่นี้เท่านั้น
ไม่นานนัก....อ้อมแขนแข็งแกร่งก็ปล่อยให้ร่างนั้นเป็นอิสระ ก่อนจะค่อย ๆ เดินตามออกมาจากในครัว
“หนูหิวแล้ว....หนูอยากกินไข่เจียวแล้ว” เสียงใสแจ๋วของเด็กหญิง ทำให้ทั้งไอ้ปู และน้ำฝน ต้องรีบเอาถ้วยต้มจืดมาวางเอาไว้บนโต๊ะ
ผ้ากันเปื้อนถูกปลดออกและก็ติดสายผูกข้างหลังจนทำให้แกะไม่ออก จนน้ำฝนต้องเป็นคนเอื้อมมือไปแกะปมผ้าให้
“พี่ปูกับพี่น้ำฝน....เหมือนพ่อกับแม่เลยเนอะ....แล้วกุ้งก็เป็นลูก”
คำพูดของเด็กหญิง ไม่มีเจตนาแอบแฝง แต่ก็ทำให้ผู้ใหญ่สองคนมองหน้ากัน ก่อนจะชะงักนิ่งอยู่อย่างนั้น
ปมผ้าถูกแกะออกแล้ว โดยที่ทั้งไอ้ปู และน้ำฝน ต้องทำทีเป็นสนใจกับอาหารตรงหน้า
“กินผักด้วยกุ้ง....อันนี้กุ้งชอบ....อร่อยด้วยหมูสับนะ...” ต้มจืดในถ้วยถูกตักใส่จานข้าวของเด็กหญิง
ใบหน้าคมมีรอยยิ้มเจือจาง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง คนที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
รอยยิ้มอ่อนโยนถูกส่งมาให้ พร้อมกับที่ไอ้ปูส่งยิ้มเศร้า ๆ กลับไป
ก่อนจะก้มหน้าลง ทำทีเป็นสนใจกับการตักอาหารใส่จานข้าวของน้องสาว
ไม่ต่างกับน้ำฝน........ที่เก็บบันทึกสิ่งดี ๆ ในวันนี้....เอาไว้หมดทุกอย่าง...เก็บเอาไว้จนหมด...ทุกวินาที.....
ใบหน้าคมหมองเศร้าลง........เมื่อรู้ว่าเวลาที่จะได้อยู่ด้วยกัน...เหลือน้อยลงทุกที
เหลืออีกกี่วันนะ........กี่วันที่จะได้อยู่ด้วยกันอย่างนี้........เหลือเวลาอีกกี่วัน
*********************************
น่าสงสารอ่าาา ทำไมคนเม้นน้อยจังเลยอ่ะ เห็นแล้วเหนื่อย
ความคิดเห็น