คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #38 : ปรัชญาช่างกล ฯ ภาค ภาคี-ต้นสน (ตอน แล้วเราก็รักกัน 3)
ร่างโปร่งบางเดินเข้าบ้านที่อยู่ถัดออกไปอีกหลายซอยจากที่ชายหนุ่มจากแผนกโยธามาส่ง เขาไม่อาจจะทนเห็นหน้าคนคนนั้นได้อีกต่อไป ทั้งอัปยศทั้งสมเพชตัวเอง
“น้าต้นสน....แม่ยังไม่กลับเลยอ่ะ...สายังไม่ได้กินข้าวเลย” เด็กหญิงอายุตัวเล็กเดินเข้ามาเกาะขาของร่างบางนั้นไว้
นี่น้องสาวของเขาไปเที่ยวกลางคืนอีกแล้วหรือนี่ ทิ้งลูกไว้แบบนี้ได้ยังไง เด็กอายุแค่ 6 ขวบเองนะ ทิ้งให้อยู่บ้านตามลำพังคนเดียวได้ยังไงกัน
บ้านนี้เขาอยู่กับน้องสาวที่เอาแต่เที่ยวเล่น ไม่เคยสนใจเรื่องรอบตัว หล่อนเป็นเด็กสาวอายุเพียง 19 ปี แต่ตั้งครรภ์เมื่ออายุเพียง 13 ปี ทำให้ไม่มีความรับผิดชอบ แม่ของเขาเพิ่งเสียไปเมื่อปีก่อน ทิ้งบ้านหลังเล็ก ๆ ไว้ให้เขาและน้องสาวได้อยู่ ไม่มีสมบัติพัสถานอื่น ๆ นอกจากสิ่งของเครื่องใช้จำเป็น
“น้าต้นสน...หนูอยากกินไข่เจียวอ่ะ..น้าต้นสนทำให้หนูได้มั้ย” เด็กหญิงร่างเล็กร้องขอตาแป๋ว แล้วเขาจะไม่ทำให้ได้ยังไงกัน
“กินข้าวเสร็จแล้วสาต้องอาบน้ำ...แล้วนอนเลยนะ...” เขาก็ทำได้แค่นี้ คนที่ไม่เคยมีความรู้ในการเลี้ยงเด็กเลย แต่ต้องมาแบกรับภาระจนหมดทุกอย่าง ทั้งค่ากิน ค่าใช้จ่ายส่วนตัว โชคดีที่พอมีเงินเก็บสำหรับเป็นค่าเทอมบ้าง ส่วนค่าเล่าเรียนของเด็กหญิง เขาก็ต้องขวนขวายหามาจากการเป็นพนักงานกะดึกของร้านสะดวกซื้อแห่งหนึ่ง
“จ๊ะ...หนูกินแล้วหนูจะรีบนอน” เด็กหญิงตัวเล็กเดินเข้าไปรอบนเก้าอี้ในครัว ดวงตากลมโตใสแจ๋วจับจ้องอยู่กับการตีไข่และทอดลงในกระทะร้อนๆ ของผู้ที่เป็นน้าชาย
“น้าต้นสน....เมื่อไหร่แม่จะกลับมา” เสียงแหลมเล็กของเด็กหญิงเอ่ยถามผู้เป็นน้าและยกช้อนตักข้าวใส่ปากพร้อมกับไข่เจียว เมื่ออัษฏานำมาวางไว้ตรงหน้าพร้อมกับข้าวสวยร้อนๆ
“น้าต้นสนก็ไม่รู้...เดี๋ยวสากินเสร็จแล้วเอาไว้นี่แหละ...เดี๋ยวน้าต้นสนไปอาบน้ำก่อนนะ” ร่างโปร่งบางเดินเข้าห้องเตรียมตัวอาบน้ำ ก่อนจะก้าวไปยืนที่หน้ากระจก
เอ๊ะ...เสื้อไม่ใช่เสื้อชอร์ปของเขานี่ เป็นของหนุ่มจากแผนกโยธาคนนั้น ล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อก็พบกับกระดาษแผ่นเล็กๆ บัตรเอทีเอ็มสองใบและเงินสดที่ขยำยู่ยี่อีก 7,000 บาท เศษเงินเหรียญและแบงค์ย่อยอีกเกือบ 300 บาท ที่คอของเขายังมีสร้อยและพระเลี่ยมทองอีก 1 องค์ กระเป๋าข้างซ้ายมีโทรศัพท์มือถือเครื่องเล็ก ๆ รุ่นล่าสุดที่ถูกถอดซิมออกแล้ว ของทุกอย่างไม่ใช่ของเขาเลยแต่เป็นของหมอนั่น
ร่างโปร่งบางรีบ แกะกระดาษแผ่นที่มีลายมือขยุกขยิกเขียนไว้
-----ให้สนหมดนั่นแหละ
รหัสบัตรเอทีเอ็มคือ 1234 ส่วนอีกใบคือ 2641
มีเงินอยู่ประมาณ 32,000 บาท
ส่วนโทรศัพท์ใส่ซิมแล้วก็ใช้ได้เลย
พระเอาเก็บไว้คุ้มครองตัวเอง อย่าขายนะ ----
มือเล็ก ๆ พลิกกลับไปกลับมาหลายตลบ แต่ก็ไม่พบว่ามีข้อความอื่นๆ
นี่มันทำบ้าอะไรของมัน เอาของพวกนี้มาฟาดหัว เห็นเขาเป็นไอ้ตัวหรือไง ชาตินี้ไม่อยากเจอคน ๆ นี้อีก แต่ต้องเอาของพวกนี้กลับไปคืนหมอนั่นให้ได้ ไอ้แผนกโยธา นึกหรือไงว่าของพวกนี้จะทำให้เขาดีใจแล้วลืมเรื่องเลว ๆ ของมันซะ ตอนแรกก็ไม่อยากให้อะไรมันไปกันใหญ่ อยากจะรีบๆ ลืมๆ มันซะ แต่ทำไมต้องดูถูกกันขนาดนี้ด้วย ทำไมกัน
*************************
“เมื่อกี้ลงตรงนี้นี่หว่า...แล้วไปไหนแล้ววะ...ตรงนี้มันมีซอยที่ไหนกัน” ร่างสูงของหนุ่มแผนกโยธา เดินวนไปวนมา อยู่ตรงที่ๆ ที่เขาส่งร่างบางลงจากรถ
นั่งรถไปตั้งไกลแล้ว ในสมองก็สั่งตัวเองว่า ครั้งเดียวจบดีกว่า ไม่อยากยุ่งด้วยแล้ว แต่ใจมันสั่งว่า กลับมาดูหน่อยก็ไม่เสียหาย หน้ามันซีดขนาดนั้น เดี๋ยวจะกลายเป็นว่าแล้งน้ำใจ เขาเองก็คิดว่าข้าวของเครื่องใช้ของตัวเองที่ให้ไปมันก็ไม่ใช่น้อยหรอก ถึงแม้มันไม่ได้มากมายสำหรับเขา แต่ก็ทำให้ความรู้สึกผิดของตัวเองลดลงไปได้บ้างนิดหนึ่ง ป่านนี้กลับถึงบ้านแล้วมั้ง
ไออุ่นที่ได้กกกอดยังติดตรึงอยู่ในความทรงจำทุกขณะจิต เขาเดินวนไปมาอีกหลายรอบ ก่อนจะรู้แน่แล้วว่าคงไม่รู้ว่าร่างบางนั้นไปทางไหนแน่จึงโบกแท็กซี่กลับบ้าน
คืนนั้นทั้งคืนเขาเอาแต่พลิกกายกลับไปกลับมาอยู่หลายตลบ รู้สึกไม่สบายใจมากที่ทำแบบนั้นลงไป ยิ่งไอ้สนแผนกสารพัดช่าง มันไม่เอาเรื่องไม่โวยวายก็ยิ่งรู้สึกผิด
เสื้อชอร์ปของแผนกสารพัดช่างของอัษฎา ถูกเขาเอามาคลุมหน้าไว้ ชายหนุ่มสูบบุหรี่ไปหมดทั้งซองและกำลังจะหมดซองที่สองจึงเข้ามานอน แต่มันก็นอนไม่หลับ ไม่รู้ว่าไอ้หน้าหวานๆ เปื้อนน้ำตามันจะตามมาหลอกมาหลอนเขาไปถึงไหน
ผู้ชายเหมือนกัน แถมลีลาก็ไม่ได้เรื่องเลยสักนิด แค่โดนทำไปครั้งแรกแค่นั้นเอง เขาเองก็เอาแต่บอกตัวเองซ้ำๆ ว่า อย่าไปสนใจเลย ครั้งเดียวแล้วก็จบ อย่าไปต่อความมากดีกว่า มันไม่ทำให้ไอ้กะเทยหน้าหวานนั่นสึกหรออะไรสักเท่าไหร่หรอกน่ะ
แต่เขาก็หลับตาลงไม่ได้สักที ได้แต่พลิกกายไปมาอยู่อย่างนั้นทั้งคืน
.......................................................
ภาคีก็มีความรับผิดชอบนะเนี้ย เริ่มชอบเค้าแล้วล่ะสิ
ความคิดเห็น