ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Yaoi] เพราะเรากัดกัน (ผูกพันธ์) by aoikyosuke

    ลำดับตอนที่ #25 : ตอน กุมมือ

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.78K
      18
      6 ก.พ. 54

     ตอน กุมมือ 












    "แผลที่ขาหายแล้ว มือก็ไม่มีแผลแล้ว จะกลับไปนอนบ้านแล้วนะ"

    ทานตะวันเงยหน้าขึ้นมองคนที่อยู่ ๆ ก็พูดประโยคนั้นออกมา ไม่ได้รู้สึกเลย เฉย ๆ ไอ้อ้อนมันจะกลับไปนอนที่บ้านมัน ก็เรื่องของมันเด่ะ ไม่เห็นเกี่ยวกับกูเลยนี่

    ก็ไปเลยสิ อยู่ด้วยก็เกะกะเปล่า ๆ ไม่เห็นมีประโยชน์เลย มาอยู่ให้รกบ้าน ทำอะไรก็ไม่ได้ ขาก็เดี้ยงมือก็พิการ แถมซ้ำยังทำให้เสียอารมณ์อยู่บ่อย ๆ

    หงุดหงิดเพราะไอ้อ้อนบ่อยจะตาย เดี๋ยวมันก็นิ่งเดี๋ยวมันก็เฉย เดี๋ยวอารมณ์ดี มันก็มียิ้มให้บ้าง เดี๋ยวมันอารมณ์เสีย มันก็ชอบทำให้บรรยากาศอึมครึม

    มันไม่อยู่แหละดีแล้ว จะได้ใช้มันเป็นสองเท่าเวลาที่เจอกัน คราวนี้จะได้ใช้ให้มันทำนั่นทำนี่ให้สองเท่าเลย สะใจดี สนุกด้วย สนุ้ก สนุก สนุกมาก มาก มาก มาก เลย

    สะใจโว้ย ให้มันไปเลย ไล่มันไปเลย ไล่มันไป ไล่มันไป แต่ว่า สงสัยที่ไอ้อ้อนมันพูด กูคงฟังผิดม๊างงงงงงงงงงงง สงสัยฟังผิดแน่ ๆ เลย ฮ่า ฮ่า ฟังผิดชัวร์

    "อะไรนะ ไม่ได้ยิน พูดอะไรวะ ฟังไม่รู้เรื่อง เสียงเบาขนาดนั้น จะไปได้ยินได้ยังไง ไม่ได้ยิน มึงหยุดพูดไปเลยไป๊ กูรำคาญ"

    ทานตะวันเฉไฉไปเรื่อยเปื่อย แล้วก็หรุบสายตาลงมองในชามราเม็งชามที่สี่ แล้วก็ลุกขึ้นลากอ้อนออกจากร้าน ไม่ยอมให้กินราเม็งชามที่สอง จ่ายเงินเสร็จ ก็จ้ำอ้าวเดินลิ่ว
    ไม่ยอมรออ้อนที่ต้องพยายามเดินให้เร็วขึ้น ทั้งที่หัวเข่ายังไม่เข้าที่เข้าทางดีนัก

    มันเป็นอะไรของมันอีกแล้วไอ้ทาน เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย อารมณ์ดีก็ดีจนน่าใจหาย อารมณ์ร้าย ก็ตามไม่ทัน เข้าหน้าไม่ติด แบบนี้ จะมีใครที่ไหนทนมันได้บ้างมั้ยวะเนี่ย ใครได้มันเป็นแฟน สงสัยปวดหัวตาย

    ประตูรถถูกเปิดออก โดยมีคนตัวโตก้าวเข้ามานั่งประจำที่นั่งคนขับ และมีอ้อนขึ้นมานั่งเคียงข้าง

    ทำไมต้องกลับบ้านด้วย

    ก็อยู่ด้วยกันทุกวันมาเป็นอาทิตย์แล้ว ยังจะกลับอีก จะกลับไปไหนมากมายบ้านไม่ได้หนีไปไหนหรอก ทำไมต้องรีบกลับด้วยวะ ทำไมต้องกลับบ้านด้วยไม่เอาโว้ยยยยยยยยยย ไม่อยากให้กลับ

    ทานตะวันหน้าบูดบึ้ง บู้บี้ อารมณ์ไม่ดี เพิ่มขึ้น เพิ่มขึ้น และเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เมื่ออ้อนมานั่งอยู่ข้าง ๆ แล้วเอ่ยบอกเสียงดังขึ้น

    "ขาหายแล้วจะกลับบ้านแล้วนะโว้ยยยยยยยยยยย ได้ยินมั้ย" อ้อนป้องปากแล้วพูดเสียงดังที่สุดเท่าที่จะดังได้ คราวนี้คงไม่มีคำว่าไม่ได้ยินอีกแล้วหรอกนะ ถ้าไม่ได้ยินนี่เขาเรียกว่าหูตึงแล้ว

    อ้อนไม่ได้คิด
    ไม่ทันคิด ว่าคนที่ทำหน้าบึ้ง กำลังหงุดหงิดเพราะเรื่องของตัวเองอยู่ ไม่ทันคิดเลยจริง ๆ จนเมื่อทานตะวันหันหน้ามาทำตาขวางใส่ แล้วดึงข้อมืออ้อนเข้าหาตัว แล้วจ้องหน้าอย่างเอาเป็นเอาตายนั่นแหละ ถึงได้รู้ว่าเรื่องของตัวเองไปทำให้ทานตะวันโกรธอีกแล้ว

    "บอกให้หุบปากไม่ใช่เหรอ แล้วจะพูดทำไมอีก ไม่อยากฟังใครพูดอะไรตอนนี้ ไม่เข้าใจหรือยังไง"

    อ้าว แล้วกูจะรู้เหรอ ว่ามึงจะอยากฟังใครตอนไหน เห็นมึงไม่เคยอยากฟังใครตลอดเวลา ขืนไม่บอกตอนนี้ แล้วจะให้บอกตอนไหนวะ

    ข้อมือถูกบิดจนต้องนิ่วหน้า เมื่อรู้สึกว่าอีกฝ่ายเพิ่มแรงบีบมากขึ้น จนอ้อนต้องใช้มืออีกข้างแกะมือของทานตะวันออก

    "เจ็บ" บอกไปแล้วแต่ทานตะวันไม่ยอมฟังเลยสักนิด เพิ่มแรงกดมากกขึ้น จนอ้อน ต้องนิ่วหน้า และสะบัดข้อมือหนี

    "ทาน ปล่อย กูเจ็บ" เสียงของอ้อนไม่ได้เบาเลยสักนิด

    แต่ทานตะวันที่ยังเกิดความรู้สึกไม่พอใจ ไม่ได้ใส่ใจเลยสักนิด ยังคงกดมือลงไป จนอ้อนเบะหน้า แล้วตะคอกกลับมาเสียงดัง ถึงได้รู้สึกตัว เพราะเมื่อปล่อยมือแล้ว ข้อมือของอ้อนก็เป็นรอยแดงจ้ำ ๆ ยิ่งเห็นอ้อนสะบัดมือด้วยความเจ็บแล้ว ยิ่งรู้สึกว่าไม่ควรทำแบบนี้เลย

    "เจ็บหรือไง เจ็บมากเลยเหรอ เจ็บทำไม แค่นี้ทำเป็นเจ็บ ทำเป็นเจ็บหรือไง" ทานตะวันตะคอกถาม แล้วก็ขบริมฝีปากตัวเองแน่น

    ดึงข้อมือของอ้อนมาดู แล้วก้มลงมอง

    อ้อนมันเจ็บ
    แขนมันเป็นจ้ำเลย
    เจ็บมากเลยเหรอ

    เจ็บมากมั้ย

    ก็อยากจะกลับบ้านไปทำไม กลับบ้านทำไม อยู่ดี ๆ ก็จะกลับบ้าน จะทิ้งกันอีกแล้ว มีแต่คนทิ้งกันไปหมด ไม่มีใครเคยสนใจ

     

    ถึงจะเป็นการตะคอกถาม แต่หน้ากลับไม่ได้ดุดันเลยสักนิด เป็นใบหน้าเศร้า ๆ ที่อ้อนต้องมองนิ่ง ๆ อยู่อย่างนั้น
    และยิ่งเห็นคนตัวโตที่ชอบทำเสียงดัง ก้มลงเป่าที่ข้อมือให้ อ้อนยิ่งอยากจะดึงมือกลับ แต่ทานตะวันก็ยังขืนดึงเอาไว้

    "หายยัง หายเจ็บหรือยัง" ไม่เคยแคร์ใคร ไม่เคยสนใจใคร เมื่อก่อนต่อให้อ้อนจะเป็นจะตายก็ไม่เคยคิดจะสนใจ แต่ตอนนี้ เหมือนไม่กล้า

    ไม่อยากให้เจ็บ สงสาร ถ้าอ้อนเจ็บก็สงสาร สงสารมัน

    ไม่อยากสงสาร
    ไม่อยากสนใจใคร
    ไม่อยากแคร์ใคร

    อยู่คนเดียวมาได้ตั้งนาน อยู่กับลูกฟุตบอล อยู่กับการวิ่งอยู่กลางสนาม อยู่กับตัวเอง อยู่กับความเหงา อยู่กับความรู้สึกอยากถูกรักมานาน

    และอยู่คนเดียวมานาน จนคิดว่าตัวเองชินแล้ว กับความเหงา

    แต่อยู่ ๆ คนที่ไม่เคยคิดว่าวันหนึ่งจะเข้ามามีอิทธิพลกับชีวิตก็เข้ามา เข้ามาอย่างเงียบ ๆ เข้ามาโดยไม่บอกกล่าว
    เป็นแค่คนใช้ เป็นแค่ไอ้คนขาเป๋ เป็นแค่ไอ้คนพิการ หน้าตาโง่ ๆ แถมยังชอบทำให้อารมณ์เสีย

    มันก็แค่นั้น

    แค่นั้นจริง ๆ

    ทานตะวันสะบัดมือของอ้อนทิ้ง และไม่ยอมมองหน้าของอ้อนอีก ไม่พูด ไม่ถาม ไม่สนใจจะหาคำตอบอะไรทั้งสิ้น ไม่ถามว่าจะกลับบ้านวันไหน

    ไม่ถามว่าอ้อนจะอยู่หรือไป ไม่ถาม ไม่อยากถาม บอกตัวเองว่าไม่อยากถาม

    ...................แต่ไม่อยากให้ไป.........................

    ทานตะวันกระชากเกียร์ และเหยียบคันเร่งสุดฝีเท้า แล้วก็เลี้ยวรถออกจากลานจอดรถ จนอ้อนแทบหัวทิ่ม ได้แต่เกร็งร่างกายเอาไว้ ไม่ให้เอียงซ้ายเอียงขวา

    พ่อไอ้ทานมันสร้างถนนหรือยังไง มันถึงกล้าขับรถได้ขนาดนี้

    "เหี้ย ขับรถภาษาห่าอะไรวะ" เพราะมีรถแซง ปาดหน้าไป อารมณ์ที่กรุ่น ๆ อยู่ของคนขับรถ เลยยิ่งแรงมากขึ้น ด่ารถคันที่แซงหน้าไปแล้วค่อยๆ ลดความเร็วลง

    เหนื่อยแล้ว

    อยากไปไหนก็ไปเลย

    เชิญ

    ไม่ต้องกลับมาอีกได้ยิ่งดี
    หนี้แค่ไม่กี่บาท ไม่เอาก็ได้
    แต่เกลียดไอ้อ้อน เกลียดมัน เกลียด เกลียด เกลียด กูเกลียดมึงโว้ย ไอ้เป๋ ไอ้คนพิการ ไอ้โง่

    เพียงไม่นาน ทานตะวันก็เลี้ยวรถออกข้างทาง และจอดรถไว้นิ่ง ๆ

    ใช้มือตบไปที่พวงมาลัยรถเสียงดัง และหันหน้าไปหาคนที่ทำหน้าเฉยไม่รู้ร้อนรู้หนาวอยู่ข้าง ๆ

    อ้อนนั่งเฉย แต่ในใจกลับเต้นระทึก

    เฮ้ย อยู่ดี ๆ มันเลี้ยวรถเข้าข้างทางทำไมวะ อะไรวะเนี่ย จะฆ่ากูหมกป่าหรือไงวะ ม่ายอาวนาโว้ย กูสู้ตายแน่

    ทานตะวันหันหน้ามาแล้ว และจ้องหน้าอ้อนอย่างเอาเป็นเอาตาย จ้องอย่างจริงจัง จ้องอย่างกับว่าไม่เคยเจอะเจอกันมาก่อน

    เล่นเอาอ้อนถึงกับขวัญผวา มือเย็นเฉียบ และเตรียมตัวปลดเข็มขัดนิรภัย ชิ่งหนีถ้าหากมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน

    อะไรวะ มึงจะจ้องกูทำมาย กูไม่ได้ทำอะไรผิดเลยนะโว้ย จะจ้องหาห่าอะไรวะ

    "อ้อน ถ้าไม่รีบกลับได้มั้ย เดี๋ยวรอให้ขามันหายเจ็บกว่านี้ก่อนดีกว่ามั้ง"

    อารมณ์ไหนอีกวะเนี่ย อารมณ์ไหน กะอีแค่บอกว่าให้อยู่ต่อ มันถึงกับต้องสร้างสถานการณ์ให้น่ากลัวขนาดนี้เลยเหรอวะ

    ตกลงมันอยากได้คำตอบแบบไหนวะ แบบ............ เออ ได้ หรือ ...........อย่าเลย กูไม่อยากรบกวน มันอยากได้คำตอบแบบไหนวะ

    "อ่ะ อ่ะ เหรอ เหรอ เอ่อ แฮะ ยังไงล่ะ มึงว่ากูควรอยู่หรือไม่ควรอยู่วะเนี่ย ฮ่า ฮ่า เหอ ไอ้ทานมึงมองอะไรกูนักหนาวะ หน้ากูก็ปกตินะเนี่ยไม่ได้มีอะไรเลย"

    พูดด้วยความสับสน พูดด้วยความมึนงง และคนที่ถามคำถาม ก็สะบัดหน้าด้วยความไม่พอใจขึ้นมาอีก

    "ก็อยากอยู่หรือไม่อยากอยู่วะ กูถามแค่เนี้ย มึงจะโง่ไปถึงไหน ก็ตอบมาแค่ว่าอยู่ต่อก็ได้ แค่นี้มันจะยากอะไรนักหนาวะ"

    เอ้า ก็บอกมาสิ ว่าจะบังคับให้เป็นคนใช้อยู่กับมึงต่อ กูจะรู้เรอะว่ามึงเกิดจะอยากให้อยู่หรือไม่อยากให้อยู่ กูไม่ได้เก่ง ฉลาด หน้าตาดี มีฐานะ แต่นิสัยเลวแบบมึงนี่หว่า

     

    "เหรอ เออ ก็แล้วแต่มึง"

    แค่นี้เอง ก็แค่นี้แหละ อยากอยู่ก็บอกสิว่าอยาก โธ่เอ้ย มันก็อยากอยู่เหมือนกันล่ะวะ ไอ้อ้อนชอบทำให้อารมณ์เสียเรื่อยเลย

    ทานตะวันยิ้มออกแล้ว และเลี้ยวรถออก สตาร์ทรถและเหยียบคันเร่ง ขับไปแบบสบาย ๆ ไม่รีบร้อนเหมือนคราวแรก

    และลอบมองหน้าของอ้อน ที่ยังคงตามอารมณ์ของทานตะวันไม่ทัน ทำได้แค่ทำหน้าเอ๋อ และอ้อนก็แอบลองมองหน้าของคนผีเข้าผีออกอีกหลายครั้ง

    กูจะอยู่รอดไปได้สักกี่น้ำกันวะ ถ้ามันเล่นทำอะไรปุบปับตามอารมณ์แบบนี้ เห็นท่าจะตายซะก่อนแน่ ๆ

    "อ้อน เอามือมาซิ"

    มือ มือกูเหรอ เอา เอา เอาไปทำไมวะ

    อ้อนพลิกมือของตัวเองไปมา แล้วก็ค่อย ๆ ยื่นมือไปหา ทานตะวันคว้ามือของอ้อน เอาไว้ และกุมเอาไว้แน่น ในขณะที่สายตายังมองไปบนถนน

    และใช้มือเพียงข้างเดียวจับพวงมาลัยรถ

    "อะไรวะจับทำไม ไม่ได้หนีไปไหนนะโว้ย" อ้อนเอ่ยถาม และดึงมือกลับ แต่ถูกรั้งเอาไว้

    "อย่าเรื่องมากได้มั้ย หัดอยู่เฉย ๆ มั่งเหอะ กูขี้เกียจฟังคำถามมึงเต็มทีแล้ว น่าเบื่อ"

    อ่อ น่าเบื่อ ขี้เกียจฟัง แต่เล่นจับมือกูแน่นเลยนะ เอาไงแน่มึงไอ้ทาน ตกลงมึงจะเอายังไง

    อ้อนก้มลงมองที่มือของตัวเองที่ถูกดึงไปวางไว้ที่หน้าขาของทานตะวัน แล้วก็เลยหันหน้าไปมองข้างทาง ไม่ได้พูดอะไรต่อ

    เออ อุ่นดีนี่ อันที่จริงจับมือกันเล่น ๆ มันก็อุ่นดีเหมือนกัน

    ไม่รู้ว่าไอ้ทานมันคิดยังไงของมันนะ รู้แต่ว่า

    บางที มันก็ทำให้ประหลาดใจอยู่บ่อย ๆ แต่บางครั้ง ก็ทำให้สงสาร บางครั้งก็ทำให้โมโหแบบสุด ๆ บางครั้ง ก็ทำให้อยากอยู่เงียบ ๆ กันแค่สองคนโดยไม่ต้องพูดอะไรให้มากไปกว่านี้ ปล่อยความคิดไปเรื่อย ๆ ไม่ต้องเร่งรีบร้อน ไม่ต้องดิ้นรน เหมือนอย่างเวลานี้ที่แค่จับมือกันก็พอ

    แค่ให้รู้ว่ามือของไอ้ทาน มันอุ่น

    ให้รู้ว่าถึงตอนนี้จะคิดอะไรไปเรื่อยเปื่อย คิดอะไรที่ทำให้ตัวเองต้องเครียดหรือเสียใจ
    แต่อย่างน้อย ก็ไม่ได้อยู่คนเดียว ยังมีคนอยู่ข้าง ๆ

    คนที่ห่างกันแค่ช่วงตัว
    ใกล้กันจนกระชับฝ่ามือเข้าหากันได้

    อ้อนอมยิ้มเล็ก ๆ เมื่อหันกลับไปลอบมองคนที่ตั้งใจกับการขับรถแต่ก็ยังไม่ยอมปล่อยมือ ก่อนจะหันไปมองที่ถนนข้างทางอีกครั้ง

    ไม่ต่างจากทานตะวันที่ลอบมองใบหน้าด้านข้างของอ้อนในจังหวะที่เผลอ แล้วก็ยิ้มได้ไม่ต่างกัน อยู่แบบนี้ก็ดีแล้ว ก็แค่อยากอยู่เงียบ ๆ แบบนี้กันแค่สองคน

    อย่างน้อยเวลานี้ ก็รู้ว่าตัวเองไม่ได้อยู่คนเดียว เพราะรู้สึกได้ถึงไออุ่น และความอบอุ่นที่ส่งผ่านมาจากฝ่ามือของคนที่นั่งอยู่เคียงข้างกัน

     

    *************************************


     เริ่มหลงเสน่ห์ทานกับอ้อนรึยังจ๊ะ    
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×