kingdom's 👑 - นิยาย kingdom's 👑 : Dek-D.com - Writer
×

    kingdom's 👑

    " โปรดอย่าได้ก้าวก่าย "

    ผู้เข้าชมรวม

    121

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    121

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    1
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 ส.ค. 62 / 21:01 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ



    INTRO







    ฉัน

    เป็นผู้ป่วยติดเตียง รอคอยวันเวลาที่จะพรากชีวิตของฉันไปอย่างช้าๆ สิ่งที่เกิดขึ้นกับฉันในแต่ละวันมันสร้างบาดแผลทั้งกายและใจ


             พังกว่าที่คิดไว้


    พ่อแม่ไม่เคยแยแสฉันเลย แม้ว่าฉันจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร พวกเขาก็ทำเพียงแค่เปรยตามองด้วยความเลือดเย็น แววตานั้นเจาะลึกเข้าไปถึงขั้วหัวใจ ฉันเจ็บปวดจนแทบขาดใจกับอาการที่ทรุดฮวบ เคยอ้อนวอนขอคำปลอบใจจากครอบครัว แต่สิ่งที่ฉันได้รับคือรอยยิ้มเลือดเย็นและนิ้วเรียวที่เฉดหัวฉันอย่างไม่ใยดี

            ฉันเลือกที่จะไม่ร้องไห้ออกมา


    ขอเก็บน้ำตาเอาไว้ในวันสุดท้ายของชีวิตเสียดีกว่า

      และในที่สุดวันนั้นก็มาถึง





      ฉันรู้สึกร้อนรุ่มที่หน้าอก ทั้งอึดอัดและเริ่มชาในเวลาเดียวกัน ฉันอยากร้องไห้ระบายความรู้สึกแปลกๆนี้ แต่ติดอยู่ที่เหมือนมีบางอย่างกั้นน้ำตาเอาไว้ไม่ให้มันไหลออกมา เสียงของฉันกลืนหายไปในลำคอ จมูกตันและหายใจไม่ออก รวมถึงดวงตาของฉัน มันหน่วงใกล้จะปิดอยู่ร่อมร่อ ฉันเค้นหัวเราะ



    นึกดีใจที่ฉันจะได้หลุดพ้นไปจากนรกบนดินเสียที 

           "อย่าให้ชาติหน้าเราได้เจอกันอีกเลย"







    อา

    สิ่งที่ฉันรับรู้ได้คืออาการมึนหัว ดวงตาของฉันหลุมจนต้องนอนราบลงดังเดิม จากนั้นจึงค่อยๆลุกขึ้นมา ก่อนจะรู้สึกได้ถึงเสื้อผ้าที่เปียกปอน



                 น้ำ..งั้นหรอ?



    นี่ฉันมานอนบนน้ำตื้นๆนี้ได้ยังไงกัน เมื่อได้สติฉันก็เริ่มออกเดินทันที ทุกอย่างรอบตัวมันมืดไปหมด มืดจนมองอะไรไม่เห็นสักอย่าง


         ตึกตึก

    ฉันนิ่งงัน


    เสียงฝีเท้า


     พอตั้งสติได้ฉันก็หันไปมองด้านหลัง 


    ไม่มีใคร..


     ฉันจำใจก้าวเดินต่อไปอย่างรวดเร็ว แสงวิบวับตรงปลายทางนั้นดูน่าสนใจ ดึงดูดให้ฉันต้องวิ่งไปด้วยร่างกายที่บังคับไม่ได้


          ดวงตาของฉันเริ่มเจ็บแปล๊บ ฉันหุบตาต่ำและถดถอยตามสัญชาตญาณ


    ตอนนี้ทุกอย่างรอบตัวเงียบไปแล้ว ฉันค่อยๆลืมตาขึ้นมา แล้วก็ต้องตกใจ


         โถงทางเดินที่กว้างขวางและกลิ่นไอความโบราณนี้มันอะไรกัน แสงไฟสลัวๆพาลให้คนขี้กลัวอย่างฉันหวาดหวั่น ฉันตัดสินใจเริ่มออกเดิน แต่ไม่ทันไรก็สะดุดชายผ้า..ชายผ้า?

    มันมาจากชุดที่ฉันใส่อยู่



    เดรสสีแดงเบอร์กันดีตัดกับสีดำสนิท ปักลวดลายด้วยลูกไม้คล้ายขวากหนาม และผมสีดำที่ยาวระสะโพกของฉัน มันแปลก..แต่ก็คงเหมือนที่ฉันคิดไว้นั่นแหละ ฉันตายแล้ว ข้อนี้ฉันรู้ดี จากนี้ไปฉันก็คงต้องเจออะไรแปลกๆ ไม่สิ มันแปลกตั้งแต่ที่ฉันมาโผล่ในทางเดินนี้แล้ว


          ฉันออกเดินอีกครา คราวนี้เร่งจังหวะการเดินจนแทบจะเป็นการวิ่ง โดยไม่วายที่จะมองสองข้างทางไปด้วย ตาของฉันสะดุดเข้ากับกรอบรูปที่เรียงต่อกัน อริยาบทของเด็กหญิงผู้งดงามคนหนึ่ง แต่ละรูปเป็นช่วงอายุที่แตกต่างกัน นับตั้งแต่เกิดจนโตเป็นสาว และฉันก็รับรู้ได้ว่าในรูปนั้นเป็นคนคนเดียวกัน 


    "ฮะ.."


    ฉันอุทานอย่างแผ่วเบา สัมผัสได้ถึงลมหายใจร้อนๆที่รินรดท้ายทอยอยู่ ท่อนแขนเปลือยเปล่าของใครบางคนกำลังโอบรัดด้วยท่าทีกึ่งเล่น สะดุ้งสุดตัวยามที่ปลายลิ้นอันร้อนผล่าเริ่มเล่นกับกกหูของฉัน 


    คิกคิก

                  

    "..นั่นใครคะ" หลุดปากถามเสียงเรียบ ฉันเองก็ไม่อยากจะหันไปมองเท่าไหร่หรอก แต่จู่ๆร่างกายก็ถูกพลิก ใบหน้าของฉันชนเข้ากับลำคอขาวซีด หอมจัง.. หอมจนฉันเผลอขยับไปใกล้ "อะ.."


    เธอยกยิ้ม

         อดไม่ได้ที่ฉันจะต้องเอียงคออย่างลืมตัว

    แขนเปลือยเปล่าถูกเล่นมาโอบรัดฉัน แน่นจนแทบหลอมรวมไปกับผู้หญิงตัวสูงคนนี้

         เธอสวย ใบหน้าสวยคมออกไปทางดุ จมูกโด่งเชิดรั้น ริมฝีปากเคลือบด้วยลิปสติกสีแดงก่ำ ผิวขาวราวกับหิมะยิ่งเสริมให้เธอดูขาวขึ้นไปอีก ทรวดทรงอกเอวเว้าโค้งสมส่วน และสิ่งที่ทำให้ฉันแปลกใจกว่าเดิมคือชุดของเราดันเหมือนกันจนน่าแปลกใจ

     

         "เด็กดีของข้า ยินดีต้อนรับสู่ฟีโอน่า"

                    ฟีโอน่า?

                      .

                END Her part

              "คะ-คุณเป็นใครหรอคะ"

          เด็กหญิงถามด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ ช้อนตา

    มองหญิงสาวท่าทางสง่างาม ซึ่งนั่นก็เรียกรอยยิ้มกว้างจากเธอได้เป็นอย่างดี

               "อนาสตาเซีย"เสียงหวานแต่หนักแน่นตอบกลับ มือเรียวยาวลูบไล้เรือนผมสีดำสนิทด้วยสายตายากที่จะคาดเดา

       "นามของข้าคืออนาสตาเซีย ลา เดอร์เบครูส"

    อนาสตาเซียเริ่มออกเดิน โดยที่นางก็กอบกุมมือเล็กๆไปด้วยจนเด็กสาวต้องเดินตามอย่างห้ามมิได้ ฝ่ามือบางเปียกเเฉะด้วยความประหม่า ไม่นานหลัวจากนั้นก็ประหม่ามากยิ่งขึ้น เมื่อพี่สาวปล่อยมือและเปลี่ยนเป็นการฉุดรั้งให้เด็กสาวมาประชิดตัวมากยิ่งขึ้น

          สองข้างทางประดับด้วยลูกไฟสีฟ้า

    มันลอยได้ น่าเหลือเชื่อราวกับอยู่ในโลกเวทย์มนต์..

                เด็กสาวคิดในใจ



    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น