ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    No words,but is it love?นี่คือความรักรึเปล่านะ?[100%]

    ลำดับตอนที่ #5 : Chapter5: Stop

    • อัปเดตล่าสุด 4 ก.ย. 55


    อาทิตย์ถัดมาผมอยู่ข้างๆจุนอาตลอดเวลาเลย  แต่ถ้าเราไม่ได้อยู่ข้างกัน..เราก็จะพยายามสบตากันหรือไม่ก็แค่แตะตัวอีกฝ่ายเบาๆระหว่างเดินผ่านเท่านั้น..

     

     

    ยกตัวอย่างเช่น เย็นวันหนึ่งที่ผมนั่งเล่นเกมกับกวังอาอย่างเมามันแล้วจุนอาเดินผ่าน..พร้อมกับแตะต้นคอผมเบาๆระหว่างที่ผ่านไปด้วยก่อนจะเดินไปนั่งลงที่โซฟาพร้อมโน้ตบุค ผมรู้สึกขนลุกแปลกๆทุกครั้งที่เขาแตะตัวผม ผมรู้ว่าตัวและหัวใจของผมต้องการมากกว่านั้น แต่ เราต้องระวังตัวหน่อยเนื่องจากเราอยู่ในหอที่เต็มไปด้วยสมาชิกที่เริ่มสงสัยกันแล้ว ตอนนี้ผมต้องรีบคลานกลับเตียงของผมเองก่อนที่สมาชิกในวงจะตื่นขึ้นมาเจอผมที่เตียงจุนอาจนเป็นนิสัยแล้ว ผมนอนไม่หลับถ้าไม่รู้สึกถึงความอบอุ่นจากร่างกายและจูบของจุนอา แต่ถึงอย่างไรก็ตาม สมาชิกบีสท์คนอื่นรู้ว่ามันต้องมีอะไรสักอย่างแน่ๆ เพราะบางที เวลาผมง่วงเกินไป ผมไม่สามารถลุกกลับไปที่เตียงของผมทำให้พวกเขาเจอผมอยู่บนเตียงของจุนอา คำแก้ตัวของผมมันมักจะฟังไม่ขึ้นเลยล่ะ อย่างเช่น เหนื่อยและขี้เกียจเกินไปที่จะปีนขึ้นไปนอนที่เตียงชั้น2ของผม หรือไม่ก็เพราะบังเอิญหลับไประหว่างที่ฟังเพลงด้วยกัน.. มันไม่ง่ายเลยที่จะปิดบังความลับของเรา

     

     

    ความจริงแล้ว ผมกับจุนอายังไม่ได้พูดเกี่ยวกับความรู้สึกที่มีให้กันเลยด้วยซ้ำ ดังนั้น บางที ภายใต้รอยยิ้มสดใสที่ระบายบนใบหน้าของผม ผมจะคิดกังวล กลัว วิตกและระแวง ผมกลัวว่าผมจะเป็นแค่ของเล่นของเขา ถึงผมจะรู้ว่าจุนอาไม่ใช่คนแบบนั้นแต่อีกอย่างที่ผมกลัวคือ เราเป็นผู้ชายทั้งคู่..แต่ก็นะ ดูเหมือนเรื่องนั้นไม่น่าจะเป็นปัญหาใหญ่ดูจากเวลาที่จุนอาสัมฝัสผมน่ะนะ..

     

    จุนอาไม่ใช่ผู้ชายประเภทที่จะลงไปคุกเข่าแล้วสารภาพความในใจออกมาแต่การกระทำของจุนอาก็เพียงพอแล้ว-/- มีเช้าวันนึงที่ผมไม่ยอมให้เขาจูบเพราะกลิ่นบุหรี่ที่โชยออกมา จุนอาเริ่มสูบบุหรี่เมื่อเราไม่ได้อยู่ด้วยกัน.. หลังจากที่ผมบอกปฏิเสธไป จุนอาหายเข้าห้องน้ำไปสักพักก่อนจะออกมา ผมยิ้มเพราะกลื่นบุหรี่ได้กลายเป็นกลิ่นเปบเปอร์มิ้นท์เรียบร้อย..

     

     

     

     

     

     

    ในยามบ่ายของวันนั้น..มีเพียงสามคนที่อยู่ที่หอ จุนอา ดงอุนและผม มันเป็นโอกาสที่แปลกและหายากมากที่สมาชิกเพียง3คนจะไม่ว่างพร้อมกัน(ปกติไม่ว่างทั้งวง- -*) ผมกำลังเคี้ยว(จริงๆนะ)อมยิ้มรสสตรอเบอร์รี่อย่างมีความสุขระหว่างดูเอมวีของวงอื่นกับมักเน่ คนอายุน้อยสุดของวงไม่ได้ถามถึงเรื่องของจุนอกับผมและเรื่องที่เกิดขึ้นในลิฟท์นั่น ทั้งๆที่ปกติถามตลอด แปลกมากๆเลย.. แต่ก็ดีแล้ว ผมรู้สึกผิดเวลาต้องโกหกมักเน่นะ!TT

     

     

    ผมหัวเราะไม่หยุดระหว่างดูรายการตลกรายการนึง และในตอนนั้น ใครบางคนแย่งอมยิ้มจากปากผม! ผมรีบหันไปข้างหลังแล้วตะโกนใส่จุนอาที่มีอมยิ้มของผมอยู่ในปากแล้ว

    “ย๊า! นั่นมันของผมนะ!” จุนอายิ้มกว้างอย่างที่ไม่ค่อยทำสักเท่าไหร่ ทำให้ผมลืมเรื่องอมยิ้มนั่นไปชั่วขณะ.. แต่ก็แค่ชั่วขณะเท่านั้นแหละนะ

    “นายกินของหวานมากไป ถ้านายกินอีกหน่อย นายได้ฟันผุแน่”

    “แต่..! ช่างมันเถอะ เอาคืนมานะฮยอง!” ผมยืนขึ้นพร้อมกับพยายามดึงอมยิ้มจากปากจุนอา เขานั่งอยู่ที่โซฟาพร้อมใช้เท้ายันผมไม่ให้เข้าใกล้- -*

    “ย๊า เด็กน้อย อย่าตะโกนใส่ฮยองของนายสิ”

    “ฮยองโตกว่าผมไม่ถึงเดือนนะ!

    “ก็ถือว่าโตกว่าอยู่ดีนี่นา”

     

    ผมครางออกมาด้วยความเซ็งจัดและจัดการกระโดดนั่งบนต้นขาของจุนอาและพยายามจับแขนของจุนอาไว้ ร่างสูงแรงเยอะกว่าผมมากแต่ผมมีแรงฮึดขึ้นมาเมื่อเห็นอมยิ้มของผมกำลังจะหายไปT T เนื่องจากผมนั่งทับต้นขาจุนอาอยู่ ผมเลยสามารถทำให้ขาของเขาไม่ถีบผมได้ แต่มือของร่างสูงนี่สิ.. มันจักจี้เอวผมอยู่TOT!!

    “มะ..ไม่ ไม่ ไม่ ไม่เอาาาาาาา!หยุดน้าาาฮยองงงงง!

     

    การที่มักเน่อยู่ๆก็ยืนขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้จุนอาหยุดและปล่อยให้ผมได้พักหายใจ

    “มีอะไร?” แร็พเปอร์เอ่ยปากถามมักเน่ ความจริงจุนอากับดงอุนสนิทกันนะ แต่ดูเหมือนดงอุนจะรู้สึกเหมือนโดนเพื่อนทิ้งเพราะความลับของเราที่ปิดยังไม่ให้เขารู้

    “ผมจะไปหาเพื่อนฮะ” ดงอุนพูดพลางสวมเสื้อแจ็กเก็ต

    “แน่ใจหรอ? เราอยู่ที่นี่ไม่มีอะไรทำนะ” จุนอาพูดขึ้น

    “ฮะๆ..งั้นก็ทำไอ้ ไม่มีอะไรทำ ต่อไปละกันฮยอง” ดงอุนเหยียดยิ้มประชด

    “แล้วเจอกันฮะฮยอง”

     

     

     

    “ผมว่าเขาต้องรำคาญที่ฮยองไม่ยอมบอกความจริงกับเขาแน่เลย”

     

    คำพูดของผมไม่ได้ทำให้จุนอาแปลกใจแม้แต่น้อย เขาเพียงพยักหน้าแล้วยักไหล่

    “ทุกคนก็มีความลับทั้งนั้นแหละนะ”

     

    คำพูดของจุนอาทำให้ผมเกิดอาการระแวงขึ้นมาอีกครั้ง จุนอาเองก็มีความลับที่ไม่บอกผมด้วยรึเปล่านะ?

    “ฮยองด้วยหรอ?”

    เฮอะ อย่างกับเขาจะตอบหรอกนะ- - ผมรู้อยู่แล้วล่ะ แค่ถามเฉยๆ.. เขาแค่ยิ้มให้ผมก่อนจะจุ๊บจมูกผมเร็วๆด้วยริมฝีปากแดงของเขา ผมหัวเราะคิกคักอย่างถูกใจก่อนจะจุ๊บแก้มเขากลับ และ ในที่สุด ก็ได้อมยิ้มของผมกลับมา

    “เฮ้ยยยย!ฮยองกินจนจะหมดแล้วนี่นา!” โธ่ อมยิ้มสตรอเบอร์รี่ลูกรักกก!

     

    เขาหัวเราะเบาๆก่อนจะกอดผมแน่น

    “ฉันซื้ออมยิ้มพวกนั้นเป็นพันๆอันให้นายยังได้..” เขากระซิบเบาๆข้างหูผม ตอนนั้นผมไม่สนอมยิ้มแล้วล่ะ สมองผมรับรู้ว่านี่เป็นครั้งแรกที่มีแค่เราสองคนในหอนับจากจูบแรกของเรา..

     

    หัวใจของผมเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆระหว่างที่มือผมค่อยๆเลื่อนไปที่กระดุมเสื้อหนาวที่จุนอาใส่อยู่ก่อนจะค่อยๆปลดมันออก นิ้วเรียวของผมค่อยๆแตะตรงรอยสักของร่างสูงและสัมผัสกระดูกไหปลาร้าเล็กน้อยเหมือนทุกครั้ง ผมชอบมันจริงๆนะ ผมรวบรวมความกล้าก่อนจะค่อยยื่นหน้าเข้าไปจูบที่บริเวณรอยหมึกนั้น

    “ผมชอบมันมากๆเลยนะฮะ..”

    “อืม ฉันสังเกต” เสียงของเขาทุ้มขึ้นอีกครั้ง สายตาของจุนอามองตามทุกการเคลื่อนไหวของผมที่จูบบริเวณรอยสักของเขาครั้งแล้วครั้งเล่า ริมฝีปากผมค่อยๆไล่ขึ้นไปที่คางก่อนจะค่อยๆไล้ไปตามรูปหน้าคมของเขาช้าๆ ผมรู้สึกว่าจุนอากลั้นหายใจทุกครั้งที่ผมสัมผัสเขา มือข้างหนึ่งค่อยๆแตะที่ท้องผมเบาๆก่อนจะหายเข้าไปใต้เสื้อของผม ความเย็นจากนาฬิกาข้อมือที่จุนอาใส่ทำให้ผมสะดุ้งเล็กน้อยเมื่อมันสัมผัสกับผิวเปลือยเปล่าของผม

     

    “อืม..ขอโทษนะ..”  จุนอาชะงักเล็กน้อยก่อนจะถอดนาฬิกาข้อมืออกแล้วเริ่มใหม่จากที่ค้างไว้เมื่อกี้ ผมหัวเราะเบาๆข้างหูของเขาก่อนจะกลืนน้ำลายลงคอเมื่อรู้สึกถึงมืออีกข้างของจุนอาที่เลื่อนไปที่บั้นท้ายของผมพร้อมกับนวดเบาๆ จุนอาชอบ..เอ่อ..ของผมงั้นหรอ..?  ผมรู้สึกว่ามันแปลกก่อนจะหัวเราะออกมา

     

    “หัวเราะทำไม?” เขาถามผมโดยที่ยังอยู่นิ่งๆให้ผมจูบเบาๆตามใบหน้าอยู่

    “ฮยองชอบ เอ่อ ก้นผมหรอฮะ?-//-

     

     

    มือที่เคยอยู่ใต้เสื้อผมเมื่อสักครู่หายไปก่อนมือข้างนั้นจะค่อยๆแตะที่ปลายคางผมแล้วเชยขึ้นเล็กน้อยก่อนที่เจ้าของมือจะประกบริมฝีปากลงมามอบจูบร้อนแรงให้กับผม  ส่วนอีกมือหนึ่งขยำบั้นท้ายของผมแรงๆก่อนจะดึงเข้ามาหาตัวทำให้ร่างกายของเราในตอนนี้แนบชิดกันทุกส่วน ณ ตอนนั้น ถึงผมตายผมก็ไม่เสียดายแล้วล่ะ..

     

    ร่างสูงปลดปล่อยริมฝีปากที่แดงฉ่ำของผมชั่วครู่เพื่อที่จะพึมพำอะไรบางอย่างก่อนจะบดขยี้ริมฝีปากลงมาอีกครั้ง

    “ฉันชอบทุกอย่างที่เป็นนาย ซอบอา นายทำให้ฉันถอนตัวไม่ขึ้น

     

    ผมรับรู้ถึงร่างกายของผมเองที่ตอบสนองต่อเขา คำพูดของเขาและร่างกายของเขา  อยู่ๆความรู้สึกต้องการจุนอามันมากซะจนผมเองยังตกใจ ผมไม่รู้เกี่ยวกับความรักแบบชายรักชายหรอกนะ(และใช่ว่าผมจะมีประสบการณ์ของแบบหญิงชายเยอะหรอกนะ) สิ่งเดียวที่ผมรับรู้ตอนนั้นมีเพียงแค่ลมหายใจร้อนที่รินรดต้นคอผมและอะไรบางอย่างที่กำลังขบเม้มที่ซอกคอของผม เสียงครางทุ้มต่ำของจุนอา มือที่กำลังนวดเฟ้นบั้นท้ายของผม และ อย่างสุดท้าย.. อะไรบางอย่างภายใต้กางเกงของร่างสูงตรงที่ผมนั่งทับอยู่พอดี.. ผมรู้สึกถึงมันได้ภายใต้ต้นขาและบั้นท้ายของผม มันชัดเจนมากๆว่าจุนอาก็เกิดอารมณ์ไม่น้อยไปกว่าผม..ตอนนี้หน้าผมร้อนมากๆเลยล่ะ...

     

    จุนอา..”   เสียงที่เปล่งออกมาเหมือนไม่ใช่เสียงผม ชื่อของเขาออกจากลำคอของผมโดยที่ผมไม่รู้ตัวเมื่อมือที่ลูบคลำไปเรื่อยของจุนอาไปหยุดที่แก่นกายที่ตื่นตัวเต็มที่ของผม จุนอากำลังจับผมตรงนั้นจริงๆหรอ? หัวผมในตอนนี้โล่งไปหมด ผมคิดว่าผมใกล้เป็นบ้าแล้วเพราะผมเริ่มได้ยินท่อนคอรัสของเพลงของวงเราเล่นซ้ำไปซ้ำมาเรื่อยๆ แต่เมื่อร่างสูงถอนริมฝีปากออกจากร่างกายของผม เหมือนกับผมถูกดึงกลับมาสู่หอเดิมของเราและผมจึงได้รู้ว่า โทรศัพท์มือถือของผมดังอยู่  จุนอาจ้องโทรศัพท์ผมอย่างกับอะไรบางอย่างที่ขวางกั้นเขากับโค้กที่จุนอารักนักหนาอยู่

     

     

     

     

    “ไอ้ดงอุนน่ะ..”

    ทำไมการได้ยินชื่อของสมาชิกในวงของผมถึงได้ทำให้ผมรู้สึกผิดแบบนี้นะ? อ่า สงสัยเป็นเพราะผมกับจุนอาอยู่ในหอด้วยล่ะมั้ง ผมค่อยๆมองหน้าจอโทรศพท์ที่บ่งบอกว่ามีสายที่ไม่ได้รับ 4สาย เฮ้ย อะไรวะ? แสดงว่ามันดังมานานมากแล้วสิ? ทำไมผมไม่ได้ยินอะไรเลยล่ะ?

     

    ทันที่ที่สายที่ 5 โทรเข้ามา ดูเหมือนความอดทนของจุนอาก็หมดลงแล้ว

    มีเหี้ยอะไรดงอุน?” โอเค จุนอาในตอนนี้เดือดได้ที่เลยล่ะ ผมก็โกรธนะแต่ก็แอบส่งสายตาที่คิดว่าดุที่สุดเท่าที่จะทำได้ไปให้จุนอาเพราะโทนเสียงและคำพูดที่เขาใช้กับมักเน่ที่ไร้เดียงสาและไม่รู้อะไรเลย ไร้เดียงสาเฉพาะในตอนนี้น่ะนะ..

    “......ฮยอง ผมใกล้จะถึงหอแล้วนะ”

    นายบอกว่าจะไปหาเพื่อนไม่ใช่เรอะ?”

    “อื้ม ก็ผมไปหาแล้วไง แล้วตอนนี้ผมก็กำลังจะกลับหอ ฮยองกับโยซอบฮยองคงไม่ได้ทำอะไรกันอยู่แล้วผมขัดใช่มั้ย?”

    ผมภาวนาให้ดงอุนอาเลิกพูด สายตาของจุนอาในตอนนี้เหมือนว่าพร้อมจะฆ่าคนได้แล้ว สมาชิกในวงต่างหลีกเลี่ยงเขาเมื่อตาเขาเป็นแบบนี้

    “ผมอยู่ใต้ตึกแล้วนะ เจอกันในอีก2นาทีฮะฮยอง”

     

     

     

    มือของผมรีบคว้าโทรศัพท์ของผมไว้ทันทีที่จุนอากดวางสายก่อนที่เขาจะเขวี้ยงมันไปอีกฝั่งของห้อง จุนอาหันกลับมาจ้องมองผมเงียบๆก่อนที่มือของเขาจะค่อยๆเกลี่ยแก้มของผมช้าๆ ผมกับจุนอาสบตากันเนิ่นนานจนกระทั่งประตูหอของเราเปิดขึ้นทำให้ผมเด้งตัวออกจากร่างกายของจุนอาทันที ผมได้ยินเสียงฝีเท้าก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปเห็นดงอุนและรอยยิ้มที่ดูเหมือนจะพอใจกับอะไรสักอย่างบนใบหน้าของเขา

     

    “ผมเช่าหนังมา มาดูด้วยกันสิฮยอง”  ผมกำลังจะขาดอากาศหายใจตายเพราะหัวเราะมากเกินไปแล้ว!~ โธ่ น้องเล็ก ไม่รู้จริงๆหรือแค่ไปแกล้งจุนอาล่ะ?ฮ่าๆๆ จุนอายืนขึ้นก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ เมื่อเห็นจุนอาหายไปแล้ว ผมเลยต่อยดงอุนอาเล่นๆ

    “นายโชคดีมากที่จุนอาไม่ได้ต่อยนาย”

    “ผมก็คิดว่าจุนฮยองฮยองคงต่อยผมแน่ๆแล้วล่ะ!  ถึงจะเด็กกว่าพวกเราปีนึง แต่สมองของดงอุนไม่ได้ด้อยกว่าใคร ผมมักจะคิดว่าดงอุนอาฉลาดที่สุด.. ผมค่อยๆวางมือลงที่ที่จุนอานั่งอยู่เมื่อสักครู่ มันยังอุ่นอยู่เลยแฮะ เขาออกจากห้องน้ำหลังจากผ่านไปประมาณ10นาที สายตาของผมมองตามแผ่นหลังเปลือยเปล่าของจุนอาตั้งแต่ที่เขาออกจากห้องน้ำไปจนถึงเมื่อแผ่นหลังนั้นหายเข้าไปในห้องนอน..ความจริงแล้ว จุนอาฮ็อตมากนะ.. ผมชอบที่สุดเลยที่คนที่จะเห็นเขาเปลือยท่อนบนมีแค่ผมและสมาชิกคนอื่นๆ เพราะจุนอาไม่ใช่คนที่ชอบแฟนเซอร์วิสแบบนั้น(ตรงกันข้ามกับกวังอาน่ะนะ~)

     

     

    หนังที่เช่ามายาวประมาณ2ชั่วโมง พอถึงตอนใกล้จบ ฮยอนซึงฮยอง ดูจุนฮยองและกวังอาก็กลับถึงหอพร้อมกับสลบในห้องนอนทันที= = ผมรอให้พวกเขาหลับสนิทก่อนจะปีนลงไปที่เตียงของจุนอาเงียบๆ ดูเหมือนเขาจะนอนหลับไปแล้วแต่ทันทีที่หัวผมพิงที่อกของเขา แขนหนึ่งก็โอบผมกลับทันที ผมยิ้มกว้างก่อนจะแตะริมฝีปากเบาๆที่ริมฝีปากของอีกฝ่ายก่อนจะหลับไปอย่างมีความสุข

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

     

    รู้ตัวอีกที ตอนนี้ บีสท์กำลังยุ่งกับการเตรียมอัลบั้มใหม่เป็นอย่างมาก มันคงถือได้ว่าเป็นอาทิตย์ที่ดีมากๆถ้าไม่นับอย่างนึงที่ทำให้ผมรู้สึกว่าอาทิตย์นั้นมันไหลไปไม่ค่อยลื่นสักเท่าไหร่ จุนอาไม่ได้แตะตัวผมอีกเลยตั้งแต่คืนนั้นที่หอ! โอเค มอร์นิ่งคิสกับกู๊ดไนท์คิสผมยังได้รับจากเขาอยู่ เขายังคงเกาะติดผมเวลาที่เราเดิน เขากอดผมเวลาผมนอน แต่..แต่มันก็แค่นั้น!

     

    ไม่มีจูบร้อนแรงระหว่างวัน ไม่มีมือที่มักจะไล้ไปตามร่างกายของผม ผมใกล้บ้าแล้ว! อีกอย่าง จุนอาอ่อนหวานและอ่อนโยนกับผมมากตอนกลางวันจนผมไม่สามารถเห็นช่องว่างอะไรที่จะทำให้จุนอาเป็นแบบเมื่อคืนนั้นที่หอได้เลย..

     

     

    สำหรับวงของเรา เพลงของอัลบั้มใหม่ของเราถูกตัดสินใจเกือบทุกเพลงแล้ว เราทั้งหกคนต่างฟังเพลงใหม่ของพวกเรา ระหว่างนั้นผมไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย.. ไม่ใช่เพียงแค่ทำนองที่สุดยอดและเป็นสไตล์ใหม่แต่เนื้อเพลงก็ลงตัวสุดๆไปเลย รวมถึงเนื้อเพลงที่จุนอาแต่งด้วย

     

    เมื่อผมอยู่ในสตูดิโอและกำลังอ่านเนื้อเพลงอีกครั้ง ผมนึกถึงคืนวันก่อนที่จุนอาเคยพูดกับผม..

     

    “ก็..เวลาฉันแต่งเพลงน่ะ ฉันคิดถึงนาย

     

    จริงๆหรอ? ผมมองจุนอาที่กำลังคุยกับกวังอาเกี่ยวกับท่อนคอรัสอยู่ อือ..เขาคิดถึงผมเวลาแต่งเพลงงั้นหรอ? ตัวผมไม่สามารถเชื่อมันได้เพราะมันเป็นไปไม่ได้นี่นา.. แร็พของจุนอากล่าวถึงความรักที่เจ็บปวด ความสัมพันธ์และการจากลา.. เราไม่เคยมีอะไรแบบนั้นนะ ผมค่อยๆดึงตัวเองออกจากความคิดแล้วจึงเห็นว่าเขากำลังจ้องผมอยู่

    “เป็นอะไร?” จุนอาถามยิ้มๆ

    “ผมอยากคุยกับฮยอง..” ผมพึมพำพร้อมลุกขึ้น ผมต้องการคำตอบ

     

     

     

     

     

    “ตกลงนายเป็นอะไร?” เขาดูไม่กังวลเลย เราอยู่ด้วยกันสองคนที่ชั้น2ของตึกบริษัท

    “ฮยอง..คืนก่อนที่ฮยองเคยพูดว่าเวลาแต่งเพลงฮยองคิดถึงผมอ่ะ” ใช่ ผมพูดตรงๆเลย อ้อมค้อมจะได้อะไร?

    เขาถอยหลังเล็กน้อยก่อนจะพยักหน้านิดๆ

    “อ่าฮะ..ทำไม?”

    “ฮยองโกหกผมทำไม!” ผมกึ่งพูดกึ่งตะโกนพลางมองไปรอบข้างเผื่อมีใครเดินขึ้นมา

    “ฮะ? นายพูดเรื่องอะไรอยู่ซอบอา?” เขาดูงงมากๆเลย..

    “เนื้อร้องมันเกี่ยวกับเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นระหว่างเราเลยนะ!” ผมส่ายหัวแรงๆ

    “เนื้อร้องมันไม่ได้ถูกเขียนขึ้นเกี่ยวกับสิ่งที่เกิดขึ้นกับนายอยู่แล้ว”

    “แล้วมันเกี่ยวกับใคร? แฟนเก่านายงั้นหรอ? งั้นนายจะโกหกทำไม?!” จุนอาไม่พูดอะไรยังดีซะกว่า!

    “ซอบ มันไม่ใช่สิ่งที่เคยเกิดขึ้นเลยต่างหาก!

    “อะไรนะ?”

    “ฉันคิดถึงนายเวลาแต่ง นายเป็นแรงบันดาลใจของฉัน..ประมาณนั้นล่ะมั้ง” จุนอาหยุดสักพักเพื่อสังเกตสีหน้าของผม

    “นายอยากได้คำอธิบายจริงๆหรอ?”  เอาอีกแล้ว แร็พเปอร์ที่ดื้อด้านและไม่ชอบให้คำอธิบายอะไรทั้งนั้น แต่ถึงอย่างนั้น คำพูดของร่างสูงก็มีเหตุผล ผมพึมพำกับตัวเองเบาๆก่อนที่เขาจะผลักผมไปที่มุมหนึ่งและกอดผมไว้

     

    “ซอบอา..เป็นอะไรไปน่ะ?”  ตอนนี้น้ำเสียงเขาเต็มไปด้วยความกังวล ทำไมผมถึงได้งี่เง่าแบบนี้นะ? ผมไม่ร่าเริงเหมือนทุกครั้งและเหมือนกับว่าสิ่งเดียวที่ผมต้องการคือคำยืนยันของความรู้สึกของเขา.. การที่ผมเงียบอยู่อย่างนั้นทำให้จุนอาเริ่มหมดความอดทน

    “โยซอบอา..” ให้ตาย..น้ำเสียงของเขาที่ใช้เรียกผมแบบนี้มัน.. ชื่อผมที่ติดอยู่ที่ริมฝีปากของจุนอาที่อีกไม่นานคงอยู่บนริมฝีปากของผมเช่นกัน ผมดึงเสื้อหนาวของเขาก่อนจะประกบริมฝีปากและทำให้มันร้อนแรงกว่าเดิมด้วยตัวผมเอง

     

    นิ้วเรียวของผมหายเข้าไปในผมของเขา ร่างกายของผมและจุนอาแนบชิดทุกส่วน  ผมค่อยๆขยับร่างกายส่วนล่างของผมอย่างเผลอไผลทำให้เกิดเสียงครางในลำคอของจุนอาระหว่างจูบของเรา

     

    เสียงครางของร่างสูงทำให้ผมแทบบ้า ทันทีที่ผมกำลังจะทำแบบนั้นอีกครั้ง มือที่แรงเยอะกว่าของจุนอาก็ดันผมชิดกำแพง ดวงตาของจุนอาฉายแววแปลกๆออกมา ดวงตาสีเข้มกำลังจ้องมองตรงมาที่ดวงตาที่อ่อนกว่าของผมระหว่างที่เขาพยายามควบคุมลมหายใจให้ปกติ

     

    “ทำไม?..” ผมถามเสียงแผ่ว

    อะไร?  เสียงแหบของจุนอาในตอนนี้แหบยิ่งกว่าเดิม..

    “ทำไมฮยองถึงไม่แตะตัวผมเลยทั้งอาทิตย์?”  คำถามของผมทำให้จุนอาแสดงสีหน้าที่ดูเหมือนจะคาดไม่ถึง เขาค่อยๆปล่อยแขนผมที่ตรึงไว้ ก่อนจะค่อยๆถอยหลัง ก่อนที่ใครจะพูดอะไรออกมาอีก ผมก็ได้ยินเสียงเดินของใครบางคน

     

    “โยซอบอา? สไตลิสต์กำลังตามหาตัวนายอยู่น่ะ”

     

    โอ้ยพระเจ้าช่วย!โว้ยยยยย! ทุกทีเลย! ทำไมเวลาผมถามคำถามจุนอาแล้วใครสักคนก็ต้องขัดตลอด? ผมพยักหน้าให้กับผู้หญิงที่หน้ามึนๆตรงหน้าผม เธอคงกำลังถามตัวเองอยู่ว่าได้มาขัดอะไรรึเปล่า ผมฝืนยิ้มแล้วตอบกลับไปว่าผมจะไปหาสไตลิสต์นูน่าทันที

     

    “อะไรฮะ?” ผมรู้ว่าการถามแบบนี้มันคงเหนือความคาดหมายของจุนอาไปหน่อย แต่ผมสังเกตว่าเขากำลังพยายามปิดบังอะไรจากผมอยู่

    “ซอบอา นายรู้ตัวรึเปล่าว่าถามอะไรออกมา?”  ชิ รอยยิ้มนั่นอีกแล้ว เมื่อไหร่จะเลิกยิ้มแบบนี้สักทีนะ!

    ผมทำปากยื่นอย่างงอนๆพร้อมกอดอก

    “ฮยองไม่ได้คิดว่าผมถามแบบจริงจังนี่นา..”

    “ฉันคิด” เขาหัวเราะเบาๆทำให้ผมรู้สึกอยากต่อยหน้าจุนอาสักทีสองทีแต่ห้ามตัวเองไว้เพื่อไม่ให้ใบหน้าอันหล่อเหลาชองแร็พเปอร์มีรอยฟกช้ำ- - ผมมองไปทางอื่นก่อนจะเริ่มเดินไปหาสไตลิสต์นูน่า ผมไม่อยากจะเชื่อว่าผมเป็นฝ่ายเริ่มก่อน แถมยังในตึกคิวบ์อีก จุนอากำลังทำลายภาพพจน์อินโนเซ้นต์ของผมหมดแล้วนะ!  ภาพพจน์ไร้เดียงสาของผมกำลังจะหายไปเพียงเพราะความระแวงบ้าๆเท่านั้น..

     

     

     

     

    ผมกำลังจะเข้าไปในห้องแต่งตัวเมื่อโทรศัพท์ของผมสั่น มีข้อความจากจุนอา ใครบางคนควรจะถ่ายรูปผมตอนนั้นนะ หน้าผมแดงซะจนสไตลิสต์นูน่าถามว่าผมเป็นไข้รึเปล่า ผมปฏิเสธพร้อมกับพูดว่าในห้องมันร้อนมากแค่นั้นเอง ผมรีบเก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าเสื้อของผม

     

    ไอ้แร็พเปอร์บ้าเอ้ย..พิมพ์อะไรแบบนั้น...

     

    JH: <ถ้าฉันเริ่มทำตามที่นายต้องการ ฉันไม่รับประกันว่าจะหยุดตัวเองได้อีกครั้งนะ>

     

    พระเจ้า..ผมก็ไม่อยากให้หยุดนักหรอกนะ..

     

     

     

     

    ..............................................................................END OF CHAPTER FIVE.......................................................................................

     

    เสร็จไปอีกแชป~ รับได้รึเปล่าคะ? ประมาณนี้อ่ะค่ะ?  ขอโทษถ้าฉากแนวนั้นอาจจะใช้ภาษาไม่ดีหรืออะไรก็ตามนะคะ..แปลไปเขินไป5555

    รีบแปลมากๆค่ะ ดังนั้นถ้ามันเน่าหรือยังไงก็ขอโทษด้วยจริงๆนะคะTT รักรีดเดอร์นะะะะะ

    ตอนแรกกะจะลงวันเกิดสวยแต่แบบ ไม่ทันจริงๆค่า หลังวันเกิดสวยหนึ่งวันไม่สายเนอะ?55

    ขอบคุณคอมเม้นท์มากๆเลยนะคะ=] กำลังใจในการแปลเลยนะนั่น555อ่อ ติได้ตามสบายเช่นกันค่ะ

    แล้วเจอกันแชปหกนะรีดเดอร์~//อย่าแบนแชปนี้ด้วยน้า มันไม่เอ็นซีซะหน่อยยยย //แค่เกือบ(?)55

    เอนจอยรีดดิ้งค่ะ^^

                                                  :) Shalunla

     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×