เป็นสิ่งของไม่มีชีวิต ข้างในบุบสลายจนเกินจะคิดเยียวยา
“โฮวอน… เราเลิกกันเถอะ” แบคฮยอนกล่าวกับคนที่ตนเคยรัก
“ท… ทำไมล่ะ? ฉันทำอะไรผิดหรอ นายบอกฉันสิ!” โฮวอนถามขึ้นอย่างตกใจ เพราะเขาไม่เคยคิดว่าจะได้ยินคำคำนี้ออกมาจากปากคนรักของตน
“ฉันขอโทษ… นายไม่ได้ทำอะไรผิดหรอก แต่ฉันรักคนอื่น ฉันไม่ได้รักนายแล้ว นายเข้าใจฉันนะ..” แบคฮยอนบอก
“ต…แต่นายเคยรักฉันนี่ แล้วนายรักฉันต่อไปไม่ได้หรอ” โฮวอนพยายามรั้งคนที่ตนรักเอาไว้ด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ
“แต่เรามีอะไรหลายอย่างที่เข้ากันไม่ได้นะโฮวอน ฉันขอโทษถ้าครั้งนี้ฉันทำให้นายเสียใจ แต่นายก็รู้ไม่ใช่หรอว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรก…” แบคฮยอนพูดออกมาด้วยความรู้สึกผิดที่มีต่อโฮวอน
“เราไม่เลิกกันไม่ได้หรอ…”
“อย่าทำให้ฉันรู้สึกผิดไปมากกว่านี้เลยนะ” แบคฮยอนพูดก่อนจะหันหลังแล้วเดินห่างจากโฮวอนไป แต่ร่างหนากลับคว้าข้อมือเล็กเอาไว้
“ได้โปรด แบคฮยอน อย่าทิ้งฉันไปเลยนะ” ร่างหนากล่าวอย่างอ้อนวอน เขาเพียงต้องการให้แบคฮยอนยังอยู่ข้างๆเขาต่อไป
“ฉันขอโทษนะโฮวอน” แบคฮยอนพุดแล้วแกะมือของร่างหนาออกจากข้อมือของตนแล้วหันหลังเดินห่างจากโฮวอนไปเรื่อยๆ ราวกับช่วงชิงหัวใจของโฮวอนออกไปด้วย ทำให้ร่างหนากลายเป็นเพียงสิ่งของชิ้นหนึ่งที่ถูกใช้จนเบื่อและถูกทิ้งไว้อย่างไม่ใยดี…
“อ้าว! มาแล้วหรออูฮยอน รีบเข้ามาเลย เร็ว” ดงอูเดินออกมารับเพื่อนตัวขาวที่หน้าประตูบ้านของตน
“แล้วคนอื่นอ่ะ” อูฮยอนถาม
“มยองซูกับซองกยูมาแล้ว นายนั่นแหละมาคนสุดท้าย” ดงอูแขวะเพื่อนรักของตนเบาๆ เย็นวันนี้เพื่อนๆในกลุ่มนัดมารวมตัวกันที่บ้านของดงอูด้วยเหตุผลบางอย่าง
“แล้วโฮวอนมันเป็นไงบ้าง?”
“ก็…หนักอ่ะ” ดงอูตอบ จากนั้นก็เดินนำเพื่อนเข้าไปในตัวบ้าน ก็พบกับมยองซู ซองกยู และโฮวอน นั่งอยู่ในห้องรับแขกซึ่งบนโต๊ะกลางเต็มไปด้วยกระป๋องเบียร์ทั้งที่เปิดแล้วและยังไม่ได้เปิดจำนวนมาก
“นัดมานี่ ให้มาปลอบมันนะ ไม่ได้ให้มาดื่มด้วย” อูฮยอนเห็นดังนั้นก็พูดขึ้นกับเพื่อนอีกสองคน
“ใครบอก ฉันกับมยองซูกินกระป๋องแรกยังไม่หมดเลย ที่เหลือของโฮวอนมัน” ซองกยูที่โดนเข้าใจผิดก็แย้งขึ้น
“เออๆๆ ไม่กินก็ไม่กิน” อูฮยอนบอกปัด
“แล้วมาซะเย็นป่านนี้ จนพวกฉันจะกลับกันอยู่แล้วเนี่ย” มยองซูพูดขึ้นบ้าง
“อะไรอ่ะ.. ฉันเพิ่งมาเอง” อูฮยอนร้องขึ้นอย่างไม่ค่อยพอใจ
“นี่ ตกลงมาบ้านฉันนี่จะมาทะเลาะกันหรือจะมาปลอบโฮวอน” ดงอูที่เอือมกับบทสนทนาของสามคนนั้นกล่าวขัดขึ้น ทำให้อีกสามคนถึงกับปิดปากเงียบ แล้วดงอูก็หันไปพูดกับโฮวอนแทน “โฮวอน.. นายไม่ต้องเสียใจไปนะ ก็คิดซะว่าเขาไม่ใช่คนที่เหมาะกับนายไง”
“แต่ฉานรักเขา~” โฮวอนพูดเสียงยืดอย่างเมามายแล้วหยิบกระป๋องเบียร์ขึ้นมากรอกของเหลวสีอำพันลงคอไปอีกสองสามอึกใหญ่ๆ
“ยิ่งนายคบกับแบคฮยอนไปนายก็จะยิ่งเสียใจ สู้เสียใจทีเดียวตอนนี้ก็ดีแล้วไง ไม่อย่างนั้นนายก็จะเป็นคนที่เจ็บไปเรื่อยๆไม่รู้จบ” ซองกยูหันมาพูดกับโฮวอนบ้างพลางตบไหล่เพื่อนอย่างให้กำลังใจ แต่โฮวอนก็ไม่ได้พูดอะไรต่อ ทำแค่เพียงยกเบียร์ที่เหลือขึ้นมาดื่มจนหมด
ดงอูได้แต่มองไปที่ร่างหนาที่เมามายไร้ซึ่งสติด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย รู้สึกเสียใจที่เห็นโฮวอนเสียใจ รู้สึกเจ็บปวดที่เห็นโฮวอนเจ็บปวด และเข้าใจร่างหนาดี… ว่าการที่ไม่สามารถเป็นเจ้าของคนที่รักได้นั้นมันเป็นอย่างไร เข้าใจความรู้สึกที่เห็นคนที่เรารักกำลังไปมีความสุขกับคนอื่น… เพราะดงอูก็รู้สึกเช่นนั้นมาตลอดเหมือนกัน
“ใกล้ค่ำแล้ว ฉันต้องกลับแล้วว่ะ พรุ่งนี้มีงานแต่เช้า” มยองซูเอ่ยขึ้น
“ฉันก็ต้องกลับแล้วเหมือนกัน เดี๋ยวช่วยดงอูเก็บของก่อน” ซองกยูพูด
“ไม่เป็นไรหรอกเดี๋ยวฉันเก็บเอง พวกนายไปเหอะ” ดงอูบอกเพื่อน
“เอางั้นหรอ.. งั้นก็ได้ ส่วนไอ้โฮวอนมันคงกลับไม่ไหวแล้วล่ะ วันนี้ให้มันนอนบ้านนายไปก่อนได้ใช่มั้ย” ซองกยูถามดงอู
“อืม ได้ ไม่ต้องห่วง” ร่างเล็กตอบ
“อูฮยอน กลับ” ซองกยูสะกิดไหล่เรียกให้อูฮยอนลุกขึ้น
“เอ้า! แต่ฉันเพิ่งมาเองนะ” อูฮยอนโวยวายขึ้น
“ก็ใครใช้ให้มาเลทล่ะ ละยังไงนายก็ไม่ได้เอารถมาไม่ใช่หรอ งั้นก็กลับกับฉันนี่แหละ” ซองกยูดึงอูฮยอนให้ลุกขึ้นแล้วเดินนำออกไปขึ้นรถ ซึ่งคนที่เพิ่งมาถึงได้ไม่นานก็ได้แต่ทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอ
“กลับดีๆนะ” ดงอูที่เดินมาส่งเพื่อนตรงหน้าประตูกล่าวขึ้น
“อืม แล้วมันเป็นไงก็บอกกันด้วยนะ” มยองซูบอก
“อือ เดี๋ยวไว้เล่าให้ฟัง” ร่างเล็กตอบ จากนั้นเพื่อนทั้งสามคนต่างก็ขึ้นรถของตน หรืออย่างน้อยก็รถคนที่ตนต้องขึ้นสำหรับอูฮยอน แล้วรถก็แล่นออกจากซอยไปสู่ถนนใหญ่…
ดงอูเดินกลับเข้ามาในบ้านของ โฮวอนยังคงนั่งอยู่บนโซฟาที่เดิมและกำลังจะเปิดเบียร์กระป๋องใหม่มาดื่มต่อ
“พอแล้ว” ร่างเล็กตรงเข้าไปจับข้อมือใหญ่เพื่อรั้งร่างหนาเอาไว้ไม่ให้ดื่มจนเมาไปมากกว่านี้
“ม่ายยย ฉันจะกิน จากินอีก~” ร่างหนาต่อต้านแล้วปัดป่ายมือไปมาให้พ้นจากมือของดงอู
“พอได้แล้วโฮวอน นายเมามากแล้ว” มือเล็กทั้งสองรวบข้อมือหนาทั้งสองข้างไว้ “ถึงนายจะทำแบบนี้ แบคฮยอนก็ไม่ได้จะกลับมาหรอกนะ”
“...”
“ชีวิตคนเรามันต้องก้าวไปข้างหนาสิ นั่นมันเป็นอดีตไปแล้ว นายจะไปติดอยู่แค่กับเรื่องเก่าๆไม่ได้” ร่างเล็กพูดเพื่อให้ร่างหนาได้คิด แต่ก็ไม่รู้ว่าสติของร่างหนาที่เหลืออยู่นั้นจะมากพอให้ได้ไตร่ตรองกับคำพูดนั้นรึเปล่า “เฮ้อ~ เอาล่ะ นายเมามากแล้ว วันนี้นอนนี่แหละ เดี๋ยวไปเอาผ้าห่มกับหมอนมาให้” พูดจบร่างเล็กก็เดินหายขึ้นไปชั้นบนเพื่อไปหยิบผ้าห่มกับหมอนลงมาให้ร่างหนา
คนตัวเล็กหอบผ้าห่มสีเขียวอ่อนผืนโตกับหมอนขนาดพอเหมาะกองไว้บนแขนเล็กจนมันสูงปิดหน้าและค่อยๆเดินเอามาให้ร่างหนาที่ยังคงนั่งคอพับด้วยสายตาเลื่อนลอยอยู่ที่เดิม
“เอ้านี่! ผ้าห่ม หวา!!~” คนตัวเล็กกำลังจะส่งผ้าห่มกับหมอนให้โฮวอน แต่ร่างหนากลับคว้าผ้าห่มไว้ก่อนแล้วและดึงมันไปหาตัวโดยที่คนนตัวเล็กยังไม่ทันได้ปล่อยมือจากมันเลย ทำให้ดงอูเสียหลักล้มลงไปบนตักร่างหนาโดยที่ใบหน้าของทั้งสองห่างกันไม่ถึงคืบ
ทั้งสองอยู่ใกล้กันมากจนสามารถสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นๆของกันและกัน คนตัวเล็กใบหน้าขึ้นสีอย่างน่ารัก ก่อนจะรู้สึกตัวได้แล้วค่อยๆถอนใบหน้าออกมา แต่ระยะห่างกลับดูน้อยลงเมื่อร่างหนาเลื่อนใบหน้าเข้ามาใกล้ขึ้นเรื่อยๆ และสุดท้ายริมฝีปากร้อนก็สัมผัสกับกลีบปากอิ่ม รสขมและกลิ่นของเบียร์จางๆถูกถ่ายทอดมาให้คนตัวเล็ก ร่างหนาค่อยๆบดคลึงริมฝีปากนุ่มนั้นเบาๆโดยไม่มีการรุกล้ำใดๆ และกัดเบาๆที่ริมฝีปากอิ่ม แต่ตอนนั้นเองสติของร่างเล็กที่เตลิดไปไกลเนื่องจากรสจูบก็กลับมา ดงอูใช้มือดันที่อกแกร่งแล้วถอยตัวออกมา เม้มริมฝีปากที่บวมขึ้นเล็กน้อยเข้าด้วยกันอย่างเขินอาย ใบหน้าแดงก่ำ ส่วนร่างหนาที่เห็นการกระทำของร่างเล็กแล้วก็หัวเราะในลำคอน้อยๆ
“อ…เอ่อ… ด…เดี๋ยวฉันเก็บขยะก่อนนะแล้วเดี๋ยวจะขึ้นไปอาบน้ำละ” คนตัวเล็กพูดอย่างตะกุกตะกักขณะที่เก็บกระป๋องเบียร์ที่หมดแล้วใส่ถุงพลาสติกเพื่อจะนำไปทิ้งโดยไม่กล้าสบสายตาฉ่ำเยิ้มของร่างหนาที่มองมาที่ตน…สายตาซึ่งร่างเล็กเองที่แอบชอบร่างหนามานานก็ยังเดาไม่ออกว่าความหมายของมันคืออะไร
“ฉันจะขึ้นไปนอนแล้วนะ ถ้าจะดูทีวีก็เปิดดูได้” ร่างเล็กพูดกับร่างหนาอย่างรวดเร็วก่อนจะรีบเดินขึ้นไปยังห้องนอนของตนเองที่ชั้นสอง
ดงอูยืนพิงประตูห้อง ยกมือสองข้างขึ้นมาแนบอก พยายามที่จะข่มความรู้สึกของตนไม่ให้เตลิดไปไกลมากกว่านี้ มือบางสัมผัสได้ถึงก้อนเนื้อในหน้าอกที่เต้นอย่างแรงและเร็วเสียจนน่ากลัวว่ามันจะหลุดออกมา ยิ่งนึกถึงจูบเมื่อครู่ยิ่งทำให้ใจสั่น แต่ดงอูก็ยังคงกระซิบบอกตัวเองว่านั่นเป็นเพราะฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ก็เท่านั้น
คนตัวเล็กสะบัดหัวไล่ความคิดฟุ้งซ่านออกไปก่อนจะหยิบผ้าขนหนูสีขาวสะอาดตาขึ้นพาดไหล่แล้วเดินเข้าไปในห้องน้ำ และหวังว่าน้ำเย็นๆจะช่วยให้เขาใจเย็นลงและข่มใจตัวเองเอาไว้ได้…
เช้าวันต่อมา เมื่อแสงอาทิตย์เริ่มสาดส่องลงมาแรงขึ้น ดงอูก็เดินลงมาที่ชั้นล่างของบ้านหลังจากจัดการกับธุระส่วนตัวของตนเสร็จ แล้วก็พบกับโฮวอนที่สร่างเมาแล้วกำลังนั่งอยู่บนโซฟา สีหน้าเศร้าหมองเช่นเดิม ร่างเล็กสูดหายใจเข้าเต็มปอดเพื่อรวบรวมความกล้าที่จะเดินไปคุยกับร่างหนา โดยหวังว่าโฮวอนจะจำเหตุการณ์เมื่อวานไม่ได้
“ไง โฮวอน ดีขึ้นยัง?” คนตัวเล็กเอ่ยทักโดยพยายามทำน้ำเสียงให้เป็นปกติที่สุด
“…” ร่างหนาไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่ส่ายหน้าเป็นคำตอบและดูเหมือนจะจำจูบเมื่อวานไม่ได้ เมื่อเห็นดังนั้นดงอูจึงตรงเข้าไปนั่งลงข้างๆร่างหนา
“ฉันเข้าใจว่านายลืมแบคฮยอนไม่ลง นายจะรักเขาต่อไปก็ได้ แต่ถ้านายเลือกแบบนั้นนายก็ต้องรับมือกับความเสียใจให้ได้” ดงอูยกมือเล็กขึ้นมาจับที่ไหล่กว้างของร่างหนาแล้วบีบเบาๆเพื่อให้กำลังใจ “นายเสียใจได้ แต่นายอย่าทำร้ายตัวเอง อย่าเอาชีวิตตัวเองไปแลกกับคนที่ไม่เห็นค่าของมัน”
“ถ้าฉันตาย… แบคฮยอนก็จะได้รู้ว่าฉันเสียใจมากแค่ไหนที่เขาทำแบบนี้กับฉัน” ร่างหนาพูดด้วยน้ำเสียงเลื่อนลอย
“แล้วแบคฮยอนเขาจะทำอะไรได้! ในเมื่อตอนนี้เขาหมดรักนายไปแล้วนายก็ควรจะเดินหน้าต่อสิ ไม่ใช่จมอยู่กับอดีตแบบนี้” ร่างเล็กรีบพูดสวนไปทันควันเพื่อหยุดความคิดของร่างหนา “ตอนนี้นายก็แค่เสียคนที่ไม่ได้รักนายจริงไป… อย่าเอาชีวิตนายมาผูกอยู่กับคนที่ไม่ได้รักนายจริงสิ”
“…”
“ถ้านายตายไป แล้วนายจะรู้มั้ยว่าคนที่รักนายจะเสียใจแค่ไหน” ดงอูพูดด้วยน้ำเสียงจริงจังยิ่งขึ้น เป็นน้ำเสียงที่ร่างหนาไม่เคยได้ยินจากปากคนขี้เล่นอย่างดงอูมาก่อน ร่างหนาเงยหน้าขึ้นมาสบตาร่างเล็ก “นายไม่ได้อยากตายหรอก นายอย่าทำอะไรแบบนั้นนะ ฉันขอร้อง” คนตัวเล็กพูดด้วยความหวั่นใจ กลัวว่าร่างหนาจะคิดสั้นจริงๆ
“…” ร่างหนามองเข้าไปในนัยน์ตาหวานฉ่ำนั้นและเห็นถึงความจริงจังในสีหน้ารวมถึงน้ำเสียง และเป็นสิ่งที่ก็ดึงให้ร่างหนากลับมาสู่ความเป็นจริง…ซึ่งมันก็เป็นอย่างที่คนตัวเล็กว่า เขาก็แค่เสียคนที่ไม่ได้รักเขาไปก็เท่านั้นเอง “อือ” ร่างหนาตอบรับร่างเล็กในลำคอ
“จริงนะ”
“อื้ม”
“…” ตอนแรกคนตัวเล็กกลัวแทบแย่ หัวใจดวงน้อยราวกับตกลงไปที่ตาตุ่มเมื่อได้ยินร่างหนาพูดอย่างนั้น แต่สุดท้ายร่างเล็กก็ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกที่เห็นว่าร่างหนาเริ่มเข้าใจแล้ว
“…”
“หิวยัง เดี๋ยวฉันทำอะไรง่ายๆให้กิน แล้วเดี๋ยวนายค่อยกลับ” คนตัวเล็กเปลี่ยนเรื่อง
“วันนี้นายอุตส่าห์ไม่ไปทำงานไม่ใช่เหรอ”
“อือๆ แล้วไง?”
“ไปสวนสนุกกัน”
“ห้ะ!??” ร่างเล็กเอียงคออย่างสับสนที่อยู่ๆร่างหนาที่เมื่อ 10 นาทีก่อนนั่งซึมเป็นหมาหงอยกลับชวนตนไปเที่ยวสวนสนุก
“ก็ถ้าอยู่คนเดียวฉันต้องคิดมากแน่ๆ ยิ่งไม่มีอะไรทำอีกด้วย… นายไปเป็นเพื่อนฉันหน่อยนะ” ร่างหนาบอกเหตุผลแล้วออกปากชวนร่างเล็กอีกครั้ง
“อือๆ ก็ได้ แต่นายต้องกลับไปอาบน้ำก่อนนะ” คนตัวเล็กตอบตกลง
“โอเค”
สวนสนุก
โฮวอนลากดงอูไปเล่นเครื่องเล่นหลายอย่าง แม้ว่าปกติโฮวอนจะไม่ค่อยทำแบบนี้ แต่ถ้ามันทำให้โฮวอนยิ้มได้ดงอูก็ถือว่ามันโอเค ร่างเล็กสังเกตได้ว่าตอนที่ไปเล่นรถไฟเหาะ ร่างหนาตะโกนเสียสุดเสียง ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องปกติที่ร่างหนาจะทำเหมือนกัน แต่ดูเหมือนว่ามันจะทำให้ร่างหนาผ่อนคลายขึ้น เพราะหลังจากนั้นร่างหนาก็เริ่มกลับมาเป็นอีโฮวอนคนเดิมมากขึ้นทีละนิด
“ไปเล่น Bump car กัน” ร่างหนาเอ่ยชวนร่างเล็กอีกเป็นครั้งที่เท่าไรแล้วก็ไม่รู้ของวันนี้
“อือๆ เล่นก็เล่น” สิ้นคำพูดของร่างเล็ก ร่างหนาก็คว้าข้อมือบางไปที่เครื่องขายตั๋วเครื่องเล่นทันที ก่อนจะกดซื้อตั๋วออกมา 2 ใบ จากนั้นก็ยื่นตั๋วให้เจ้าหน้าที่แล้วเข้าไปนั่งในรถคนละคัน
ร่างหนาเริ่มออกรถและเร่งความเร็วขึ้น ก่อนจะเลี้ยวไปชนกับรถคันอื่นๆ เช่นเดียวกับคนตัวเล็ก จนกระทั่งทั้งสองขับรถมาอยู่ใกล้กัน ร่างหนาจึงแกล้งพุ่งรถเข้าชนรถของร่างเล็กอย่างแรง แต่ดูเหมือนว่าความแรงนั้นจะมากจนทำให้รถของคนตัวเล็กกระเด้งกลับไปข้างหลังอีกเล็กน้อย รวมถึงทำเอาหัวของดงอูกระแทกเข้ากับพวงมาลัยรถด้วย
“ย่า! อีโฮวอน ฉันจะต้องแก้แค้นนาย” คนตัวเล็กตะโกนขึ้นแล้วเร่งความเร็วรถตามร่างหนาไปเพื่อที่จะชนคืนบ้าง ซึ่งการกระทำนั้นก็เรียกเสียงหัวเราะของร่างหนาให้กับความเด็กและความน่ารักของคนตัวเล็กออกมา
ทั้งสองขับ Bump car ไล่กันจนกระทั่งหมดเวลาที่กำหนดไว้ ทั้งสองจึงออกมา ซึ่งขณะที่เดินอยู่นั้น ดงอูก็ใช้มือเล็กลูบเบาๆที่หัวตัวเองตรงตำแหน่งที่โขกกับพวงมาลัยรถ และร่างหนาก็สังเกตเห็น
“เออใช่ นายหัวโขกนี่นา เจ็บมั้ย?” ร่างหนาไม่ถามเปล่า แต่กลับหันมาเปิดผมที่ปรกหน้าร่างเล็กอยู่ออก จนเห็นรอยแดงจางๆปรากฏแก่สายตาร่างหนา โฮวอนยื่นหน้าเข้าไปมองใกล้กว่าเดิมเพื่อดูว่ารอยนั้นหนักแค่ไหน แต่การกระทำของโฮวอนมันกลับทำให้คนตัวเล็กหน้าขึ้นสีได้อีกครั้ง “เป็นรอยแดงนิดหน่อยอ่ะ จะทายามั้ย เดี๋ยวลองหาร้านยาแถวๆนี้ซื้อยามาทา”
“ม…ไม่ต้องหรอก ไม่ได้เจ็บมาก”
“แล้วนายไม่สบายรึเปล่าน่ะ ทำไมหน้าแดงๆ?”
“เอ่อ… อากาศร้อนมั้ง ก็เลยหน้าแดงไปหน่อย” คนตัวเล็กบอกปัดๆ ซึ่งสิ่งที่เขาพูดออกไปมันไม่ใช่ความจริงเลย
“หรอ…”
“…”
“ดงอู” ร่างหนาเรียกคนตัวเล็ก “ขอโทษนะ ที่ทำนายเจ็บตัวอ่ะ” โฮวอนกล่าวขอโทษอย่างรู้สึกผิด
“ไม่เป็นไรหรอกน่า ไม่ต้องซีเรียส เดี๋ยวก็หายแล้ว”
“…”
“…”
“…แล้วก็ขอบคุณด้วยที่วันนี้ยอมมาเป็นเพื่อนฉัน” ร่างหนาพูดต่อ
“อืม ไม่เป็นไร ถ้านายอยากให้มาด้วยอีกเมื่อไหร่ หรือนายเกิดเครียดหรือต้องการใครอยู่เป็นเพื่อนอีกก็โทร.หาฉันได้ทุกเมื่อนะ” ดงอูบอกพลางส่งยิ้มหวานให้ร่างหนาแบบที่เขาชอบทำเป็นประจำ
“งั้น… วันนี้กลับเถอะเนอะ”
“อื้ม งั้นไปหาอะไรกินกันก่อนกลับมั้ย เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” ร่างเล็กชวน
“ก็ได้ แต่นายไม่ต้องเลี้ยงฉันหรอก”
“ไม่เป็นไรหรอกน่า นานๆจะได้เลี้ยงนายที เดี๋ยวฉันเลี้ยงเอง” ร่างเล็กยังคงยืนกรานที่จะจ่ายค่าอาหารให้ร่างหนา “ไปกัน!” พูดจบร่างเล็กก็คว้าเอาข้อมือหนาไว้แล้วออกแรงดึงพาไปที่ซุ้มขายอาหารเล็กที่ตั้งอยู่ในสวนสนุกแห่งนั้น…
จากสิ่งของไม่มีความหมาย ข้างในเกิดเป็นใจดวงหนึ่งที่รักเพียงเธอ ฉันก็รู้ว่าฉันโชคดีแค่ไหน
หลังจากนั้น ในทุกๆวันหยุด โฮวอนก็มักจะนัดร่างเล็กออกมาเจอกันตลอด โดยให้เหตุผลแบบเดิมเสมอว่าไม่อยากอยู่คนเดียว เรียกได้ว่าดงอูเป็นส่วนสำคัญในการก้าวข้ามช่วงเวลาที่เจ็บปวดที่สุดของร่างหนาเลยก็ว่าได้ และทุกๆครั้ง คนตัวเล็กก็มักจะคอยสังเกตร่างหนาอยู่เสมอ ซึ่งก็พบว่า โฮวอนค่อยๆร่างเริงและมีความสุขมากขึ้นในทุกๆครั้งที่พบกัน ซึ่งก็ทำให้ดงอูสบายใจขึ้นได้มากที่ร่างหนากลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกครั้ง รวมถึงดงอูเองก็มีความสุขมากขึ้นด้วยในทุกๆครั้งที่ทั้งสองได้อยู่ด้วยกัน
และวันนี้ก็เป็นอีกวันหยุดอีกวันหนึ่งที่โฮวอนโทรศัพท์มาชวนดงอูออกไปเดินเล่นที่สวนยออีโดด้วยกัน…
ลมเย็นๆที่พัดปะทะใบหน้าทำให้รู้สึกสดชื่นและร่มเงาจากต้นไม้ที่คอยบังแสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมาไม่ให้แรงจนเกินไป ทั้งสองเดินดื่มด่ำกับบรรยากาศดี ฟังเสียงลมและเสียงนกร้องไปตามทางเรื่อยๆ
“นี่…” ร่างหนาเอ่ยขึ้น
“ฮึ?”
“วันหยุดนายไม่คิดจะออกไปไหนบ้างหรอ?” ร่างหนาถาม
“ก็ออกมากับนายทุกวันเลยนี่ไง”
“ไม่ หมายถึงไปทำอย่างอื่นบ้างน่ะ”
“ไม่อ่ะ ฉันว่าง ละอีกอย่างฉันก็รู้ว่าเดี๋ยวนายก็จะมาชวนฉันไปนู่นไปนี่อยู่ดี”
“หึๆๆ” ร่างหนาหัวเราะให้กับคำตอบอันใสซื่อของร่างเล็กน้อยๆในลำคอ
“…”
“นายดูเป็นห่วงฉันจังเลยนะ”
“ก็….อยากให้นายดีขึ้นเร็วๆ” คนตัวเล็กพูดอย่างระวัง กลัวว่าจะเผลอหลุดปากพูดอะไรที่ไม่ควรออกไป
“หรอ…”
“…อือ”
“ตอนนี้ฉันดีขึ้นแล้ว ไม่ได้อะไรแล้วล่ะ”
“…ลืม…แบคฮยอนแล้วหรอ” คนตัวเล็กถามออกไปอย่างกล้าๆกลัวๆเพราะไม่รู้ว่าเป็นคำถามที่ควรจะถามหรือเปล่า แต่มันเป็นเรื่องที่เขาอยากรู้
“ก็ไม่ได้คิดอะไรกับเขาแล้วล่ะ” ร่างหนาตอบอย่างไม่ลังเล
“อ๋อ~” ร่างเล็กพยักหน้ารับโดยที่ไม่เงยขึ้นมองหน้าร่างหนา และแอบยิ้มอย่างดีใจเล็กน้อยตามภาษาคนที่แอบชอบ
“แล้วนายจำนั่นได้รึเปล่า..” ร่างหนาเริ่มตั้งคำถามอีกครั้ง
“อะไรเหรอ?”
“จูบนั้น…”
“!!!” คนตัวเล็กหันหน้าไปสบตากับร่างหนาอย่างตกใจ ไม่คิดว่าคนข้างๆจะจำมันได้เพราะตอนนั้นโฮวอนเมามาก และเมื่อเห็นว่าโฮวอนยังคงจ้องเขาอยู่ไม่วางตา ร่างเล็กก็เป็นฝ่ายที่ก้มหน้าหลบสายตาออกมาเพื่อซ่อนพวงแก้มแดงๆนั้นเอาไว้
“จำได้มั้ย?”
“อ…อือ” ดงอูพยักหน้าเบาๆทั้งที่ยังก้มหน้างุดอยู่อย่างนั้น ตอนนี้ทั้งใบหน้าจนถึงใบหูของดงอูเปลี่ยนเป็นสีชมพูระเรื่องอย่างน่ารัก ซึ่งก็เรียกรอยยิ้มบางๆให้ปรากฏขึ้นบนใบหน้าคมของร่างหนา
“ฉันก็จำได้” ร่างหนาว่าต่อ “พอฉันคิดถึงมัน ฉันก็ใจสั่นตลอดเลย แล้วฉันก็มักจะยิ้มออกมาโดยไม่รู้ตัว”
“…”
“ฉันรู้สึกดีทุกครั้งนะที่มีนายอยู่ข้างๆ”
“…”
“แล้วนายล่ะ นายก็ชอบฉันใช่ไหม?” โฮวอนหันกลับมาถามคนตัวเล็กบ้าง
“เอ่อ…” คนตัวเล็กอ้ำอึ้งอยู่ชั่วครู่เพราะตกใจเล็กน้อยที่ร่างหนารู้ว่าเขารู้สึกอย่างไร “อื้ม” แต่สุดท้ายดงอูก็ขานตอบออกไปเบาๆในลำคอ และเมื่อสิ้นเสียงของคนตัวเล็ก ร่างหนาก็ย้ายมายืนตรงหน้าร่างเล็กทันที
“ดงอู” โฮวอนเรียกชื่อคนตรงหน้า
“ฮ…ฮึ?”
“เงยหน้ามามองฉันหน่อยสิ”
“…” คนตัวเล็กค่อยๆเงยหน้าขึ้นช้าๆสบตาคนตัวสูงกว่าตามที่ร่างหนาบอก
“นายคบกับฉันได้ไหม?” โฮวอนพูดออกไป เป็นคำที่ดงอูไม่เคยคิดว่าจะได้ยินร่างหนาพูดคำนี้กับตน ไม่เคยคิดว่าร่างหนาจะรู้สึกกับตนเช่นเดียวกับที่เขารู้สึก
“นาย…แน่ใจหรอ” คนตัวเล็กถามกับ “ฉันกลัวว่ามันจะเป็นแค่ความรู้สึกที่นายพยายามจะตัดใจจากคนอื่น จริงๆแล้วเราอาจจะแค่สนิทกันมากขึ้นก็ได้ นายอาจจะไม่ได้ชอบฉันก็ได้นะ…” คนตัวเล็กเบาเสียงลงตรงท้ายประโยค จริงๆใจดวงน้อยมันตอบตกลงไปเป็นร้อยครั้งแล้ว แต่สมองกลับสั่งให้ปากถามออกไปแบบนั้นเพราะกลัวว่าเมื่อเวลาผ่านไปแล้วใจจะเจ็บ
“ฉันมีความสุขทุกครั้งที่อยู่กับนาย ฉันชอบนายโดยที่ฉันไม่รู้ตัว และพอมาถามตัวเองดูอีกครั้งฉันก็ได้คำตอบว่าฉันขาดนายไม่ได้” ร่างหนาตอบโดยปราศจากความลังเลในน้ำเสียง “นายรู้ทุกอย่างเกี่ยวกับฉัน รู้ว่าฉันชอบอะไร ไม่ชอบอะไร นายรู้ว่าฉันเป็นคนยังไง และนายก็รู้นี่ว่าถ้าฉันรักใครแล้ว ฉันรักจริง…”
“…”
“เพราะงั้น… นายคบกับฉันนะ”
“…ก็ได้” สิ้นคำตอบของคนตัวเล็ก ร่างหนาก็โผเข้ากอดร่างเล็กไว้ในอ้อมแขนทันที ส่วนร่างเล็ก แม้จะตกใจกับการกระทำที่ไม่คาดคิดของร่างหนา แต่ก็ยอมยกมือขึ้นมาโอบเอวสอบเอาไว้ “ฉันจะไม่ทำให้นายเสียใจนะโฮวอน…” คนตัวเล็กกล่าวให้คำมั่น
“ขอบคุณนะที่อยู่ข้างฉันมาตลอด”
“ฉันยินดีเสมอ…” เสียงใสของดงอูฟังดูอู้อี้เนื่องจากใบหน้าหวานซบอยู่ในอ้อมอกแกร่ง
“ฉันโชคดีจริงๆที่มีนายในชีวิต…”
จากสิ่งของที่ไม่มีค่าอะไร ได้มาเป็นคนเดียวในใจของเธอ ฉันจะมีชีวิตต่อจากนี้เพื่อรักเธอ
HAPPY ENDING
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
โผล่มาแก้คำผิดค่ะ ไม่มีอะไร แหะๆๆ ^___^'
จบแล้ววววว >< เป็นยังไงบ้างคะ คอมเมนท์บอกกันหน่อยจิ :3 ไรท์อยากอ่าน คนที่เพิ่มมาอ่านทีหลังก็เมนท์ได้นะคะ