The Eagle Guard ภาค 1 มหาสงครามแห่งนาเทเชีย - นิยาย The Eagle Guard ภาค 1 มหาสงครามแห่งนาเทเชีย : Dek-D.com - Writer
×

    The Eagle Guard ภาค 1 มหาสงครามแห่งนาเทเชีย

    เมื่อเขาห้วนกลับมาจุติใหม่อีกครั้ง หลังจากหายไปในม่านแห่งความตาย ฟราน สัตว์เทพผู้พิทักษ์แห่งนาเทเชียกลับมาพร้อมกับความลับอันนานับประการ หนึ่งในนั้นคือความรัก ใครเล่าที่เขาจะเลือกใครมาพันธนาการหัวใจ

    ผู้เข้าชมรวม

    17,068

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    28

    ผู้เข้าชมรวม


    17.06K

    ความคิดเห็น


    197

    คนติดตาม


    44
    จำนวนตอน : 50 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  11 ต.ค. 53 / 14:08 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

     



    สวัสดีค่ะ นักอ่านที่รักทุกท่าน

    ในที่สุดก็มาอัพเดทข่าวกันสักที

    คราวนี้ขอยึดตามที่โพสเอาไว้ใน My.ID นะคะ

    อัพเป็นภาพเลยค่ะ 




    แนะนำตัวละคร

















    ขอบคุณน้อง i_เป็ดน้อย สำหรับแบนเนอร์ค่ะ 


    บทความนี้ได้รับการวิจารณ์โดย



    Theme From
    Dark_ Sniper

     

    Update 30/08/10
     

    ประกาศจากผู้เขียน

     
    ในที่สุด!!!

    The Eagle Guard ตำนานเทพอสูรคู่บัลลังก์ 1 ภาคมหาสงครามแห่งนาเทเชีย
    วางแฝงแล้วค่า ^0^

    ต้นฉบับนิยายเรื่องนี้มีความยาวต้นฉบับจริงทั้งสิ้น 267 หน้า ตัดฉับเป็นหนังสือ 2 เล่ม หน้าปกดังภาพเลยค่า
     

    โปสเตอร์โปรโมท



    หน้าปกเล่ม 1 ราคาตามหน้าปก 169 บาท (เดี๋ยวอัพราคาจริงแล้วจะเอามาแจ้งอีกที)



     

    คำโปรย

    (โดยผู้เขียน)

     

    เมื่อ “ฟราน” นกอินทรีวิเศษผู้พิทักษ์แห่งนาเทเชีย

    กลับมาจุติใหม่อีกครั้ง

    หลังจากที่หายไปในม่านแห่งความตายยาวนานถึงสี่ร้อยปี

    ชายหนุ่มกลับมาพร้อมกับปริศนามากมาย หนึ่งนั้นคือ ความรัก

    หัวใจของเขาจักตกไปอยู่กับใคร

    ในเมื่อตามคำทำนายจะมีอิสตรีได้ขึ้นเป็นใหญ่ถึงสองคน

    “นารินย่า” ผู้กร้าวแกร่งด้วยฐานะแม่ทัพใหญ่แห่งอาณาจักร

    ซึ่งหามีผู้ใดหาญกล้าเป็นศัตรูด้วย

    “นารินเซีย” ผู้บอบบางและอ่อนหวานดั่งกลีบดอกไม้

    ซึ่งจักบอบช้ำได้หากจับต้องอย่างไม่ถนอม

    อีกสิ่งหนึ่งนั้น... คือ ความแค้น

    ซึ่งสั่งสมมาอย่างช้านาน

    มันยังคงตราตรึงอยู่ในหัวใจของฟรานกับ

    “เคิร์ท” ชายผู้ถือกำเนิดพร้อมกัน

    บัดนี้สองบุรุษผู้ดำเนินไปในเส้นทางที่แตกต่าง

    และสองนางผู้ค้ำจุนหนึ่งราชบัลลังก์

    จักต้องโคจรมาพบกันบนเส้นทางแห่งชะตากรรม

    ที่มีจดหมายเป็นความหมายนะ กาลครั้งหนึ่งเมื่อไม่นานมานี้

     

    หน้าปกเล่ม 2 ราคาตามหน้าปก 175 บาท (เดี๋ยวอัพราคาจริงแล้วจะเอามาแจ้งอีกที)

     



     

    คำโปรย

    (โดยสำนักพิมพ์)

     

    ภยันตรายกล้ำกรายเข้ามาใกล้ทุกขณะ

    ศึกนอกยังไม่อาจรู้ผล ศึกในประทุขึ้น

    ก่อกังวลนางผู้ถูกกระแสแห่งชะตากรรมซัดโถม

    ทั้งสองจักทำเช่นไร...

     

    เขาผู้เฝ้ามองกระแสแห่งโชคชะตา

    จักเลือกหนทางใดเพื่อปกป้องหัวใจของตนและหญิงคนรัก

    บัลลังก์แห่งเกียรติยศ ช่างเย้ายวนใจให้หมายครอบครอง

    อำนาจในกำมือกลายกลับเป็นดาบสองคม

    ที่จักหันสู่ผู้ถือครองยามใด...

    มิอาจล่วงรู้บทสรุปแห่งสงคราม...

    หลีกเลี่ยงความสูญเสียได้จริงหรือ ?

     

    หนทางมากมายถูกกำหนด

    แต่...เหล่าผู้อยู่ในครรลอง

    จะเลือกเส้นทางใด

     

    ผู้เขียนต้องขออภัยล่วงหน้าด้วยนะคะ

     

    เนื่องจากผู้เขียนจะลบนิยายเรื่องนี้ออกจากระบบ (ลบเป็นตอนๆ ไป)

    ภายในวันที่ 3 กันยายน 2553 จากเดิมลงไว้ 25 ตอนจะเหลือแค่ 13 ตอนเท่านั้นค่ะ

     

    ขอบพระคุณทุกท่านที่กรุณาติดตามผลงานของเคย์มาตลอด

     

    และขอฝากนิยายเรื่องนี้ไว้ในอ้อมใจด้วยนะคะ ^ ^

     

     

    Keisei/L.Lalinsia

     
    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------

     

    Free Theme . Free Style คลิก!!

    Keisei/L.Lalinsia

     

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    "ฟรานสุดหล่อ"

    (แจ้งลบ)

    ^[]^ ฟรานเท่ห์มั่กๆ เข้ามาช่วยนารินย่าได้ถูกเวลาสุดๆ อ่านเพิ่มเติม

    ^[]^ ฟรานเท่ห์มั่กๆ เข้ามาช่วยนารินย่าได้ถูกเวลาสุดๆ  

    วายุรัตติกาล | 25 เม.ย. 52

    • 14

    • 3

    "จากบทความ - X รับวิจารณ์นิยายหลายรูปแบบ X -"

    (แจ้งลบ)

    บอกตรงๆ ว่าชอบฉบับเก่ามากกว่า อันที่จริงเราหงุดหงิดนิดๆ ที่ต้องมาอ่านเรื่องซ้ำสองรอบแม้เนื้อหาจะใกล้เคียงกันก็เถอะค่ะ แล้วดันชอบอันแรกมากกว่าซะด้วย เพราะว่าเนื้อหาไม่ยืดยาด ทำให้คนขี้เบื่ออ่านได้โดยไม่ขี้เกียจ แสดงเอกลักษณ์ของตัวละครแต่ละตัวได้ดี อิมเมจไม่โหล แอบเสียดายนิดๆ ที่เขียนฉบับใหม่ขึ้นมา เพราะตัวละครลดความน่ารักลงไปบ้างเล็กน้อย และบางประโ ... อ่านเพิ่มเติม

    บอกตรงๆ ว่าชอบฉบับเก่ามากกว่า อันที่จริงเราหงุดหงิดนิดๆ ที่ต้องมาอ่านเรื่องซ้ำสองรอบแม้เนื้อหาจะใกล้เคียงกันก็เถอะค่ะ แล้วดันชอบอันแรกมากกว่าซะด้วย เพราะว่าเนื้อหาไม่ยืดยาด ทำให้คนขี้เบื่ออ่านได้โดยไม่ขี้เกียจ แสดงเอกลักษณ์ของตัวละครแต่ละตัวได้ดี อิมเมจไม่โหล แอบเสียดายนิดๆ ที่เขียนฉบับใหม่ขึ้นมา เพราะตัวละครลดความน่ารักลงไปบ้างเล็กน้อย และบางประโยคก็ไม่เนียนเท่าไหร่ อย่างตอนที่นารินเซียพูดกับพี่ก่อนพ่อจะตาย (ฉบับใหม่นะคะ) ที่ว่า "แต่ ท่านพ่อกำลังจะจากไปแล้วไม่ใช่หรือ" คือถ้าพูดกันตามความเป็นจริงแล้วไม่มีลูกคนไหนเขาพูดกันอย่างนั้นต่อหน้าพ่้อที่กำลังจะตายจริงๆ หรอกค่ะ ยิ่งคนเรียบร้อยยิ่งไม่พูดใหญ่ เอ้อ ต่อไปนี้ก็จะเป็นการวิจารณ์โดยรวมนะ คำผิด - ฉบับเก่ามีค่อนข้างเยอะ แต่ฉบับใหม่มีค่อนข้างน้อย ซึ่งถือว่าเป็นพัฒนาการที่ดีในการแก้ไขเรื่องค่ะ เมื่อจบบทจะค้างปมเล็กๆ น้อยๆ ไว้ให้ผู้อ่านสงสัย ทำให้เรื่องน่าติดตามดีค่ัะ ใช้ภาษาสวย อ่านแล้วรื่นหูไม่สะดุด (ก็แอบชอบสำนวนของอันเก่ามากกว่าฉบับใหม่อีกอ่ะ -*-) บรรยายได้ดี เห็นภาพ ไม่งง ใช้ภาษาสมัยโบราณนิดๆ และต้องชื่นชมคนเขียนมากเลยเพราะภาษามันค่อนข้างโบราณจริงๆ ทำให้ต้องระมัดระวังในการแต่งพอสมควร แต่ก็แต่งออกมาได้ เยี่ยม ซึ่งมันก็มีจุดที่อยากติเหมือนกัน เช่น คะกับค่ะ (ง่ะ จะหาว่าเราจู้จี้หรือเปล่าเนี่ย) อ่านแล้วยังขัดๆ หูอยู่ เช่นตรงที่ว่า ทำไมท่านถึง...เลือกข้าเป็น...ราชินีค่ะ... เปลี่ยนเป็นคะจะรื่นหูกว่านะ อ้อ แล้วอ่านๆ ไปใช้สรรพนามว่าข้ากับเจ้าใช่ไหม แต่มันมีคำว่าค่ะโผล่มาซะได้ เราคิดว่ายุคนั้นไม่น่าจะมีหางเสียงแบบนี้นะ มันขัดๆ กันนิดๆ "น่าเสียดายที่ถูกแช่แข็งมาตลอด" บางคนอาจจะอ่านแล้วงงกับความหมาย น่าจะเพิ่มเป็น "น่าเสียดายที่ถูกแช่แข็งในตำแหน่งนั้นมาโดยตลอด" อืม เข้าใจง่ายกว่า "แล้วจะเอายังไงกันเธอ ต้องคิดถึงตำแหน่งที่สามีเจ้าจะได้รับด้วยนะ" แง่มๆๆ คำว่าเธอโผล่มาจากไหนอ่ะ มันเป็นข้ากับเจ้ามิใช่รึ? เลยลามไปเรื่องราชาศัพท์ต่อได้เลย สามี เปลี่ยนเป็น พระสวามี อะไรทำนองนี้จะดีกว่า อยากให้ระวังเรื่องการใช้ราชาศัพท์ด้วยนะคะ มันเสี่ยงมากๆ เลยที่จะผิด ดูเสหมือนนารินย่าภาคใหม่จะแดงอารมณ์ง่ายกว่าอันเก่านะ มันเลยทำให้ (อันนี้ความคิดของเราเอง โปรดอย่าใส่ใจ แค่อยากบ่น) น่าสนใจน้อยลงไปนิด เกิดอาการตลาดมากกว่าเดิม ทำให้ตัวเอกของเรื่องนี้เริ่มมีอาการคล้ายๆ นิยายเรื่องอื่นๆ จบ สุดท้ายแล้ววว ยังไงก็สู้ต่อไป มีคำแนะนำอีกนิด ถ้าเปลี่ยนฟอนต์จากตัวหนาๆ ที่ใช้อยู่เป็นพวกคอร์เดียอะไรทำนองนี้จะทำให้น่าอ่านขึ้นค่ะ ปล. วิจารณ์ตามความคิดของเราเอง ความรู้สึกของเราเอง ซึ่ง เราเองก็เป็นแค่คนๆ หนึ่งในร้อยในพันคนที่ได้อ่านเรื่องนี้ เพราะฉะนั้นอย่ายึดติดกับคำวิจารณ์นี้เกินไป ยังไงก็ขอบคุณมากๆ ค่ะ   อ่านน้อยลง

    wan-nilla | 4 พ.ย. 52

    • 11

    • 1

    ดูทั้งหมด

    คำนิยมล่าสุด

    "Fantasy Book Critic"

    (แจ้งลบ)

    ผู้วิจารณ์ : ผู้สร้าง ภาษาที่ใช้ : 16/25 คะแนน - เอกลักษณ์ ภาษาที่ใช้ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีนะครับ อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าเป็นหนังสือการ์ตูน การบรรยายก็เป็นไปค่อนข้างดี แต่ถ้าถามว่ามีเอกลักษณ์ไหม ตรงนี้ยังไม่มีอะไรโดดเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัดครับ ไม่ได้ให้อารมณ์เหมือนนิยายแปล (การที่บอกว่าไม่ให้อารมณ์เหมือนนิยายแปล ไม่ไ ... อ่านเพิ่มเติม

    ผู้วิจารณ์ : ผู้สร้าง ภาษาที่ใช้ : 16/25 คะแนน - เอกลักษณ์ ภาษาที่ใช้ถือว่าอยู่ในระดับที่ดีนะครับ อ่านแล้วไม่รู้สึกว่าเป็นหนังสือการ์ตูน การบรรยายก็เป็นไปค่อนข้างดี แต่ถ้าถามว่ามีเอกลักษณ์ไหม ตรงนี้ยังไม่มีอะไรโดดเด่นออกมาอย่างเห็นได้ชัดครับ ไม่ได้ให้อารมณ์เหมือนนิยายแปล (การที่บอกว่าไม่ให้อารมณ์เหมือนนิยายแปล ไม่ได้หมายความว่า ไม่ให้อารมณ์เหมือนนิยายฝรั่ง นะครับ แต่หมายถึงว่า นิยายแปลนั้น ผู้แปลแต่ละท่านส่วนใหญ่จะมีความสามารถมากในการเลือกใช้คำ แต่ละท่านมีเอกลักษณ์การแปลแตกต่างกัน) - ชื่อตัวละคร ถ้าชื่อตัวละครเป็นชื่อที่คิดเอง ตรงนี้อยากให้ตั้งชื่อโดยพิจารณาจากตัวละครหน่อยนะครับ เช่นถ้าตัวละครมีอำนาจ ชื่อก็ควรจะฟังดูให้อารมณ์น่าเกรงขาม อะไรแบบนี้น่ะครับ เพราะชื่อตัวละครเป็นส่วนสำคัญเหมือนกันในนิยายเรื่องหนึ่ง แต่ถ้าชื่อตัวละครไม่ได้คิดเอง ชื่อตัวละครแต่ละตัวก็ควรจะฟังดูเหมือนมีรากฐานมาจากภาษาเดียวกัน นอกจากว่าตัวละครจะมาจากต่างถิ่นกัน ฯลฯ - การสะกดคำผิด การสะกดคำผิดมีอยู่นะครับ แต่ตรงนี้จะไม่พูดถึงเนื่องจากเป็นเรื่องทางเทคนิค แต่ที่จะแนะนำก็คือควร -- อย่างน้อย -- เปิดพจนานุกรมเพื่อตรวจสอบความถูกต้อง สำหรับคำศัพท์บางตัวที่ไม่แน่ใจ ประโยชน์จากตรงนี้นอกจากจะทำให้ได้คำที่สะกดถูกแล้ว ยังอาจได้ทางเลือกในการใช้คำด้วยนะครับ - อัศเจรีย์ การใช้เครื่องหมาย ! ใช้แค่ทีเดียวก็เพียงพอนะครับ ถ้าจะเน้นว่าตกใจมาก ให้ไปเพิ่มในส่วนของการบรรยาย ความน่าสนใจ หรือความน่าติดตาม : 12/20 คะแนน - บทแรก ไม่มีอะไรหวือหวา เรื่องราวเริ่มด้วยการบรรยาย และมีการกล่าวถึงคำทำนาย แนวคิดคำทำนายเกี่ยวกับบางสิ่งที่ยิ่งใหญ่จะเกิดขึ้นเมื่อบรรลุเงื่อนไขบางอย่าง (ในที่นี้คือสองนารีตาต่างสีถือกำเนิด) แนวคิดนี้มีใช้กันทั่วไป เลยทำให้การนำเสนอเรื่องราวดูธรรมดาลงไป แม้จะมีการนำเสนอสิ่งใหม่ -- ในทีนี้คืออินทรีวิเศษ -- แต่สิ่งใหม่ที่ถูกนำเสนอก็ไม่น่าสนใจเท่าไร - ความน่าติดตาม งานเขียนนี้ไม่ได้มีความโดดเด่นเรื่องการใช้ภาษา เพราะฉะนั้นผู้อ่านที่ชื่นชอบนิยายภาษาสละสลวยอาจเห็นว่าไม่ค่อยน่าติดตาม อีกทั้งสิ่งใหม่ที่ถูกนำเสนอก็ไม่ใช่สิ่งที่มีความน่าสนใจเท่าไร ในที่นี้ผู้ที่ชื่นชอบน่าจะเป็นเรื่องของตัวละครมากกว่า ซึ่งจะกล่าวต่อไป ความมีมิติของตัวละคร ความมีลักษณะเฉพาะของตัวละครแต่ละตัว : 9/15 คะแนน - คำพูดของตัวละคร สิ่งที่เห็นได้ชัดก็คือการใช้คำพูดของตัวละครแต่ละตัว คำพูดของตัวละครแต่ละตัวสะท้อนอุปนิสัยของตัวละครนั้น ๆ ได้ในระดับหนึ่ง เป็นต้นว่า ลักษณะการพูดของตัวละคร ฟราน ซึ่งในเรื่องเป็นตัวละครที่มีอำนาจ คำพูดที่ใช้ให้ความรู้สึกว่าตัวละครค่อนข้างมีความหยิ่งผยอง ตัวพี่สาว นารินย่า ให้ความรู้สึกว่าเป็นตัวละครที่มีความเข้มแข็ง ส่วนตัวน้องสาวให้ความรู้สึกว่าอ่อนแอกว่า โดยลำพังเพียงอ่านบทพูดก็สามารถแยกแยะได้ในระดับหนึ่งว่าเป็นคำพูดของตัวละครใด - เกี่ยวกับตัวละคร ตัวละครแต่ละตัวแสดงบทบาทไปตามความคิดง่าย ๆ มีลักษณะเฉพาะที่แน่นอนและดำเนินไปตามลักษณะนั้น ตัวละครแบนเหมือนหลุดออกมาจากหนังสือการ์ตูน ความสมจริงของฉาก ความเป็นเหตุเป็นผล ความน่าเชื่อถือ การตัดสินใจของตัวละคร ความเป็นมนุษย์ ฯลฯ : 9/15 คะแนน - เกี่ยวกับตัวละคร ตัวละครหลัก ฟราน ในต้นเรื่องกล่าวว่าเป็นผู้ปกป้องรักษาให้ความช่วยเหลืออาณาจักรนาเทเชียมานาน ทว่าตัวละครกลับไม่มีลักษณะที่พึงมีของบุคคลที่มีบทบาทดังกล่าวเลย ตัวละครไม่มีความน่าเกรงขาม เหมือนเด็ก ตรงนี้ทำให้ตัวละครเหมือนหลุดมาจากหนังสือการ์ตูน ความสามารถในการสื่ออารมณ์ถึงผู้อ่าน ผู้อ่านเข้าถึงตัวละครได้แค่ไหน เข้าใจความรู้สึกที่ต้องการสื่อออกมาจาก ตัวอักษร หรือไม่ : 9/15 คะแนน - การสื่ออารมณ์ การสื่ออารมณ์ไม่ได้เป็นไปอย่างลึกซึ้ง แต่เป็นไปอย่างง่าย ๆ เหมือนหนังสือการ์ตูน แต่ไม่ได้หมายความว่าผู้อ่านจะไม่สามารถเข้าถึงอารมณ์ของตัวละครได้ ในส่วนนี้ผู้ที่ชื่นชอบการอ่านหนังสือการ์ตูนจะชอบตัวละครหลัก ๆ ของงานเขียนเรื่องนี้ไปเลย เพราะอ่านแล้วเข้าใจง่าย การค้นคว้าของผู้เขียน / ผู้อ่านได้ความรู้บางอย่างเพิ่มเติมในการอ่านนิยายเรื่องนั้น ๆ หรือไม่ เพียงใด : 2/5 คะแนน - การค้นคว้า ผู้อ่านไม่รู้สึกว่าผู้เขียนมีการทำการค้นคว้าอะไรเป็นพิเศษ กระนั้นผู้อ่านก็อาจได้รับความรู้เรื่องจักร ๆ วงศ์ ๆ บ้างจากการอ่านงานเขียนนี้ และ คะแนนพิเศษ (ขึ้นอยู่กับผู้วิจารณ์) : 2/5 คะแนน - เบาสมอง งานเขียนเบาสมอง คนที่ชอบก็จะชอบไปเลย รวม : 59/100 คะแนน เหรียญที่ได้ : เหรียญทองแดง กรุณาไปกรอกเอกสารเพื่อขอรับเหรียญรางวัลต่อไป   อ่านน้อยลง

    FantasyBookCritic | 7 มี.ค. 53

    • 11

    • 1

    "★PiPiKa,,,(:: open ::) " รับวิจารณ์นิยายครับผม★"

    (แจ้งลบ)

    นิยายเรื่อง The Eagle Guard ตำนานเทพอสูรคู่บัลลังก์ ภาค 1 โดย Keisei เป็นนิยายเรื่องที่มีพล็อตน่าสนใจและไม่มีใครเหมือนแม้จะสักเล็กน้อย พล็อตของนิยายเรื่องนี้เป็นพล็อตสไตล์ผู้แต่งที่ไม่มีใครสามารถจะเหมือนได้ ถึงแม้พล็อตอาจจะคล้ายๆ กันแต่นิยายเรื่องนี้นอกจากจะเป็นพล็อตที่ไม่ซ้ำใครแล้วยังเป็นพล็อตที่โดดเด่นโดนใจผู้อ่านมากอีกด้วย โดยส่วนตัวผมเป็นคนไม่ ... อ่านเพิ่มเติม

    นิยายเรื่อง The Eagle Guard ตำนานเทพอสูรคู่บัลลังก์ ภาค 1 โดย Keisei เป็นนิยายเรื่องที่มีพล็อตน่าสนใจและไม่มีใครเหมือนแม้จะสักเล็กน้อย พล็อตของนิยายเรื่องนี้เป็นพล็อตสไตล์ผู้แต่งที่ไม่มีใครสามารถจะเหมือนได้ ถึงแม้พล็อตอาจจะคล้ายๆ กันแต่นิยายเรื่องนี้นอกจากจะเป็นพล็อตที่ไม่ซ้ำใครแล้วยังเป็นพล็อตที่โดดเด่นโดนใจผู้อ่านมากอีกด้วย โดยส่วนตัวผมเป็นคนไม่ชอบอ่านนิยายแฟนตาซีเท่าไหร่เพราะว่านิยายแฟนตาซีมันมีเนื้อหาเยอะและคำบรรยายเยอะ(ขี้เกียจอ่านนั่นเอง)จึงทำให้ผมไม่ค่อยอ่านนิยายแนวแฟนตาซีเท่าไหร่ เมื่อผมได้มาอ่านนิยายเรื่องนี้แล้วก็รู้สึกสนใจเป็นพิเศษ เรื่องแนวนี้ผมค่อนข้างชอบนะครับแบบว่าถูกใจอย่างแรงอ่ะ นิยายเรื่องนี้นอกจากจะเป็นแนวแฟนตาซีแล้วยังมีความรักหวานแหววกุ๊กกิ๊งแบน่ารักๆ ของนางเอกและพระเอกอีกด้วยจึงอาจเป็นปัจจัยที่ทำให้ผู้อ่านที่ชอบแนวรักๆ สนใจอยู่มาก การเปิดเรื่องในตอนแรกก็ดีครับ มีการสาธยายถึงเรื่องในอดีตก่อนที่จะเริ่มเรื่องจริงๆ ซึ่งผมชอบการเปิดเรื่องอย่างนี้ครับเนื่องจากมันจะทำให้ผู้อ่านรู้เรื่องราวของนิยายเรื่องนี้ถึงแม้จะเล็กน้อยและทำให้ผู้อ่านทราบถึงพล็อตเรื่องได้เป็นอย่างดี ผมขอพูดถึงเรื่องการดำเนินเรื่องสักเล็กน้อย การดำเนินเรื่องของคุณผมว่ามันดูไหลลื่นจนเกินไปนิด ไม่ค่อยมีเหตุการณ์น่าตื่นตาตื่นใจเท่าไหร่ ถึงแม้จะมีแต่คุณก็บรรยายความรู้สึก ท่าทาง อารมณ์ของตัวละครออกมาไม่ชัดเจนเท่าที่ควร ผมจึงรู้สึกเฉยๆ ฉากที่มีเหตุการณ์เกิดขึ้นไม่ว่าจะเป็นการหักมุมที่ให้นารินเซียขึ้นครองราชย์แทนนารินย่าที่น่าจะมีอารมณ์ความรู้สึกแบบตกตะลึงแต่นี่ผมรู้สึกเฉยๆ อ่ะครับ แล้วยังฉากที่มีคนร้ายเข้ามาลอบปลงพระชนม์อย่างเนี่ยมันน่าจะมีความรู้สึกแบบตื่นเต้นนิดๆ ที่ผมอยากจะบอกก็คือ ผมอยากให้คุณบรรยายเรื่องราวโดยการใส่อารมณ์เข้าไปหน่อย ก่อนอื่นคุณก็ต้องมีอารมณ์และความรู้สึกเช่นเดียวกับตัวละคร ถ้าคุณมีอารมณ์และความรู้สึกเหมือนกับตัวละคร ผมรับลองได้เลยว่า คุณจะสามารถบรรยายเรื่องราวได้น่าค้นหา น่าดึงดูด น่าตื่นเต้นและน่าติดตามได้มากกว่านี้แน่ๆ ประเด็นต่อมาที่ผมจะขอพูดถึงก็คือ เรื่องคำราชาศัพท์ คำราชาศัพท์โดยส่วนตัวคำราชาศัพท์สำหรับผมเป็นภาษาที่ใช้ยากเพราะว่าส่วนมากจะเป็นคำยาวๆ และศัพท์ยากๆ จึงทำให้ยากแก้การจดจำ ซึ่งข้อนี้บางคนอาจจะเห็นด้วยเหมือนกับผม ในการเขียนนิยายที่มีคำราชาศัพท์ต้องเป็นคนที่มีความรู้ดีเลิศเรื่องภาษาไทยและต้องเป็นคนที่รู้จักใช้คำราชาศัพท์แต่ละคำให้สอดคล้องกับเรื่องที่คุณแต่งด้วย นิยายของคุณเท่าที่ผมได้อ่านมานั้นคำราชาศัพท์บางคำก็ดูขัดแย้งระหว่างความหมายของคำและประโยคต่อท้ายคำราชาศัพท์ซึ่งบางคำคุณก็ใช้ผิดๆ ถูกๆ ซึ่งผมอ่านแล้วมันทำให้รู้สึกงงจับใจเลยครับแล้วมันยังส่งผลกระทบทำให้การดำเนินเรื่องที่มันน่าจะไหลลื่นก็ต้องสะดุดเพราะว่าผมจะต้องอ่านซ้ำไปซ้ำมาเพื่อที่จะได้เข้าใจความหมายที่คุณต้องการสื่อ ผมจะขอยกตัวอย่างสองสามคำที่คุณใช้ผิดนะครับ เช่น คำว่า เกล้ากระหม่อม กับ หม่อมฉัน สองคำนี้ผมก็เห็นคุณใช้ในเนื้อเรื่องซึ่งอยู่ในตอนที่สี่โดยที่คุณใช้อย่างนี้ ‘เกล้ากระหม่อมฉัน.......’ ซึ่งมันดูแปลกๆ มันดูเหมือนคุณเอาสองคำนี้มาผสมรวมกันโดยที่ตัดคำว่า หม่อม อีกตัวไป ผมขออธิบายถึงความแตกต่างของสองคำนี้นะครับ คำว่า เกล้ากระหม่อม นั้นเป็นคำราชาศัพท์ที่เอาไว้ใช้กับผู้เป็นเจ้านายซึ่งคนพูดเป็น ผู้ชาย ส่วน หม่อมฉัน เป็นคำราชาศัพท์ที่เอาไว้ใช้กับผู้เป็นเจ้านายเหมือนกับคำว่า กระหม่อม แต่คำนี้ใช้กับคนพูดที่เป็น ผู้หญิง เท่านั้น! ซึ่งบางกรณีผู้ชายก็ใช้เหมือนกัน ที่ผมอธิบายมาคุณเข้าใจนะครับ มาดูคำต่อไปกันเลยดีกว่า คำว่า แทบเบี้องพระบาท คำนี้ในส่วนของตอนที่สี่เช่นกัน โดยปกติคำว่าเบี้องพระบาทจะมีคำว่า พระ ขั้นกลางระหว่าง เบื้องและบาท แต่คุณกลับใช้ว่า ‘แทบเบื้องบาท’ โดยที่คุณตัด พระ ออกไป ซึ่งการกระทำนี้มันทำให้คำนี้ไม่สมบูรณ์หรือความหมายไม่สมบูรณ์นั้นเอง จากเดิมความหมายน่าจะเป็นอย่างนี้แต่ความหมายกับไปเป็นอีกอย่าง สุดท้ายที่ผมสังเกตเห็นคำราชาศัพท์ที่เจอค่อนข้างบ่อยและดูเหมือนมันแปลกๆ ทุกคำเลยด้วย เป็นประโยคที่ว่า ‘ขอขอบพระทัยในน้ำพระเมตตาของพระองค์อย่างสูงยิ่ง’ น่าจะเปลี่ยนเป็น ‘ขอขอบพระทัยในความมีเมตตาของพระองค์อย่างสูงยิ่ง’ คำที่ผมยกตัวอย่างมันมีความหมายที่ชัดเจนและถูกต้องตามหลักการใช้คำราชาศัพท์ด้วยแต่ประโยคที่คุณใช้โดยที่คุณใช้คำว่า น้ำพระเมตตา แทนคำว่า ความมีเมตตา คำที่คุณใช้มันไม่มีในคำราชาศัพท์นะครับซึ่งพออ่านแล้วมันดูแปลกมากๆ เลยครับ ในส่วนของตรงนี้อยู่ในตอนที่สี่เช่นกันครับ ประเด็นสุดท้ายที่ผมจะขอพูดนิดเดียวเป็นเรื่องเกี่ยวกับ ภาษาที่คุณใช้ในการบรรยาย ภาษาที่คุณใช้ในการบรรยายมันก็ดีอยู่แล้วนะครับแต่ถ้าจะให้ดีกว่านี้ควรปรับเปลี่ยนเล็กน้อย เช่น จากลักษณะหรือตำแหน่งในเรื่องที่คุณใช้บรรยายแทนด้วยชื่อของตัวละคร ผมว่าบางทีผมอ่านแล้วมันก็รู้สึกงงๆ และไม่เข้าใจอยู่เหมือนกันอย่างประโยคที่มีการบรรยายเยอะๆ แล้วใช้ภาษาในการบรรยายโดยการเรียกลักษณะของตัวละคร มันทำให้ดูซับซ้อนและต้องมานั่งอ่านหลายๆ รอบซ้ำไปซ้ำมาว่าคุณบรรยายถึงตัวละครตัวไหน สรุปตรงประเด็นนี้คือ ภาษาในการบรรยายโดยการเรียกลักษณะหรือตำแหน่งของตัวละครมากกว่าการบรรยายแทนชื่อของตัวละครนั้น สามารถใช้ได้แต่ก็ระวังอย่าใช้เยอะจนเกินไปเพราะมันทำให้ผู้อ่านไม่เข้าใจว่าคนที่คุณบรรยายถึงเป็นใคร หากจะกล่าวโดยสรุปแล้วนิยายเรื่อง The Eagle Guard ตำนานเทพอสูรคู่บัลลังก์ ภาค 1 ของ Keisei เป็นนิยายเรื่องที่ควรแก้ไขอยู่บางส่วน ทั้งเรื่องของการดำเนินเรื่อง เรื่องการบรรยาย เรื่องการใช้คำราชาศัพท์และเรื่องของอักษรที่ผมคิดว่าควรจะปรับให้เล็กลงกว่านี้อีกนิดและเปลี่ยนสีให้เป็นสีดำมากกว่าสีเขียวเพราะว่าผมอ่านแล้วมันปวดตาครับ ก่อนที่จะลาจากกันเรื่องที่ผมอยากจะบอกก็คือ คำวิจารณ์ของผมเป็นเพียงแค่ความคิดเห็นของผู้อ่านคนหนึ่งเท่านั้น คุณไม่ควรทำตามไปซะหมด คุณควรคิดและเอาตรงส่วนที่คุณคิดว่าเห็นด้วยไปปรับใช้ ที่ผมพูดมาไม่ใช่ว่าคุณต้องปิดใจกับคำวิจารณ์นะแต่คุณต้องเปิดใจและคิดกลับไปแก้ไขถึงตรงส่วนที่คุณเห็นด้วยเท่านั้น   อ่านน้อยลง

    ๑pipika๑{yaoi} | 10 ธ.ค. 52

    • 8

    • 1

    ดูทั้งหมด

    ความคิดเห็น