เจ้าหญิงไอลินดา - นิยาย เจ้าหญิงไอลินดา : Dek-D.com - Writer
×

    เจ้าหญิงไอลินดา

    ณ พระราชวังมีนรา ตั้งอยู่บนเกาะใหญ่ มีวิญญาณเจ้าหญิงไอลินดาผู้เลอโฉมสิงห์สถิตอยู่ เมื่อสมัยที่นางยังเป็นมนุษย์นางจะมีมงกุฎและคทาเพชรประจำกาย

    ผู้เข้าชมรวม

    281

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    3

    ผู้เข้าชมรวม


    281

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  แฟนตาซี
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  18 พ.ย. 51 / 15:23 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เจ้าหญิงไอลินดา 
    ตอนที่ 1...ทัศนศึกษา 

          พระราชวังมีนรา ตั้งอยู่บนเกาะใหญ่ มีวิญญาณเจ้าหญิงไอลินดาผู้เลอโฉมสิงห์สถิตอยู่ เมื่อสมัยที่นางยังเป็นมนุษย์นางจะมีมงกุฎและคทาเพชรประจำกาย แต่ปัจจุบันนี้นางเหลือแค่เพียงวิญญาณ มงกุฎและคทาเพชรของนางจึงถูกเก็บไว้มิดชิดในสุสานของพระนาง นางต้องทนทุกข์ทรมานไม่ได้ไปเกิดเพราะอรุโณทิยา พี่สาวต่างพระมารดาของนางสังหารเธอและสะกดวิญญาณแค้นของเธอไว้ในเพชรที่ไม้คทาของเธอนั่นเอง นางจึงรอใครคนหนึ่งเพื่อมาแก้แค้นให้เธอ หากใครก็ตามที่ได้สวมมงกุฎเพชรของนาง และหน้าตาเหมือนพระนางเมื่อไหร่ ก็จะย้อนอดีตให้คนคนนั้นได้ไปล้างแค้นให้เธอและเป็นผู้ปลดปล่อยวิญญาณเธอ เพื่อพระนางจะได้ไปเกิดใหม่หลังจากที่รอเวลานั้นมานานถึง 2,000 ปี 
        ว้าว! สวยจังเด็กนักเรียน4คน ที่ได้มาทัศนศึกษาที่ พระราชวังมีนราร้องตะโกนเป็นเสียงเดียวกัน เมื่อมาพบเห็นพระราชวังแค่หน้ากำแพง เพราะพระราชวังนี้กว้างใหญ่ ถึงจะดูทรุดโทรมไปมาก แต่ก็เหลือเค้าความหรูหราพอให้คนรุ่นใหม่ได้ยลกันเป็นบุญตา 
         อาจารย์ใจดีนะ พาเรามาทัศนศึกษาที่สวย ๆ แบบนี้คามิลเลีย เด็กสาวลูกครึ่งนัยน์ตาสีฟ้าคนหนึ่งพูดขึ้นด้วยหน้าตาที่สดใสเบิกบาน เธอดูมีความสุขที่ได้มาสถานที่แบบนี้ อนึ่งเพราะเป็นสิ่งที่เธอหลงใหลในเรื่องโบราณอยู่แล้ว 
         ฉันว่าไม่ดีเลยนะ คามิลเลีย อาจารย์ใจร้ายมากกว่า แทนที่จะพาไปที่สนุก ๆ ที่นี่ร้อนจะตายเฟรนด์ สาวน้อยหน้าอินเทรนด์แย้ง เธอเป็นคนทันสมัย ค่อนข้างขัดแย้งกับความคิดของคามิลเลีย 
         ทำไมเฟรนด์ว่าโบราณสถานอย่างนั้นล่ะ บางทีอาจมีสิ่งไม่มีตัวตนมาได้ยินก็ได้ และเธออาจเดือดร้อนคามิลเลียว่า 
         เธอขู่ฉันเหรอ ความเห็นไม่ลงรอยของพวกเธอทำให้ต้องมีเรื่องอยู่เป็นประจำ และนี่ก็อีกครั้งหนึ่ง พวกเธอกำลังจะทะเลาะกันหน้ากำแพงวัง 
         อามิสกับฟิล์ม เพื่อนนักเรียนชายที่มาด้วยรู้สึกรำคาญมาก อามิสซึ่งเป็นหนุ่มเจ้าอารมณ์อยู่แล้วจึงตะโกนต่อว่าเสียงเอ็ด หยุดเดี๋ยวนี้ -- ไปกันได้แล้วพอพูดเสร็จ เขาก็เดินเข้าประตูไป ปล่อยให้ฟิล์มเป็นคนยืนรอพวกเธออย่างหัวเสีย 
         ทั้ง 4 คนเดินเข้าไปภายในวังอย่างกระตือรือร้น พวกเขาค้นพบประวัติศาสตร์มากมายหลายอย่างที่เขาไม่รู้จัก บางครั้งต่างก็จดสิ่งที่รู้สึกว่าสำคัญลงในสมุดโน้ตเล่มบางที่เตรียมมาพร้อม จนกระทั่งมาถึงสถานที่หนึ่ง ซึ่งเป็นรูปปั้นหุ่นขี้ผึ้งสวยงาม ซึ่งเป็นรูปปั้นของสาวงามผู้หนึ่งในชุดสีฟ้าคลุมด้วยฟ้าบางสีขาว ทรงสวมมงกุฎเพชร และถือคทาเพชร คามิลเลียจึงอาสาอ่านป้ายที่เขียนไว้ด้วยหมึกสีทองเอง โดยมีใจความว่า เจ้าหญิงไอลินดา เป็นพระธิดาในพระราชาไอศุริยะ กับนางสนมเอกผู้ลึกลับ ไม่มีใครทราบพระนามของพระองค์ ลักษณะของเจ้าหญิงไอลินดาแตกต่างจากหญิงอื่นทั่วไปในยุคนั้น พระนางเป็นหญิงสาวผู้เดียวที่มีผมสีทองประกาย ตาสีฟ้า หน้าตาแฝงไปด้วยความเมตตาราวนางฟ้ามาโปรดบนโลกมนุษย์ จึงเป็นที่รักใคร่ของประชาชนทั่วไป พระนางสิ้นพระชนม์ในขณะที่ยังมีอายุเพียง 21 ปี สาเหตุการสิ้นพระชนม์ไม่มีใครรู้ แต่ประชาชนต่างเล่าลือกันว่า เป็นฝีมือของพระนางอรุโณทิยา ราชินีผู้ปกครองประเทศองค์ต่อมา 
         แค่นี้น่ะหรออามิสถาม 
         ใช่...แค่นี้แหละ -- ดูน่าสงสารจัง -- ชักอยากรู้เรื่องราวของพระนางอรุโณทิยาแล้วสิคามิลเลียตอบด้วยหน้าตาเศร้าสลด 
         เจ้าหญิงไอลินดาสวยขนาดนี้เชียวหรอเฟรนด์มองดูหุ่นขี้ผึ้งอย่างใจจดใจจ่อภายใต้แผงกระจกที่กั้นอยู่ไม่ให้ใครแตะต้อง เธอดูหน้าตารูปร่างพลางมองด้วยสายตาชื่นชมเป็นนัย ๆ และเธอก็ไปมองที่ริมฝีปากของพระนาง ปากบางราวกลีบกุหลาบสีชมพู อมยิ้มนิด ๆ พระนางต้องเป็นคนใจดีมาก ๆ แน่ ๆ เลย 
         แต่เอ๊ะ -- ทำไมหน้าตาคุ้น ๆฟิล์มพูดพลางทำสายตาเพ่งพินิจไปด้วย ว่าไปก็เหมือนคามิลเลียเหมือนกันนะ 
         คามิลเลียกำลังจดข้อความใส่สมุดโน้ตอยู่ก็สะดุ้งเฮือกขึ้นมาทันที อะไรกัน -- อย่าเปรียบแบบนี้สิฉันกลัวนะ สมัยพระนางน่ะมนต์ขลังเยอะซะด้วย -- ถ้าพระนางสาปผู้ที่ลบหลู่พระนางล่ะ 
         เธออย่าฟุ้งซ่านสิ -- เอ -- แต่ว่าไปหน้าตากับนัยน์ตาก็มีส่วนคล้าย...ไม่ใช่น้อย...นะอามิสพูดอย่างเห็นด้วยกับฟิล์ม แต่เมื่อพูดจบก็มีเสียงคลื่นลมมหึมาพัดวูบมาทางด้านล่างจากที่พวกเขาอยู่แล้วก็เงียบหายไป 
         เสียงอะไรน่ะเฟรนด์ตื่นตระหนก 
         พายุมามั๊งอามิสพูดอย่างไม่ได้สนใจอะไร 
         ถ้างั้น เราไปหาประวัติพระนางอรุโณทิยากันเถอะคามิลเลียชวนเพื่อนทั้ง ๆ ที่ยังมีสีหน้ากลัวนิด ๆ 
         สักพัก พวกเขาก็เดินมาถึงภาพวาดพระนางอรุโณทิยา ภาพวาดนั้นบ่งบอกได้เลยว่าพระนางเป็นคนที่สวยไม่ใช่น้อย หน้าตาพระนางดูนิ่งเงียบน่าค้นหายิ่งนัก ผมพระนางมีสีดำ ผิวสีน้ำผึ้งซึ่งไม่เป็นที่แปลกประหลาดอะไรเลยสำหรับชาวเมืองนั้นเมื่อสมัย 2,000 ปีที่แล้ว ภาพวาดนี้แสดงถึงความมีอำนาจของพระนาง โดยทรงนั่งบนบัลลังก์ทอง ทรงฉลองพระองค์ด้วยชุดสีดำปักลายด้วยดิ้นทอง รายล้อมไปด้วยเหล่าข้าราชบริพารที่เป็นชาย ดูแล้วพระนางเป็นหญิงเก่งยิ่งนัก คามิลเลียจึงรับอาสาอ่านประวัติด้วยตัวเองเช่นเคย พระนางอรุโณทิยา พระราชินีแห่งอาณาจักรมีนรานคร เป็นพระธิดาในพระราชาไอศุริยะกับพระราชินีมโนทิยา พระนางอรุโณทิยาได้ขึ้นครองราชย์เนื่องจากการสิ้นพระชนม์ของเจ้าหญิงไอลินดารัชทายาท ในรัชสมัยของพระนางเกิดจลาจลทั้งในวังและนอกวัง รัชสมัยพระนางจึงถูกรุกรานบ่อยครั้ง แต่พระนางก็รักษาแผ่นดินไว้ได้ จนกระทั่งพระนางได้หายสาบสูญไปเองเป็นเวลาเดียวกับที่พระราชตำหนักของพระนางถูกเผาเมื่อมีอายุเพียง 25 ปี พระศพของพระนางก็ไม่มีผู้ใดพบเห็น 
         น่าแปลกจริงฟิล์มพูด ใครกันที่เป็นคนเผาล่ะเฟรนด์สงสัยแต่ดูเหมือนจะไม่มีใครสนใจคำถามนี้ 
         ทั้ง ๆ ที่เป็นน้อง แต่ได้เป็นรัชทายาท...จึงไม่น่าแปลกเลยที่คนสังหารจะเป็นอรุโณทิยาอามิสพูด 
         ฉันชักสนใจในตัวเจ้าหญิงไอลินดามากขึ้นแล้วสิ ว่าทำไมพระนางจึงมีหน้าตาแตกต่างจากคนอื่นคามิลเลียพูด 
         ไอศุริยะไปเที่ยวอเมริกามามั๊งเฟรนด์ตอบแบบไม่คิด 
         สมัยนั้นมีอเมริกาที่ไหนกันเล่า -- และอีกอย่างพระองค์คงไม่ไปไกลได้ขนาดนั้นหรอกคามิลเลียแย้ง 
         หรือสนมเอกจะเป็นเทพเจ้ากรีก แบบเฮเลนไง ที่พ่อเป็นเทพเจ้าซีอุส แม่เป็นคนเฟรนด์จินตนาการไกล 
         เลอะเทอะน่าคามิลเลียแย้งด้วยสีหน้าเบื่อ ๆ 
         อะไรนะ -- อุตส่าห์ออกความคิดเห็นยังมาว่า... 
         ก็ความคิดของเธอมันมันเว่อร์ไปน่ะสิ 
         แล้วเจ้าหญิงไอลินดาไปไม่ดูเว่อร์กว่าฉันหรอ 
         หยุดเถอะทั้งคู่น่ะอามิสเจ้าเก่าตวาดใส่ คามิลเลีย เฟรนด์อย่าทะเลาะกันอย่างไร้สาระ เพราะที่นี่ไม่ใช่มีเราแค่ 4 คน 
         เมื่อคามิลเลียกับเฟรนด์หันไปมองรอบ ๆ ก็พบว่ามีแต่คนขำพวกเธอ 
         โอเค หยุดก็ได้คามิลเลียหยุดสงครามโดยมีเฟรนด์ที่ยังแสดงสีหน้าไม่พอใจเล็กน้อย 
         ว่าไป ความคิดเฟรนด์ก็น่าคิดแฮะ -- แต่ -- คงไม่ใช่หรอกมั๊งอามิสพรึมพรำกับตัวเองเบา ๆ 
         เราลงไปดูชั้นล่างกันบ้างไหมฟิล์มพูด 
         ก็ดีอามิสตอบพลางเดินนำอย่างกับว่าเขาเป็นคนชวนเอง 
         เมื่อพวกเขาเดินลงบันไดมาถึงชั้นล่างก็พบว่าห้องใต้ดินที่อยู่ถัดมาอีกชั้นหนึ่งถูกเปิดไว้ราวกับไม่ใช่ใช้มือเปิด แต่เหมือนเอาระเบิดมาเปิดประตูจนเหมือนเปิดปากถ้ำต่างหาก เพราะขนาดประตูหนามาก 
         ห้องนั้น ไม่มีในโปรแกรมที่เขาให้ชมนี่หน่าคามิลเลียพรึมพรำ 
         ห้องลึกลับแน่เลย น่าสนเฟรนด์ตาลุกวาว เธอกระตือรือร้นที่จะลงไปแต่ฟิล์มดึงไว้ 
         เดี๋ยวก่อนจะดีกว่าฟิล์มบอก 
         เถอะน่า ขอฉันเข้าไปมองแวบเดียวเฟรนด์พูดจบก็สลัดมือฟิล์มและเดินไปแอบดูข้าง ๆ ประตู ภาพที่เธอเห็นคือ ข้างในนั้นมืดสนิท มีแสง ๆ หนึ่งเปล่งประกายอยู่จุดเดียวราวกับเป็นลูกแก้วนำทางในความมืด เธอเบิกตาโพลงด้วยความอยากได้เธอจึงรีบเข้าไปอย่างเร็วเพื่อจะไปดาวสิ่งนั้นมา เมื่อเพื่อน ๆ ของเธอเห็นจึงวิ่งเข้าไปหมายจะห้าม -- แต่แล้ว -- ทันใดนั้นเอง -- ประตูที่เปิดอยู่ก็ปิดได้เองอย่างปาฏิหาริย์ ทั้ง 4 คนหันไปมองประตูที่ปิดดัง ปั้ง ด้วยความตกใจกลัว -- ตอนนี้ -- พวกเขากำลังอยู่ในความมืด พวกเขาไม่สามารถมองเห็นเพื่อนของเขาคนใดคนหนึ่งได้เลย สิ่งที่พวกเขาคิดว่าจะสามารถทำให้พวกเขาเจอกันและเกาะกลุ่มกันได้อีกครั้งคือ แสงที่เปล่งประกาย สิ่งที่เฟรนด์อยากได้นักอยากได้หนา สิ่งที่นำพวกเขาเข้ามาติดอยู่ในนี้นั่เอง

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น