สวาทรักวิวาห์ลวง - นิยาย สวาทรักวิวาห์ลวง : Dek-D.com - Writer
×
NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด

    สวาทรักวิวาห์ลวง

    เธอ..ต้องแต่งงานกับเขา (คนพิการตาบอด) หน้าตาน่ารังเกียจแทนพี่สาวเพื่อใช้หนี้ให้กับคนที่ชุบเลี้ยงหล่อนมานั้น...เขา เมื่อรู้ความจริงว่าเจ้าหล่อนไม่ใช่คนที่จะต้องแต่งงานตอนแรก เขาจะทำเช่นไร...

    ผู้เข้าชมรวม

    1,395

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    1.39K

    ความคิดเห็น


    2

    คนติดตาม


    17
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    จำนวนตอน :  33 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  5 ก.ย. 66 / 20:19 น.
    คำเตือนเนื้อหา NC

    มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ดวงตากลมโตที่ดำขลับนั่งมองตัวเองในชุดเจ้าสาวสีขาวที่บริสุทธ์ ความใฝ่ฝันของหญิงสาวทุกคนที่จะสวมใส่มันเข้าพิธีวิวาห์กับคนรัก แต่มันไม่ใช่กับ มุกรินทร์ พาไล แววตาที่ดูเศร้าสร้อยใบหน้าสวยนั้นที่ดูเศร้าหมองบ่งบอกได้ถึงความรู้สึกในใจของเจ้าหล่อนตอนนี้ หล่อนคงเป็นเด็กที่เกิดมาอาภัพ พ่อแม่ตายตั้งแต่ยังไม่ 5 ขวบ หล่อนต้องมาอยู่กับลุงและป้า เติบโตมากับของใช้และของเหลือใช้ของพี่สาวลูกของลุงกับป้า โชคดีหน่อยที่ลุงส่งให้เรียนหนังสือ และหล่อนก็ต้องทำงานไปด้วยและเรียนไปด้วยเพื่อแบ่งเบาภาระท่าน

    นึกอิจฉาพี่สาวที่ใช้ชีวิตสุขสบาย กินดีอยู่ดีใช้เงินฟุ่มเฟือยจนคุณลุงต้องไปกู้หนี้ยืมสินเขามาจนเจ้าหนี้จะยึดบ้านไม่มีที่ซุกหัวนอนกันแล้ว ตกหนักใครหละคราวนี้ก็ผู้หญิงอาภาพแบบหล่อนไงต้องมาแต่งงานใช้หนี้ มุกรินทร์เอ๋ยมุกรินทร์ ดวงตาหวานของหล่อนกระพริบถี่ๆ เหมือนพยายามกลั้นน้ำใสๆ ไม่ให้ไหลออกมานั้น

    “ลุงขอโทษด้วยนะหนูมุก” เสียงสั่นเครือของชายวัย 65 ปีเดินเข้ามาด้วยใบหน้าที่ไม่ต่างจากหล่อนนัก มุกรินทร์หันกลับไปมองลุงสมศักดิ์ผู้มีพระคุณของหล่อนแล้วสวมกอด

    “ไม่เป็นไรเลยค่ะคุณลุง มุกไม่เป็นไรเลยค่ะ”

    “ถ้าฝั่งนั้นรู้ว่าหนูไม่ใช่มินตรา บ้านเราคงแย่แน่เลย”

    “จะรู้ได้ยังไงคะ ฝั่งนั้นเขาไม่เคยเห็นหน้ามุกสักหน่อย” เสียงหวานเอ่ยพรางยิ้มให้กับผู้เป็นลุง ผู้ซึ่งกังวลเรื่องชดใช้หนี้ นายหญิงจินตนา ผู้มีอิทธิพลในภาคใต้คือเจ้านี้รายใหญ่ของคุณลุง เธอต้องการให้ลุงชดใช้หนี้เงินกู้ ต้นทบดอก ดอกทบต้นรวมแล้ว 10 ล้าน

    “แต่นายหญิงท่านเคยมาบ้านลุงนะ เคยเจอหนูด้วย”

    “ตอนนั้นหนูเพิ่งอยู่มัธยม ท่านจะไปจำได้เหรอคะ แล้วอีกอย่างลูกสาวของท่านหรอกค่ะที่หนูจะต้องแต่งงานด้วย” มุกรินทร์พยายามพูดเพื่อให้ลุงของเธอสบายใจ รอยยิ้มของผู้สูงอายุคลายออกมาบ้าง ร่างบางยิ้มละมุนให้กับท่านก่อนจะนึกถึงมินตรา ลูกของลุงแท้ๆ และความจริงจะต้องเป็นพี่มินที่จะต้องแต่งงานกับลูกของนายหญิงจินตนาไม่ใช่หล่อน แต่จะทำยังไงได้ พี่มินตราไม่โวยวายลั่นบ้าน บอกว่าจะให้หล่อนไปแต่งงานกับคนพิการตาบอดเหรอ หล่อนไม่ยอมเด็ดขาด

    “อืม ถ้าอย่างนั้นลุงขอบใจหนูมุกมากนะลูก”

    “ไม่ต้องขอบใจเลยค่ะคุณลุง มุกต่างหากที่ต้องขอบพระคุณคุณลุงที่เลี้ยงดูมุกมาจนถึงทุกวันนี้ หนูรักคุณลุงนะคะ” หลานสาวและลุงกอดกันแน่น ต่างคนต่างซาบซึ้งในความรักความห่วงใยที่มีให้กัน มุกรินทร์มองเหม่อออกไปนอกหน้าต่าง อย่างน้อยที่นี่ก็ยังมีบรรยากาศดีๆ ให้หล่อนได้ผ่อนคลายอารมณ์บ้าง หญิงสาวมองไปยังท้องทะเลสีฟ้าครามนั้น หล่อนหลับตาเมื่อนึกถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นในอนาคตของตัวเอง

    “อ้าวได้เวลาแล้วยะ สองคนลุงหลาน” เสียงแหวดแหลมนั้นเป็นใครไปไม่ได้นอกจากป้ามนเฑียร ภรรยาของลุงหล่อนเอง สายตาที่ส่งมายังหล่อนมุกรินทร์ชินชากับมันเสียแล้ว ไม่มีแม้แววตาที่สงสารและเมตตาตั้งแต่เล็กจนโต ป้ามนเฑียรก็คอยแต่จะโขกสับหล่อนอยู่เป็นประจำ ใช้หล่อนทำงานเหมือนกับคนใช้คนหนึ่ง แต่หล่อนก็ไม่ถือโทษโกธรท่านหรอก อย่างน้อยท่านก็ไม่เคยไล่หล่อนออกจากบ้าน อาจเกรงใจลุงของหล่อนที่เป็นเจ้าของบ้านตัวจริงก็เป็นได้ ป้ามนเฑียรตามใจพี่มินเป็นที่สุด พี่มินอยากได้อะไรท่านก็หามาให้ถวายหัวเลยก็ว่าได้

    “นี่ยายมุก แกอย่าเผลอหลุดปากไปเชียวว่าแกไม่ใช่ยายมิน มีหวังบ้านเราซวยทั้งบ้านแน่”

    “ค่ะคุณป้า”

    “อือ ก็ดีแล้ว ไปกันได้แล้ว คนของนายหญิงมารับแล้ว” ประโยคนั้นทำให้มุกรินทร์ใจเต้นรัว หล่อนรู้สึกกล้าๆ กลัวบอกไม่ถูก หญิงสาวพยายามปรับสีหน้าให้เป็นปกติ ทันทีที่ประตูห้องเปิดออก ภาพที่เห็นคือชายชุดดำสองคนที่หยุดยืนรอหล่อนพร้อมกับพี่ช่างแต่งหน้า หล่อนรีบหยิบผ้าระบางสีขาวคลุมหน้าทันที

    งานนี้เป็นงานแต่งานของลูกสาวคนเดียวของนายหญิงจินตนา หญิงสาววัยกลางคนที่เป็นผู้มีโลกทัศน์กว้างพอๆ กับอิทธิพลในมือของท่าน ท่านยอมรับการอยู่กินแบบหนุ่มสาวสมัยใหม่ๆ เพศไหนก็ได้เพียงทั้งสองคนรักกัน ทุกอย่างดูจะสมบูรณ์แบบ แต่ทว่าลูกท่าน ปีชญา อากรกาฬ์ หรือคุณปี กลับประสบอบัติเหตุรถคว่ำตาบอดทั้งสองข้าง โชคดีที่ยังเดินได้ แต่ข่าวเหมือนว่าลูกสาวท่านก็เสียโฉม ทำให้ทุกคนได้ยินข่าวกลับรังเกียจแม้จะรวยแค่ไหนก็ซื้อใจคนที่จะมาดูแลลูกของเธอไม่ได้

    “ลูกพร้อมไหม คุณปี” ผู้เป็นแม่กระซิบถามพร้อมกับยิ้มออกมา เมื่อเห็นรูปร่างเจ้าสาวนั้นรู้สึกพอใจ หล่อนอยากให้ลูกสาวหล่อนเห็นว่าเจ้าสาวนั้นสาวไม่ใช่ย่อยเลย ขนาดยังเห็นหน้าไม่เต็มตาที่ก็พอเดาได้ รูบร่าง ทรวดทรงองค์เอวและผิวพรรณ หล่อนดีใจที่เลือกไม่ผิด

    “พร้อมค่ะคุณแม่” ปีชญา กระซิบตอบหล่อนไม่อยากเฉลยเลยว่าความจริงนั้นหล่อนมองเห็นทุกอย่างตั้งแต่เมื่อ2 เดือนก่อนแล้ว หลังจากผ่าตัดตาครั้งล่าสุดนั้น แต่ที่หล่อนไม่อยากบอกนายแม่เพราะต้องการจะเซอร์ไพร์ในวันเกิดท่าน ซึ่งอีก 3 สัปดาห์ที่จะถึงนี้  แต่นายแม่กลับเซอร์ไพร์หล่อนก่อน ไปจับลูกสาวของลูกหนี้ที่ไหนไม่รู้มาให้หล่อนแต่งงาน บอกว่าผู้หญิงคนนี้จะมาดูแลหล่อนได้ ใครจะเชื่อข่าวที่ปล่อยไปก็ไม่มีใครกล้ามาเข้าไกล้แล้ว ทั้งเสียโฉมทั้งตาบอด เชื่อเลยผู้หญิงที่เข้ามาก็เพื่อเงินเท่านั้นปีชญาคิดในใจ แต่สายตาก็มองยังร่างเล็กที่ค่อยๆ เดินมายังหล่อนนั้น

    “ได้ฤกษ์เข้าพิธีได้ครับ คู่วิวาห์เชิญแลกแหวนครับ” เสียงนั้นทำให้มุกรินทร์ต้องหยิบแหวนและสวมเข้ากับปลายนิ้วของเขาก่อน เพราะหล่อนรู้ว่าเขามองไม่เห็น จากนั้นหล่อนก็ทำหน้าที่จับมือของเขาแล้วส่งแหวนให้ จากนั้นก็ช่วยสอดปลายนิ้วนางข้างซ้ายให้กับเขาสวม  ทำเอาคนที่ยืนดูอยู่ห่างๆ พอใจ  รอยยิ้มผู้เป็นแม่คลี่ยิ้มออกมา

    ช่วงเวลาแห่งความยินดีผ่านพ้นไปจนมาถึงช่วงเวลาที่ระทึกของคู่วิวาห์ หลังจากที่ญาติผู้ใหญ่ออกไปหมดแล้วภายในห้องนี้ก็มีเพียงสองสาวที่ต่างฝ่ายต่างยังคงนั่งอยู่นิ่งๆ ปีชญาพยายามเหลือบมองใบหน้าของหญิงสาวข้างๆ หล่อนอยากเห็นจังว่าใบหน้าภายใต้ผ้าคลุมนั้นจะสวยเพียงไหน แต่เท่าที่เห็นก็น่าจะพอไปวัดไปวาได้อยู่

    มุกรินร์เหม่อมองขึ้นเพดานเพื่อทำใจอยู่สักพัก หล่อนพร้อมแล้วใช่ไหมที่จะเผชิญหน้ากับคนแปลกหน้าที่จะต้องกลายเป็นสามีของหล่อน คนที่เจอกันไม่ถึง 24 ชั่วโมง คนที่หล่อนจะต้องเป็นคู่ชีวิตด้วยนั้น หญิงสาวเหลือบไปมองร่างโปร่งของเขา หล่อนนึกสงสารที่เขามองไม่เห็น แถมข่าวว่าใบหน้าเสียโฉมอีก มุกรินทร์ขยับหันไปมองเขาอย่างช้าๆ

    “เธอไม่ต้องเกร็งนะ ทำตัวตามสบาย” เป็นปีชญาที่เอ่ยขึ้น แต่น้ำเสียงนั้นดูเรียบและไม่ยินดียินร้าย

    “ขอบคุณนะคะคุณปี” เสียงหวานเอ่ยพร้อมกับยิ้มออกมาบ้าง

    “เธอคือมินตราใช่ไหม” ชื่อนี้ทำให้มุกรินทร์สะดุ้ง

    “เอ่อค่ะๆ ”

    “ชื่อเล่นว่าอะไร”

    “เอ่อชื่อๆ มุกค่ะ” ที่หล่อนตอบช้าเพราะกำลังคิด หากปดชื่อเล่นเกรงว่าสักวันจะหลุดปาก ร่างบางจึงบอกเขาตามตรง นึกโล่งใจที่เขาไม่ได้ถามอะไรต่ออีก

    “อ้าวจะไปไหนคะ คุณปี” เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายทำท่าจะลุกขึ้น  หล่อนจึงรีบเปิดหน้าแล้ววิ่งไปประคองเขา เพราะเกรงว่าเขาจะสะดุดอะไรล้ม และวินาทีนั้นทำให้ร่างโปร่งเห็นดวงหน้าสวยหวานนั้นอย่างเต็มตา ดวงหน้ารูปไข่ รับกับคิ้วเรียวเล็ก จมูกจิ้มลิ้มและปากกระจับสีสวย  ทำให้ปีชญาถึงกับตะลึง หล่อนไม่คิดว่าลูกสาวลูกหนี้นายแม่จะสวยขนาดนี้

    “ระวังนะคะ เดินมานั่งตรงนี้ก่อน” มุกรินทร์มองเขาอย่างกังวล หล่อนพาเขามานั่งตรงปลายเตียงก่อนที่จะจัดการดึงผ้าคลุมผมตัวเองออกให้พ้นเพราะมันเกะกะ ก่อนที่จะเดินไปยืนตรงหน้าเขาแล้วถอนหายใจก่อนที่จะเปิดหน้าเขา  เพราะเกรงว่าใบหน้านั้นจะน่าเกลียดน่ากลัว

    “เดี๋ยวมุกเปิดผ้าคลุมให้นะคะ” หล่อนเรียกชื่อตัวเองเพื่อสร้างความคุ้นเคย เมื่อเห็นว่าเขาพยักหน้า มือเล็กก็ค่อยๆ เคลื่อนไปจับชายผ้าเพื่อเปิดขึ้น

    “หมับ!!” “อุ๊ย!!” หล่อนสะดุ้งเมื่อเขามาจับมือหล่อนเอาไว้

    “ไม่กลัวเหรอ ที่ว่าคุณปีน่าตาน่าเกลียดหนะ”

    “ไม่หรอกค่ะ หมอสมัยนี้เก่งเดี๋ยวมุกพาไปศัลยกรรมก็ได้ค่ะ” หล่อนอมยิ้มแล้วพูดปลอบใจเขา เมื่อเห็นว่าเขาคลายมือออก  หล่อนจึงค่อยๆ เปิดผ้าคลุมนั้นขึ้น หัวใจของหล่อนก็เต้นรัวขึ้นทุกขณะ  หล่อนพยายามข่มใจตัวเองอย่าทำอะไรให้เขารู้สึกไม่ดีเด็ดขาด

    ร่างโปร่งที่นั่งอยู่ก็อมยิ้ม ภาพที่เห็นทำให้ปีชญาเอ็นดู หญิงสาวนึกพอใจที่เจ้าหล่อนไม่ได้ขี้เหร่อย่างที่คิด ส่วนนิสัยใจคอนั้นคงต้องดูกันอีกต่อไป แต่ที่แน่ๆ น่าตาน่าแกล้งเป็นบ้าเลย  เจ้าหล่อนคิดพรางอมยิ้มอย่างมีเลศนัย...>>>>>>>>

     

     

    โปรดติดตามจ้า (ฝากไว้อีกเรื่องให้ฟินจ้า)

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น