คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #2 : เรื่องมันเริ่มจากหมวย.. 1
1
" เรื่องมันเริ่มจากหมวย... ”
“อะไรนะ!!!!”
เสียงของฉันพุ่งขึ้นสูงทะลุหนึ่งร้อยแปดสิบเดซิเบลทันทีหลังจากได้ยินสิ่งที่ยัยหมวยพูดก่อนหน้านี้เกี่ยวกับไอ้กลุ่มนั่นว่าชีตติ้งคลับ (Cheating Club) ที่ว่านี้คือ...
“นี่แกกำลังบอกให้ฉันนอกใจแพทงั้นเหรอ"
“ฉันก็แค่เสนอเฉยๆ มันฟังดู...ไม่สนุกรึไง ตะกี๊ฉันยังเห็นแกยังดูระทึกอยู่เลย"
“อีบ้า นี่มันหายนะชัดๆ"
“ไม่ลองไม่รู้นะ"
"โถ่เอ๊ย ย้ำนักย้ำหนาให้อีกฝ่ายไม่นอกใจ แต่ตัวเองกลับทำซะเองเนี่ยนะ แค่คิดก็นรกแล้ว ไม่เอาอ่ะ ฉันไม่ทำ ฉันจะไม่นอกใจแพท!!"
ในขณะที่ฉันกำลังจะปฏิเสธข้อเสนออยู่นั้นเอง หมวยก็ได้แต่ส่ายหน้าไปมาแล้วพูดต่อ
“งั้นฉันถามหน่อยว่า แกน่ะ จะไว้ใจที่รักแกได้มากแค่ไหนกัน"
ฉันใช้สายตาหันไปค้อนเพื่อนรักเมื่อพบว่านั่นคือคำถามที่กำลังสร้างความบาดหมางชัดๆ ถ้าไม่ติดว่าเธอเป็นเพื่อนรักฉัน ฉันจะคิดว่าเธอเป็นมือที่สามอยู่แน่นอน
“ที่ผ่านมาเราไม่เคยนอกใจกันเลยนะ ยิ่งกับคนอย่างแพท เขาไม่มีทาง...”
“โอเคๆ ถ้านี่ทำให้แกไม่สบายใจแกไม่ต้องทำตามข้อเสนอฉันก็ได้"
“อ้าว"
"แต่ที่ฉันบอก ก็แค่อยากจะบอกว่ามันเวิร์คสำหรับแกตอนนี้จริงๆ นะแคท"
ว่ากันตามตรงเลยว่าฉันเองก็ยังไม่เข้าใจเท่าไหร่ว่ามันดียังไงกับการที่นอกใจแฟนตัวเองไปคุยกับคนอื่น สิ่งที่ฉันกลัวมากๆ ก็คือฉันผลร้ายๆ ที่อาจจะตามมานี่แหละ ถ้าเกิดคนที่ฉันไปคุยด้วยหล่อกว่าแพท ดีกว่าแพท แต่เอาจริงๆ เท่าที่ฉันได้ฟังประสบการณ์คนอื่นๆ มา เพื่อนฉันแต่ละคนเวลาพูดถึงเรื่องผู้ชายฉันก็ไม่เห็นจะมีใครคนไหนดีไปกว่าแพทเลย ฉะนั้นลืมเรื่องที่จะหาใครดีกว่าแพทไปได้ ถ้าเลิกกับเขา ชีิวิตนี้ก็สิ้นหวังแล้วเหอะ
“มันเวิร์คตรงไหนไม่ทราบ"
“ก็อย่างที่บอก คนที่คลับนี้จะนอกใจกันโดยที่จะไม่ผูกมัดกันไง"
“ไม่ผูกมัด?”
“ใช่! แกคิดว่าบนโลกนี้มีเธอที่เบื่อเศร้าเพราะเหตุผลมากมายจากแฟนที่ไม่สามารถทำหน้าที่แฟนได้อย่างเต็มที่อยู่คนเดียวรึไง"
“นี่แกกำลังจะบอกว่า...”
“คนในคลับนี้ส่วนใหญ่ก็จะมีแฟนกันแล้วทั้งนั้นแหละ เพราะการมีแฟนแล้วนั่นหมายความว่าเราทุกคนต่างเลือกที่จะแอบมาคุยกันโดยไม่มีการผูกมัดทั้งทางกายและอารมณ์ ก็แค่คุยแก้เหงาแก้เซ็งไปวันๆ"
“เดี๋ยวนะ ขอฉันตั้งสติก่อน เธอกำลังหมายความว่าพวกเขาจะนอกใจแฟนตัวเองโดยที่ต่างฝ่ายก็ไม่ให้แฟนตัวเองรู้ว่าตนกำลังนอกใจงั้นเหรอ”
“อย่าโง่ไปหน่อยเลยคุณเพื่อน ใครจะยอมให้แฟนตัวเองรู้เรื่องแบบนี้กันล่ะ"
“คือต่างคนต่างก็จะไม่จริงจังกันอะไรแบบนี้เนี่ยนะ??"
“ถูก!"
ฉันกรอกตาไปมาด้วยความรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เอาเข้าจริงมาถึงตอนนี้มีสิ่งที่ฉันกลัวอยู่ไม่กี่อย่าง นอกจากจะกลัวว่าอีกฝ่ายจะมาผูกมัดจริงจังจนกระทบถึงความสัมพันธ์อันยาวนานระหว่างฉันกับแพทแล้ว ก็คงเป็นเรื่องที่ฉันกลัวว่าฉันจะเจอคนใหม่ที่ดีกว่าจนกลายเป็นฉันเองที่ทำให้ความสัมพันธ์ของเราพังอย่างที่บอก ฉะนั้นฉันต้องระวังเรื่องนี้ให้มากๆ เพราะอย่างที่บอกว่าต่อให้หัวใจตัวเองจะสั่นคลอนแค่ไหนแต่ฉันก็ห้ามระหองระแหงไปหลงกลจริตคิดจริงจังกับอีกฝ่ายเด็ดขาด
อันนี้พูดในกรณีที่ว่าสมมุติฉันคิดจะเข้าไอ้กลุ่มบ้านั่นที่หมวยกำลังพูดถึงอยู่จริงๆ น่ะนะ ซึ่งในใจฉันก็ยังรู้สึกไม่ค่อยแน่นอนเรื่องนี้เท่าไร เพราะที่หมวยบอกคือคุณสมบัติของผู้ชายคนนั้นจะต้องมีแฟนแล้ว...และต้องรักแฟนตัวเองมากๆ เนื่องจากต่างฝ่ายจะไม่ต้องมีปัญหาทีหลัง ถ้ากฏของการนอกใจระหว่างเรามีอย่างเดียวคือแก้เบื่อแก้เหงาให้กันและกัน ไม่มีอะไรเกินเลยหรือมากกว่าที่ตกลงไว้อย่างที่หมวยบอกจริงนั้น ก็คงน่าจะแฟร์ทั้งสองฝ่ายอยู่นะ!
“แต่มันก็เสี่ยงอยู่นา" แต่แล้วฉันก็อดทำเสียงอ่อนออกไปอีกไม่ได้อยู่ดี =_=
“เสี่ยงแล้วไง? ท้ายที่สุดฉันก็ไม่เห็นมีใครเสียเลย ไอ้ที่คนพวกนี้หวังๆ กันก็มีแต่ได้กับได้ การมีใครอีกคนที่สามารถมาแทนที่ความรู้สึกชั่วครั้งชั่วคราวมันคือการนำไปสู่ความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ บางทีไอ้เรื่องที่พูดกันว่าความลับไม่มีในโลกน่ะไม่จริงหรอก คนบางคนตายไปทั้งๆ ที่ยังไม่รู้เรื่องอะไรเลยก็มี ของแบบนี้มันต้องวัดดวงกันหน่อย แคท! ลองดู!"
โอ้มายก็อด นี่ฉันกำลังคิดจะทำบ้าอะไรอยู่เนี่ย นี่มันเป็นการนอกใจ...นอกใจ...นอกใจแพทเชียวนะ!!!
“แล้วไอ้คลับที่ว่าของเธอนี่มันอยู่ทีไ่หน"
อ้าว..เดี๋ยวนะ!!
“แหน่ะ เอาจริงดิ"
“ก็แกบอกให้ฉัน...ลอง"
ฉันพูดไปทั้งๆ ที่น้ำเสียงตัวเองตะกุกด้วยความรู้สึกไม่มั่นใจอะไรเลย จนกระทั่งหมวยพูดเสริมอีกทีนี่ล่ะ
“ถ้ามันไม่เวิร์ก... ถ้ามันไม่โอเค... ถ้าแกคิดว่านี่มันทำให้แกไม่สบายใจทั้งตัวแกเองรวมไปถึงพี่แพทล่ะก็... แกก็ค่อยถอยมาก็ได้นี่ เพราะถึงยังไงอีกฝ่ายเขาก็ไม่ได้หวังอะไรจากตัวแกมากอยู่แล้ว ที่สำคัญแกต้องแน่ใจว่าคนที่แกจะเล่นเกมด้วยนั้นจะต้องมีแฟนอยู่แล้วจริงๆ แล้วก็ไม่ใช่คนที่จะมาคาดหวังอะไรจากตัวแกเลยด้วย"
“แล้วถ้าเกิดมันมีปัญหาขึ้นมาล่ะ"
“นี่ ของแบบนี้มันตบมือข้างเดียวไม่ดังหรอก...จริงไหม"
ฉันได้พยักหน้าไม่กล้าเถียงหรือออกความคิดเห็นอะไรต่ออีก เพราะไม่ว่าจะเสนอความคิดอะไรยัยหมวยก็เอาแต่ล้อมฉันไปซะทุกทางออกของศึกสงครามกลางสนามครั้งนี้ แถมดูเหมือนว่าตอนนี้ฉันกำลังอยู่ในห้องเก็บตัวพร้อมเสื้อผ้าสำหรับลงแข่งอยู่กรายๆ ถ้าถอนตัวก็มีหวังแต่กลับออกไปพบกับความรู้สึกเดิมๆ อย่างคนมือเปล่า แต่ถ้ายอมเสี่ยงมุ่งหน้าเข้าไปยังกลางลานประลองดูสักตั้ง มันอาจจะมีผลอะไรดีๆ ตามมาจริงๆ ก็ได้
จริงอย่างที่ยัยหมวยบอก ถ้าไม่ลองมันจะไปรู้ได้ยังไง
ถ้าอย่างนั้นก็...จัดไปสิคะ หวอดอายูเวทติ้งฟอร์?
ความคิดเห็น