ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Cheating Club คลับนี้..มีแต่คนนอกใจ

    ลำดับตอนที่ #1 : คุณเคยนอกใจแฟนไหมคะ?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 143
      0
      7 ต.ค. 58




    บทนำ
    คุณเคยนอกใจแฟนไหมคะ?

     

    ฉันไม่รู้ว่าจะเริ่มเล่าเรื่องนี้ยังไง

    เอาเป็นว่าความกังวลนี้มันเริ่มตึ้นขึ้นนับตั้งแต่ตอนที่ 'แพท' แฟนฉันบอกว่าจะต้องไปเรียนต่อที่มหา'ลัยคิงส์ตันนานถึงหนึ่งปี หัวใจฉันแทบหล่นไปอยู่ที่ตาตุ่มเมืื่อพบว่ามันคือข่าวร้าย ใช่!! มันคือข่าวร้าย นี่คือครั้งแรกที่เราทั้งคู่ผู้ไม่เคยห่างกันไปไหนกลับต้องมาจากกันไปไกลเลยนะ แถมเส้นทางที่ว่าก็ไม่ใช่แค่กรุงเทพฯ-ภูเก็ต หรือแม้กระทั่งกระบี่-เชียงใหม่ ที่สามารถจะหาตั๋วโปรโมชั่นถูกๆ ของสายการบินโลคอสเพื่อนั่งเล่นกันไปมาหาสู่เมื่อไหร่ก็ได้ ในทางกลับกัน นั่นมันประเทศอังกฤษ! ห่างกันตั้งเป็นพันๆ ไมล์ ต้องเก็บเงินเท่าไหร่ถึงจะแบกเป้ไปได้ ไหนจะเงินทุนสำรองสำหรับยื่นขอวีซ่าอีก

    ทั้งหมดกำลังหมายความว่าฉันกับแพท...เราจะไม่เจอกันไปจนกว่าจะถึงเมษาปีหน้า!

    -- แต่จะว่าไปเรื่องนี้ไม่มีใครผิดหรอก

    มันถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีด้วยซ้ำที่แฟนตัวเองกำลังจะได้รับการศึกษาดีๆ เป็นใบเบิกทางสู่อนาคตข้างหน้า มันออกจะฟังดูเก๋จะตายถ้าเกิดใครถามว่าแฟนไปไหนแล้วตอบว่าเขากำลังเรียนต่ออยู่ที่ต่างประเทศ ฉันควรจะเห็นดีเห็นงามกับการตัดสินใจของเขาสิ ถ้าไม่ติดว่าอาการกลัวความห่างไกลจะเป็นผลจนทำให้เราต้องมีปัญหาถึงขั้นเลิกกัน

    ไม่! ฉันจะไม่พูดเรื่องนี้หากมันจะนำไปสู่ลางร้ายเป็นอันขาด

    ช่วงหลายสัปดาห์ก่อนออกเดินทางแพทสัญญาเป็นร้อยๆ รอบว่าเขาจะไม่นอกใจและจะไม่ปล่อยให้อะไรมาทำลายความสัมพันธ์อันเหนียวแน่นระหว่างเราสองคนได้ แต่ตลกเถอะ ไอ้ที่พูดๆ กันแบบนี้ฉันเห็นมาหลายคู่แล้วว่าท้ายที่สุดเรื่องมันมักจะจบลงยังไง นี่ไม่ใช่นวนิยายปรำปรา หมดยุคเอ็มเอสเอ็นแล้วก็เพจเจอร์ไปนานมากกกละ ถึงแม้ว่าเราทั้งคู่รู้จักกันมานานนับตั้งแต่สมัยเรียนมัธยมฯ เคยเลิกกันไปครั้งหนึ่งตอนเขาสอบติด (แพทเป็นรุ่นพี่ฉันสองปี) แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้ฉันไปสอบติดที่เดียวคณะเดียวกับแพทอีกซะงั้น ด้วยเหตุนี้ทำให้เรากลับมาเจอและได้คุยกันจนกลายเป็นความสัมพันธ์ครั้งใหม่ ความดีของแพททำให้ฉันหลงเขาหัวปักหัวปำ แม้ระหว่างเราไม่มีอะไรหวือหวาน่าตื่นเต้นเมื่อเทียบกับคู่อื่น แต่นั่นแหละคือเรื่องความดีงามที่ทำให้เราเป็นคู่รักที่ครองรักกันได้ยาวนานและไม่มีทีท่าว่าจะเลิกกันได้อีก ในสายตาของฉันแพทเป็นผู้ชายประเภทที่มักจะคอยเอาใจใส่ดูแลฉันเป็นอย่างดีสม่ำเสมอ ไม่มีเพิ่มเติมหรือลดน้อยลง และนี่ล่ะมั้งที่ทำให้ฉันแทบไม่ต้องการใครอีกนอกจากเขา

    ที่รักจะคิดถึงเขาไหม"

    ฉันทำท่าอ้อนเป็นลูกแมวสุดฤทธิ์เพราะคิดว่านั่นจะเป็นความหวังสุดท้ายที่จะทำให้แพทไม่นอกใจไปหาใครอื่น เรายังแทบไม่เคยจะมีอะไรกันเลยสักครั้งนั่นก็เพราะแพทบอกว่าอยากเก็บฉันไว้จนกว่าจะถึงคืนวันแต่งงาน แถมแม่ก็บอกว่าการเก็บสิ่งที่ลับของตัวเองไว้นานที่สุดคืออีกวิธีหนึ่งสำหรับการยกระดับระดับคุณค่าตัวเอง (หญิงไทยทุกคนควรเอาเยี่ยงอย่างฉันนะคะ) แน่นอนว่าตลอดเวลาที่คบกันแพทก็ไม่เคยเรียกร้องมันจากฉันสักครั้ง

    ฮิ! บอกแล้ว แฟนฉันน่ะ นอกจากจะหล่อเหลาเพอร์เฟ็กซ์แล้วเนี่ย เขายังให้เกียรติฉันมากๆ (มากเกินไปด้วยซ้ำ)

    ปีเดียวเองแคท ปีเดียวเองนะครับ"

    เห็นไหม บอกแล้วว่าเราน่ะเนื้อคู่กันตั้งแต่ชื่อนี่ละ ใช่ เขาชื่อแพท ฉันชื่อแคท แคทที่แปลว่าแมวนั่นล่ะ

    หนึ่งปีก็นานนะคะ ใครจะขับรถไปส่งลูกแมวที่มหา'ลัยตอนเช้า ใครจะพาลูกแมวไปทานของอร่อยๆ ใครจะพาลูกแมวไปดูหนังที่ลูกแมวอยากดู ใครจะนอนหนุนตักลูกแมวเวลาลูกแมวเหงาเวลาที่ต้องดูซีรี่ย์คนเดียว ใครจะ..."

    แพทเดินเข้ามาดึงฉันเข้าไปกอดแน่นที่สุดเท่าที่จะทำฉันได้ ฉันแกล้งทำเป็นกรอกตาเบาๆ เพราะบางทีก็รู้สึกอับอายเกินกว่าที่จะต้องพูดจาอะไรแบบนี้ต่อหน้าพวกเพื่อนๆ ก็เลยต้องหลบกันมายืนคุยร่ำลากันอยู่ที่มุมหลืบลับๆ แห่งหนึ่งของสนามบินสุวรรณภูมิแบบนี้นี่ไง แต่นั่นล่ะ ก็ใช่ว่าจะไม่มีคนเดินผ่านเพื่อมาเข้าห้องน้ำแถวนี้สักหน่อยนี่

    ไม่งอแงนะครับ ถ้าลูกแมวอยากได้อะไรก็บอกที่รักได้เลยนะครับ ส่วนเรื่องโปสการ์ด ที่รักสัญญาว่าจะส่งมาให้ทุกเดือนตามคำขอของลูกแมวเลย เมษาหน้าเราก็จะได้เจอกันแล้ว ลูกแมวรอที่รักนะครับ"

    ที่รักนั่นแหละจะทิ้งลูกแมว"

    ไม่เอา ไม่่คิดอย่างนั้นสิ ที่รักจะไม่ทิ้งลูกแมวเด็ดขาด ถ้ามีปัญหาอะไรก็คุยกันได้ตลอดเลยนะ"

    วันนี้เป็นวันสุดท้ายของปีที่ฉันจะได้เจอแพท นั่นหมายความว่าเราจะไม่ได้ฉลองปีใหม่และวาเลนไทน์ที่กำลังจะมาถึงด้วยกัน ฮือออ เศร้าชะมัด! เราทั้งคู่พากันงอแงกันพอเป็นพิธีก่อนที่แพทจะเข้าไปในเกทพร้อมกับน้ำตาที่กำลังนองหน้า ในขณะเดียวกันฉันก็พยายามกลั้นมันไว้สุดฤทธิ์จนกระทั่งถึงเวลาที่ต้องนั่งแอร์พอร์ตลิงค์กลับจากสนามบินนี่ล่ะ

    วินาทีนั้นเป็นช่วงเวลาสักพักใหญ่ๆ ที่ฉันรู้สึกจุก รู้สึกใจหาย ทั้งเป็นห่วง ทั้งไม่สบายใจในอีกหลายๆ สิ่งที่เริ่มประดาเข้ามาในหัว แม้ว่าก่อนหน้านี้ฉันก็แอบทำใจได้บ้าง แต่นั่นแหละ มันมารู้สึกอีกทีตอนที่แพทส่งข้อความมาว่ากำลังจะปิดมือถือ ซึ่งเรื่องจริงก็คืออีกสิบชั่วโมงกว่าๆ เขาจะเคลื่อนที่ไปอยู่อีกฟากหนึ่งของโลกและจะไม่อยู่ข้างๆ ฉันไปนานอีกหลายเดือน ทำให้ฉันรู้ในทันทีว่าทั้งหมดนี้ไม่ใช่ความฝัน ไม่ใช่เรื่องล้อเล่น

    ตอนนั้นฉันก็เลยอดร้องไห้ออกมาไม่ได้

    ฮึก...ตั้งปีหนึ่งแน่ะที่ฉันจะต้องรับมือกับบททดสอบครั้งสำคัญครั้งใหญ่ในชีวิตด้วยการเฝ้ารอแฟนที่จะไม่ได้เจอกันยันเดือนเมษาปีหน้า

    แต่ก็อย่างว่า การที่ไม่ได้กอดกัน จับมือกัน หรือแม้กระทั่งไม่ได้เจอหน้ากัน มันจะทำให้ฉันรู้สึกคิดถึงเขามากขนาดไหนใครจะรู้

    คือ...จะบอกว่าฉันค่อนข้างหลงใหลแพทมากนะ

    เขาเป็นแฟนคนแรกและคนเดียวของฉันที่เราต่างยืนหยัดว่าจะครองรักกันเพียงผู้เดียวตราบจนชีวิตจะหาไม่ (อนุญาติให้มองบนหนึ่งที) แถมเขาก็ดูแลฉันดีมากราวกับราชินี ไม่ว่าอยากได้อะไรก็หามาให้อย่างง่ายได้ เส้นสายของแพทเยอะแยะไปหมด อยากไปไหนก็คอยไปรับไปส่งด้วยตัวเอง อา นี่ล่ะนะ ที่เขาบอกกันว่ามันจะมีแฟนสักกี่คนกันที่คุณเจอในชีวิตแล้วพบว่าเขาลงตัวและเข้ากันกับคุณทุกอย่าง ซึ่งแน่นอนว่าสิ่งนี้มันทำให้ฉันค้นพบว่าตัวเองเป็นผู้หญิงที่โชคดีคนหนึ่งที่ได้เจอกับแพท

    นับตั้งแต่คบกันมาเขาแทบไม่เคยนอกใจฉัน เขาให้ความไว้ใจในทุกความใสซื่อบริสุทธิ์ที่ฉันมีให้ ในสายตาของแพทฉันคือน้องแคทหรือในที่นี้ก็คือยัยลูกแมวผู้น่ารักน่าถนอมเก็บเอาไว้นอนบนอกและลูบผมให้เบาๆ แต่ใครเล่าจะรู้ว่าแท้จริงลูกแมวตัวนี้กลับเป็นปีศาจดีๆ ที่พร้อมจะใช้ประโยชน์จากปลายเล็บที่แหลมคมข่วนใส่ทุกสิ่งที่ขวางหน้า เพียงแต่นั่นเป็นสิ่งที่แพทไม่เคยเห็นหรืออาจจะเคยแต่ไม่บ่อยนัก ซึ่งตราบใดที่เขาไม่เคยทำตัวออกนอกลู่นอกทางให้ฉันขุ่นเคืองใจ ฉันก็จะเป็นลูกแมวแสนดีในสายตาของเขาแบบนี้ต่อไปนั่นล่ะ

    ฉันนอยด์ๆ อยู่สักพักหนึ่งหลังจากที่แพทไม่อยู่ จากคนที่เจอกันเกือบทุกวัน ใช้เวลาอยู่ด้วยกันตลอดแทบทุกลมหายใจ ความรู้สึกโหวงเหวงเปล่าเปลี่ยวก่อตัวขึ้นกลายเป็นความรู้สึกขาด นำไปสู่ความกระวนกระวายราวกับหายนะครั้งใหม่ที่กำลังเริ่มต้น

    แบบนี้สินะที่เขาเรียกกันว่า ของจริง

    สองสามวันมานี้หลังจากที่แพทเดินทางไปอยู่ที่นู่นได้สักพัก ถึงแม้ว่าแพทจะพยายามติดต่อคุยกับฉันด้วยตลอดเวลาทั้งหมดที่เขาจะพึงหามาให้ได้อย่างไม่ขาดสาย ต่อให้เทคโนโลยีจะพัฒนาไปไกลมากพอที่จะทำให้เราสามารถเห็นหน้าค่าตาแบบเรียลไทม์ในระดับฟูลเอชดีแต่มันก็ไม่สามารถทำให้ความคิดถึงระหว่างเราจางหายไปได้เลย ตราบใดที่ยุคนี้ยังไม่มีของวิเศษที่จะทำให้เขาทะลุออกมาจากจอได้ ไอ้เครื่องนั่นมันก็เหมือนใช้งานแก้เหงาได้ชั่วคราวแค่นั้นแหละ

    นี่ยังไม่นับเรื่องเวลาที่ห่างกันอีกนะ!

    เวลาคุยของเราค่อยๆ ลดน้อยลงตามภาระของแพทที่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นลืมตอนที่เขาเปิดเทอมสัปดาห์หน้าได้เลย นี่แพทกำลังคิดเรื่องหางานทำอีก สิ่งเดียวที่ฉันจะต้องรับมือตอนนี้อย่างกระทันหันเลยก็คือความเหงาที่กำลังมาเยือนอย่างเต็มรูปแบบ

    และวันนี้เป็นอีกวันที่ฉันทนไม่ไหว...ต้องนัดเพื่อนสาวคนสนิทอย่าง 'หมวย' เพื่อเจรจาถึงปัญหาระดับชาตินี้...ตึงงงงง!!

    นี่แกได้คุยกับพี่แพทบ้างรึเปล่าแคท" หมวยถามขึ้นในที่สุดหลังจากที่เห็นฉันนั่งเงียบอยู่นาน สงสัยสีหน้าฉันกำลังแสดงความเซ็งออกมาชัดไปหน่อย

    ก็คุย แต่ก็...งั้นๆ อ่ะ เหมือนเดิม..."

    เอ้าอีนี่ ทำไมเป็นแบบนี้ล่ะ ไหนบอกรักกันนักรักกันหนาไง"

    ฉันหมายถึงก็คิดถึงกัน แต่นั่นแหละ...เฮ้อ"

    ตรงหน้าฉันตอนนี้คือหมวย หนึ่งในเพื่อนที่สนิทที่สุดของแก๊งค์นางฟ้าที่พูดขึ้นหลังจากที่เรานัดออกมาทานข้าวที่ร้านอาหารญี่ปุ่นเจ้าประจำ ในที่สุดยัยนี่ก็วนมาจนถึงเรื่องของแพทจนได้ ฉันอุตส่าห์พยายามเลี่ยงไม่อยากพูดถึงให้รู้สึกเซ็งแล้วเชียว แต่นั่นล่ะ เราเป็นเพื่อนสนิทกันมานาน ไม่ถึงขั้นมองตากันก็รู้หรอก ต่อให้ไม่เจอกันก็แทบเดาผ่านกระแสจิตกันได้ง่ายๆ ว่าต่างฝ่ายต่างกำลังรู้สึกยังไง

    หมวย ฉันถามอะไรแกหน่อยสิ"

    หืม อะไร"

    นี่ฉันชวนพวกแกออกมาข้างนอกแบบนี้รอบที่เท่าไหร่แล้ว"

    หมวยเงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะหัวเราะเบาๆ

    ไม่รู้สิ ฉันเห็นปกติเวลาจะชวนหล่อนไปไหนก็เอาแต่อ้างอยู่กับพี่แพทตลอดนี่ เป็นไงล่ะ เห็นหัวเพื่อนขึ้นมาตอนแฟนไม่อยู่แล้วสิ"

    ก็คนมันเบื่อนี่นา"

    หืม"

    "เบื่อโคตรๆ เลยด้วย"

    ฉันพูดซ้ำแสดงให้เห็นถึงไฟที่กำลังสุมรนอยู่ในอกจริงๆ ในหัวตอนนี้เต็มไปด้วยความรู้สึกหงุดหงิดระดับที่หากมีมีดอีโต้อยู่ในมือก็จะถือเป็นอันตรายต่อคนรอบข้างอย่างมาก

    เอาน่า ความรักมันก็มีอุปสรรค์บ้างป่ะวะ เดี๋ยวก็ชิน อดทนหน่อย"

    แต่ฉันอยากได้แฟนที่อยู่ด้วยกันตลอดเวลา เกือบเดือนหนึ่งแล้วนะเว้ยที่ฉันต้องขึ้นลงรถเมล์คนเดียวทุกเช้า อยากกินของอร่อยๆ ก็ต้องไปคนเดียว หนังที่อยากดูก็ไม่ค่อยมีใครว่างดูเป็นเพื่อน จะกลับบ้านทั้งทีก็ต้องนั่งแท็กซี่ที่ชอบเปิดเพลงสุนทราภรณ์ ที่เห็นว่าเซ็งสุดๆ ก็ต้องคอยปิดประตูรถใส่พวกที่ชอบปฏิเสธไม่รับฉันกลับบ้านเนี่ย ให้ตายเถอะ! ผู้หญิงคนหนึ่งมันจะอดสูกับเรื่องพวกนี้ไปได้สักแค่ไหนเชียววะ"

    ฉันบ่นพลางนิ่วหน้าลงสุด อีกนิดเดียวก็จะร้องไห้โฮออกมาแล้วจริงๆ

    อย่างน้อยแกก็ไม่ต้องมาเก็บกดเหมือนเมื่อก่อนแล้วนี่ เท่าที่เห็นก็ดูจะอิสระๆ ขึ้นแล้วนะ ไม่ชอบรึไง"

    ก็รู้ แต่...”

    นี่ ไม่ต้องพูดหรอก อ้าปากก็เห็นลิ้นไก่แล้ว"

    รู้เหรอยะว่าฉันจะพูดอะไร"

    ก็รู้สิ หล่อนกำลังจะพูดถึงคติประจำใจของตัวเองล่ะสิ"

    ฉันหน้าเสียนิดหน่อยตอนที่ยัยนี่รู้ทันสิ่งที่กำลังคิด

    แล้วมันจริงไหมล่ะ"

    บางทีความรักมันก็ต้องการระยะห่างบ้าง ไม่เคยได้ยินเหรอที่เขาบอกว่า แฟนน่ะ ไม่ได้มีไว้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่มีไว้เพื่อให้รู้ว่ายังมีอีกคนหนึ่งที่รักเราน่ะ"

    โอ๊ยยยย ไร้สาระมากค่ะ" ฉันตอบด้วยสีหน้าเหมือนคนอยากจะอาเจียนทุกขณะจิต

    เอาเถอะๆ ตอนนี้แกอาจจะยังไม่เข้าใจ"

    ก็จริงอย่างที่แกว่า ประสบการณ์กับไอ้เรื่องพวกนี้ฉันอาจจะยังน้อย ใครจะมีชั่วโมงบินเรื่องผู้ชายเท่าเพื่อนหมวยล่ะจ๊ะ อ่ะๆ ว่ากันไปตามตรง" ได้ทีฉันก็อดไม่ได้ที่จะแกล้งทำเป็นพูดหยอกตามด้วยยักไหล่ล้อเพื่อนสาวตรงหน้า ยัยนั่นถึงกลับเบ้ปากแบะลงไปถึงพื้น

    จริงๆ จะว่าเป็นฉันก็มีวิธีช่วยแกได้นะ"

    กระทั่งตอนนั้นเองที่ฉันจับได้ถึงพลังอะไรบางอย่างที่แผ่ซ่านทะลุผ่านคอนแทคเลนส์ออกมาจากสายตาของเพื่อนสาวตรงหน้า ฉันยกมือขึ้นเสยผมขณะค่อยๆ ใช้มือคว้าแก้วน้ำเย็นๆ ขึ้นจิบหลังจากที่พบว่าลำคอตัวเองเริ่มแห้งเหือดด้วยความรู้สึกหวั่นเกรงและหวาดกลัว

    วิธีอะไร"

    ก็ช่วยแกแก้ปัญหาไงเพืื่อน"

    แกรู้ปัญหาฉันด้วยเหรอ"

    รู้สิ ดูจากพฤติกรรมแกตลอดหลายวันหลายอาทิตย์ แถมด้วยท่านั่งห่อเหี่ยวกระเจียวมอดประกอบกับสายตาละห้อยททะลุมาสคาร่าและขนตาปลอมแบบนี้ เห็นได้ชัดเลยว่าแกกำลังเหงา...ใช่ไหมล่ะ"

    เหอะ เติมคำว่ามากๆ ต่อท้ายไปด้วยยาวๆ เลยยิ่งดี" ฉันพึมพำด้วยความหน้าไม่อายก่อนจะเฉสายตามองไปทางอื่น หมวยได้แต่กระตุกยิ้มบางๆ ไม่ตอบ ฉันเลยตัดสินใจถามต่อ “แล้วไอ้วิธีที่ว่านี่คืออะไรเหรอ รีบพูดสิ รอฟังอยู่เนี่ย"

    ไม่รู้ทำไมจู่ๆ หัวใจฉันก็เต้นแรงขึ้นมาตอนที่เห็นคนตรงหน้าเม้มปากที่เคลือบด้วยลิปสติกสีแดงมันวาวซึ่งเข้ากันกับเสื้อผ้าหน้าผมในลุคเปรี้ยวๆ นั่นเป็นอย่างดี ฉันเริ่มเอียงคอปรายสายตามองกลับไปอย่างคนเดาเพื่อนตัวเองไม่ถูก ท่าทางเปี่ยมล้นไปด้วยเล่ห์นัยจากจริตจะก้านของยัยนั่นทำเอาฉันรู้สึกไม่พิศวงใจเลยแม้แต่น้อย

    พี่แพทต้องฆ่าฉันแน่ๆ เลยแคท"

    ทำไม มันฟังดูแย่มากเลยเหรอ"

    แย่สิยะ แย่มากๆ เลยด้วย ยิ่งถ้าเกิดพี่แพทรู้ว่าฉันเป็นต้นเหตุเสนอวิธีนี้ให้แกล่ะก็...เตรียมจองโลงศพจองวัดให้ฉันได้เลย อ้อ! เผื่อแกอีกโลงนึงด้วย"

    "หืม อะไรมันจะขนาดนั้น"

    "ที่ฉันจะบอกน่ะมันเวิร์คมากๆ เลยนะ ถึงแม้จะเต็มไปด้วยความเสี่ยงและภัยอันตราย แต่ถ้าเกิดแกตัดสินใจเดินเข้าไปในเกมนี้แล้ว แกจะต้อง...ห้ามงึกงักเด็ดขาด"

    ยังไงเหรอไอ้คำว่างึกงักเนี่ย"

    ก็เหมือนกับการที่แกต้องไปยืนอยู่บนเส้นด้ายที่ผูกเชื่อมอยู่กลางภูเขาสองลูกนั่นแหละ แกจะทำอะไรกับคู่ต่อสู้ของแกที่อยู่อีกฟากของเส้นด้ายเส้นนั่นก็ได้ แต่ถ้าเกิดแกงึกงักทรงตัวไม่ดีแล้วพลาดท่าจนตกลงมาตายเมื่อไหร่ ทุกอย่างก็จะจบ เส้นทางความรักแกก็จะเปลี่ยนทันที แกจะไม่มีวันได้กลับมายืนตรงนั้นได้เหมือนเดิม ต่อให้มีโอกาสที่สองให้แกขึ้นไปยืนอีก มันก็คงต้องยอมแลกยอมสูญเสียอะไรหลายอย่างไปไม่น้อยเลยล่ะ"

    จากคำพูดของหมวยส่งผลให้รอยคิ้วของฉันเริ่มย่นเข้าหากัน บอกกันตามตรงนี้เลยค่ะ ว่า

    โคตร! ไม่! เข้า! ใจ!

    งง" ฉันตอบ

    ฉันเคยเข้าไปในเกมนี้เหมือนกันนะ"

    หืม"

    มันสนุกก็จริงแต่แกจะไม่มีทางรู้ตัวเลยว่ากำลังถูกหลอกล่อให้ทำอะไรลงไปบ้าง กว่าจะรู้ตัวอีกทีมันก็พาเราสูญเสียอะไรไปเยอะมาก แต่ถ้าหากแกกล้าพอที่จะเสี่ยง...อย่างที่บอกคือมันก็คุ้มไม่น้อย ถ้าถามความเห็นฉันน่ะนะ"

    จู่ๆ สีหน้าของยัยหมวยเริ่มเปลี่ยนสี ฉันเลยรีบทำการรวบหัวรวบห่างให้ยัยนั่นสรุป

    พูดมาเลยดีกว่า ขอแบบชัดเจน สรุปแล้ววิธีที่ว่าของแกนี่มันคืออะไร"

    หมวยเงียบเสียงไปครู่หนึ่งไม่ยอมตอบ เธอกลืนน้ำลายลงคอไปหนึ่งอึก ฉันส่ายหน้าไปมาเริ่มถอดใจไม่อยากฟัง

    เคยได้ยินเรื่อง Cheating Club ไหม"

    ทว่าทันทีที่ได้ยินชื่อนั้นเธอกลับเรียกความสนใจฉันกลับไปอีกครั้ง

    ชีตติ้งคลับ?"

    เราเรียกอย่างสุภาพว่าคลับของคนขี้เหงา ไม่เอา/ไม่ผูกมัด"

    อะไรนะ"

    ฉันแทบสำลักน้ำลายตัวเองตอนได้ยินชื่อนั้น

    คนอย่างแกนี่เป็นที่ต้องการของกลุ่มมากๆ เลยนะจะบอกให้"

    ไม่ตลกย่ะ นี่คิดจะหลอกขายตรงฉันรึเปล่า เริ่มกลัวแล้วนะ"

    ไม่ได้ล้อเล่น ฉันพูดจริง ไอ้กลุ่มนี้มันมีจริงๆ" คิ้วฉันผูกเข้าเป็นปมหนักทันทีที่ฟังจบ

    แล้วใครเป็นคนก่อตั้ง แล้วพวกเขาอยู่ที่ไหน จุดประสงค์ของกลุ่มนี้คืออะไร"

    มันก็ไม่ได้มีพิธีรีตองอะไรเป็นพิเศษหรอก ก็แค่พื้นที่พื้นที่หนึ่งที่ให้คนมาแชร์ประสบการณ์อะไรบางอย่าง เธอไม่จำเป็นต้องถามอะไรฉันมากหรอกแคท ถ้าเกิดเธอไม่ได้สนใจมันจริงๆ น่ะ"

    พูดขนาดนี้แล้ว รีบๆ เล่ามาเถอะ"

    หมวยหลุดหัวเราะออกมาหลังจากเห็นว่าฉันเริ่มสนใจในสิ่งที่เธอกำลังพูดถึง แค่ชื่อก็ฟังดูไม่น่าไว้ใจเลยสักนิด โลกเรานี่ชักจะเพี้ยนมีอะไรแปลกๆ ให้ได้เห็นมากขึ้นทุกวัน แล้วไอ้เรื่องพวกนี้ก็ไม่ได้ส่งผลอะไรดีๆ สู่สังคมเลย มีแต่สร้างความซับซ้อน บาดหมาง วุ่นวาย และนำไปสู่ความร้าวฉ้าน เพราะเหตุนี้สินะถึงได้มีกลุ่มคนที่ชอบแสดงความคิดเห็นตามเว็บไซด์ต่างๆ ว่าไม่อยากมีแฟน รักสันโดษ และออกตัวว่าเกลียดความสัมพันธ์จำพวกฉันกับเธอสุดฤทธิ์ พวกเขามีความสุขและพึงพอใจกับการนอนตายคนเดียว

    งั้นสัญญาก่อนสิ"

    สัญญาอะไร"

    สัญญาว่าเธอจะไม่บอกพี่แพทว่าต้นเหตุของเรื่องนี้คือฉันถ้าเกิดว่าวันหนึ่งเธอถูกจับได้"

    ฉันปรายยิ้มราวกับนางแมวที่กำลังเดินปรี่ตรงอยู่บนแคทวอล์ก

    ไม่แน่นอน หากมันจะนำมาสู่การอันตรายที่เธอหมายถึง เขาจะไม่มีวันรู้เรื่องนี้เป็นอันขาด"

    อืม งั้นก็ดี เพราะไอ้ที่ฉันพูดถึงอยู่เนี่ย ก็คือคลับรวมคนนอกใจ"



     

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×