คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #32 : พิภพราชันย์ออนไลน์ :: คำสาปชราภาพ
พิ ภ พ ร า ชั น ย์ • อ อ น ไ ล น์
ตอนที่ 16 คำสาปชราภาพ
ซีแนลวางแผนเพิ่มระดับเลเวลที่หายไปทั้งหมดในหัวหลังจากกลับจากมิติทดสอบ แม้ว่าตอนนี้จริงๆ แล้วเธอหวังพึ่งกำลังของอีดานสัตว์เลี้ยงระดับราชาของเธออยู่มากแค่ไหนก็ตาม แต่ก็ปลดผนึกเรียกอีกฝ่ายออกมาไม่ได้จนกว่าจะครบกำหนดระยะเวลา 7 วัน ด้วยผลลัพธ์ของคำสาปความเจ็บปวดหกประการที่สัตว์เทพอสูรผู้ทรยศลีมมอบให้แก่เธอ
ขณะที่กำลังขมวดคิ้วครุ่นคิดเรื่องนี้ด้วยสีหน้าหมกมุ่น เธอก็สัมผัสได้ถึงสายตาของผู้เล่นคนอื่นที่หันมาจ้องมองเธอด้วยสายตารังเกียจแปลกๆ
เอ๊ะ! เดี๋ยวก่อนนะ
ว๊ากกก! นั่นสิ เธอลืมไปได้ยังไงเนี่ย! ว่าตัวเองถูกระบบส่งตัวออกมาด้วยสภาพที่ยังนอนคว่ำแผ่หลาหน้าราบอยู่กับพื้นอย่างไร้เรี่ยวแรงอยู่อย่างนี้
แล้วดูเหมือนจิตวิญญาณอาวุธ ตุ๊กตาหมีสุดโหดที่เพิ่งทำภารกิจได้มาก็นอนหลับขี้เกียจท่าเดียว พยายามสะกิดเรียกอย่างไรก็ไม่ตื่น
ตื่นขึ้นมาเดี๋ยวนี้นะ! อย่าทิ้งให้เธอรู้สึกขายหน้าคนเดียวเซ่!
โอ้ย! ทำไมมันถึงไม่ได้เป็นไปตามความคิดอันหรูเลิศที่วางแผนพึ่งพลังอาวุธและสัตว์เลี้ยงของตัวเองเลยนะ
“โว้ย! ไอ้พี่หมีตื่นมาช่วยกันก่อนนน!!!”
ไหนชื่ออาวุธมันบอกว่าราชันย์ตุ๊กตาหมีไง จิตวิญญาณอาวุธสุดโหดอะไรกันเนี่ย! นอนขี้เซาแบบนี้!! นี่มีแนวโน้มว่าเธอพึ่งใครไม่ได้เลยใช่มั้ย ฮือ~
ซีแนลพบว่าในเมืองเริ่มต้นมีผู้เล่นหลายคนมองเธอด้วยความสนใจและอยากช่วยเหลือ แต่พวกเขาก็ทำเป็นหลบเลี่ยงสายตาเมินเฉยคล้ายกับไม่อยากหาเรื่องใส่ตัวอย่างขี้ขลาด
เธอจึงเดาว่าคงมีเหตุการณ์เดิมๆ เช่นนี้เกิดขึ้นบ่อยๆ อย่างเช่นพวกผู้เล่นที่ไม่ประมาณตนที่วาปหนีจากสัตว์อสูรที่โหดกว่าระดับเลเวลของตัวเองจนมีสภาพสะบักสะบอมคล้ายๆ เธอตรงจุดเกิด
ซีแนลไม่ได้กล่าวโทษหรือร้องขอความช่วยเหลือจากใคร เช่นนั้นเธอจึงพยายามดิ้นรนขยับตัวลุกขึ้นด้วยกำลังอันแสนน้อยนิดที่มี แต่เธอรู้ว่าไม่มีวันทำได้ถ้าเธอไม่ได้ดื่มน้ำยาเพิ่มเลือดหรือน้ำยาลดความเหนื่อยล้า และช่างบังเอิญเหลือเกินว่าในจุดที่เธอนอนแผ่ราบกระดุกกระดิกตัวแทบไม่ได้เป็นจุดเดียวกันกับผู้เล่นคนอื่นๆ บันทึกจุดเกิดไว้ มีผู้เล่นมือใหม่หลายคนที่โผล่มาในจังหวะที่เธอต้องการความช่วยเหลือพอดี เหมือนสภาพของเธอจะทำให้พวกเขาคาดเดาชะตากรรมที่ตนเองเคยประสบมาก่อน พวกเขาจึงยอมแบ่งปันน้ำใจเล็กๆ น้อยๆ ด้วยการโยนน้ำยาเพิ่มเลือดขวดสองขวดให้เธอด้วยความเห็นใจก่อนจะจากไป
เธอรีบคว้ามันมาอย่างไม่อาย น้ำยาเพิ่มเลือดที่ได้รับมาทำให้พลังชีวิตของเธอฟื้นคืนมาก็จริงแต่ก็ไม่มากพอที่จะทำให้เธอสามารถลุกขึ้นเดินได้
ซีแนลขยับตัวลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเลและทันใดนั้นเองชายปริศนาในชุดคลุมยาวปกปิดใบหน้าคนหนึ่งก็คว้าตัวเธอลอยหวือและหายวับไปจากตรงจุดนั้นอย่างรวดเร็ว
ซีแนลนิ่งอึ้งจนทำอะไรไม่ถูก เธอรู้สึกตัวอีกทีก็ต่อเมื่อปรากฏตัวบริเวณมุมซอกตึกที่ลับตาคนแห่งหนึ่งแล้ว ในขณะที่เงยหน้าขึ้นเพื่อกล่าวขอบใจคนที่ช่วยเหลือเธอไว้ แขนข้างหนึ่งของเธอก็ถูกคว้าหมับและบีบแน่นอย่างแรง
“โอ้ย!” คำพูดที่จะเปล่งในตอนแรกเปลี่ยนเป็นเสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
ซีแนลรู้ได้ทันทีว่าคนที่อยู่เบื้องหน้าของเธอตอนนี้มีพลังและระดับสูงกว่าเธออย่างมหาศาล เพราะเพียงแค่เขาออกแรงบีบเธอแรงๆ เพียงครั้งเดียวเลือดในตัวเธอที่มีน้อยนิดอยู่แล้วก็ลดฮวบจนแทบไปเกิดใหม่ เหมือนคนตรงหน้าจะรู้สิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ดี เขาจึงจัดการเอาน้ำยาต่างๆ บังคับกรอกเข้าปากเธออย่างไม่ยั้งทันที
“เกือบตายแล้วมั้ยล่ะ”
เธอสบถออกมาหลังจากที่เรี่ยวแรงและพละกำลังฟื้นคืนมาจนแทบเป็นปกติแล้ว ซีแนลไม่รู้ว่าชายแปลกหน้าในชุดคลุมปริศนาผู้นี้เป็นใคร แต่อย่างน้อยเขาก็ไม่ได้คิดช่วยเธอเพราะความหวังดี
“ได้รอยสักนี้มาได้ยังไง!” อีกฝ่ายตวาดออกมาเสียงดังจนเธอหัวหด
“นายอยากรู้เกี่ยวกับรอยสักของฉันอย่างนั้นเหรอ ทำไม?”
เธอรู้สึกอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเลิกคิ้วเป็นเชิงถามอีกฝ่ายในชุดคลุมสีเทายาวซึ่งมองไม่เห็นใบหน้า อีกฝ่ายนิ่งเงียบ ขณะที่ทุกส่วนบนร่างถูกปกปิดไว้ในผ้าคลุมโผล่เพียงดวงตาที่จ้องเธออย่างเงียบงันเช่นเดียวกัน
“ถ้านายอยากได้คำตอบ ฉันก็จำเป็นต้องรู้เหตุผล ในโลกนี้ไม่มีอะไรได้มาฟรีๆ หรอกนะ ทุกอย่างล้วนต้องมีข้อแลกเปลี่ยน บอกเหตุผลมาก่อนสิแล้วฉันจะตอบนาย”
ซีแนลหรี่มองฝ่ายตรงข้ามและเอ่ยด้วยน้ำเสียงท้าทาย เธอยืมถ้อยคำอันแสนเจ้าเล่ห์เหล่านี้มาจากเจ้าสัตว์เทพอสูรโหดร้ายลีมและพอนึกถึงเจ้านั่นขึ้นมาแล้ว มันก็ทำให้เธออดเจ็บใจไม่ได้ทุกที
ซีแนลจ้องมองอีกฝ่ายเขม็งขณะที่เขาค่อยๆ ปลดผ้าคลุมใบหน้าออก และทันทีที่ภาพเบื้องหน้าปรากฏเธอก็เดาเหตุผลทุกอย่างออกอย่างหมดเปลือก
ซีแนลจ้องมองชายผู้นี้ด้วยความรู้สึกอึ้งเล็กน้อย
ทุกส่วนบนใบหน้าของเขามีรอยสักสีดำลวดลายแปลกประหลาดปรากฏอยู่ทั่วจนแทบจะไม่เหลือช่องว่าง
แม้ว่านี่จะไม่ใช่เหตุการณ์ประหลาดครั้งแรกที่ทำให้เธอรู้สึกตกใจ แต่สำหรับผู้เล่นคนหนึ่งแล้วนับว่าเป็นเรื่องที่หนักหนาสาหัสเอาการเลยทีเดียว
รอยสักที่ปรากฏจนเต็มใบหน้าชายผู้นี้ทำให้เขาดูเป็นคนอัปลักษณ์อย่างมาก!
เธอเข้าใจดีว่าเมื่อผู้เล่นคนอื่นๆ ได้เห็นคงรู้สึกหวาดกลัวและนึกรังเกียจเช่นเดียวกัน ดีไม่ดีอาจจะกลายเป็นเรื่องแตกตื่นหรือเรื่องใหญ่โตเสียด้วยซ้ำ
ซีแนลเกิดความลังเลใจอยู่ครู่หนึ่งหลังจากทบทวนว่าเธอไม่ควรเล่ารายละเอียดเกี่ยวกับเรื่องรอยสักพันธสัญญาของตัวเองกับใคร เพราะมันคือจุดเริ่มต้นที่นำไปสู่ความเดือดร้อนที่กู่ไม่กลับ
ที่สำคัญฝ่ายตรงข้ามยังเป็นคนแปลกหน้าที่ไม่เคยรู้จักกันมาก่อน แม้กระทั่งชื่อของเขาเธอก็ไม่รู้และไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเป็นคนแบบไหน ดังนั้นเธอจึงควรจะหาเหตุผลหรือข้ออ้างแบบไหนมาโกหกฝ่ายตรงข้ามดี
ในขณะที่เธอกำลังใช้ความคิดใคร่ครวญอย่างหนักอยู่นั้น เสียงระบบก็ดังขัดขึ้นเสียก่อน
ผู้เล่น ซีแนล เฟลคอน ได้รับคำสาปโชคร้ายหกประการจากสัตว์เทพอสูรผู้ทรยศลีม ระดับชั้นจักรพรรดิ เลเวล 500 ทางระบบจะดำเนินการสุ่มโชคร้ายให้ผู้เล่นเป็นจำนวน 1 ครั้ง ทุกๆ เลเวล 66 และ 666 ในระดับชั้นสามัญชน ระดับชั้นนักรบ และระดับชั้นจอมเวท
เนื่องจากขณะนี้ ผู้เล่น ซีแนล เฟลคอน เลเวล 296 ระดับชั้นสามัญชน จึงบรรลุเงื่อนไขคำสาปโชคร้ายหกประการ ครั้งที่ 1 ทางระบบกำลังดำเนินการสุ่มโชคร้ายให้กับผู้เล่นค่ะ
ผู้เล่น ซีแนล เฟลคอน ได้รับคำสาปชราภาพ ทำให้ผู้เล่นมีสภาพร่างกายเหมือนคนแก่ชรา ระดับทักษะต่างๆ จะถูกลดลงจากเดิม 50% คำสาปนี้มีผล 6 ชั่วโมง ขอให้ผู้เล่นโชคดีค่ะ
นะ... นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันเนี่ยยย!!!!
ซีแนลกรีดร้องอย่างตกใจกับสิ่งที่ได้ยินจากทางระบบ
เธอแทบทำอะไรไม่ถูกเมื่อพบว่าผิวหนังบนร่างกายค่อยๆ แห้งเหี่ยวและกลายสภาพเหี่ยวย่นเป็นคนชรา มือทั้งสองข้างยกขึ้นสัมผัสใบหน้าและลูบคลำลำตัวที่ยับย่นรวมไปถึงเส้นผมที่ขาวโพลนด้วยความตกใจก่อนจะเปล่งเสียงร้องอย่างไม่อยากเชื่อ
“บ้าไปแล้ว!!”
ไอ้ระบบบ้าสุ่มอะไรออกมาให้เธอกันเนี่ย!
ทำไมถึงได้ซวยแล้วซวยเล่าอย่างนี้นะ!
ไม่อยากเชื่อว่ารู้สึกโล่งอกที่ออกมาจากลานกว้างตรงจุดบันทึกได้ไม่ถึงสองนาที คำสาปจากทางระบบก็เล่นงานเธออีกแล้ว
เอ๊ะ แต่เดี๋ยวก่อนนะ...
พอคิดดูอีกที นับว่าเป็นเรื่องดีไม่ใช่เหรอ ทั้งเรื่องที่ร่างกายเธอเกิดการเปลี่ยนแปลงตอนอยู่ในสถานที่ลับตาคน อีกทั้งไม่ต้องถูกมองว่าเป็นตัวประหลาดหรือถูกเข้าใจผิดว่าสัตว์อสูรให้คนอื่นไล่ฆ่า มิหนำซ้ำเมื่อเงยหน้าขึ้นก็พบว่าชายตรงหน้ากำลังมองเธอด้วยสายตาตื่นตะลึงคล้ายจะทำตัวไม่ถูก
ซีแนลลงมือปรับความคิดวางแผนเอาตัวรอดให้ตัวเองอย่างรวดเร็ว เธอแสร้งทอดถอนใจหายใจคล้ายคนทุกข์โศกอย่างหนักหน่วง แล้วหรี่ตามองฝ่ายตรงข้ามผ่านขนตาแพหนาสีเทาของคนแก่ที่มีร่างกายเหี่ยวย่นด้วยความเจ้าเล่ห์โดยอีกฝ่ายไม่ทันสังเกตเห็น
“นี่แหละคือคำตอบของรอยสักนั่นล่ะ มันเป็นคำสาปที่ได้มาจากตอนทำภารกิจ” เธอเอ่ยบอกฝ่ายตรงข้ามด้วยน้ำเสียงที่น่าสงสารเพื่อกระตุ้นขอความเห็นใจอีกฝ่าย
เมื่อพบว่าฝ่ายตรงข้ามแทบทำอะไรไม่ถูกกับสภาพใหม่ของเธออีกทั้งยังอึ้งจัด เธอจึงแอบยิ้มอยู่ในใจของคนที่เพิ่งคว้าชัยชนะมาไว้ในมือ
“คำสาปงั้นเหรอ?”
ฝ่ายตรงข้ามถามเธออย่างอ้ำอึ้งคล้ายกับพูดไม่ออก เพราะสภาพตอนนี้ของเธอดูย่ำแย่ น่าเกลียดและอัปลักษณ์ยิ่งกว่าเขาไม่รู้ตั้งกี่เท่า
“อืม” เธอพยักหน้าหงึกๆ
ถ้าหากอีกฝ่ายเข้าใจเช่นนั้นมันก็ดี เธอจะได้ไม่ต้องเปลืองเรี่ยวแรงหาข้ออ้างอย่างอื่นมาอธิบาย
“แล้วนายอยากรู้เรื่องรอยสักของฉันไปทำไมเหรอ” ซีแนลเอ่ยถามอีกฝ่ายกลับ ขณะรู้สึกขัดใจกับน้ำเสียงที่แหบแห้งคล้ายคนแก่ของตัวเอง บอกได้แต่เพียงว่าสภาพแก่ชราของเธอมันสมจริงจนแม้แต่ตัวเองยังรู้สึกขนลุก
“ตอนแรกฉันคิดว่าเธอเป็นคนของสมาคมเงาอสูร” ชายตรงหน้าเอ่ยบอกเธอ
แต่ทว่าทันทีที่ได้ยินคำพูดนั้นภายในใจของเธอก็เกิดอาการเต้นระส่ำเสียจนแทบควบคุมสีหน้าเอาไว้ไม่อยู่
“ทำไมเหรอ”
เธอโพล่งถามด้วยความอยากรู้จนลืมไปว่าตัวเองหลุดอาการจนอีกฝ่ายต้องหรี่ตาเขม้นมองเธออย่างจับผิดเสีย
“แหะๆ ฉันก็แค่อยากรู้สาเหตุไง ก็สมาคมเงาอสูรดังจะตายใครๆ ก็อยากรู้กันทั้งนั้นแหละ” เธอรีบอ้าง
อีกฝ่ายมองเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยเรื่องราว “มีใครคนหนึ่งในสมาคมเงาอสูรเล่นงานฉันจนทำให้ฉันมีสภาพที่เป็นอยู่นี้ แต่ฉันไม่รู้หรอกว่าเป็นฝีมือของใคร เพราะนอกจากตรวจสอบข้อมูลของมันไม่ได้แล้วมันยังปกปิดใบหน้า มีเพียงการโจมตีใส่ที่แขนจนชุดขาดเท่านั้นจึงทำให้ฉันเห็นรอยสักของมัน”
“นายเลยคิดว่าเป็นฉันงั้นสิ” ซีแนลโพล่งออกไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเมื่ออีกฝ่ายเล่าจบ
“เปล่า ฉันแค่คิดว่าเธออาจเป็นพวกเดียวกับมัน... หรืออาจเป็นสัญลักษณ์แสดงตัวของพวกเดียวกัน” อีกฝ่ายจ้องหน้าเธอกลับด้วยแววตาเรียบนิ่งคล้ายหยั่งเชิง
“โอ้ย อย่างฉันเนี่ยนะ บ้าหรือเปล่า ไม่มีทางเด็ดขาด” เธอส่ายหน้าแล้วยกมือปฏิเสธระวิง
“เธออาจพูดถูก ฉันตรวจสอบข้อมูลของเธอแล้วซึ่งคิดว่าเธอไม่น่าจะเกี่ยวข้องด้วย พูดง่ายๆ ก็คือระดับของเธอน้อยเกินไป มือใหม่จึงไม่น่าจะเป็นคนของสมาคมเงาอสูรได้ แต่ที่น่าแปลกคือก่อนหน้านี้ชื่อของเธอถูกปกปิดข้อมูลและตรวจสอบไม่ได้ในฐานเว็บบอร์ด แต่ตอนนี้กลับโผล่ออกมา”
ซีแนลสบตากับคนที่อยู่เบื้องหน้าด้วยความรู้สึกเสียวสันหลังวาบ น้ำเสียงที่เย็นยะเยือกราวกับจะหยั่งเชิงและคอยจับผิดเธอตลอดเวลาของฝ่ายตรงข้ามทำให้เธอต้องข่มกลั้นสติและพยายามไม่แสดงอารมณ์วิตกใดๆ
ไม่ว่ายังไงเขาจะรู้ไม่ได้ว่าเธอมีความสัมพันเกี่ยวข้องกับผู้เล่นซึ่งเป็นหนึ่งในบรรดาสมาชิกของสมาคมเงาอสูร นั่นก็คือพี่ชายของเธอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเธอก็ต้องไม่เผยพิรุธใดๆ ให้อีกฝ่ายสังเกตเห็นอย่างเด็ดขาด เพราะเธอสัญญากับตัวเองไว้แล้วว่าจะไม่นำพาความเดือดร้อนโยนใส่พวกพี่ๆ หากเล่นเกมนี้
“ก็ใช่” ซีแนลทำหน้าใสซื่อแสร้งยักไหล่ทำเป็นไม่สนใจ
“แล้วเกิดอะไรขึ้นกับเธอล่ะ”
“แค่ก่อนหน้านี้ตอนที่ฉันบังเอิญได้รับอาชีพลับใหม่ๆ มีใครบางคนยื่นข้อเสนอให้ฉันเป็นพวกของเขาโดยการให้หน้ากากมาอันหนึ่ง นายคิดดูสิฉันเป็นผู้เล่นใหม่นะ ของฟรีมีใครบ้างจะไม่อยากได้ ยิ่งของดีๆ ด้วยแล้วต้องรีบคว้าไว้สิ แต่เพียงแค่อาชีพของฉันมันอ่อนสุดๆ จนแทบไม่น่าเชื่อเลยล่ะ
สุดท้ายฉันก็ถูกสัตว์อสูรฆ่าตายซ้ำแล้วซ้ำเล่าจนระดับเลเวลไปไม่ถึงไหนอย่างที่เห็นนี่ล่ะ แล้วไหนจะหลุดเข้าไปในภารกิจแปลกๆ ที่เจอคำสาปมาตั้ง 6 อย่าง อีกล่ะ เฮ้อ~ ฉันนี่ช่างเป็นผู้หญิงที่แสนโชคร้ายจริงๆ เลย” ซีแนลรีบยกลมเล่าเรื่องโกหกเป็นตุเป็นตะขณะตีหน้าเศร้าเล่าความเท็จให้อีกฝ่ายฟังอย่างน่าเห็นใจ
เธอลอบมองท่าทีที่เหมือนจะเริ่มเชื่อของฝ่ายตรงข้ามด้วยความดีใจจนต้องกลั้นรอยยิ้มกับฝีมือเจ้าบทบาทของตัวเองไม่ไหว
อย่างน้อยเธอก็ไม่ได้โกหกทั้งหมด ในเมื่ออีกฝ่ายสามารถตรวจสอบชื่อ ระดับรวมไปถึงอาชีพของเธอได้ แต่ถึงอย่างนั้นเธอก็เชื่อว่าเขาไม่สามารถตรวจสอบรายละเอียดอื่นๆ ได้อีก
“ใครเป็นคนยื่นข้อเสนอให้เธอ”
ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยอมเชื่อสิ่งที่เธอเล่ามาบ้างแล้ว เพราะอย่างน้อยน้ำเสียงของเขาไม่ได้แฝงความเคลือบแคลงหรือมีท่าทีระแวดระวังอย่างเมื่อครู่ก่อนหน้า
“ไม่รู้สิ เห็นแค่บอกว่าเขาเป็นจากกิลดังน่ะ ชื่อกิลอะไรนะ เฮ้อ~ เอาเป็นว่าไม่ขอเอ่ยชื่อได้มั้ย ตอนนั้นคนที่ให้หน้ากากมาเขาเพียงบอกแค่ว่าจะติดต่อฉันเองเมื่อระดับของฉันสูงกว่านี้และให้ฉันเดินทางไปถึงทวีปหลัก” ซีแนลพยายามแถตามน้ำไปเรื่อยโดยอ้างจากข้อมูลที่น่าจะเป็นไปได้จากที่เคยอ่านในเว็บบอร์ด
“เขาชื่ออะไร?” อีกฝ่ายเอ่ยถามเธอด้วยความสนใจ
“บอกไม่ได้” เธอเอ่ยเสียงเรียบขณะจ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างจริงจังอย่างไม่มีแววหวาดกลัว
อีกฝ่ายจ้องหน้าเธออยู่ครู่หนึ่งก่อนจะตัดสินใจเอ่ยปากออกมา
“เอาเถอะ ฉันจะไม่ยุ่งกับเรื่องของเธอหรอกนะในเมื่อเธอถูกซื้อตัวแล้ว อีกอย่างคนที่ซื้อตัวเธอเหมือนจะเป็นคนสำคัญของกิลใดสักกิลหนึ่งอย่างที่เธอว่ามาจริงๆ เพราะอย่างน้อยหน้ากากที่เขาให้มาก็มีเฉพาะพวกกิลใหญ่ๆ เท่านั้น ตอนนี้ฉันไม่อยากเพิ่มศัตรูกับฝ่ายไหนอีก เพราะแค่สมาคมเงาอสูรก็เป็นงานหนักสำหรับฉันมากพอแล้ว” เขาเอ่ยเสียงเรียบขณะจ้องหน้าเธอด้วยแววตาข่มขู่ก่อนจะเอ่ยต่ออีกเล็กน้อย
“เธอรู้ใช่มั้ยเรื่องที่เราคุยกันวันนี้อย่าได้ริปริปากให้ใครฟังอย่างเด็ดขาด!” อีกฝ่ายส่งเสียงขู่อาฆาต
“แน่นอน” เธอรับปากหนักแน่นด้วยความมั่นใจ
หลังจากนั้นอีกฝ่ายก็หายวับจากไปอย่างไร้ร่องรอยโดยที่เธอทันไม่ได้กล่าวอะไรอีก แน่นอนว่าชื่อของเขาเธอก็ไม่รู้ ส่วนไอ้เรื่องที่เขาไปมีเรื่องเกี่ยวข้องกับสมาคมเงาอสูรของพี่ไคกับพี่เคนก็คงปล่อยให้พวกผู้ใหญ่จัดการกันเอาเอง เพราะเธอไม่อยากเข้าไปข้องเกี่ยว
หลังจากชายปริศนาคนนั้นจากไปแล้ว ซีแนลก็เปลี่ยนสภาพชุดของตัวเองให้เป็นชุดคลุมยาวสีดำเหมือนของนักเวทเพื่อคลุมปกปิดร่องรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้าและร่างกายเพื่อป้องกันไม่ให้คนอื่นแตกตื่นก่อนจะเดินออกมาจากซอกตึก
เธอมุ่งตรงไปยังร้านขายยาเป็นอันดับแรกแล้วจัดการเหมาซื้อน้ำยาที่ช่วยฟื้นฟูร่างกายระดับสูงเกือบทุกชนิดกักตุนไว้เป็นจำนวนมากกว่าครั้งก่อนๆ หลังจากจ่ายเงินแล้วเธอก็ต้องตกใจอีกครั้งเมื่อพบว่าน้ำยาลดความเหนื่อยล้าและน้ำยารักษาบาดแผลระดับสูงราคาพุ่งขึ้นสูงมาก และมันทำให้เธอหมดเงินไปถึง 12ล้านz นับว่าเป็นเงินจำนวนมากครั้งแรกที่ต้องควักจ่ายและทำให้เธอรู้สึกอ่อนแรง ทว่าเมื่อเช็คยอดเงินคงเหลือทั้งหมดในบัญชีก็ทำให้ดวงตาเธอเบิกกว้างโตเมื่อปรากฏตัวเลขถึง 725,103,800z
เธอรู้สึกตกใจเป็นอย่างมากเนื่องจากไม่ทราบว่าตัวเองมีเงินมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ แต่หลังลองทบทวนค่าตอบแทนจากภารกิจที่ผ่านมาคร่าวๆ ก็พบว่าที่ค่าตอบแทนสูงเพราะภารกิจที่ผ่านมาของเธอล้วนแต่เป็นภารกิจระดับ S ทั้งหมด
สังหารสัตว์เทพอสูรระดับราชาดาร์วิน |
ค่าตอบแทน 30ล้านZ |
ภารกิจระดับ SSS กอบกู้เมืองเซเปีย |
ค่าตอบแทน 500ล้านZ |
ภารกิจตามหาจิตวิญญาณอาวุธระดับ S |
ค่าตอบแทน190ล้านZ |
ดังนั้นเมื่อหักลบกับรายจ่ายและรวมกับเงินในบัญชีที่เธอมีอยู่ก่อนหน้า ตอนนี้เธอจึงกลายเป็นเศรษฐีย่อมๆ ที่มีเงินในบัญชีมากราวๆ 725ล้านz เลยทีเดียว
โอ้ย! พอเห็นตัวเลขในบัญชีแบบนี้แล้วค่อยรู้สึกดีขึ้นมาหน่อย
ซีแนลส่งเสียงร้องเพลงฮึมฮำอย่างสบายใจขณะเปิดเช็คสถานะล่าสุดของตัวเอง
ข้อมูลตัวละคร
ผู้เล่น :: ซีแนล เฟลคอน ฉายา :: สาวน้อยสยบมังกร
ระดับ Level :: 296 อาชีพ :: ช่างซ่อมตุ๊กตา เผ่า :: จอมมาร
ระดับชนชั้น :: สามัญชน *(ปลดผนึกระดับขั้นต่อไปเมื่อ Level 1000)
Exp :: 296000/1000000 HP :: 850000/850000 MP :: 750000/750000
เวทมนตร์ :: - ธาตุ :: - ทักษะ :: -
อาวุธ :: ราชันย์ตุ๊กตาหมีระดับ SSS
เครื่องแต่งกาย :: ชุดเจ้าหญิงซากศพ ระดับ SSS
ผู้รับใช้ :: ซิเรียส ผู้กักขังวิญญาณ (ถูกผนึก1/7)
สัตว์เลี้ยง :: ผู้วิเศษอีดาน (ถูกผนึกเป็นเวลา 7 วัน)
พันธสัญญา :: มิตรแห่งความตายเจ้าหญิงซากศพ (ถูกผนึกเป็นเวลา 7 วัน)
คำสาป :: คำสาปโชคร้ายหกประการ 1/6
*(ผู้เล่นติดสถานะคำสาปครั้งที่ 1 คำสาปชราภาพ เหลือระยะเวลา 5.10 ชั่วโมง)
|
จากข้อมูลสถานะตัวละครที่อ่านคร่าวๆ ทำให้พบว่ารายละเอียดข้อมูลของเธอเพิ่มขึ้นจากแต่ก่อนมาก ที่น่าแปลกใจคือระดับเลือดและระดับมานาของเธอยังเท่าเดิมไม่ได้ลดลง มีเพียงค่าประสบการณ์เท่านั้นที่ต้องเก็บใหม่ตั้งแต่ต้น ขณะที่ก้าวเดินอย่างใจลอยได้ไม่ทันถึงสามก้าว เสียงระบบก็ดังขึ้นในหัวของเธออีกครั้ง คราวนี้ซีแนลขมวดคิ้วเข้าหากันแน่นเพราะลังเลเหลือเกินว่าความโชคร้ายแบบไหนจะวิ่งเข้าหาเธออีก
ขอแสดงความยินดีด้วยค่ะ ผู้เล่น ซีแนล เฟลคอน ได้รับไอเท็มพิเศษจากทางระบบค่ะ
เนื่องจากผู้เล่นสูญเสียระดับเป็นจำนวนมาก ทางระบบจึงได้ชดเชยไอเท็มเพิ่มค่าประสบการณ์ให้กับผู้เล่น ผู้เล่นสามารถติดต่อรับได้ที่ธนาคารทุกสาขา ขอบคุณค่ะ
ซีแนลอดแปลกใจกับสิ่งที่ระบบมอบให้ไม่ได้ ดังนั้นเธอจึงไม่รอช้ารีบมุ่งหน้าไปยังธนาคารทันที โดยไม่ลืมจับเจ้าตุ๊กตาหมีสีเทาหม่นที่นั่งหลับผงกหัวน้ำลายยืดเกาะติดเหนียวแน่นอยู่บ่นบ่า จนต้องหยิบมันเหวี่ยงไปมาด้วยความหมั่นไส้
หนอย! มั่วแต่นั่งหลับ ไม่ยอมช่วยอะไรเลย!!
“ห้าว~ นายฉิงนั่นเอง ทำไมท่านน่าเกลียดจัง”
ซีแนลอ้าปากเหวอก่อนสีหน้าจะเปลี่ยนเป็นฉายแววขุ่นเคืองกับคำกล่าวซื่อๆ ของเจ้าตุ๊กตาหมีที่เพิ่งลืมตาตื่นขึ้นมา
“เงียบไปเลย!” เธอว่า
แม้เธอจะรู้มาก่อนล่วงหน้าคร่าวๆ แล้วว่าจิตวิญญาณอาวุธจากเมืองเซเปียไม่มีพฤติกรรมโกหก แต่นี่มันจะเถรตรงเกินไปแล้ว อย่างน้อยก็ควรแสร้งยกยอปอปั้นเจ้านายตัวเองสักนิดก็ยังดี แต่นี่อะไร มาบอกตรงๆ ว่าเธอน่าเกลียด จะช่วยถนอมรักษาน้ำใจสักนิดก็ไม่มี
เฮ้อ นี่เธอควรจะร้องไห้เสียใจหรือหัวเราะเสียงดังเหมือนคนบ้าดีที่ได้อาชีพลับบ้าบอแบบนี้
กล่าวตามจริงแล้ว เธอเองก็ไม่พอใจกับสภาพแก่หงำเหงือกจนฟันแทบจะหลุดร่วงหมดปากที่เป็นอยู่ตอนนี้ แม้คิดอยู่เสมอว่าเราวัดคุณค่าความเป็นคนจากรูปร่างหน้าตาภายนอกไม่ได้ แต่ไอ้สภาพตอนนี้มันทำร้ายจิตใจกันเกินไปแล้ว
ที่แน่ๆ คือไม่มีผู้หญิงคนไหนในโลกอยากเฉียดใกล้กับความรู้สึกแก่งอมที่เธอเป็นอยู่อย่างนี้แน่นอน
พี่หมีทำหน้าสงสัยขณะกระโดดผละออกจากมือเหี่ยวย่นของเธอแล้วใช้แขนเล็กๆ ยึดเสื้อคลุมปีนป่ายกลับไปนั่งบนบ่าประจำตำแหน่งที่เดิมพร้อมๆ กับเอามือปิดปากหาวนอนอย่างง่วงงุน
“ข้าทำอะไยผิดเหยอนายฉิง” อีกฝ่ายถามเมื่อเห็นสีหน้ายุ่งๆ ของเธอ
“ผิดสิ! ผิดมากๆ ด้วย”
เธอว่าอย่างใส่อารมณ์ ขณะเหลือบตามองอีกฝ่ายด้วยความหมั่นไส้ “เวลาที่ฉันคับขันทีไรพี่หมีไม่เคยคิดช่วยอะไรเลยนะสิ! อย่างเมื่อครู่นี้ฉันเกือบโดนไอ้บ้าที่ไหนก็ไม่รู้ลักพาตัวแล้วรู้มั้ย!”
“หวา~ จริงเหยอ นายฉิงอย่ามองข้าในแง่ย้ายนักฉิ ความจริงแย้วข้าเป็นอายุดที่เก่งมากเชียวนะ”
“เอาแต่นอนอย่างเดียวมันจะไปช่วยอะไร! ถ้าเจอกับศัตรูที่หมายเอาชีวิตฉัน ฉันไม่ต้องตายไปก่อนหรือไงกัน” เธอบ่นกระปอดกระแปดอย่างไม่พอใจ เพราะอย่างน้อยสถานะพี่หมีก่อนหน้าที่จะได้รับจิตวิญญาณก็ยังเป็นอาวุธที่เธอสามารถพึ่งพิงได้ เธอจำได้เสมอว่ามันช่วยต่อสู้ปกป้องเธอจนมีสภาพยับเยินหลายครั้ง
แล้วนี่มันอะไรกันเนี่ย!
ตั้งแต่ได้จิตวิญญาณของอาวุธมา เธอยังไม่เคยเห็นว่าพี่หมีจะสร้างประโยชน์อะไรให้เธอเลยนอกจากกลายเป็นตุ๊กตาหมีขี้เกียจนอนกินบ้านกินเมือง และไอ้แค่การพูดคุยตอบโต้ได้มันก็ไม่ช่วยทำให้เธอรู้สึกปลอดภัยกว่าเดิมหรอก สรุปง่ายๆ ว่ามันไร้ประโยชน์สิ้นดี
“ง่า งั้นข้าอาจจะผิดจินๆ”
แล้วทำไมไอ้น้ำเสียงซื่อๆ น่าสงสารอะไรนั่น ถึงทำให้เธอรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นฝ่ายผิดไปได้เนี่ย ซีแนลหมกมุ่นกับตัวเองด้วยการทำสีหน้าสับสนอย่างรู้สึกผิดอย่างน่าประหลาดจนอีกฝ่ายต้องเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงประจบเอาใจ
“แต่ข้าก็ทำเพื่อท่านนะนายฉิง”
เธอชะงักและหยุดเดิน ขณะค่อยๆ หันหน้าหรี่ตามองพี่หมีด้วยความสงสัย
“ทำเพื่อฉัน? พี่หมีทำอะไร?” เธอไม่เห็นว่าทำอะไรเลยนอกจากนอน
“ข้าต้องกักเก็บพลังไว้เยอะๆ นะฉิ เพื่อไว้ให้ท่านต่อสู้ไง การยอนเป็นวิธีที่ทำให้ข้าแข็งแกร่งมากที่ฉุด อีกอย่างพอข้าหยับ ข้าจะได้มีเวลาต่อสู้กับอีกตัวตนหนึ่งข้างในไม่ให้ออกมาไง”
“อีกตัวตนหนึ่งอะไรเหรอ??” พอได้ยินดังนั้นดวงตาของเธอก็เบิกกว้างโตด้วยความตกใจ
“ความจริงแย้วทั้งเจ้านั่นและข้า ทั้งหมดมันก็คือข้านั่นแหยะ แต่เจ้านั่นมันนิฉัยไม่ดี คืออีกด้านหนึ่งของข้าอ่ะ”
“อีกด้านหนึ่งที่นิสัยไม่ดีงั้นเหรอ” เธอเอ่ยถาม
คิ้วทั้งสองข้างขมวดเข้าหากันด้วยความแปลกใจจากสิ่งที่ได้ฟัง เธอไม่เคยได้ยินเรื่องประหลาดอะไรทำนองนี้มาก่อน เพราะมันทำให้เธอนึกถึงภาพของคนประเภทที่มีสองบุคลิกอะไรประมาณนั้น แต่นี่มันเป็นแค่อาวุธนะไม่ใช่คนสักหน่อย จะมีด้านดีกับด้านไม่ดีรวมอยู่ด้วยกันได้ยังไง
แต่นั่นสิ! จะแปลกใจอะไรล่ะ
ในเมื่ออาวุธของเธอเป็นอาวุธพิเศษระดับ SSS ที่มากจากอาชีพลับของเกมเชียวนะ ที่สำคัญเธอยังผ่านภารกิจยากๆ ในการค้นหาจิตวิญาญาณมาแล้วด้วย เพราะงั้นจะเกิดอะไรขึ้นก็คงไม่ใช่เรื่องแปลกนักหรอกจริงมั้ย ซีแนลพยักหน้าเห็นด้วยให้กับความคิดของตัวเอง ก่อนจะเงยหน้าถามอีกฝ่ายอีกครั้ง
“แล้วที่พี่หมีบอกว่าต้องนอนเยอะๆ เพื่อต่อสู้กับเจ้านั่น พี่หมีต่อสู้กันมันยังไงเหรอ”
“เย่นหมากยุกอ่ะ”
เล่นหมากรุก!! เธอแทบจะทำหน้าเหวอหงายหลังไปอีกครั้ง
นี่มันวิธีบ้าบออะไรเนี่ย
“ใช่นะฉิ ข้าต้องยอนเยอะๆ เพื่อจะได้มีเวลาเย่นหมากยุกให้ชนะอวดข่มเจ้านั่นยานๆ ไง“
“ถ้าแพ้ล่ะ”
พี่หมีเอามือแตะคางขณะทำสีหน้าง่วงๆ อย่างครุ่นคิดซึ่งมันทำให้เธอรู้สึกว่าน่ารักเอามากๆ
“ไม่ยู้สิ ข้าไม่เคยแพ้ ถ้านายฉิงไม่อ่อนแอ ข้าไม่อ่อนแอ ข้าก็ไม่เคยแพ้อ่ะ”
อ้าว แล้วเกี่ยวอะไรกับที่เธออ่อนแอเนี่ย
“พี่หมี ถ้ายังไงลองปล่อยเจ้านั่นออกมาให้ฉันดูหน่อยได้มั้ย” เมื่อเกิดความคิดดีๆ ขึ้นมาเธอรีบบอกอีกฝ่ายด้วยดวงตาเป็นประกายตื่นเต้น
“ไม่ได้อ่ะ”
“ทำไมล่ะ!”
ท่าทางร่างเริงเมื่อครู่นี้หายวับไปในทันที
“ถ้าเจ้านั่นออกมานายฉิงจะพลอยแย่เอานะฉิ ที่สำคัญตอนนี้นายฉิงยังไม่มีความสามารถมากพอจะเรียกเจ้านั่นออกมาได้อ่ะ ฝีมือนายฉิงในตอนนี้ควบคุมยันไม่ได้หยอก”
“หมายความว่ายังไง!”
เธอถลึงตาใส่อีกฝ่ายอย่างขุ่นเคือง
อะไรกัน! ดูถูกฝีมือเจ้านายตัวเองสุดๆ
“ไม่ยู้อ่ะ ข้าขี้เกียจเย่าแย้ว ง่วงอ่า ห้าว~”
“อะไรกันไม่ต้องมาทำเป็นเปลี่ยนเรื่องเลยนะ” เธอส่งเสียงทักท้วง
“ถ้านายฉิงอยากยู้ นายฉิงก็รีบเก่งไวๆ เข้าฉิ อย่างย้อยนายฉิงก็ต้องระดับราชาละม้างถึงควบคุมเจ้ายั่นได้”
“ว่ายังไงนะ!”
นี่เธอต้องเพิ่มระดับสูงถึงระดับชนชั้นราชาเลยเชียวเหรอ
เธอเบิกตากว้างโตอย่างตกใจเมื่อได้ฟัง แล้วแบบนั้นเธอจะเอาปัญญาที่ไหนไปสู้ไหว ระดับชั้นจอมเวทผ่านมาเธอก็ต้องความลำบากไม่รู้เท่าไหร่ แล้วนี่ต้องถึงขั้นถีบตัวเองให้สูงถึงระดับนั้น เธอก็รู้สึกถอดใจแล้วล่ะ
เฮ้อ~
ซีแนลทอดถอนลมหายใจอย่างท้อแท้ออกมาแรงๆ ทีหนึ่ง
“นายฉิงอย่าเศร้าใจไปเยย แค่มีข้าคนเดียวก็พอแย้ว ข้าเก่งนะจะบอกให้”
ซีแนลส่ายหัวกับไอ้ท่าทางโอ้อวดที่ฝืนอาการง่วงงุนโงนเงนไว้แทบไม่ไหว ยิ่งท่านั่งผงกปิดเปลืองตาเป็นทีๆ ทำให้เธอต้องส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจ
เมื่อมาถึงธนาคาร ตอนแรกเธอเพียงแจ้งจุดประสงค์ขอรับไอเท็มเพิ่มค่าประสบการณ์พิเศษที่ระบบแจ้งมาเท่านั้น แต่ก็นึกขึ้นมาได้ว่าตัวเองลืมเรื่องสำคัญเรื่องหนึ่ง
แน่นอนว่าเธอลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท!
เธอลืมส่งหยาดน้ำตาแม่มดโดโรธีให้พวกพี่ๆ ทั้งสาม ทั้งที่รับปากไว้อย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าพอเข้าเกมจะรีบแจ้งเรื่องกับเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เคยติดต่อผ่านช่องทางนาฬิกาสื่อสารให้ช่วยโอนฝากของผ่านระบบธนาคาร แต่กลับกลายเป็นว่าเธอพบเจอเรื่องวุ่นวายจนหลงลืมมันไปเสียก่อน
To be continue…
ความคิดเห็น