ลิขิตรักสะใภ้บ้านนอก - นิยาย ลิขิตรักสะใภ้บ้านนอก : Dek-D.com - Writer
×

    ลิขิตรักสะใภ้บ้านนอก

    หญิงสาวจากต่างจังหวัดมาหางานทำ ได้พบเจอกับนพดลซึ่งได้จ้างให้หญิงสาวมาหลอกคุณแม่เพื่อจะไม่ได้หมั้นกับจิราผู้หญิงที่แม่เลือกไว้ให้ สุดท้ายก็โดนจับได้โดยที่ทั้งคู่รักกัน

    ผู้เข้าชมรวม

    350

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    32

    ผู้เข้าชมรวม


    350

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    จำนวนตอน :  1 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  29 พ.ค. 65 / 19:20 น.

    อีบุ๊กจากนิยาย ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    บทนำ

              หญิงสาวคนหนึ่งนั่งมองรถวิ่งไปมาตามท้องถนนคันแล้วคันเล่า แต่ก็ยังไร้วี่แววของเพื่อนสาว ซึ่งบอกแก่เธอว่าจะออกมารับ นี่ก็ปาเข้าไปร่วมชั่วโมงแล้ว หญิงสาวนั่งมองนาฬิกาข้อมือก็ได้แต่ถอนหายใจ

                “กี้ ฉันตกลงจะไปทำงานกับแกนะ ว่าจะลงไปพรุ่งนี้ แกสะดวกมารับฉันไหม” หญิงสาวได้โทรมาบอกเพื่อนสาวเมื่อช่วงเย็นของเมื่อวาน

                “แกจะมาจริงๆหรอ ฉันดีใจที่สุดเลย ได้ๆ พรุ่งนี้ฉันจะออกไปรับแกที่ท่ารถประจำทาง แกมาถูกใช่ไหม ฉันจะขอหัวหน้าออกโอทีสักหนึ่งวัน” เพื่อนสาวเอ่ยบอก พร้อมกับนัดแนะสถานที่กันอีกนิดหน่อยก็วางสายไป อ้างว่าต้องทำโอทีต่อ

                กรรณิกา พงษ์ประยูร หรือเอ้ หญิงสาวผู้สำเร็จการศึกษาเป็นบัณฑิตใหม่เอี่ยม จบปริญญาตรี คณะบริหารธุรกิจ เอกการบัญชี เธอเป็นคนภาคตะวันออกเฉียงเหนือหรือภาคอีสานของประเทศไทย เธอคือความหวังของครอบครัว เธอมีพี่น้องสองคน มีพี่ชายหนึ่งคน เธอเป็นน้องนุชคนสุดท้อง ซึ่งพ่อกับแม่ของเธอตั้งใจอยากให้เธอร่ำเรียนสูงๆมีวิชาติดตัว ดีกว่าต้องมาทำไร่ไถ่นา หลังสู้ฟ้าหน้าสู้ดิน ลำบากตรากตรำ ทนแดดทนฝนทนร้อน ทนความลำบากแบบพวกท่าน โดยได้อาศัยแรงงานจากพี่ชายช่วยกันทำนาแต่ละปีเพื่อส่งเสียให้เธอได้ร่ำเรียน แต่เมื่อปีที่แล้วพี่ชายสุดที่รักของเธอได้แต่งงานออกเรือนแยกออกไปแต่ก็ยังคงมาช่วยพ่อกับแม่ทำนาเหมือนเดิม มาช่วยไม่เคยเกี่ยงงอน พ่อเจริญและแม่บังอร พงษ์ประยูร ก็แบ่งที่ทางให้ลูกชายคนเดียว สมใจ พงษ์ประยูร ได้ทำมาหากิน เพื่อได้ตั้งหลักไว้เป็นสัดส่วน เพื่อป้องกันคำครหาจากชาวบ้านและดองทางฝ่ายลูกสะใภ้ พรสุดา คือพี่สะใภ้ของเธอ แต่เพราะเป็นคนบ้านเดียวกัน เธอและพี่สะใภ้จึงคุ้นเคยและรู้จักกันดี อีกทั้งพรสุดาก็น่ารักเข้ากับพ่อแม่ได้ง่าย จึงไม่มีปัญหาระหว่างแม่ย่ากับลูกสะใภ้อย่างกับในละครหลังข่าว

                “พ่อจ๋า แม่จ๋า เอ้อยากไปทำงานจ๊ะ ไปกับกี้ ขอฉันไปนะแม่นะ” เธอตัดสินใจพูดกับพ่อแม่หลังจากรับประทานอาหารเย็นเรียบร้อยแล้ว พร้อมกับกอดเอวแม่เอาไว้อย่างประจบเอาใจ

                “ทำงานอะไร แล้วจะไปพักที่ไหน” พ่อถามออกไปด้วยความห่วงและหวงลูกสาวคนเดียวของเขา

                “ทำงานโรงงานจ๊ะ แล้วก็พักกับกี้ พี่สาวของกี้เขาซื้อบ้านไว้แถวๆชลบุรีนะจ๊ะพ่อ ให้เอ้ไปนะจ๊ะพ่อจ๋าแม่จ๋า” หญิงสาวออดอ้อนพร้อมกับนอนหนุนตักผู้เป็นแม่อย่างเอาใจสุดฤทธิ์

                “ให้ลูกไปเถอะพี่ ลูกโตแล้ว อีกอย่างลูกก็ไปอยู่กับเพื่อน” นางคิดว่าคนจะไป หากรั้งไว้ก็ไม่มีประโยชน์ สู้ปล่อยให้ลูกไปหาประสบการณ์ก็ไม่น่าจะเสียหายอะไร

                “ตามใจเอ็งแล้วกัน เรียนจบบัญชีมาแทนที่จะอยู่ทำงานในเมืองใกล้บ้าน กลับอยากไปทำงานโรงงานไกลพ่อไกลแม่เสียอย่างนั้นแหละ” พ่อบ่นไปได้แค่นั้น เมื่อเจอรอยยิ้มของลูกสาวพร้อมเข้าไปกอดเอวผู้เป็นพ่อก็ใจอ่อนกับลูกสาวแล้ว

                “แล้วก็อย่าลืมไปหาป้าของแกบ้างละ อยู่ชลบุรีเหมือนกัน เอานี่ที่อยู่ป้าบังเอิญเอาใส่กระเป๋าซะ เบอร์โทรนี้ด้วย” แม่ส่งกระดาษแผ่นน้อยที่มีที่อยู่ของผู้เป็นป้าพี่สาวของแม่เอาไว้

                ป้าบังเอิญเป็นพี่สาวของแม่ ป้ามีลูกสาวสองคน แอนและอั้มกำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัยทั้งคู่ กำลังใช้เงินคนหนึ่งอยู่ปีหนึ่งส่วนอีกคนอยู่ปีสาม ทั้งคู่อยู่กับผู้เป็นยายมาตั้งแต่เด็ก เพราะทั้งลุงและป้าไปทำงานยังจังหวัดชลบุรี นานๆจะได้กลับมาบ้านสักที ซึ่งกรรณิกาสนิทกับทั้งคู่ดีเพราะไปมาระหว่างบ้านคุณยายเป็นประจำ ถึงพ่อกับแม่ของเธอจะแยกมาอยู่ที่นาของตนเองท้ายหมู่บ้าน แต่เธอก็มักจะเอากับข้าวที่แม่ทำไปส่งให้คุณยายเสมอ ยายไม่ได้อยู่เพียงคนเดียว มีน้าสายใจอยู่เป็นเพื่อนซึ่งน้าสาวของเธอไม่ได้แต่งงานเป็นสาวแก่ ชาวบ้านเขาเรียกน้าสายใจว่าแบบนั้น น้าบอกว่าอยู่แบบนี้ก็สบายดี บ้านของยายเลยอบอุ่นลูกหลานห้อมล้อม

                “จ๊ะแม่ ไว้เอ้จะเข้าไป แม่มีอะไรฝากถึงป้าไหมจ๊ะ เดี๋ยวเอ้จะไปถามน้าสายใจกับยายด้วย เอ้จะได้แวะเอาไปให้ป้า” หญิงสาวขันอาสาอย่างยินดี เพราะอย่างน้อยเธอก็จะได้ไปทำงานแล้ว เธอกอดแม่เป็นการขอบคุณ วันต่อมาเธอจึงเดินทางออกจากบ้านไปพร้อมของฝากที่มีทั้งความรักและความห่วงใยไปฝากผู้เป็นป้ามากมาย

                กรรณิกา กับ อารียา สุขสมบูรณ์ หรือกี้ นั้นเป็นเพื่อนกันตอนเข้ามหาวิทยาลัยใหม่ๆทั้งคู่เข้ามาเรียนยังตัวจังหวัด ซึ่งตนเองอยู่ต่างอำเภอและมาเจอกันตอนมาสมัครเรียน พูดคุยกันถูกคอก็เลยคบกันและยังพักห้องเดียวกันหอเดียวกันอีกด้วย ทั้งคู่ก็เลยคบกันเป็นเพื่อนมายาวนานจนถึงเดี๋ยวนี้ หญิงสาวนึกย้อนไปตอนที่เพื่อนสาวไปชวนเธอมาทำงานด้วยช่วงสงกรานต์

                “เอ้ แกไปทำงานกับฉันไหม งานโรงงาน ทำไปก่อน พอมีจังหวะเหมาะเราค่อยไปหางานบัญชีทำกัน ไปนะ สนุกดี เพื่อนเยอะแยะเลยละ แถมได้ตังเยอะด้วยมีโอทีทุกวัน” อารียาได้บอกแก่กรรณิกาช่วงกลับมาเยี่ยมบ้านตอนสงกรานต์ที่ผ่านมา

                “ฉันก็อยากไปนะแก เอาไว้ฉันขออนุญาตพ่อกับแม่ก่อนนะ” หญิงสาวบอกไป ด้วยสายตาละห้อย

                “ได้ยังไงแกก็โทรบอกฉันนะ” เมื่อพูดคุยกันมาทั้งวัน อารียาก็ขอตัวกลับ เพื่อที่พรุ่งนี้จะต้องเดินทางกลับไปทำงานที่ชลบุรีพร้อมกับพี่สาว

                “เฮ้ ยายเอ้ ทางนี้” เสียงอารียาส่งเสียงทักทายเพื่อนสาว ทำให้หญิงสาวตื่นจากภวงค์ เธอนั่งรอเพื่อนมารับที่ป้ายรถโดยสารประจำทางที่เธอลงมาจากรถได้เกือบสองชั่วโมงแล้ว

                “มานี่ฉันช่วยถือกระเป๋า เอาอะไรมาเยอะแยะเลย” อารียาพูดพร้อมกับถือกระเป๋าให้เพื่อนสาวของตน

                “ของฝากแกกับป้าบังเอิญนะ แม่กับยายฝากมาให้” กรรณิกาบอกเพื่อนออกไป

                “เราไปหาอะไรกินกัน แถวนี้มีร้านส้มตำอร่อยๆด้วยนะ ปะ” อารียาผู้คุ้นชินกับสถานที่ก็เดินนำเพื่อนสาวไปก่อน เมื่อรับประทานอาหารเสร็จก็พากันกลับบ้านพัก เพราะรู้ว่าเพื่อนสาวนั่งรถมาทั้งวันคงจะเพลียมาก

                “อาบน้ำให้สดชื่นก่อนนะ พรุ่งนี้วันอาทิตย์ ฉันหยุดหนึ่งวัน คืนนี้คุยกันจนสว่างได้ ฮ่าฮ่าฮ่า” อารียาพูดอย่างคนอารมณ์ดี

                “แล้วพี่สาวของเธอละ” หญิงสาวถามเพราะยังไม่เห็นใครเลยตั้งแต่เดินเข้ามาในบ้าน

                “พี่กัญนะหรอ เข้ากะจ้า กะดึกนะ หมายถึงเข้างานสองทุ่มออกงานพรุ่งนี้ตอนแปดโมงเช้า กว่าจะนั่งรถรับส่งของโรงงานมาถึงก็เก้าโมงกว่าๆโน่นเลย มาถึงก็นอนเลย นอนตอนกลางวันนะ แกไม่ต้องห่วงฉันบอกพี่กัญเอาไว้แล้ว สบายใจได้” อารียาเน้นย้ำให้เพื่อนรักสบายใจ

                “ขอบใจนะ” แล้วหญิงสาวก็เดินไปอาบน้ำให้สบายตัวเพระอากาศที่ร้อนบวกกับควันรถบนถนนที่มากกว่าบ้านของเธอเป็นอย่างมากจนรู้สึกอึดอัดทำให้เธอรู้สึกเหนียวตัว

                “วันจันทร์แกไปสมัครงานที่โรงงานของฉันเลยนะ ทำกลางวันไม่ได้เข้ากะอะไร มีโอทีบ้าง เลิกสองทุ่มทุกวัน มีรถรับส่ง แกไหวไหม” อารียาบอกรายละเอียดเกี่ยวกับงานให้เพื่อนสาวฟัง

                “ไหวสิ อยู่บ้านลำบากกว่านี้อีก” หญิงสาวพูดแบบเห็นมองท้องนาของผู้เป็นพ่อลอยขึ้นมาในหัวเลย

                “นอนเถอะ แกคงเหนื่อยแล้ว พรุ่งนี้จะพาไปเที่ยว แล้วไปหาป้าบังเอิญกัน” อารียาอาสาเพื่อนสาวเต็มที่

                “จ้า แล้วแกไม่พักหรอ วันหยุดแกนะ” หญิงสาวถามอย่างเกรงใจเพื่อนสนิท

                “ฉันชินแล้ว สบายมาก” อารียาพูดพร้อมกับล้มตัวลงนอน เพราะถ้าคุยกันต่อคงจะสว่างเป็นแน่ ด้วยสงสารเพื่อนที่นั่งรถมาทั้งวัน

    กรรณิกาทำงานมาได้สามเดือนก็ผ่านโปรช่วงทดลองงาน โรงงานที่หญิงสาวทำเกี่ยวกับสายไฟรถยนต์ส่งให้บริษัทรถยนต์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ ซึ่งงานที่ทำก็ไม่ได้หนักอะไรมีแบ่งงานกันทำเป็นช่วงๆหญิงสาวก็สนุกและมีความสุขมาก มีเพื่อนในแผนกเดียวกันหรือเกือบทั้งโรงงานเป็นคนบ้านเดียวกันหรือก็คือมาจากภาคอีสานเหมือนกันแต่คนละจังหวัดกันเท่านั้นจึงพูดคุยกันได้อย่างเข้าใจ

    “แก ฉันว่าพี่ชัยเขาชอบแกนะ เห็นเขามองแกมาสักพักหนึ่งแล้วละ แกลองมองดิเขาแอบมองแกอยู่อะ” อารียากระซิบบอกเพื่อนสาว 

    พี่วันชัยหญิงสาวรู้จักดีเพราะเป็นหัวหน้าแผนกของเธอเอง คอยช่วยเหลืองานที่ทำหรืองานชิ้นไหนมีปัญหาพี่ชัยเขาจะคอยแก้ไขให้งานผ่านไปได้ด้วยดี มีประสบการณ์ทำงานสูงและคงทำมานานแล้วอย่างแน่นอนเพราะตำแหน่งได้ขึ้นมาถึงระดับหัวหน้า

    “แกก็พูดไป แล้วแกกับพี่วีระนะไปถึงไหนแล้ว เห็นคุยกันอยู่ไม่ใช่หรือ ชอบเขาหรือยังละ” หญิงสาวพูดขึ้นให้เรื่องไปไกลตัว

    “ก็เรื่อยๆ นี่ก็นัดไปเที่ยวกันอยู่วันหยุดนี้ ไปด้วยกันไหม แกลองเปิดใจบ้างนะ ลองคบกันดูก็ไม่เสียหายอะไร” อารียาบอกเพื่อน

    “ไม่ไปหรอกแกไปเถอะ ไม่อยากไปเป็น ก.ข.ค. ใคร ให้เขามาจีบเถอะกลัวจะวิ่งหนีไปซะก่อนอะดิ” หญิงสาวหยอกเย้าเพื่อนสนิท

    “ใครว่า เพื่อนเรานะสวยจะตาย ที่กลัวนะกลัวไม่ยอมเปิดใจละซะมากกว่า ไป...หมดเวลาพักแล้ว ไปทำงานกันต่อ” ทั้งคู่ก็เดินตามกันเข้าไปทำงาน หลังจากหมดเวลาพักรับประทานอาหารกลางวันเสร็จเรียบร้อยแล้ว

    หลังจากวันนั้นหญิงสาวก็ได้ดอกไม้ที่พี่ชัยมาวางไว้ให้ที่ทำงานทุกวันและในนั้นก็มีข้อความน่ารักๆเสมอ ยิ่งนานวันหญิงสาวก็เริ่มใจอ่อนและยอมรับพี่ชัยเป็นแฟนคบหาศึกษาดูใจกัน บางอาทิตย์ถ้าว่างก็จะนัดกันออกไปทานข้าว ดูหนังกันเสมอ จากเดือนเป็นปีจนความรักสุกงอม เธอเคยหยอกเย้าให้พี่ชัยไปสู่ขอเธอกับพ่อ แต่พี่ชัยก็อ้างว่าขอเวลาเก็บเงินอีกสักพัก ซึ่งเธอก็ไม่ได้ขัดข้องอะไรกลับยินดีสะอีกที่มีเวลาอยู่เป็นสาวโสดให้ยาวนานขึ้น

    “เอ้ ออกไปเที่ยวห้างกันไหม เราไม่ได้ไปไหนด้วยกันนานแล้วนะ วันหยุดเหงานะไปกันนะ ไปหาใช้ตังกัน อยากได้เสื้อสวยๆสักตัวสองตัว นะ” อารียาชวนเพื่อนรักให้ออกไปเที่ยว หลังจากวันนี้เห็นเพื่อนสาวอยู่บ้านไม่ได้ออกไปไหน

    “ไปสิ วันนี้พี่ชัยเขาไม่ว่างนะ เห็นว่านัดเพื่อนๆไปแตะบอลกัน” หญิงสาวบอกถึงสาเหตุที่อยู่บ้านในวันหยุดนี้

    “พี่วีระก็ไปแตะบอลเหมือนกัน วันนี้เราไปเที่ยวให้สนุกไปเลย ไปกัน” อารียาบอกแก่เพื่อนสนิทเช่นกันว่าแฟนของเธอที่คบหาดูใจกันมาพร้อมๆกับกรรณิกานั้นก็ไม่ว่างในวันหยุดนี้เช่นกัน

    “แล้วหญิงสาวทั้งสองก็ออกเดินทางไปเที่ยวอย่างที่ชวนกันไว้ เมื่อเดินดูเสื้อผ้าได้พักใหญ่ เพื่อรอเวลาดูหนังกันนั้น สายตาของอารียาก็หันไปเห็นพี่ชัยนั่งรับประทานอาหารสุดฮิตที่มีในห้างสรรพสินค้าทุกแห่ง และที่นั่งข้างๆมีผู้หญิงหน้าตาสะสวยคงรุ่นราวคราวเดียวกับเธอและเพื่อนสนิทของเธอแน่ ถัดออกไปนิดก็คือเด็กหญิงตัวน้อยหน้าตาน่ารักน่าหยิก แก้มใสๆปากนิดจมูกหน่อยมองแล้วน่าหยิกแก้มใสๆนั้น รับประทานอาหารกันอย่างมีความสุข พูดจาหยอกเย้าหัวเราะกันเหมือนกับครอบครัวสมบูรณ์แบบของใครหลายคน อารียายืนนิ่งอ้าปากค้างกับภาพตรงหน้า ไหนบอกเพื่อนของเธอว่าไปแตะบอล ไหนมาเป็นแบบนี้

    “แก เป็นอะไร ไม่ชอบชุดนี้หรอ สวยไหม แต่ฉันว่ามันเหมาะกับแกนะ ลองดูสิ” หญิงสาวยื่นเสื้อมาตรงหน้าเพื่อนสาว 

    กรรณิกาเลือกหาชุดที่เหมาะกับเพื่อนส่งมาให้เพื่อนสนิท แต่เห็นเพื่อนยืนนิ่งตาค้าง ก็หันไปดูว่าเพื่อนมองอะไร เสื้อผ้าในมือที่ถือไว้ก็หล่นจากมืออย่างไม่รู้ตัว

    “พี่ชัย”หญิงสาวเอ่ยเรียกชื่อชายคนรักเสียงนั้นเบาแสนเบาจนแทบจะไม่ได้ยินเสียง

    “แกเป็นไง เอาไงดี” อารียากุมมือเพื่อนรักไว้แน่น มือของเพื่อนเธอเย็นชื่นไปหมดแล้ว

     “ฉันจะไปถามให้รู้เรื่องเลย” อารียาไม่รีรอเดินตรงไปที่โต๊ะที่พี่ชัยนั่งอยู่ทันที กรรณิกาตกใจทำอะไรไม่ถูก รู้ตัวอีกทีเพื่อนของเธอก็เดินไปถึงโต๊ะที่พี่ชัยนั่งกันอยู่นั่นแล้ว สติของเธอจึงได้กลับมา

    “พี่ชัย”อารียาเรียก

    “กี้ เอ้” ชายหนุ่มตกใจ เพราะไม่คิดว่าจะมาเจอสองสาวที่นี่ เพราะได้โทรไปถามหญิงสาวคนรักแล้วว่าจะทำความสะอาดบ้าน ซักผ้า ไม่ได้ออกไปไหนในวันหยุดนี้ ประจวบเหมาะกับภรรยาของเขาวันนี้ไม่มีโอทีที่บริษัทจึงรบเร้าให้เขาพาลูกสาวออกมาเที่ยวเล่นและแวะทานอาหารนอกบ้านบ้าง

    “คุณพ่อ ใครค่ะ เพื่อนคุณพ่อหรือคะ เชิญพี่ทั้งสองนั่งทานกับเราสิคะคุณพ่อ” เป็นเสียงเด็กน้อยที่เรียกสติของชายหนุ่มให้กลับมา

    “ใช่จ๊ะ เพื่อนที่บริษัทพ่อเองจ๊ะ” พ่อหันไปพูดกับลูกสาวตรงหน้า

    “ไม่ละค่ะ ขอบคุณ เชิญพวกคุณรับประทานกันตามสบายเถอะคะ” กรรณิกาตอบออกไปพร้อมกับดึงแขนเพื่อนรักให้ออกมาจากที่ตรงนั้นโดยเร็ว ทั้งลากทั้งจูงจนเหนื่อย น้ำตาก็หลั่งไหลมาตลอด

    “ทำไมละ ฉันอยากถามให้รู้เรื่อง แกลากฉันออกมาทำไม” อารียาโวยวายแค้นใจมากที่โดนผู้ชายแบบนั้นหลอกเอาได้

    “ฉันก็ไม่รู้ ถ้าเมียเขารู้แล้วเขาเกิดมีปัญหากัน แล้วเด็กน้อยตาดำๆละแก ฉันจะกลายเป็นคนที่ผิดคิดไปแย่งผัวเขาเลยนะ ครอบครัวเขาจะพังเพราะฉัน” หญิงสาวร้องไห้โฮ

    “แต่เขาหลอกเรานะ หลอกมาเป็นปีๆ ฉันอยากจัดให้สักชุด” อารียาพูดอย่างเคียดแค้น คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจกันจริงๆ

    “เรากลับบ้านกันเถอะ” กรรณิกามองแล้วก็รู้สึกว่ามีคนมองมามากแล้ว เธอรู้สึกอายผู้คนเหล่านั้นที่มองมาอย่างสงสัยว่าหญิงสาวเป็นอะไรร้องไห้ทำไมกัน

                เมื่อกลับมาถึงบ้านกรรณิกาก็ร้องไห้อย่างหนัก ภายในหัวมีแต่คำว่า ทำไม ทำไม เขามาหลอกเธอทำไม มาหลอกให้เธอรักทั้งที่มีครอบครัวอยู่แล้ว มันเจ็บจนพูดไม่ออก มีแต่เพียงน้ำตาที่พอจะช่วยได้

                “ร้องให้พอเถอะ พรุ่งนี้เราต้องสู้ต่อไป ชีวิตเราต้องเดินไปข้างหน้า แค่ผู้ชายเฮงซวยคนหนึ่งปล่อยมันไป” อารียาปลอบใจเพื่อน นึกแค้นไปถึงแฟนหนุ่มว่ารู้เห็นเป็นใจกันด้วยหรือเปล่า ทำไมไม่บอกเรื่องพี่ชัยมีครอบครัวแล้วกับเธอ

                “ฉันคงไปสู้หน้าเขาไม่ไหวหรอก ฉันเกลียดเขา คนหลอกลวง ฉันจะลาออก ฉันตัดสินใจแล้วแก” หญิงสาวบอกเพื่อนรักไปตามที่คิด เพราะไม่อาจทนเห็นหน้าเขาได้ทุกวัน คนที่เห็นเธอเป็นแค่ของเล่น เธอมีค่ากว่านั้น มีค่ากว่าให้คนไม่ดีมาหลอกเธอ

                “ก็ดีนะแก งานแถวนี้มีอีกตั้งหลายโรงงานแนะ ลองไปสมัครดู ฉันเป็นกำลังใจให้ สู้ๆนะแก ฉันว่าแกพักสักวันสองวันก่อน แล้วค่อยไปหางานใหม่นะ” อารียาเป็นห่วงเพื่อนรักจับใจ ก็ใครจะไปคิดว่าจะมาเจอไอ้พวกหลอกลวง โปรไฟล์ดีแต่ดันมีลูกมีเมียแอบแฝง พวกโลกสองใบคบซ้อน เอาเวลาที่มาทำงานมาหาจีบสาวๆ

                น่าสงสารเมียเขาละมาก มาเจอสามีที่ต่อหน้านั้นแสนดีแต่ลับหลังแอบนอกใจ กรรมแท้ ดีนะที่เพื่อนรักของเขามารู้ความจริงสะก่อน ถ้าไปไกลกว่านี้ไม่อยากจะคิดเลยว่าเรื่องจะออกมาเป็นแบบไหน สงสารเด็กตาดำๆที่ไม่รู้อิโหน่อิเหน่ ก็ได้แต่ภาวนาให้พี่เขาเลิกนิสัยแบบนี้สงสารครอบครัวเขาจัง

                หลายวันต่อมากรรณิกาออกจากงานเพราะตัดใจได้แล้ว แต่พี่ชัยก็พยายามโทรหา พยายามถามอารียา แต่ก็โดนอารียาต่อว่าไปยกใหญ่ แต่คนเห็นแก่ตัวยังไงก็เห็นแก่ตัวอยู่ดี เขาบอกแก่อารียาว่าเขาเลือกเธอ ยอมทิ้งครอบครัวได้ เพราะทุกวันนี้ครอบครัวเขามีปัญหากันอยู่แล้ว เธอคิดว่าจะไม่ไปคืนดีกับผู้ชายแบบนี้โดยเด็ดขาด ขนาดว่ายอมทิ้งครอบครัวมาเพื่อเธอ อีกหน่อยพอเบื่อเธอแล้วก็ยอมทิ้งเธอไปอยู่กับคนอื่นอยู่ดี ลาก่อนกับความรู้สึกดีๆที่เคยมีให้ ผู้ชายสารเลว

                วันนี้เธอตั้งใจจะไปหาป้าบังเอิญญาติผู้ใหญ่เพียงคนเดียวที่มีในจังหวัดชลบุรีนี้ ไหนๆก็ยังไม่ได้ไปหางานใหม่ ไปหาป้าเพื่อที่เธอจะได้สบายใจบ้างหรือบางทีป้าของเธอจะมีลู่ทางในการหางานใหม่ให้กับเธอก็ได้ เธอโทรหาป้าแล้วแต่ป้าบอกว่าจะออกไปตลาด ให้เธอรอก่อน พอดีเจ้านายแวะมานอนที่บ้าน ป้าเลยออกไปซื้อกับข้าวมาเตรียมรอไว้ทำให้เจ้านาย ก็ป้าของเธอเป็นแม่บ้านอยู่ที่บ้านหลังนี้มาร่วมสิบกว่าปีแล้ว ส่วนผู้เป็นลุงนั้นก็เป็นพนักงานขับรถให้เจ้านาย ทั้งคู่เลยพักอยู่ที่บ้านนี้กับเจ้านายด้วย แต่นานๆทีเจ้านายของป้าถึงจะมานอนที่นี้เพราะส่วนใหญ่จะทำงานที่สำนักงานใหญ่ที่กรุงเทพ

                “เอ่...ประตูเล็กเปิดทิ้งไว้นี่หนา ป้าของเธอคงลืมปิดตอนออกไปตลาดแน่เลย” หญิงสาวมาหยุดอยู่หน้าบ้าน เพราะเธอเคยมาครั้งหนึ่งแล้วตอนมาอยู่ชลบุรีใหม่ๆ เพราะน้าสายใจและแม่ของเธอฝากของมาให้ผู้เป็นป้า เมื่อเห็นว่าประตูเปิด ก็คิดว่าไปนั่งรอโต๊ะหินอ่อนใต้ต้นมะม่วงดีกว่าคงเย็นดี ยืนตากแดดอยู่หน้าบ้านแบบนี้ร้อนมาก คิดได้ดังนั้นจึงเปิดประตูเข้าไป

                “จับตัวได้แล้วขโมย” ชายหนุ่มยืนมองหญิงสาวมาจากชั้นสองของบ้าน เห็นมาด่อมๆมองๆอยู่พักใหญ่แล้ว คงมาดูลาดเลา เห็นว่าบ้านไม่มีคนอยู่ก็เลยเข้ามา ไว้ใจไม่ได้เลยคนสมัยนี้ หน้าตาก็ดี ไม่น่าริมาเป็นขโมยเลย ดีนะที่เขามาเห็นเข้าสะก่อน ไม่อย่างนั้นได้มีของหายกันบ้างละ

                “ฉันไม่ได้เป็นขโมยนะ ไอ้บ้า ปล่อยฉันนะโว้ย” หญิงสาวโวยวาย โธ่เอ่ย อะไรกันนี่อยู่ๆก็มากล่าวหากันขนาดนี้ ถ้าป้ากลับมาไม่ทัน สงสัยคงได้ไปกินข้าวแดงในคุกแน่ๆเลยเรา ซวยแท้

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    คำนิยม Top

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    คำนิยมล่าสุด

    ยังไม่มีคำนิยมของเรื่องนี้

    ความคิดเห็น