[ Fic. Psycho-Pass ] The perfect world (Makishima x Kogami ) - [ Fic. Psycho-Pass ] The perfect world (Makishima x Kogami ) นิยาย [ Fic. Psycho-Pass ] The perfect world (Makishima x Kogami ) : Dek-D.com - Writer

    [ Fic. Psycho-Pass ] The perfect world (Makishima x Kogami )

    ผู้เข้าชมรวม

    2,049

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    10

    ผู้เข้าชมรวม


    2.04K

    ความคิดเห็น


    8

    คนติดตาม


    39
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  28 มี.ค. 56 / 22:43 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    โคงามิ ชินยะ อดีตผู้สังเกตการณ์กรมความปลอดภัยเพราะเสียเพื่อนรักอย่าง ซาซายะมะ ไปทำให้

    ค่าสัมประสิทธ์ขึ้นสูงจนถูกลดตำแหน่งเป็นผู้บังคับใช้

    โชวโกะ มาคิชิมะ เป็นผู้อยู่เบื้องหลังในหลายๆคดีโดยที่เขาเป็นคนชี้นำรวมถึงให้ความร่วมมือในการ

    ก่อคดีและเป็นคนที่โคงามิคิดว่ามีส่วนในการตายของ ซาซายามะ

     
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      " ผมน่ะ...อยากจะเห็นประกายแสงของชีวิตคน อยากจะพิสุทธิ์ให้แน่ชัดว่าสิ่งนั้นเป็นสิ่งที่น่าชื่มรึเปล่า? "

       

      นั่นเป็นเหตุผลที่ผมบอกกับผู้สังเกตุการณ์สึเนโมริ อาคาเนะในสังคมที่ถูกระบบซีบิลคอยชี้นำทางทำให้

      มนุษย์ละทิ้งความต้องการที่จะมีชีวิตอยู่ ผมจึงเริ่มชี้นำให้กับมนุษย์ที่ยังคงแสวงหาความต้องการนั้นโดยการก่ออาชญากรรและเพื่อเป็นการฆ่าเวลาของผมอีกด้วย...

       

      ...และแล้วคนที่ผมเฝ้ารอคอยมาตลอดก็มาปรากฏตัวต่อหน้าผม เขาผู้ซึ่งมีแววตาของหมาล่าเนื้ออย่าง

      เต็มเปี่ยม

       

      " นายคือมาคิชิมะ โชวโกะสินะ "

       

      น้ำเสียงนั้นกล่าวออกมาอย่างแข็งกร้าว ตัวผมที่ยืนอยู่บนบันไดสีโลหิตไม่ได้มีความรู้สึกเกรงกลัวกับ

      ดวงตาคมนี้เลย กลับรู้สึกยินดีซะด้วยซ้ำ สองขาของผมก้าวลงบันไดอย่างเผลอไผล

       

      " ความยุติธรรมนั้นต้องโต้เถียงกันถึงจะเข้าใจ แต่พลังนั้นไม่จำเป็นต้องโต้เถียงก็สามารถเข้าใจได้

      เพราะเหตุนั้นพวกเราจึงไม่อาจให้พลังแก่ความยุติธรรมได้ "

       

      " ฉันถูกสอนมาว่า ให้ระวังตัวเอาไว้หากมีใครกล่าวถึงคำพูดของ pascal "

       

      อ่า...นายนี่น่าสนใจไม่เบา

       

      ผมน่ะนับถือคนแบบนี้จากใจจริง ผมหวังการต่อสู้ของเราในครั้งนี้จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งต้องจากไป

      แน่นอนแล้วผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าตัวเองจะเป็นฝ่ายแพ้หรอกนะ

       

      การต่อสู้ที่ตึกโนนะทาวเวอร์กินเวลาไปนานซะผมสนุกไปกับมันคู่ต่อสู้ที่สูสีกับผมขนาดนี้หาไม่ได้

      อีกแล้ว

       

      "นายน่ะไม่อยากรู้ตัวจริงของซีบิลเหรอ?"

       

      "......."

      หมาล่าเนื้อโคงามิไม่ได้คิดจะตอบคำถามของผม ดวงตาสีดำขลับจดจ้องแค่ที่ผมเท่านั้นแล้วการต่อสู้

      ได้จบลงที่ผมเป็นฝ่ายชนะ

       

      ร่างของโคงามินอนเหนื่อยหอบจากการต่อสู้ ดวงตาข้างซ้ายปิดสนิทเพราะถูกผมเตะเข้าที่หัวอย่างจัง

      จนเลือดไหลออกมาปิดตาของเขา

       

      "ขอบคุณเธอมากเลยนะ ที่ทำให้ผมลืมความเบื่อหน่ายไปได้เยอะเลยล่ะ"

       

      ผมหยิบมีดพกจากกระเป๋าเสื้อขึ้นมาพลางกางมันออกอย่างน้อยก่อนเขาจะตายผมก็ควรจะขอบคุณ

      เขา แต่น่าเสียดายที่ผมเสียท่าให้กับผู้สังเกตุการ์ณสึเนโมริ อาคาเนะนั่นทำให้ผมแปลกใจไม่น้อยเลยล่ะ

       

      แต่หลังจากนั้นผมก็หาทางหนีออกมาได้ ต้องขอบคุณความคิดตื้นๆของอดีตคนเคยร่วมก่อ

      อาชญากรรมอย่างโทมะ โคซาบุโร่ที่แปรสภาพเหลือแต่สมองเป็นฟันเฟืองชิ้นหนึ่งของระบบซีบิลโดยที่ร่างกายเปลี่ยนเป็นไซบ็อค

       

      นับจากวันนั้นผมก็เฝ้าหาวิธีการทำลายระบบซีบิลที่น่ารังเกียจนี้และผมก็คาดหวังว่าโคงามิจะต้อง

      มาตามหาผมเพราะทั้งโคงามิและผมต่างก็เข้าใจความต้องการของแต่ล่ะฝ่ายดีที่สุด โคงามิต้องการตามล่าผมเพื่อแก้แค้นให้กับเพื่อนที่ระบบซีบิลไม่สามารถตัดสินความผิดของผมได้ ส่วนผมต้องการอะไรกันแน่นะ...นั่นสินะหากได้เจอกับดวงตาคมนั่นอีกครั้งผมคงจะหาคำตอบได้...ชีวิตที่ผ่านมาผมได้อ่านหนังสือที่น่าสนใจมากมายคิดว่าในนั้นจะต้องมีคำตอบที่ผมเฝ้าตามหา แต่ก็...ไม่มีสิ่งใดอยู่ในนั้น จนมาถึงตอนนี้...

       

      สายลมของทุ่งหญ้ายามเย็นนั้นช่างบริสุทธิ์ ร่างของผมที่เต็มไปด้วยเลือดทรุดตัวลงที่เนินเขา เบื้องหลัง

      ของผมเต็มไปด้วยทุ่งข้าว

       

      " แฮก แฮก "

       

      เหงื่อของผมไหลผสมกับโลหิตหยดลงบนพื้น แต่ก็ยังไม่อยากยอมแพ้

       

      ทำไมกันนะ ผมถึงนึกภาพของคนที่จะมาฆ่าผมนอกจากเธอไม่ออกเลย

       

      ผมสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดในตอนนี้ผมไม่รู้สึกเจ็บตรงแผลที่ถูกแทงแม้แต่น้อย ผมกางแขนทั้งสอง

      ข้างเฉกเช่นเดียวกับนกที่ถลาเล่นลม พอคนเราใกล้ตายจักรู้ถึงความต้องการของตน นั่นเป็นสิ่งที่ผมคิดได้ในตอนนี้ ตะวันดับแสงลงแล้วมีเพียงดวงจันสีเลือดมาเป็นประจักษ์พยาน

      " ตอนนี้ นายกำลังคิดอะไรอยู่ โคงามิ "

       

      ผมเอ่ยถามบุรุษที่หยุดยืนอยู่ด้านหลังของผม       

       

      " หลังจากนี้ไป เธอจะหาคนอื่นมาแทนผมหรือเปล่า? "

       

      ผมถามในสิ่งที่อยากรู้และสิ่งนั่นก็เป็นแรงขับดันที่ทำให้ผมกระทำการต่างๆมาจนถึงตอนนี้

       

      ผมไม่ชอบโลกที่หาสิ่งมาทดแทนได้อย่างง่ายดาย ผมเกียจโลกแบบนั้น

       

      สายตาของเธอที่มองผมจะเป็นยังไงนะ เธอกำลังเยาะเย้ยหรือสมเพชผมกันแน่

       

      " ไม่หรอก ไม่มีใครมาแทนที่นายได้ "

       

      โคงามิตอบด้วยน้ำเสียงหนักแน่นจนอดไม่ได้ที่ผมจะเผยยิ้มออกมาถึงแม้ว่าเขาจะไม่ได้เห็นก็ตาม ลม

      ทุ่งหญ้าพัดกระทบเข้ากับหน้าของผมอีกระลอกอย่างน้อยก่อนผมจะตายด้วยมือของเขา ผมก็อยากจะบอกอะไรบางอย่าง ผมเหลือบมองร่างของโคงามิอย่างยากลำบาก ผมไม่เหลือเรี่ยวแรงแม้แต่น้อย

       

      " อย่าลืมซะล่ะ โคงามิ ชินยะ "

       

      เสียงของผมถูกกลืนหายไปกับสายลม ผมไม่อาจรับรู้ได้เลยว่าโคงามิจะได้ยินในสิ่งที่ผมพูดรึเปล่าแต่แค่

      นั้นก็เพียงพอแล้ว ผมหันหน้ากับไปที่เดิมเพื่อรอการประหาร ตอนนี้ผมไม่รู้สึกกลัวอะไรอีกแล้ว

       

      ปัง!!

       

      เสียงปืนดังก้องไปทั่ว นั่นเป็นเสียงสุดท้ายที่ผมได้ยินและความมืดชั่วนิรันด์นก็ได้เข้ามาครอบงำ

      ……….

      …..

      ..

      .

      จากความมืดสู่แสงสีขาวสว่างจ้า ภาพแรกที่ผมคิดว่าจะได้เห็นคงเป็นขุมนรกอันมืดมิด ในโลกที่ผมเคย

      อยู่ความยุติธรรมคือระบบซีบิลที่ไม่อาจเอาผิดผมได้ แล้วจะมีอะไรล่ะที่บ่งบอกว่าผมจะได้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรก แสงสีขาวที่ผมเห็นมันคืออะไรกันแน่

       

      ภาพที่ปรากฏหลังจากแสงสีขาวนั้นคือเพดานสีคลีมคล้ำกับพัดลมที่ติดอยู่กับเพดาน นี่เป็นภาพที่ชวน

      ให้ขำซะจริงๆ

       

      " อา... "

       

      ทั้งที่ผมตายไปแล้วแท้ๆแต่ทำไมร่างกายถึงได้รู้สึกเจ็บปวดแบบนี้ล่ะ

       

      คงเป็นการลงโทษจากพระเจ้า

       

      ผมยิ้มเยาะให้กับตัวเองก่อนที่จะค่อยๆมองรอบตัว ขวดน้ำเกลือถูกแขวนไว้กับขาตั้งส่วนปลายสายถูก

      ส่งมาที่แขนของผม

       

      " กรมความปลอดภัยงั้นเหรอ? "

      นั่นเป็นสถานที่แห่งเดียวที่ผมพอจะนึกได้ แต่สีของห้องและอุปกรณ์ไม่ได้ดูทันสมัยขนาดนั้น ผมเริ่มที่

      จะขยับตัวเล็กน้อย

       

      " ให้ตายสิ เจ็บจังเลยแฮะ "        

       

      " อย่าฝืนลุกขึ้นมาจะดีกว่านะ "

       

      เสียงเข้มเอ่ยหลังจากที่ผมกลับลงไปนอนอย่างเคย ถึงไม่หันไปมองผมก็รู้ว่าคนๆนี้เป็นใคร?

       

      " ขนาดผมตายไปแล้ว เธอก็ยังคงตามมาล่าผมอีกงั้นเหรอ? "

       

      " หึ พูดได้ดีนี่ "

       

      เสียงฝีเท้าของเขาค่อยก้าวเข้ามาและหยุดยืนตรงที่ผม ริมฝีปากหนาที่เพิ่งพูดจาเสียดสียังคงคาบบุหรี่

      อยู่เหมือนเคย

       

      " ทำไมเธอถึงไม่ฆ่าผมซะล่ะ โคงามิ ชินยะ "

       

      ผมเอ่ยถามด้วยรอยยิ้มอย่างไม่กลัวเกรงสายตาเย็นชานั่น โคงามิพ่นควันออกมา 1 ทีก่อนจะส่งบุหรี่

      กลับไปที่เดิม

       

      " เพราะฉันคงหลงเสน่ห์ของนายล่ะมั้ง? "

       

      " หึ หึ เธอนี่มีอารมณ์ขันมากกว่าที่ผมคิดไว้นะ "

       

      โคงามิยิ้มมุมปากเหมือนกำลังสมเพชผม แต่มันก็สมควรแล้วนี่

       

      " นายยังเจ็บแผลอยู่รึเปล่า? "

       

      เขาถามพลางพ่นควันออกมาอีก 1 ทีถึงผมจะเป็นผู้ชายเหมือนกันแต่ก็ทนกลิ่นควันไม่ค่อยได้

       

      แค่ก แค่ก

       

      " ก็เธอเล่นฟัน...ซะเต็มแรงเลยนี่ "

      ผมพูดผสมกับไอออกมาเพราะเกร็งกล้ามเนื้อเมื้อกี้ทำให้ความรู้สึกเจ็บกลับมาอีกครั้ง โคงามิมองผม

      แว่บนึงก่อนที่จะเดินไปที่มุมห้องอีกด้านหนึ่ง บุหรี่ที่อยู่ในมือก็ถูกดับลงโดยกดลงที่โต็ะไม้

       

      " นายจะส่งผมให้กรมความปลอดภัยรึเปล่า? "

       

      " ตอนนี้นายอาจจะอยู่ในกรมความปลอดภัยก็ได้ "

       

      " เธอน่าจะรู้จักผมดีกว่าใครนะ โคงามิ ชินยะที่นี่ไม่ใช่กรมความปลอดภัย "

       

      ผมยิ้มสบายๆเหมือนทุกทีพลางขยับตัวลุกขึ้นนั่ง ผมมองเงาของตัวเองที่สะท้อนในกระจกเพิ่งรู้ว่าที่หัว

      ของผมมีผ้าพันแผลพันอยู่ด้วย

       

      " หึ ทำไมนายถึงคิดว่าที่นี่ไม่ใช่กรมความปลอดภัย? "

       

      " อย่างแรกเลยคือ ผมไม่คิดว่าห้องพยาบาลของกรมความปลอดภัยจะดูเก่าอย่างนี้... "

       

      " ที่นี่อาจจะเป็นคุกสำหรับคนอย่างนายก็ได้ "

       

      " และอีกอย่างหากหัวหน้ากรมอย่างคุณคาเซย์จับผมได้ ป่านนี้ร่างกายผมคงได้หายไปจากโลกนี้แล้ว "

       

      " นายหมายความว่ายังไง? "

       

      โคงามิเริ่มมีท่าทีเคร่งเครียดขึ้น ผมยิ้มน้อยๆ        

       

      " คุณหนูกรมความปลอดภัยไม่ได้บอกอะไรเธอเลยงั้นเหรอ? อย่างเช่นตัวจริงของซีบิลหรือทำไมกรม

      ความปลอดภัยถึงต้องการผมมากนัก "

       

      " ไม่เลย ยัยนั่นไม่เคยเล่าอะไรให้ฉันฟัง "

       

      " สิ่งนั้นน่ะไม่เหมาะที่ให้คนอย่างเธอต้องเสียสละเลยนะ โคงามิ การที่เธอยอมทิ้งทุกสิ่งทุกอย่างแล้วมาตามล่าผมแบบนี้... "

       

      " ฉันไม่ได้ทำเพื่อระบบซีบิลบ้าบออะไรนั่น "

       

      " งั้นเธอก็ทำเพื่อเพื่อนของเธอสินะ ชื่อซาซายามะใช่มั้ยล่ะ? "

       

      ดวงตาคมจ้องมองผมเหมือนสุนับล่าเหยื่อ สองขาเรียวก้าวเดินเข้ามาใกล้ที่เตียง ผมจ้องเข้าไปใน

      ดวงตาคู่นั้นรู้สึกได้ถึงอารมณ์ที่คุกรุ่น

       

      " ใช่ ฉันทำเพื่อซาซายามะ "

       

      มือหนาข้างหนึ่งบีบเข้าที่คอของผม โคงามิเริ่มออกแรงมากขึ้นเรื่อยๆ จนผมเริ่มหายใจลำบาก แต่ก็ไม่

      คิดจะร้องขอชีวิต

       

      " งั้นที่เธอไม่ฆ่าผม...ก็เพราะอยากให้ผม...รู้สึกทรมานก่อนตายสินะ "

       

      พอผมพูดเสร็จโคงามิก็ผ่อนแรงลงปล่อยให้ผมได้หายใจ

       

      " ไม่ใช่ ตอนนี้ฉันทำเพื่อตัวฉันเอง "

       

      " ความต้องการของเธอเองงั้นเหรอ? หึหึ น่าขำดีนี่ "

       

      ผมเงยหน้าขึ้นเพื่อจงใจท้าทาย

       

      " งั้นเธอก็ฆ่าผมซะสิ นั่นคือความต้องการของเธอไม่ใช่เหรอ? "

       

      " ความต้องการของฉันงั้นเหรอ? "

       

      โคงามิเผยยิ้มเจ้าเล่ห์ ในที่สุดจุดจบของเรื่องนี้ก็จะมาถึงซักที จะช้าหรือเร็วภาพที่ผมถูกเธอฆ่าก็ไม่ได้

      จางหายไป ดีแล้วล่ะที่ผมจะถูกเธอฆ่าโดยมีความต้องการของมนุษย์ผสมผสานลงไปด้วย โคงามิเริ่มออกแรงบีบมากขึ้น

       

      " อึก!...อุ๊บ! "

       

      ช่วงเวลาที่อากาศเริ่มน้อยลงผมสัมผัสได้ถึงริมฝีปากจากอีกคนที่รุกล้ำมาอย่างเร่าร้อนมือหนานั้น

      ค่อยๆคลายออกแล้วเลื่อนมาทำที่ท้ายทอยของผมแทน ผมลืมตาขึ้นอย่างร้อนรนแล้วเริ่มออกแรงดันที่ไหล่ของคนตรงหน้า

       

      " นี่มันหมายความว่ายังไง? "

       

      ผมจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่เข้าใจ ดวงตาสีนิลก็จ้องกลับมาเช่นกัน

       

      " นายอยากรู้ความต้องการของฉันไม่ใช่รึไง นี่ไงล่ะคือความต้องการของฉัน "

       

      " นายต้องการที่จะฆ่าผมไม่ใช่เหรอ? "

       

      "เมื่อก่อนน่ะใช่ แต่หลังจากที่เริ่มสืบหาเกี่ยวกับนาย ตัวตนของฉันก็เริ่มที่จะไขว่คว้าหานายมากขึ้น จน

      ไม่อาจ... "

      โคงามิดึงร่างของผมเข้าไปกอดจนแน่น ผมไม่เคยคิดเลยว่าบนโลกที่บิดเบี้ยวใบนี้จะมีคนที่ต้องการผม

      อยู่ ผมตัดสินใจถามอีกคำถามเพื่อยืนยันความแน่ใจ

       

      " ทำไมเธอถึงต้องการผมล่ะ? "

       

      " เพราะตอนนั้นนายบอกว่า 'อย่าให้ฉันลืมนาย' ฉันเป็นพวกความจำไม่ค่อยดีน่ะ "

       

      " ฮ่า ฮ่า ฮ่า นั่นคือคำตอบของเธอเหรอ? "

       

      " และอีกอย่าง ทั้งนายและฉันต่างเข้าใจตัวตนของอีกฝ่าย ดังนั้นไม่มีเหตุผลอะไรที่ฉันต้องฆ่านาย "

       

      " แล้วเรื่องของซาซายามะล่ะ? เธอไม่แค้นผมเหรอ? "       

       

      " เฮ้อ จะว่าไงดีล่ะ ฉันไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะตามจับใครได้แล้วนี่ "

       

      " เธอจะบอกว่า เธอไม่ใช่คนของความปลอดภัยแล้วสินะ "

       

      โคงามินิ่งเงียบไปผมเข้าใจได้ทันทีว่านี่คงเป็นคำตอบของเขา ผมค่อนข้างมั่นใจว่าเขาคงลืมไปว่าผม

      เป็นคนเจ็บอยู่เพราะโคงามิเริ่มที่จะออกแรงกระชับอ้อมแขนมากขึ้น

       

      " เอ่อ เธอจะช่วยผ่อนแรงลงหน่อยได้มั้ย? แผลของผมจะปริออกอีกรอบแล้วนะ "

       

      " โทษทีนะ ฉันแค่ลืมตัวน่ะ "      

       

      โคงามิผ่อนแรงลงตามคำขอสีหน้าขอเขาดูเลิกลักเหมือนเด็กที่ทำอะไรไม่ถูก แต่หลังจากนั้นโคงามิก็

      ค่อยๆขยับหน้าเข้ามาใกล้จนหน้าผากชนกันเหมือนสุนัขกำลังอ้อนเจ้าของ

       

      " มาคิชิมะ หลังจากนี้นายคิดจะทำอะไรต่อไป อยากจะทำลายซีบิลอยู่อีกรึเปล่า "

      " สิ่งนั้นไม่สำคัญสำหรับผมแล้ว เพราะผมนั้นหาคำตอบของคำถามที่ติดใจผมมาตลอด นั่นคือเธอไง โคงามิ "

      ...............................................................................................................

      สาเหตุที่แต่งออกมาคือ รู้สึกเสียใจตอนจบของเรื่องนี้มากๆ ไม่อยากจะให้ทั้ง 2 ลงเอยแบบนั้นเลย อย่างน้อยก็อยากจะให้มาคิชิมะกับโคงามิจบลงด้วยดี โดยที่มาคิชิมะไม่ตายเพราะเจ้าของฟิคเป็น FC ของมาคิชิมะ 555

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×