[ Fic. Saint Seiya The Lost Canvas ] Discharge
ผู้เข้าชมรวม
1,862
ผู้เข้าชมเดือนนี้
4
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
“ สีดำ ” คือ สีแห่งความสงบเป็นสีที่ทำให้ทุกคนบนโลกนี้เท่าเทียมกัน
แล้วคนที่นำพาสิ่งเหล่านั้นมา ก็คือ...
โบสถ์หลังงามบนภูเขาที่ซึ่งปิดตายไม่เคยมีใครได้เข้าไปด้านในกลับถูกเล่าขานว่ามีภาพของนางฟ้าที่จะนำความ
สุขมาให้แก่คนที่ได้เห็น แต่ตอนนี้โบสถ์นั้นได้เปลี่ยนไปเป็นปราสาทแห่งความมืด ที่ประทับของ มหาเทพ..
“ ท่านฮาเดสเพคะ ” หญิงสาวผมสีดำขลับในชุดสีเดียวกับเส้นผมปรากฏกายในความมืดเบื้องหน้าของเด็กหนุ่ม
“ ..... ” ไม่แม้แต่จะหันมองเขายังคงวาดภาพต่อไป ความเงียบยิ่งทำให้หญิงสาวรู้สึกอึดอัด
“ ข้ารู้ดีว่าการกระทำเช่นนี้เท่ากับหักหลังท่าน แต่ว่าแพนโดร่าคนนี้... ” ดวงตาสีน้ำตาลเข้มมองไปที่ใบหน้าครึ่งซีก
“ ข้ารู้...แพนโดร่า...ว่าเจ้าภักดีต่อข้าเสมอ ”
‘ ใช่...ภักดีต่อฮาเดส...แต่ไม่ใช่กับมนุษย์ที่ชื่อ...อาโรน ’
เธอสัมผัสที่มือของเด็กหนุ่มพลางโน้มหน้ารับความอ่อนโยนที่คนเบื้องหน้ามอบให้
‘ ท่านยังคงเป็นมหาเทพของข้า...ของเหล่าสเปคเตอร์และกองทัพยมโลก ’
“ ข้าจะไม่ถือเจ้ากับเรื่องนี้...แต่อย่ายุ่งเรื่องของข้ากับเปกาซัสอีกเด็ดขาด ”
“ ทำไม? ล่ะเพคะ...ท่านฮาเดส ”
“ เพราะข้าอยากจะฆ่ามันผู้นั้นด้วยมือของข้าเอง ” เด็กหนุ่มเผยยิ้มเย็นยะเยือก ดวงตาเรียวแข็งกร้าวมองที่ใบหน้า
งามจนเธอยังรู้สึกถึงความน่ากลัว
“ ได้สิเพคะ...ท่านฮาเดส ” หญิงสาวยิ้มรับด้วยความยินดี
“ ถ้าเข้าใจ...เจ้าก็กลับไปได้แล้ว ”
เด็กหนุ่มพูดเสียงเรียบพร้อมดึงมือกลับแล้วร่างของแพนโดร่าค่อยๆหายไปกับความมืด ทำให้ห้องถูกปกคลุมด้วย
ความเงียบอีกครั้ง มือเรียวยังคงสรรสร้างภาพวาดแห่งการปลดปล่อยต่อ
“ นายเป็นใคร? ” เด็กหนุ่มหันมองรอบห้องไม่มีอะไรในนี้นอกจากภาพวาด
“ ข้า คือ ยมเทพฮาเดส ”
อาโรนหันมองด้านหลังจนพบกับเงาดำสูงใหญ่ในชุดคอสโม่สีดำขลับริมฝีปากบางแย้มยิ้มให้กับเด็กหนุ่ม
“ ......!? ”
เด็กหนุ่มพยามยามสะกดอารมณ์เมื่อต้องเจอกับมหาเทพโดยตรงก่อนที่จะเผยยิ้มแบบเดียวกันกับคนตรงหน้า
“ นายเองเหรอ? ”
“ ดูเจ้าไม่แปลกใจเท่าไหร่...เมื่อได้พบข้า ”
“ แปลกใจงั้นเหรอ?...ในยุคนี้ผมก็คือคุณ ”
“ ช่างอวดดีเหลือเกินนะ...เจ้าร่างทรง...เจ้าก็แค่แสดงเป็นข้าเท่านั้น ”
“ .. ”
“ ข้ายอมรับว่าเจ้าเก่งที่สามารถหลอกแพนโดร่าและกองทัพยมโลกของข้าได้ ”
“ .. ”
“ ยิ่งไปกว่านั้นเจ้ายอมแม้กระทั่งฆ่าเพื่อนรักของเจ้าเอง ”
เด็กหนุ่มกระตุกเล็กน้อย พลางมองใบหน้าของฮาเดสด้วยสีหน้าเรียบเฉย
“ ความตาย คือ การปลดปล่อย ”
“ เจ้าฆ่าเพื่อนของเจ้าด้วยเหตุผลโง่เขลาแบบนั้นงั้นเหรอ? ”
อาโรนยิ้มเยาะกับคำพูดของฮาเดส เขามองภาพวาดชิ้นเยี่ยมด้วยสายตาว่างเปล่า
“ ไม่ว่าด้วยเหตุผลแบบไหน...ผมก็ยังจะส่งทุกคนบนโลกไปที่ยมโลกอยู่ดีนั่นล่ะ ”
มือหน้าสัมผัสที่ต้นคอของเด็กหนุ่ม ริมฝีปากที่แย้มยิ้มด้วยความขบขันนั้นค่อยๆเลื่อนลงมาจนใกล้ใบหู
“ น่าสนุกดีนี่เจ้าร่างร่างทรง...ข้าจะค่อยดูเจ้าจนกว่าจะถึงวันที่ข้าได้ครอบครองร่างของเจ้า ”
เสียงกระซิบธรรมดาที่ทำให้รู้สึกเหมือนโดนกักขังและไม่สามารถหนีออกไป
ดั่งนกน้อย...ในกรงทอง
สิ้นเสียงเงาดำนั้นค่อยๆจางหายไปเหลือเพียงร่างบอบบางเพียงลำพัง
อาโรน คือ ความโดดเดี่ยว
เด็กหนุ่มคิดพลางหัวเราะเย้ยหยันให้กับตัวเอง
เหมือนชื่อต้องสาป...
ไม่สิ...นั่นคือชื่อของผู้ที่จะมาปลดปล่อยต่างหาก...
ใบหน้าของเด็กหนุ่มรุ่นราวคราวเดียวกัน ผมสั้นสีน้ำตาลเข้ม ท่าทางกระตือรือร้นกับใบหน้าของเด็กสาวอายุน้อยกว่า
“ เทมมะ...ซาช่า...บทสรุปของพวกเราจะเป็นยังไงนะ ”
ใบหน้าได้รูปแหงนมองภาพแห่งความทรงจำที่ทั้ง 3 คนยังเยาว์วัยที่ถูกวาดไว้บนเพดาน ภาพนั้นยังคงเหลือบางที่ๆยัง
“ แต่ฉันมีบทสรุปสำหรับเรา 3 คนแล้วล่ะ...เทมมะ ซาช่า ”
การปลดปล่อยอย่างแท้จริง...
คือ การวาดภาพ Lost Canvas ให้เสร็จสมบูรณ์
ผลงานอื่นๆ ของ Kazamaoni ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Kazamaoni
ความคิดเห็น