เหลี่่ยมร้ายกามเทพ
เขากับเธอ เรียกได้ว่าเป็นไม้เบื่อไม้เมากันก็ว่าได้ งานหนักจึงต้องตกอยู่ที่กามเทพที่ต้องใช้กลอุบายเพื่อหาวิธีแผลงศรรักไปปักอกเขากับเธอให้ได้ เพราะกามเทพรู้ว่าทั้งสองคือเนื้อคู่กันนั้นเอง
ผู้เข้าชมรวม
876
ผู้เข้าชมเดือนนี้
6
ผู้เข้าชมรวม
ข้อมูลเบื้องต้น
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
โดย...กันตินันท์
“คุณเอมยังไม่กลับมาเลยค่ะ”
ป้านุชชิงบอกขึ้นก่อนเมื่อเห็นชายหนุ่มเดินเข้าบ้านมาในเวลาทุ่มเศษๆ
เพราะรู้ดีว่าเขาจะต้องถามคำถามแรกว่าอย่างอะไร
อนิรุทธ์ทรุดตัวลงนั่งบนโซฟาในห้องรับแขกที่จัดแต่งไว้ด้วยสีเรียบขรึมคล้ายบุคลิกของเขาด้วยความรู้สึกเหนื่อยใจ
ลำพังเหนื่อยกายต่อให้มันหนักมากกว่านี้กี่เท่าเขาก็ทนได้ แต่สำหรับความเหนื่อยใจนี้พอมันเริ่มหนักเข้าเขาก็รู้สึกท้อ เอมอรไม่เคยเชื่อฟังเขาเลย ต้องเป็นเพราะไอ้เด็กหนุ่มหน้าหวานคนนั้นแน่ๆที่มันคอยเป่าหูอยู่
ไม่อย่างนั้นน้องสาวคงไม่ดื้อกับเขาถึงเพียงนี้แน่ๆ
“ผมควรจะทำอย่างไรดีครับป้านุช”
ชายหนุ่มถามเมื่อไม่รู้จะหันหน้าไปปรึกษาใครดีเขาไม่สนิทกับพ่อ ลุงกับป้าที่เลี้ยงดูเขามาก็เสียไปหมดแล้ว ตอนนี้เขารู้สึกว่ามีป้านุชคนเดียวที่เป็นเหมือนญาติผู้ใหญ่ เพราะแกอยู่กับเขามาตั้งแต่เขายังเด็ก แกรู้ถึงความเป็นไปในชีวิตของเขาดี
ooooooooooo
ร่างสูงโปร่งแต่กำยำของอนิรุทธ์เดินเข้าไปข้างในซึ่งถูกกั้นไว้ด้วยประตูไม้บานพับฉลุลายสวยคลาสสิค ข้างในมีส่วนที่สำหรับนั่งเล่นมีวัยรุ่นทั้งชายหญิงนั่งอยู่ราวสามสี่คน อีกส่วนหนึ่งถูกแบ่งเป็นครัว
“ใครเป็นเจ้าของที่นี่”
เขาถามเสียงก้อง
วัยรุ่นในที่นั้นต่างหันมามองเขาเป็นตาเดียว
“มีธุระอะไรครับพี่”
หนึ่งในนั้นถาม
“ฉันถามว่าใครเป็นเจ้าของที่นี่”
เสียงของชายหนุ่มเข้มขึ้นไปอีก
ทำให้พวกวัยรุ่นทั้งหมดที่ได้ฟังลุกขึ้นทันทีอย่างไม่พอใจ แต่ก่อนที่จะมีอะไรเกิดขึ้นต่อจากนั้น ก็มีเสียงหนึ่งดังขึ้นมาจากทางในครัว
“ใครมีปัญหาอะไรไม่ทราบ”
อนิรุทธ์หันขวับไปทันที
จากเสียงใสใสที่ได้ยินตอนแรกเขาคิดว่าน่าจะเป็นผู้หญิง แต่ที่เขาหันไปเห็นก็คือเด็กหนุ่มตัวผอม สูงราวหนึ่งร้อยหกสิบห้าเซ็นฯ
สวมเสื้อและกางเกงสีเข้มมีผ้ากันเปื้อนสีขาวคาดอยู่ที่เอวทรงผมซอยหรอมแหรมยาวปรกต้นคอใบหน้าหวาน
แต่ท่าทางยียวน แววตาถือดี
“ฉันต้องการพบเจ้าของร้านนี้ที่ชื่อพัด”
อนิรุทธ์ตอบด้วยน้ำเสียงดุจเดิม ชายหนุ่มเคยได้ยินเอมอรเรียกรุ่นพี่คนนั้นว่าพี่พัด
พี่พัด
แต่เขาไม่เคยรู้เลยว่าหมอนั้นชื่อจริงๆว่าอย่างไร
“ฉันนี่แหละชื่อพัช เป็นเจ้าของที่นี่ มีอะไรว่ามา”
เด็กหนุ่มคนนั้นเชิดหน้าใส่เขาอย่างนักเลงเต็มตัว
พลางเดินอาดๆเข้ามาหา
“แกเอาน้องสาวของฉันไปไว้ไหน”
อนิรุทธ์ถามขณะยืนเผชิญหน้ากันในระยะห่างราวสองเมตร
“พี่รุท
เมื่อไหร่พี่จะเลิกยุ่งกับชีวิตของเอมเสียที”
เอมอรที่ก่อนนี้คงจะอยู่ในครัวเมื่อได้ยินเสียงของพี่ชายจึงเดินออกมากล่าวอย่างไม่พอใจ
“เราพูดกับพี่อย่างนั้นได้ยังไงยัยเอม เราเป็นน้องสาวของพี่น่ะ”
อนิรุทธ์ดุน้องสาวเสียงเข้ม
“แต่เอมเบื่อ
ความจริงเราก็ไม่ใช่พี่น้องแม่เดียวกันสักหน่อย
พี่รุทไม่จำเป็นต้องมาวุ่นวายกับชีวิตของเอมขนาดนี้ก็ได้”
เด็กสาวเถียงกับพี่ชายด้วยท่าทางอวดดี
“ไม่ต้องยุ่งวุ่นวายแล้วก็ปล่อยให้เรามาขลุกอยู่กับเพื่อนพวกนี้นะเหรอ”
อนิรุทธ์ตวัดสายตาไม่พอใจไปทางพวกวัยรุ่นทั้งหมดที่ยืนมุงดูอยู่
“เป็นไง
เพื่อนอย่างพวกฉันมันเป็นไง
พูดให้ดีนะเว้ย”
คนที่อ้างตัวว่าเป็นเจ้าของร้านโวยวายออกมา
กลิ่นหอมอ่อนๆของน้ำอบไทยผสานกับกลิ่นกายสาวลอยเข้ามารบกวนคนที่นอนอยู่ก่อนแล้วแต่ยังไม่ได้หลับนั้นจนได้
อนิรุทธ์สร่างจากอาการไข้จนเกือบเป็นปกติแล้ว
แต่ยังไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของสูตรยาต้มให้ลุกออกไปไหนๆได้ จนกว่าจะถึงพรุ่งนี้
“ขยับเข้ามาอีกหน่อยก็ได้ นอนชิดริมอย่างนั้นเดียวก็ตกลงไปพอดี”
ชายหนุ่มกล่าวขึ้นเมื่อแสงเรืองๆจากตะเกียงที่ยังไม่ถูกดับส่องให้เขาเห็นหญิงสาวนอนขดอยู่ริมแคร่สุดๆอย่างที่น่ากลัวว่าจะตกลงไปจริงๆ แต่ไม่มีปฏิกิริยาตอบกลับจากหญิงสาว เธอไม่ยอมพูดกับเขามาตั้งแต่ตอนเถียงกันเมื่อช่วงเช้าแล้ว และเขาก็รู้สึกไม่ชอบความนิ่งเงียบแบบนี้เอาเสียเลย
เขาจึงเอื้อมมือไปรั้งร่างของเธอเข้ามากอดไว้ทำให้คนแสนงอนไม่อาจจะทนเงียบอยู่ต่อไปได้อีก
“เอ๊ะ
นี่คุณจะมากอดฉันไว้ทำไม”
เธอเอ็ดเขา แต่ไม่กล้าใช้เสียงที่ดังนัก กลัวว่าลุงกับป้าจะตกใจ
สองมือบางยันอกเขาไว้ไม่ให้ถูกรั้งเข้าไปชิดอกกว้างได้ง่ายๆ
“ก็อยากกอด”
เขาตอบหน้าเป็น
“อย่ามาทำอย่างนี้กับฉันน่ะ”
หญิงสาวขู่ฟ่อ
ทั้งพยายามเอียงแก้มหลบลมหายใจอุ่นๆของเขาเป่ารดอยู่
“ก็ทีเมื่อคืนยังยอมให้กอด แล้วทำไมคืนนี้ถึงจะกอดไม่ได้”
ตาคมที่มีแววเจ้าชู้กรุ่มกริ่มผิดแผกไปจากในยามปกติจ้องมองลึกลงไปในดวงตาคู่สวยที่มีแววตื่นตระหนกระคนเขินอายของคนในอ้อมแขน
“นี่
เมื่อคืนคุณรู้ตัวด้วยเหรอ”
พัชญารีบถาม
รู้สึกว่าผิวแก้มจะร้อนผ่าวไปหมดด้วยความอายและเมื่อเขาพยักหน้าตอบอย่างยืนยัน กำปั้นเล็กๆของเธอก็รัวใส่เขาอย่างไม่นับทันที
“โอ๊ยๆ นี่ทำร้ายผมทำไม”
ชายหนุ่มร้องเอะอะ
พยายามจะรวบมือของเธอเอาไว้ให้ได้
ก่อนที่ตัวเองจะบอบช้ำไปมากกว่านี้
“คนฉวยโอกาส นิสัยไม่ดี ไม่เป็นสุภาพบุรุษ
เลวที่สุดเลย”
เธอด่าเขาเป็นชุด
ชายหนุ่มใช้ความพยายามขึ้นอีกนิดเดียวก็สามารถรวบมือของเธอเอาไว้ได้ทั้งสองข้างด้วยมือเพียงข้างเดียวของเขา
ส่วนอีกข้างหนึ่งนั้นเขายังใช้มันกอดเอวบางเอาไว้แน่น
“ไม่น่าเชื่อว่าท่าทางทอมบอยอย่างนี้จะด่าเก่งยิ่งกว่าผู้หญิง”
oooooooooooo
หมายเหตุ : ขณะนี้นิยายเรื่องนี้ได้วางจำหน่ายในรูปแบบของอีบุ๊กแล้ว ถ้าท่านใดสนใจก็ติดตามรายละเอียดเพื่อดาวน์โหลดได้ที่ เพจ กานติณัฎฐ,กันตินันท์ หรือเฟสบุ๊ก กันตินันท์,กานติณัฎฐ ได้เลยนะคะ
งานเขียนเรื่องนี้สงวนสิทธิ์ตามพระราชบัญญัติกฎหมายลิขสิทธิ์ทุกประการ ห้ามมิให้ผู้ใดทำการคัดลอกหรือดัดแปลงส่วนใดส่วนหนึ่งของงานเขียนเล่มนี้เพื่อนำออกเผยแพร่ไม่ว่างช่องทางใดก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาต มิฉะนั้นจะถือว่าละเมิดลิขสิทธิ์และถูกดำเนินคดีการตามกฎหมาย
ผลงานอื่นๆ ของ กานติณัฎฐ ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ กานติณัฎฐ
ความคิดเห็น