[SF]YeRyeo ให้ฉันได้บอกรัก~
เป็นเรื่องชายรักชายนะค่ะ ใครรับไม่ได้อย่าเข้ามาอ่านเลยค่ะ ^^ ซึ่งมันเรื่องของกระรอกน้อยรยออุคกับเฮียเต่าเยซองนั่นเอง แล้วพวกคุณจะรู้ว่าความรักของพวกเขามันสวยงามสักแค่ไหน
ผู้เข้าชมรวม
915
ผู้เข้าชมเดือนนี้
3
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
คุณอาจจะกลัวและคิดว่าถ้าหากบอกความในใจที่มีออกไปแล้ว มันคงไม่มีทางจะสมหวังและเป็นไปตามที่เราคิดได้หรอก. . . .
........ ชีวิตคนเราไม่ได้สวยหรูเหมือนในนิยายนี่น่า
บางทีคนที่คุณชอบ อาจจะทำตัวห่างเหิร ทำตัวเปลี่ยนไปจนคุณยอมรับความจริงไม่ได้ มันจึงทำให้คุณต้องทนเจ็บ ทนที่จะไม่พูดและแสดง . . . ให้เห็นว่าคุณรักเขาสักเท่าไหร่?? ทั้งๆที่อาจจะมีโอกาส แต่คุณก็ยอมที่จะอึดอัดแล้วเก็บมันต่อไป
แต่ก็ว่าเถอะ. . . . . คุณคิดว่า คุณจะเก็บซ่อนความรู้สึกทั้งหมด ที่เรียกว่า “รัก”ได้นานและลึกสักแค่ไหนกัน?? ’
ผมนั่งอ่านบทความที่ถูกเขียนลงคอลัมน์พิเศษในนิตยสารรายเดือนของสำนักพิมพ์แห่งหนึ่งอย่าบรรยายความรู้สึกของตัวเองไม่ถูก. . . ที่เขาว่าอย่าอ่านอะไรที่มันตรงกับความรู้สึกนี่มันก็จริงๆล่ะครับ - - เพราะมันตรงเกินไปก็ไม่ดีต่อหัวใจเหมือนกัน . . .
‘ ถ้าเป็นผม . . . ผมจะเลือกทางไหนดีล่ะ? จะทนเก็บมันไว้ หรือ จะบอกไปดี ’
ผมทิ้งตัวด่ำดิ่งสู่ห้วงความคิด ถึงแม้สายตาของผมตอนนี้จะดูเหมือนจับจ้องไปที่ตัวหนังสือ แต่ความจริงแล้วนั้น ผมกำลังเหม่อลอย นึกไปถึงใครบางคนซะแล้วล่ะคัรบ
“หวา!”
ผมร้องเสียงหลงออกมาอย่างตกใจ เมื่อสัมผัสได้ถึงฝ่ามือหนาของใครบางคนกำลังขยี้มาที่เรือนผมของผมอย่างไม่เกรงใจ =___=^
ผมละสายตาจากหน้านิตยสารที่อ่านเมื่อครู่ แล้วหันไปหาผู้มาเยือนใหม่ที่มาแบบไม่ให้สุ่มให้เสียง จนผมต้องร้องเสียงหลงออกมาแบบนั้นเพราะไม่ทันได้ตั้งตัวนั่นแหละคัรบ . . . คนเขากำลังคิดอะไรเพลินๆอยู่ ตกใจหมดเลย~
“พี่เยซอง . . .”
“ก็พี่น่ะสิ คิดว่าใครล่ะ?”
พี่เยซองยิ้มบางๆมาให้ผม แล้วก็ยีเรือนผมของผมให้มันยุ่งไปกว่าเดิม
“ก็ป่าวนี่ฮะ. . . .”
ไม่เข้าใจเลย . . . เวลาที่ยังไม่อยากเจอใครสักคน ทำไมชอบโผล่มาให้เจอแบบนี้ทุกทีเลย . . . .
ผมนั่งอมลมแล้วเบ้ปากเล็กน้อย ก่อนจะหันหน้ากลับมาที่เดิม แล้วแกล้งทำเป็นไม่สนใจพี่เยซองที่ยังยืนอยู่ข้างหลัง ไม่ใช่ว่าผมงอนเขาหรอกนะครับ แต่.....ไม่รู้จะทำหน้ายังไงดี ไม่ให้เป็นพิรุธ
“นายนั่งอ่านอะไรอยู่น่ะ??” พี่เยซองเลื่อนหน้าเข้ามาใกล้ๆ เพื่อดูว่าผมนั่งอ่านอะไรอยู่ “นั่งอ่านไอ้นิตยสารไร้สาระนั่นอีกแล้วนี่เอง”
“ไม่ได้ไร้สาระนะฮะ!”
ผมเบ้ปากอีกรอบอย่างไม่พอใจ . . .ก็ใครใช้ให้ไอ้เฮียเต่ามาว่านิยสารผมไร้สาระล่ะ!!
“ไม่ไร้สาระได้ไงเล่า~.........”
ไม่ได้ว่าเปล่า จู่ๆเจ้าพี่ชายแก้มซาลาเปาก็หยิบเอานิตยสารที่วางอยู่บนตักผมไปอ่านเฉยเลย!! แถมยังยิ้มกวนๆมาให้ผมอีกนะ เฮ้อ! ผมล่ะ เหนื่อยใจกับพี่เยซองจริงๆเลย
“เอาคืนมานะฮะ”
ผมเอื้อมตัวไปคว้านิตยสารที่อยู่ในมือพี่เยซอง แต่เขากลับเขยิบตัวแล้วหันไปอีกทาง เพื่อใช้ร่างที่สูงกว่าบังไม่ให้ผมมาหยิบไปได้ซะงั้น >o<
“ มาดูกันดีกว่า รยออุคน้อยของพี่อ่านอะไรอยู่น้า~ ” เสียงพี่มันช่างยียวนจริงๆเลยนะคัรบ
“มันไม่ได้น่าสนใจขนาดนั้นหรอกฮะ พี่เยซอง”
ผมแสร้งทำเป็นนั่งนิ่งแล้วหันไปเอื้อมรีโมตโทรทัศน์มาเปิดรายการดู โดยไม่สนใจพี่เยซองที่กำลังยืนหันหลังให้ผม เพราะถ้าผมยิ่งโวยวายและลุกลี้ลุกลนเอานิตยสารคืน ก็ยิ่งเข้าทางไอ้เฮียบ้านั่นพอดี
“หื้ม?......ให้ฉันได้บอกรัก?......”
=[]= จบกัน!! จะอ่านออกเสียงทำไมครับนั่น!!
“เฮ้ย ! นี่นายอ่านอะไรแบบนี้ด้วยหรอ??”
พี่เยซองละสายตาจากนิตยสารในมือแล้วมองสลับไปมา อย่างไม่ค่อยเชื่อ
“ผมเห็นมันวางอยู่ เลยหยิบมาอ่านแก้เบื่อหรอกคัรบ”
คราวนี้ผมเอื้อมตัวไปคว้าเจ้านิตยสารเจ้ากรรมจนสุดแขน ซึ่งก็เอากลับคืนมาได้สำเร็จในที่สุดแหละคัรบ .....ดีนะที่พี่เยซองยังอ่านไม่จบ ถ้าอ่านจบมีหวังผมคงจะมุดหน้าหนีลงดินไปแน่เลยอ่ะ
“..........”
ผมอมแก้มป่องแบบไม่สบอารมณ์เท่าไหร่ ส่วนพี่เยซองน่ะหรอ? พอเห็นผมทำหน้าแบบนี้ที่ไร เฮอะ! เขาก็ยิ้มออกมาน่ะสิคัรบ พอแกล้งผมได้ทีไรก็ชอบยิ้มแบบนั้นออกมาทุกทีเลย แกล้งผมมันสนุกนักหรอไง?? -3-
“เห? ใช่หรอ? ไม่ใช่ว่านายกำลังแอบชอบใครอยู่รึไง.......?”
เจอคำถามที่พี่เยซองถามออกมาแบบนี้ ทำเอาผมอึ้งจนไปไม่ถูกเลยล่ะคัรบ ก็ปกติเห็นผมนั่งอ่านนิตยสารนี่ทีไรก็ไม่เห็นจะถามอะไรแบบนี้ออกมาเลยนี่น่า........แล้ววันนี้เป็นอะไรอ่ะคัรบ ? ถึงได้ถามอะไรแปลกๆแบบนี้
“ จริงหรอเนี่ย? ” พี่เขาเอ่ยถามอย่างอึ้งๆไม่แพ้กับผมหรอกครับ “เป็นใครน่ะบอกพี่ได้ไหม?”
อะไรกันเนี่ยย?!! เดี๋ยวก็ทำน้ำเสียงตกใจ เดี๋ยวก็ทำน้ำเสียงจริงจัง ผมตามอารมณ์พี่ไม่ทันหรอกนะคัรบ.....
“เอ่อ.......คือ.....”
ผมก้มหน้าลงแล้วเอ่ยน้ำเสียงออกมาอย่างติดขัด.........อยากจะปฏิเสธ แต่ก็ทำไม่ได้.......แค่นี้ผมก็ไม่มีความกล้าพองั้นหรอ? ยิ่งถูกพี่เยซองจ้องรอคำตอบแบบนี้แล้ว ผมก็ยิ่งไม่กล้าที่จะพูดออกมาซะงั้น
อึดอัด........จนพูดออกมาไม่ได้
ถึงจะพูดออกมา น้ำเสียงมันก็คงจะสั่นซะเหลือเกิน.........มันรู้สึกเหมือนกับว่ามันจุกจนพูดไม่ออก
แค่ตอบคำถามพี่แค่นี้? ทำไมผมต้องใจเต้นรัวแบบนี้ด้วยล่ะ??
ตึกตัก............ตึกตัก......
เสียงหัวใจทำไมมันเต้นดังแบบนี้ล่ะ.........อ่า ตอนนี้ผมต้องหน้าแดงอยู่แน่ๆเลย แต่ผมพูดไม่ออก ราวกับว่าน้ำเสียงของผมมันถูกเลือนหายไป จนไม่มีน้ำเสียงที่จะเปล่งออกมาอย่างนั้นแหละ
“ผ....ผม......”
พี่เยซองยังคงจับจ้องมาที่ตัวผมโดยไม่วางตา อย่างกับผมเป็นนักโทษอย่างนั้นแหละ
“เฮ้! เจ้าบ้าเยซอง นายรีบมาเก็บเจ้าเต่านี่ไปไว้ที่อื่นเลยนะ ก่อนที่ฉันจะเอามันไปเป็นอาหารให้เจ้าฮีบอมมันกินเป็นอาหารซะน่ะ!!”
เสียงโวยวายอย่างไม่พอใจของคนสวยประจำวงของเรา พี่ฮีชอล ดังขึ้นขัดบทสนทนาของผมกับพี่เยซอง
“ห้ะ!! นี่ฮยองจะทำอะไรตังโกมาของผมน่ะ?!”
พี่เยซองตะโกนกลับไปแทบจะในทันทีที่เสียงของโวยวายออกมาอย่างสติแตก ก่อนที่จะรีบวิ่งไปดูลูก(?)สุดหวง โดยไม่คิดจะสนใจคำตอบที่ผมจะตอบคำถามของพี่เยซองเลยสักนิด
ก็ว่าล่ะครับ ........ - - พี่ฮีชอลยิ่งเป็นคนทำอะไรเหนือความคาดหมายอยู่ จะมีเรอะจะพูดแบบนั้นออกมาลอยๆ บางทีตอนนี้อาจจะจับเจ้าเต่าตังโกมาให้เจ้าฮีบอมมันงับเล่นไปแล้วก็ได้ใครจะไปรู้......หึหึ {นู๋อุคคิดอะไรอยู่น่ะจ่ะ?? =[]= นั่นเต่าของพี่เย่นะจ่ะ }
“เฮ้อ~ !”
ผมลอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อความเงียบค่อยๆก่อตัวแล้วเคลื่อนตัวเข้ามานั่งข้างๆเป็นเพื่อนผมในห้องนั่งเล่นนี้อีกครั้ง
........ไอ้เจ้าพี่เยซองบ้า เฮียเต่า เจ้าแก้มซาลาเปา.............
มาถามทำไมว่าผมชอบใครอยู่? มาถามด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบนั้นอีก แล้วไง? สุดท้ายก็ไม่ยอมฟังคำตอบผม.....
ผมจะบอกให้นะ คนที่ผมชอบน่ะ!! ก็คือพี่นั่นแหละ ทำไมผมถึงไปหลงรักไอ้ผู้ชายงี่เง่าความรู้สึกช้าแบบนั้นไปได้นะ??
คนที่ผมแอบชอบมาตั้งนานตั้งแต่ตอนเดบิวต์
คนที่ชอบให้ผมมานั่งวุ่ยวายใจ คิดมากไปเองและมานั่งอ่านนิตยสารไร้สาระ บ้าๆบอๆแบบนี้
ก็พี่นั่นแหละ..........พี่คิม จงอุน!!
“..........”
ผมเหม่องออกไปที่นอกหน้าต่างเพียงลำพังภายในห้องสี่เหลี่ยมไม่ใหญ่มากนัก......ซึ่งมันเป็นห้องนอนของผมที่แชร์ร่วมกับพี่เยซองเองล่ะคัรบ
สีท้องฟ้ายามนี้นั้นมันดำมืดสนิทเหลือเกิน ..... อาจจะเป็นเพราะมันดึกแล้วก็ได้ บรรยากาศที่ผมเห็นมันจึงวังเวงน่ากลัว แล้วยังมีก้อนเมฆสีดำทมิฬที่จับตัวรวมกันก่อเป็นละอองฝนเล็ก ต่อมาก็กลายเป็นหยดน้ำจากท้องฟ้าที่ตกลงมาทั่วท้องฟ้าเต็มไปหมดเลย ลมก็พัดแรงมากจนกระทบกับหน้าต่างเกิดเสียงดังกึกๆ และเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่าก็ดังโครมครามแบบนี้อีก
มันยิ่งทำให้น่ากลัวจริงๆ ;___; ผมไม่ชอบเลยเวลาที่ฝนตกมีพายุเข้าแบบนี้ ไม่ชอบเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า เสียงมันดังมากตนหัวใจผมเกือบจะวายแน่ะ ยิ่งห้องเงียบๆ เสียงก็ยิ่งก้อง ....... ถ้าเป็นไปได้ก็อยากจะรีบนอนซะ แต่ไม่รู้ทำไม มันถึงทำไม่ได้สักที
แม้ผมจะเปิดไฟไว้ก็เถอะ แต่ภายในห้องมันเงียบเกินไป.........หรือว่าเพราะผมอยู่คนเดียวกันแน่?? ห้องที่ดูคุ้นเคยคุ้นตากลับทำให้ผมข่มตานอนให้หลับไม่เหมือนเช่นทุกที
แอ๊ด.......
ประตูหน้าห้องผมเปิดออกพร้อมกับเสียงเสียดสีระหว่างประตูกับพื้นดังขึ้น ทำให้ผมต้องหันไปดูผู้มาเยือนที่มาทำลายความเงียบ
.............พี่เยซอง.................
“อ่าว? นี่นายยังไม่นอนอีกหรอ อุค?? ”
พี่เยซองถามผมอย่างแปลกใจไม่น้อยที่เห็นผมยังไม่นอน เพราะปกติแล้วผมนอนเร็ว ( ฮ่าๆๆ ความจริงแล้ว ผมยังไม่อยากนอนดึกแล้วมีหน้าหลุมแบบเจ้าเด็กติดเกมส์ มักเน่ประจำวงเราน่ะคัรบ )
ไม่ใช่ว่าผมไม่อยากนอนสักหน่อย แต่มันนอนไม่หลับนี่น่า TT เสียงฟ้าร้องดังขึ้นทุกทีเลย
“.....ฮะ....”
“หรอๆ........ไปนอนได้แล้วไป......พรุ่งนี้มีงานไม่ใช่หรอ?”
พี่เยซองเดินเข้ามาในห้องพร้อมกับผ้าขนหนูผืนเล็กที่กำลังใช้เช็ดปลายเส้นผมที่มีละอองน้ำติดอยู่ เขายีผมไปเรื่อยพอให้ชื้น ก่อนที่จะยืนบิดไปมาเพื่อคลายความเมื่อย
“คร้าบบ~.....”
ผมเดินมาที่เตียงนอนของตัวเองตามคำของพี่เยซอง -3- เพราะถ้าผมยังไม่นอนตอนนี้ จะต้องนอนตื่นสายแน่ๆเลย ก่อนจะสาวเท้าขึ้นไปทิ้งตัวลงนอนบนเตียง แล้วพยายามหลับตาลงอย่างช่วยไม่ได้
“พี่ปิดไฟนะ”
“......ฮะ......”
พรึ่บ!
สิ้นเสียงที่ผมพูด แสงสว่างรอบห้องก็พลันดับลงอย่างรวดเร็ว ไม่มีอะไรจะน่ากลัวไปกว่านี้แล้วล่ะคัรบ ห้องก็มืด เสียงฟ้าร้องก็ดังลั่นโครมครามอยู่เลย
“..................”
ผมนอนหันหน้าเข้ากับกำแพง แล้วพยายามจะข่มตานอนให้หลับท่ามกลางเสียงดังจากฟ้าฝน ทว่าผมก็ต้องสะดุ้งตัวลืมตาขึ้นมา เมื่อสัมผัสได้ถึงร่างของใครบางคนที่กำลังทิ้งตัวลงนอนข้างๆ เตียงนอนก็ฮวบลงเล็กน้อยจากน้ำหนักของคนสองคน
ผมจึงพลิกตัวไปหาพี่เยซอง แล้วเขยิบเล็กน้อยเพื่อเว้นที่ให้อีกฝ่ายเขยิบเข้ามานอนได้ถนัด จะได้ไม่ตกเตียงไปซะก่อน - -
“พี่เยซอง”
“อื้ม ^^ พี่เองล่ะ........” พี่เยซองยิ้มบางๆ แล้วยกมืออวบของเขามาลูบเรือนผมอย่างเอ็นดู
“มานอนเตียงผมทำไมอ่า~ มันเบียดนะ”
“ไม่เห็นเป็นไรเลย เรานอนด้วยกันออกบ่อย ไม่เบียดหรอก”
จู่ๆพี่เยซองก็ดึงร่างของผมเข้าไปกอด
“o///o
..ท....ทำอะไรน่ะฮะ?”
ผมสัมผัสได้ถึงความร้อนผ่าวบนใบหน้า ตอนนี้หน้าผมต้องแดงมากๆแน่เลย
“ก็กอดนายไงล่ะ มันหนาวน่ะ......รีบๆนอนเถอะ”
“o//x//o”
ง่า แล้วแบบนี้จะให้ผมนอนยังไงไหวอ่ะ?! คราวนี้ไม่ใช่ว่ากลัวเพราะได้ยินเสียงฟ้าร้องแล้วล่ะครับ แต่กลัวว่าพี่เยซองจะได้ยินเสียงหัวใจผมเต้นมากกว่า!!
“.............”
“.........อุค..........”
“คะ....ครับ -//-”
“ว่าแล้วเชียวว่ายังไม่นอน”
พี่เยซองกระชับกอดให้แน่นกว่าเดิม จนใบหน้าผมแทบจะชนเข้ากับอกแกร่งของพี่เยซองอยู่แล้ว โชคดีที่ภายในห้องมันมืด ผมจึงเห็นหน้าของพี่เยซองได้ไม่ชัดนัก แล้วพี่เขาก็เห็นหน้าผมไม่ชัดเหมือนกัน
ถ้าไฟสว่างกว่าล่ะก็ ผมคงจะหน้าแดงกว่านี้อีก แล้วพี่เยซองก็ต้องเห็นว่า ผมหน้าแดงและต้องรู้ว่าผมคิดยังไงกับพี่เขาแน่ๆเลย...........ซึ่งนั่นแหละเป็นสิ่งที่ผมกลัวจริงๆ
“แล้วพี่ล่ะ?”
“ยังไม่ง่วงเลย อีกอย่างพรุ่งนี้ไม่มีงานด้วย นายต่างหากรีบนอนได้แล้ว”
“.........อื้ม.......” ผมเว้นช่วง แล้วกำลังจะพริ้มตาหลับลง แต่แล้ว
ครืน........ครืน......เปร้ง!!
“ !! ”
ผมสะดุ้งตัวเล็กน้อย =[]= ทันทีที่ได้ยินเสียงฟ้าร้องผ่าลงมาเมื่อครู่
“ไม่เป็นไรนะคัรบ คนดี~” พี่เยซองกระชับกอดให้แน่นเข้าไปอีก พร้อมกับลูบหัวผมอย่างอ่อนโยน แล้วก็เอ่ยน้ำเสียงที่อ่อนโยนไม่แพ้กัน เพื่อที่จะปลอบคนขี้กลัวแบบผม
“นอนซะนะ พี่อยู่ข้างๆนายนี่ล่ะ”
“ฮะ.......พี่เยซอง??”
“อะไร ?”
“ป.....ป่าวฮะ ราตรีสวัสดิ์นะคัรบ”
“อื้ม ฝันดีนะ”
ผมรู้แล้วว่าทำไม จู่ๆพี่เยซองถึงได้มานอนบนเตียงเดียวกับผม.........พี่จำได้สินะ ว่าผมกลัวเสียงฟ้าร้องแบบนี้ แต่ถ้ามันเป็นแบบนี้จริงๆผมจะขอคิดเข้าข้างตัวเองหน่อยได้ไหมว่า ที่ผมคิดน่ะมันเป็นเรื่องจริง ไม่ใช่ว่าผมคิดไปเอง
ความอ่อนโยน และ ความห่วงใย แบบนี้......มันจะหายไปไหม พี่เยซอง??
ถ้าผมเกิดบอกหรือพี่เกิดรู้ว่าผมรู้สึกยังไงกับพี่ ทุกอย่างมันจะเปลี่ยนไปไหม??
พี่ชายที่แสนดีของผม.......... พี่ชายที่มอบรอยยิ้ม ความสุข ความห่วงใย ความอ่อนโยนคนนั้นจะเปลี่ยนไปไหม??
ผมรักพี่นะคัรบ พี่เยซอง
“...............”
ผมนั่งคิดทบทวนกับตัวเองจนความคิดมันตีกันสับสนไปหมด จนผมตัดสินใจที่จะเลือกทางไหนไม่ได้เลย......แล้วสักพักผมก็เผลอหลับไปในอ้อมกอดอุ่นๆ
อ้อมกอดของคนที่ผมรัก................แต่ไม่รู้ว่าเขาจะรักผมรึป่าว??
“งืม....”
ผมครางเสียงออกมาเบา พร้อมกับบิดตัวเล็กน้อย...... แต่ก็ต้องอยู่เฉยๆแทน เมื่อเห็นว่าเจ้าเฮียเต่ายังนอนหลับสนิทอยู่ แล้วที่สำคัญ เขาก็ยังกอดผมไว้แน่นเหมือนเดิม
>///< เจ้าเต่าตัวโตแถวนี้จะรู้บ้างไหมนะ ? ตอนนี้ผมเขินมากๆเลยล่ะ
“..............”
เวลาตอนนอนทำไมน่ารักจังเลย~ ผมจับจ้องไปที่ใบหน้าของพี่เยซองอย่างละสายตาไม่ได้ ก่อนที่จะโน้มตัวไปจุมพิตริมฝีปากหนาเบาๆ
“......อือ.....”
“...............”
ผมรีบก้มหน้าที่กำลังแดงระรื่นลงทันทีที่พี่เยซองขยับตัวแล้วปรือตาตื่นขึ้นเล็กน้อย .....หวังว่าพี่เยซองจะยังไม่รู้สึกตัวหรอกนะว่าเมื่อกี้ผม.......จูบพี่เขาไปน่ะ!
“....อือ...”
พี่เยซองขยับตัวน้อยๆ แล้วคลายกอดให้หลวมๆ ผมจึงแกล้งปรือตาตื่นแล้วทำเสียงงัวเงียขึ้นมาบ้าง พี่เยซองจะได้ไม่ต้องสงสัย
“ขอโทษนะ พี่ทำให้นายตื่นรึป่าว?”
“ป....ป่าวฮะ”
“หรอ....งั้นพี่ไปอาบน้ำก่อนนะ นายก็รีบลุกด้วยล่ะ เดี๋ยวผู้จัดการจะด่าเอา”
ตอนนี้ผมก้มหน้าอยู่เลยไม่แน่ใจว่าตอนนี้พี่เยซองกำลังทำหน้าแบบไหนอยู่... แต่น้ำเสียงที่ออกมานั้นมันยังคงอ่อนโยนเหมือนเดิม นี่พี่ยังไม่รู้สินะครับ??
“ฮะ”
ผมตอบรับไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาจนไม่แน่ใจเหมือนกันว่าพี่เข้าจะได้ยินไหมนะ.......ก่อนที่จะเห็นพี่เยซองลับสายตาเดินออกจากห้องไปเรียบร้อยแล้ว ผมจึงได้ลุกขึ้นมานั่งบนเตียงอย่างเงียบๆตามลำพัง
เมื่อกี้นี้ผมทำบ้าอะไรลงไปน่ะ ?! >//< ไม่จริงน่า ผมนี่มันบ้าจริงๆเลย พี่เขาจะรู้ไหม? แล้วถ้ารู้มันจะเปลี่ยนไปไหม? ทำไมผมถึงทำอะไรที่ไม่คิดลงไปแบบนั้นนะ!!
ผมนั่งถอนหายใจกับตัวเองด้วยใบหน้าที่แดงก่ำ พร้อมกับความคิดที่มันสับสนปนเปไปยิ่งกว่าเมื่อวานเสียอีก
“............”
ผมเดินออกมาจากห้องน้ำ หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวพร้อมที่จะไปทำงานเรียบร้อยแล้ว ผมก็ค่อยๆสาวเท้าเดินไปเข้าไปครัวอย่างเลื่อยเฉื่อยเพื่อจะหาอะไรทาน
“เฮ้! อุค จัดกระป๋าเรียบร้อยสินะ”
ทงเฮที่นั่งกินขนมอยู่กับพวกเมมเบอร์หลายๆคนหน้าทีวีถามขึ้นมา เมื่อเห็นผมเดินเรื่อยเฉื่อยไปมา
“อื้ม ทงเฮ ผมจัดเรียบร้อยแล้วล่ะ”
ผมยิ้มออกมาเบาๆ ........นั่นสินะ วันนี้แล้วที่ผมต้องไปทำงานโปรโมทที่จีน ในฐานะ SJ-M งั้นนับตั้งแต่วันนี้ผมก็จะไม่ได้เจอกับพี่เยซองแล้วน่ะสิ ถึงจะไม่ได้ห่างกันเป็นปีก็เถอะ แต่มันก็นานเหมือนกันนะ.........
ผมควรจะทำยังไงกับความรู้สึกของตัวเองดี >o<
“คิดอะไรอีกแล้วน่ะ? - -”
จู่ๆ พี่เยซองที่เดินมาจากไหนก็ไม่รู้ (ทำไมพี่เขาชอบมาแบบไม่ให้ซุ่มให้เสียงจัง) ก็ใช้นิ้วชี้มาจิ้มที่หว่างคิ้วของผมที่ชมกันจนแทบจะผูกติดเป็นโบว์ได้แล้ว.............คิดเรื่องพี่นั่นแหละ -3-
“...............”
“นายจะไปแล้วสินะ.........”
ทั้งๆที่ใบหน้าของพี่แก้มซาลาเปาของผมยังคงระบายไปด้วยรอยยิ้ม แต่น้ำเสียงที่เปล่งออกมากลับดูหดหู่ลงแบบแปลกๆชอบกล
“ครับ พี่ก็อย่าลืมดูแลตัวเองนะคัรบ ผมเป็นห่วง ฮ่าๆ”
ผมพูดออกมาแบบติดตลก
“อยู่แล้ว แต่นายซะมากกว่ามั้งที่ต้องดูแลตัวเองมากกว่าพี่น่ะ”
เอาอีกแล้ว ผมเผลอดีใจไปกับความอ่อนโยนและความเป็นห่วงแบบทั่วไปแบบนี้ของพี่อีกแล้ว ถ้าเป็นไปได้ ผมขอร้องได้ไหม? พี่อย่าทำดีกับผม..........ผมไม่อยากจะเจ็บอีกแล้ว มันปวดแปล๊บในใจมากๆเลยล่ะครับ ตอนนี้
เพราะมันทำให้ผมตัดสินใจลำบากระหว่าง สิ่งที่หัวใจกำลังต้องการ กับสิ่งที่ความคิดกำลังทักท้วง มันสวนทางกันอยู่
“...............”
“...............”
จู่ๆบรรยากาศโดยรอบมันก็เต็มไปด้วยความอึดอัด ไม่มีแม้แต่เสียงใดๆรอดออกมา ขณะเดียวกันเสียงของเหล่าเมมเบอร์ที่นั่งดูทีวีและกินขนมกันอย่างสนุกสนานแล้วมีเสียงดังโวยวาย ก็เงียบลงไปอย่างไม่น่าเชื่อราวกับว่าตอนนี้ไม่มีใครอยู่ในหอพัก ยกเว้นผมกับพี่เยซองเท่านั้น
“..........อุค.........”
“พีเยซอง ผมรักพี่นะคัรบ”
“จริงหรอ?”
ใบหน้าของพี่เยซองตอนนี้ดูตกใจไม่น้อยเลยทีเดียวที่ได้ยินประโยคของผมเมื่อสักครู่
“ฮ่าๆๆ ไม่จริงหรอกครับ ผมล้อเล่น”
“^^ อื้ม พี่ตกใจหมด”
ผมรีบหันหลังให้พี่เยซองทันที แล้วระบายยิ้มบางๆให้กับตัวเอง ก่อนที่จะพยายามสาวเท้าเดินออกจากจุดที่ตัวเองยืนอยู่ให้เร็วที่สุด ทั้งๆที่คิดอย่างนั้น แต่เท้ามันกลับไม่ค่อยขยับตามที่ใจคิดเลย
..........ได้แค่นี้ก็ดีแล้ว.......
“...............”
ไม่ไหวแล้ว ตอนนี้ผมรู้สึกได้จริงๆว่าขอบตาตัวเองกำลังร้อนผ่าว พร้อมเสมอที่น้ำใสๆจะไหลลงมา ไม่รู้ว่าเป็นเพราะผมกำลังโล่งอกที่ได้สารภาพมันไป หรือเพราะ กำลังเจ็บอยู่ข้างในกันแน่??
แล้วมันเจ็บเพราะอะไรล่ะ??............ทั้งๆที่ผมได้พูดมันออกไปแล้วแท้ๆกับสิ่งที่มันค้างคาอยู่ในใจ
......หรือจะเจ็บ......
........เพราะไม่สามารถทำให้คนที่ผมรัก กลายมาเป็นคนที่รักผมได้.........
......มันน่าสมเพชตัวเองจังเลยแฮะ........
ทั้งๆที่ไม่ได้คาดหวังอะไรตั้งแต่ในตอนแรกแล้วแท้ๆ แล้วทำไม? ตอนนี้ถึงยังต้องมาคิดมากเรื่องนั้นล่ะ แค่ได้อยู่ใกล้พี่เยซองก็ดีแล้วนี่?? ได้(แอบ) รักอยู่ห่างๆ โดยที่พี่เขาไม่รู้ตัว(หรือรู้แล้วแต่ไม่ทำตัวเหิรห่าง) มันก็ดีแล้วแท้ๆ
“................”
ผมยิ้มน้อยพร้อมทั้งน้ำใสๆที่เริ่มไหลลงมาอย่างหยุดไม่ได้ แต่คราวนี้ผมรู้แล้วว่าน้ำที่มันไหลลงมาจากดวงตาของผม มันเกิดจากอะไร
........... มันเกิดจากความดีใจและโล่งอกต่างหาก........
ดีใจที่ผมได้สารภาพรักกับพี่เยซองออกไปแม้จะไม่รู้คำตอบ แต่มันก็ทำให้ผมสุขใจแล้ว
โล่งอกที่พี่เยซองยังคงทำทุกอย่างให้เป็นเหมือนเดิม
รู้สึกดีและอยากจะขอบคุณกับสิ่งต่างๆที่เป็นใจและชักนำเราทั้ง 2 มาเจอ แม้จะรักกันไม่ได้ก็ได้ตามที
.........แต่ผมก็ยังรักพี่เหมือนเดิมนะฮะ ต่อให้วันเวลาเปลี่ยนไป หรือ ทุกอย่างเปลี่ยนแปลง ผมก็ยังคงเป็นเหมือนเดิม หัวใจผมก็เหมือนกัน
มันจะไม่มีวันเปลี่ยน เพราะหัวใจของผมมันเหมือนกับถูกหยุดเวลาเอาไว้แล้ว ไว้ที่เดิมกับคนๆเดิม
หัวใจผมมันหยุดที่พี่ไปแล้ว..........
“ผ....ผมไปเอากระเป๋าก่อนนะคัรบ”
ผมพยายามทำเสียงให้เรียบ ไม่ให้เป็นที่สงสัย แต่มันก็ยังคงสั่นอยู่ไม่น้อยเลยทีเดียว แล้วก็รีบสาวเท้าเดินต่อเพื่อวิ่งเข้าไปในห้องตัวเอง จะได้ไม่ต้องให้ใครเห็นว่าตอนนี้ผมมันอ่อนแอแค่ไหน!
“อุค เด๋ว........”
พี่เยซองจับมือผมเอาไว้.......มือของพี่แก้มซาลาเปาในตอนนี้มันช่างอบอุ่นเหลือเกิน......จนผมไม่อยากปล่อย ราวกับว่ามันกำลังถ่ายทอดความรู้สึกของพี่เยซองมายังหัวใจผมอย่างนั้นแหละ
ผมยืนหยุดนิ่งอยู่ที่เดิม รอ......รอว่าพี่เยซองจะพูดอะไรออกมา
“............พี่................”
พี่เยซองดึงผมเข้าไปกอด จนใบหน้าผมแนบแน่นไปกับหน้าอกแกร่งๆ รอยคราบน้ำตาพร้อมกับน้ำใสๆที่ยังคงไหลลงมาไม่ขาดสายถูกซับไปบางเบากับเสื้อตัวนอกของคนร่างสูง
ก่อนที่พี่เขาจะก้มลงมากระซิบข้างหูผมเบาๆ เสียงกระซิบนั้นมันทำให้ผมหยุดร้องไห้ หยุดทุกสิ่งทุกอย่าง แม้กระทั่งเกือบจะหยุดหายใจ
“....... O///o .........”
หัวใจที่บอบบางและบอบช้ำของผมกลับมาเบิกบานและพองโตขึ้นอีกครั้ง มันกำลังกลับมาเต้นใหม่อีกครั้ง......เต้นตามจังหวะเดิม.......จังหวะที่ความรักกำลังค่อยๆสร้างความหวานและก่อตัวขึ้นระหว่างคน 2 คน
“พี่รักนายนะ เจ้าเด็กขี้แย~”
บางทีการบอกความรู้สึกของตัวเองใน ‘ การรักใครสักคน ’ ออกไป มันก็คงจะไม่ผิดแล้วน่ากลัวแบบที่คิดหรอก อาจจะมีผิดหวังบ้าง แต่การที่เราจะพบสมหวังไปกับรักแท้และความสวยงามของความรักมันก็มีได้เหมือนกัน
เพราะฉะนั้นตอนนี้คุณกล้าพอไหม?? กล้าพอที่จะต่อสู้กับความรู้สึกของตัวเองในการบอกออกไปว่าคุณรักคนๆนั้นมากแค่ไหน?
บางทีคนที่คุณรัก อาจจะกลายมาเป็นคนที่รักคุณก็ได้นะ ใครจะไปรู้~
เหมือนกับผมและพี่เยซองไง ^^
--------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
ขอโทษนะค่ะที่มันออกมาไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่ พอดีเรารีบเอามาลงมากอ่ะค่ะ T(o o)T
เพราะใกล้สอบแล้ว ก็เลยไม่รู้จะได้ลงอีกทีตอนไหน ยังไงก็ฝากติดตามด้วยนะค่ะ ^^ รักคนอ่าน คึคึ
ผลงานอื่นๆ ของ paped13 ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ paped13
ความคิดเห็น