โจ๋ไทยเลียนแบบดาราเกาหลีใช้ครีมหน้าใส จนหน้าพัง - โจ๋ไทยเลียนแบบดาราเกาหลีใช้ครีมหน้าใส จนหน้าพัง นิยาย โจ๋ไทยเลียนแบบดาราเกาหลีใช้ครีมหน้าใส จนหน้าพัง : Dek-D.com - Writer

    โจ๋ไทยเลียนแบบดาราเกาหลีใช้ครีมหน้าใส จนหน้าพัง

    น่าเป็นห่วง

    ผู้เข้าชมรวม

    1,627

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    1.62K

    ความคิดเห็น


    0

    คนติดตาม


    0
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  29 ม.ค. 50 / 18:06 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ
      โจ๋ไทยเลียนแบบดาราเกาหลีใช้ครีมหน้าใส จนหน้าพัง
       
      คิม แจ จุง พระเอกหน้าใส แห่งเกาหลี
      โจ๋ไทยเลียนแบบดาราเกาหลี ใช้ครีมไวท์เทนนิ่งจนหน้าพัง

      หนุ่มไทยฮิต "ไวท์เทนนิ่ง" ซื้อปีละ 2,500 ล้าน หวังหน้าขาวแบบดาราเกาหลี แต่โดนครีมกัดหน้าด่าง วุ่นแพทย์ผ่าตัดลอกหน้า ผู้เชี่ยวชาญผิวหนังเตือนใช้เครื่องสำอางไวท์เทนนิ่งระวังหน้าดำ ทั้งครีมโทนนิ่ง โรลออน ฯลฯ หากหยุดใช้ผิวเน่าทันที แถมประสาทส่วนกลางเกิดอันตราย

      กระแสนิยมดาราเกาหลีที่มีใบหน้าขาวเพิ่มขึ้น

      ทำให้ผู้ชายไทยกลุ่มหนึ่งหันไปใช้ผลิตภัณฑ์ "ไวท์เทนนิ่ง" หรือสารที่ทำให้ผิวขาวขึ้น (Whitening agents) โดยเฉพาะเครื่องสำอางผสมไวท์เทนนิ่งสำหรับผู้ชายโดยเฉพาะ เช่น ครีมทาหน้า ครีมบำรุงผิวตัว สบู่ โทนนิ่ง ครีมโกนหนวด ผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกาย ฯลฯ

      ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคผิวหนังเผยว่า

      ขณะนี้ผู้ป่วยชายเป็นโรคหน้าด่างขาวมีจำนวนมากขึ้น เนื่องจากสารไวท์เทนนิ่งเหมือนสารเสพติด หากใช้ติดต่อกันนานจะทำลายเม็ดผิวสี และก่อให้เกิดโรคผิวหนังต่างๆ

      คิม แจ จุง พระเอกหน้าใส แห่งเกาหลี
      ศ.น.พ.นิวัติ พลนิกร ผู้เชี่ยวชาญด้านผิวหนัง

      คณะแพทยศาสตร์ รพ.รามาธิบดี และกรรมการฝ่ายวิชาการสมาคมเวชสำอางและศัลยศาสตร์ผิวพรรณ เปิดเผยกับ "คม ชัด ลึก" ว่า ขณะนี้คลินิกรักษาโรคผิวหนังของตนมีผู้ชายมารักษาโรคที่เกิดจากสารไวท์เทนนิ่งจำนวนมาก เช่น โรคหน้าด่างขาว หน้าสีเทา ผิวดำวูบ แต่ละวันจะมีลูกค้ามารักษาผิวประมาณ 30-40 ราย โดยผู้ป่วยโรคผิวหนังจากใช้สารไวท์เทนนิ่งมีร้อยละ 10 หรือประมาณวันละ 3-4 ราย เป็นผู้ชายครึ่งหนึ่ง หรือวันละ 1-2 ราย
      แต่ก่อนไม่ค่อยมีผู้ชายมารักษาโรคหน้าด่างขาว หรือโรคดำวูบเลย

      จนกระทั่งประมาณ 1 ปีที่ผ่านมา มีผู้ชายมารักษาวันละ 1- 2 รายทุกวัน พอสอบถามสาเหตุก็เกิดจากการใช้สารไวท์เทนนิ่ง เพราะต้องการให้ผิวหน้าขาวแบบดาราเกาหลี-ญี่ปุ่น ซึ่งวัยรุ่นหญิงนิยมหน้าขาวๆ ใสๆ แบบหนุ่มเกาหลีมาก ซึ่งก็ต้องอธิบายให้เข้าใจว่า สีผิวตามธรรมชาติของคนไทยไม่ใช่สีขาวใส เพราะเป็นประเทศร้อน ต้องมีเม็ดสีผิวเข้มเพื่อป้องกันอันตรายจากแสงแดด เมื่อจะเปลี่ยนให้เป็นสีขาว ก็ต้องใช้สารไวท์เทนนิ่งเป็นจำนวนมากและใช้ต่อเนื่องนาน สุดท้ายก็กลายเป็นโรคด่างขาว หรือหน้าสีเทา หากหยุดใช้กะทันหันจะเป็นโรคหน้าดำวูบ" ศ.น.พ.นิวัติ กล่าว
      คิม แจ จุง พระเอกหน้าใส แห่งเกาหลี
      ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนัง อธิบายเพิ่มเติมว่า

      ปกติผิวมนุษย์มีเซลล์เม็ดสีที่เรียกว่าเมลาโนไซต์ (Melanocyte) อยู่ภายใน หากใช้สารพวกไวท์เทนนิ่ง เช่น ไฮโดรควิโนน สารปรอท วิตามินเอ วิตามินซี กรดผลไม้ ฯลฯ จะช่วยให้ผิวหน้าขาวมากขึ้นจริง เนื่องจากมีการกัดลอกผิวหนังส่วนบน และทำให้เซลล์เม็ดสีไม่ทำงาน หากใช้ระยะยาวจะก่อให้เกิดผลต่อใบหน้า คือ


      1.โรคหน้าด่างขาว

      เนื่องจากผิวขาวเป็นส่วนๆ ไม่ขาวทั่วใบหน้าเหมือนธรรมชาติ

      2.โรคผิวดำวูบ

      เกิดจากการหยุดใช้สารไวท์เทนนิ่ง ทำให้เซลล์เม็ดสีที่ถูกกดไว้สร้างเอมไซน์เพิ่มมากขึ้น ผิวหนังเปลี่ยนเป็นดำอย่างรวดเร็ว

      3.ผิวสีเทาถาวร

      เกิดจากการใช้สารไวท์เทนนิ่งปริมาณเข้มข้นอย่างต่อเนื่อง สีผิวบางส่วนเช่นบริเวณที่เป็นฝ้าจะเปลี่ยนเป็นสีเทาถาวรแทน
      ศ.น.พ.นิวัติ กล่าวถึงผิวหน้าผู้ชายว่า

      ขณะที่ทาครีมหน้าขาวหรือครีมผสมสารไวท์เทนนิ่งบนใบหน้านั้น เนื้อครีมบางส่วนจะตกอยู่ในร่องหรือหลุมบนใบหน้ามากกว่าผิวส่วนอื่น เมื่อใช้ระยะหนึ่งจะเห็นชัดว่าผิวหน้าขาวไม่เท่ากัน

      วิธีการรักษาโรคหน้าด่างขาว

      ต้องใช้วิธีลอกผิวทั้งใบหน้า ปลูกเซลล์ผิวใหม่ใช้เวลาครั้งละ 4-5 ชั่วโมง ค่าใช้จ่ายหลายหมื่นบาท และต้องทำหลายครั้งใบหน้าจึงจะกลับมาเป็นธรรมชาติเหมือนเดิม ส่วนผู้เป็นโรคดำวูบต้องรักษาให้เซลล์เม็ดสีกลับมาทำงานเป็นปกติ
      คิม แจ จุง พระเอกหน้าใส แห่งเกาหลี
      ยิ่งไปกว่านั้น สำหรับผู้ใช้เครื่องสำอางผสมไวท์เทนนิ่ง

      เป็นระยะเวลาต่อเนื่องยาวนาน ผู้เชี่ยวชาญโรคผิวหนังเตือนว่าจะทำให้เกิดมะเร็งผิวหนัง และประสาทส่วนกลางถูกทำลายได้ เนื่องจากสารเคมีเข้าไปสะสมในร่างกายจำนวนมาก หากมีการทาครีมบำรุงผิวผสมไวท์เทนนิ่งทั่วร่างกายทุกวัน

      จะทำให้สารเคมีถูกดูดซึมไว้มีผลต่อระบบการทำงานของไต เพราะไตมีหน้าที่กรองของเสียในร่างกาย ส่วนผลิตภัณฑ์ที่อ้างว่าใช้สารไวท์เทนนิ่งจากสมุนไพรธรรมชาติ เช่น ชะเอม เปลือกไม้ กรดผลไม้ ฯลฯ ก็มีอันตรายเหมือนสารเคมีทั่วไป เพราะเป็นกรดธรรมชาติที่ทำลายเซลล์เม็ดสี ยิ่งไปกว่านั้นในขั้นตอนผลิตก็ไม่มีมาตรฐาน
      ศ.น.พ.นิวัติ กล่าวแนะนำว่า

      กองควบคุมเครื่องสำอาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) กระทรวงสาธารณสุข ต้องเข้ามาควบคุมส่วนผสมไวท์เทนนิ่งในผลิตภัณฑ์ต่างๆ มากกว่านี้ ควรมีการศึกษาถึงผลเสียในระยะยาวด้วย อย่าพิจารณาแค่ไม่มีอันตรายในระยะสั้นเท่านั้น ควรบังคับให้แสดงสูตรผสมอย่างชัดเจนด้วย

      หากผสมสารที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงเซลล์ผิวหนัง ก็ต้องถือว่าเป็นยาไม่ใช่เครื่องสำอาง นอกจากนี้ยังต้องเพิ่มเติมรายชื่อสารเคมีควบคุมให้ทันกับผู้ผลิต ที่มักผลิตสารใหม่ๆ ชื่อแปลกๆ ใช้ชื่อย่อที่แม้แต่แพทย์ยังไม่รู้ว่าเป็นสารเคมีตัวใดกันแน่
      คิม แจ จุง พระเอกหน้าใส แห่งเกาหลี
      ทั้งนี้ ข้อมูลจากเวบไซต์ธุรกิจแห่งหนึ่ง ระบุว่า

      ปัจจุบันส่วนแบ่งตลาดของผลิตภัณฑ์บำรุงผิวผู้ชายในผู้ชายเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว มีการแข่งขันสูงขึ้นทุกปี ในปี 2548 ผลิตภัณฑ์ดูแลผิวหน้าฟอร์เมน มีมูลค่าตลาดถึง 2,466 ล้านบาท เติบโตเพิ่มร้อยละ 25 และผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายเติบโตร้อยละ 13 มีมูลค่าตลาด 873 ล้านบาท สินค้าสำหรับโกนหนวดเติบโตร้อยละ 10 มีมูลค่าตลาด 119 ล้านบาท
      รศ.อรัญญา มโนสร้อย นักวิจัยด้านเครื่องสำอางสมุนไพร

      คณะเภสัชกรรม มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ กล่าวว่า การทำให้ผิวขาวมีทั้งวิธีการใช้ครีมกันแดดและการใช้สารลอกผิว ผู้บริโภคที่ใช้เครื่องสำอางประเภทไวท์เทนนิ่งต้องใช้วิจารณญาณ เพราะข้อมูลของส่วนประกอบในเครื่องสำอางจะทำให้รู้ว่ามีส่วนผสมของสารที่ไปทำปฏิกิริยากับเซลล์ระดับใต้ผิวหนังหรือไม่ สำหรับผู้ชายนั้น หากมีการใช้ไวท์เทนนิ่งในปริมาณมากเพื่อเร่งให้ผิวขาวเร็ว ก็จะยิ่งอันตรายทำให้แพ้เร็วขึ้นและมากขึ้นเช่นกัน
      รศ.อรัญญา กล่าว

      การใช้สารไวท์เทนนิ่งทั้งสารเคมีและสารธรรมชาติ ก็ทำให้เกิดอาการแพ้ได้ ยิ่งตัวที่โฆษณาว่าเร่งให้หน้าขาวเร็ว ยิ่งเป็นอันตราย ส่วนยี่ห้อที่อ้างว่าใช้สารเอซิด (ACID) หรือ เอเฮชเอ (Alpha Hydroxy Acid-AHA) ทำจากกรดผลไม้นั้น ก็มีอันตรายในการลอกผิวเช่นกัน

      หากใช้ผิดวิธีหรือใช้ในปริมาณที่เข้มข้นมากไป ขณะนี้ยังไม่มีงานวิจัยที่ระบุชัดเจนถึงการใช้สารไวท์เทนนิ่งต่อเนื่องระยะยาวว่าจะมีอันตรายต่อผิวหนังหรือร่างกายมนุษย์อย่างไรบ้าง อันที่จริงแล้วผิวคล้ำเป็นสิ่งที่ดี เพราะเป็นกลไกธรรมชาติในการป้องกันผิวไม่ให้รับอันตรายจากแสงแดด"
      คิม แจ จุง พระเอกหน้าใส แห่งเกาหลี
      ด้าน ภ.ก.มานิตย์ อรุณากูร รองเลขาธิการ อย.ให้ข้อมูลว่า

      ขณะนี้ยังไม่ได้รับการร้องเรียนจากผู้ชายที่ใช้ครื่องสำอางผสมไวท์เทนนิ่งฟอร์เมน แต่มีผู้หญิงมาร้องเรียนเรื่องไวท์เทนนิ่งหรือเครื่องสำอางที่อวดอ้างว่าทำให้ผิวขาวอยู่เรื่อยๆ ส่วนใหญ่ใช้แล้วมีอาการแพ้ ผิวแดง ผื่นคัน ซึ่งตรวจพบว่ามีเครื่องสำอางหลายยี่ห้อใช้สารต้องห้าม เช่น

      "ปรอทแอมโมเนีย" ทำให้เกิดการแพ้ผื่นแดง ผิวหน้าดำ ผิวบางลง เกิดพิษสะสมของสารปรอท ทำให้ทางเดินปัสสาวะอักเสบ และไตอักเสบ

      "สารไฮโดรควิโนน" ทำให้เกิดการแพ้ระคายเคือง เกิดจุดด่างขาวที่หน้า ผิวหน้าดำ เป็นฝ้าถาวร รักษาไม่หาย และ

      "กรดวิตามินเอ" ใช้แล้วหน้าแดง แพ้รุนแรง แสบร้อนรุนแรง เกิดการอักเสบ และผิวหน้าลอกอย่างรุนแรง อาจเป็นอันตรายถึงทารกในครรภ์
      รองเลขาธิการ อย.กล่าว

      เครื่องสำอางไม่ได้มาตรฐานจะใส่สารต้องห้าม แล้วอวดอ้างว่าทำให้ผิวขาวเร็วภายใน 7 วัน 3 วัน สุดท้ายก็หน้าแพ้ ส่วนยี่ห้อดังที่อ้างว่ามีไวท์เทนนิ่ง เมื่อตรวจดูแม้จะไม่พบสารต้องห้ามจริง แต่ก็ไม่ได้มีสารไวท์เทนนิ่งที่ช่วยให้ผิวขาว มีแต่คำแนะนำว่าห้ามถูกแดด ปกติผิวหนังถ้าระวังไม่ให้ถูกแดดก็ขาวขึ้นอยู่แล้ว ผู้ผลิตเครื่องสำอางที่ใส่สารอันตรายทำให้ผิวขาว ควรได้รับโทษเพิ่มเติม จากเดิมที่ปรับไม่กี่พันบาท จะต้องเพิ่มโทษเป็นแสนบาทขึ้นไป

      ขณะนี้ได้มีการปรับปรุงกฎหมายอาหารและยาแล้ว กำลังรอให้ผ่านการพิจารณาจากสภา และถ้าจะโฆษณาเครื่องสำอางกฎหมายใหม่ก็บังคับให้ต้องขออนุญาตก่อน ไม่ใช่โฆษณาเกินจริงแล้วค่อยไปปรับ ซึ่งผู้บริโภคได้รับความความเสียหายไปแล้ว"
      คิม แจ จุง พระเอกหน้าใส แห่งเกาหลี

      ขอขอบคุณเนื้อหาข่าว คุณภาพดี โดย: หนังสือพิมพ์คมชัดลึก

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×