คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #16 : !!POINT 13!!
“แล้วใครจะสอนฉันล่ะ” ผมรีบพูด ทำให้ร่างสูงหันมามองอย่างไม่เข้าใจ ผมก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกันแหละ -_-?
“ก็ซีวอนไงล่ะ” นายนั่นสะบัดเสียงตอบก่อนจะก้าวออกไป ทำให้ผมรีบวิ่งออกมาดักหน้าไว้ทันที
“ใครบอกว่าจะไม่ให้นายสอนล่ะ”
“ก็นายไง”
“ฉันแค่บอกว่าไปให้รุ่นพี่ซีวอนสอนดีกว่า แต่ฉันจะบอกว่าฉันให้นายสอนดีที่สุดไง” ผมรีบพูดทันทีแล้วเห็นคนตรงหน้ายิ้มออก
“เอาน่าๆ ไปสอนเหอะนะอีกบทเดียวก็จบแล้ว” ผมรีบตื้อต่อแล้วไม่รอให้นายนั่นตอบรับผมก็ลากแขนเขาเข้ามาในห้องซะแล้ว
“นายนี่น๊า”
“ฉันทำไมเหรอ” ผมถามแล้วทำตาบ๊องแบ็วใส่ทันที0o0
“น่ารักไงเล่า” หมอนั่นชมผมแต่ตัวเองกลับหน้าแดงแทน
“นายอย่าทำให้ฉันจั๊กกะเดียมได้มะ” ผมแกล้งว่าแล้วทำท่าขนลุก
“นายก็เลิกทำตัวน่ารักเซ่”
“คงยาก ก็ฉันเลือกเกิดมาให้หน้าตาไม่ดีไม่ได้แล้วน่ะ” ผมรีบคุยทันทีที่มีโอกาสแล้วหัวเราะตบท้าย
“นี่ไงนายทำตัวน่ารักอีกแล้ว” นายนั่นพูดก่อนจะยื่นหน้ามาจุ๊บแก้มผมเบาๆ ทำให้ผมอ้าปากหัวเราะค้างไปเลยทีเดียว o0o
“มาสอนเลย” ผมเก๊กเสียงขรึมก่อนจะนั่งทำตัวสงบเสงี่ยมลงบนพื้นหน้าโต๊ะญี่ปุ่นที่ดงเฮนั่งอยู่ก่อนแล้ว และแล้วไอ้เลขข้อที่คิดว่าจะทำไม่ได้นายนั่นกลับทำได้อย่างง่ายดาย นายนั่นสอนบทสุดท้ายจบก็ตอนเวลาใกล้ตีสองเต็มที ส่วนผมก็หลับบ้างเรียนบ้างตามประสาคนง่วงนอน
“นี่นายง่วงก็นอนก่อนเถอะ นี่ฉันสอนเลยมาจนจะจบเทอมแล้ว”
“อ้าว แล้วทำไมนายไม่สอนแค่ที่จะสอบพรุ่งนี้เล่า” ผมโวยวายแล้วทำท่าจะล้มตัวลงนอนไปกับพื้นให้ได้
“โอเค เดี๋ยวฉันจะสอนให้จบเลยแล้วกันคราวหน้านายจะได้เรียนรู้เรื่องด้วยไง” โห ไอ้ปลานี่ก็ใจดีแฮะ
“พอเหอะ ฉันง่วง” ผมพูดจบก็ทิ้งตัวลงกับพื้นทันทีแต่มือใหญ่กลับคว้าหัวผมไปวางไว้บนตักซะก่อนจะมองหน้าคนที่ก้มมองอยู่อย่างงงๆ
“ฉันจะพูดไปเรื่อยๆแล้วกัน เป็นการเล่านิทานกล่อมเด็กดื้อ” หมอนั่นพูดก่อนจะหันไปหยิบหนังสือมาท่องสูตรให้ฟัง ผมพยายามที่จะเอาหัวออกจากตักนายนั่นแต่เขากลับใช้มืออีกข้างกดหัวผมไว้กับที่
“นายนี่ยังไง อย่างน้อยตักฉันมันก็นิ่มกว่าบนพรมและน่า”
“กระดูกนายจะทิ่มฉันตายมากกว่า” ><!
“นอนเงียบๆเลย ก่อนจะไม่ได้นอน” นายนั่นก้มลงมาทำหน้าหื่นใส่ทำให้ผมรีบยกมือขึ้นมาปิดปากเป็นการสงบศึกทันที ไม่นานนักผมก็หลับไปบนตักของนายนั่นจริงๆ
“อื้มมม” ผมลุกขึ้นมาบิดขี้เกียจแล้วพบว่าตัวเองนอนอยู่บนเตียงเรียบร้อยแล้ว ส่วนดงเฮตอนนี้หลับสนิทอยู่อีกฟากหนึ่งของเตียง ผมยิ้มแล้วหยิกจมูกโด่งๆนั่นอย่างหมั่นไส้
“เฮ้ เดี๋ยวนี้เวลาปลุกต้องทำร้ายร่างกายด้วยเหรอ” ดงเฮลืมตาขึ้นมามองแล้วจับมือผมไว้
“อ้าว ก็ฉันขี้เกียจแหกปากแล้วไง” ผมบอกแล้วดึงมือออก ก่อนจะรีบวิ่งหายเข้าห้องน้ำไปเพื่อยืนหน้าแดง 0//0 เดี๋ยวนี้ใจผมชักจะไม่เชื่อฟังสมองแล้วสิทำยังไงดีเนี่ย แถมยิ่งนับวันดงเฮก็ทำตัวน่ารักขึ้นเรื่อยๆด้วย…
“นี่ฉันทำได้หมดทุกข้อเลยนะ ข้อสอบง่ายกว่าที่นายสอนตั้งเยอะ” ผมกระโดดโลดเต้นออกจากห้องสอบแล้วโม้ใส่ดงเฮที่มายืนรออยู่หน้าห้อง นายนั่นขยี้ผมผมจนยุ่งอย่างหมั่นไส้
“คนสอนมันหล่อก็แบบนี้แหละ”
“มันเกี่ยวกันตรงไหน”
“อ้าวก็ถ้าคนสอนไม่หล่อ ลูกศิษย์จะตั้งใจเรียนเหรอ” แป่ว มันคิดได้
“เพราะลูกศิษย์สวยตะหาก ไม่งั้นอาจารย์คงไม่ตั้งใจสอน” ผมเถียงกลับยิ้มแต่สายตาดันเห็นคีย์ยืนทำอะไรลับๆล่ออยู่ตรงคูเลอร์น้ำของนักบาส ผมเลยสะกิดให้ดงเฮดู
“เขาทำอะไรของเขาน่ะ” ผมถามแล้วแอบที่มุมตึก
“เดี๋ยวก็รู้” นายนั่นพูดก่อนจะลากผมเดินเข้าไปหาร่างบางที่ยืนอยู่ก่อนแล้ว คีย์ทำหน้าเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นแล้วหันมายิ้มหวานให้
“มาซ้อมแล้วเหรอฮะรุ่นพี่ มาเร็วจังเลยนะ” เสียงหวานทอดยาวแถมยังส่งสายตาหวานฉ่ำไปให้คนที่ยืนอยู่ข้างผมจนออกนอกหน้า
“วันนี้พี่ไม่มีเรียนน่ะ” ดงเฮตอบ
“แล้วรุ่นพี่มาทำอะไรตั้งแต่บ่ายสามล่ะฮะเนี่ย” คีย์พูดแล้วเอียงคอมองอย่างน่ารัก
“อ่อ มารอหมอนี่สอบซ่อมน่ะ”
“ไม่ใช่ซะหน่อย สอบซ่อมเค้าเรียกกันตอนได้เอฟหรอก” ผมหันไปเข่นเคี้ยวใส่นายนั่น ร่างสูงยกมือเรียวขึ้นมาขยี้หัวผมจนยุ่งอีกครั้ง
“รุ่นพี่ต้องลงทุนมารอเลยเหรอ” เสียงของคีย์ทำให้สงครามย่อยที่กำลังจะเกิดพักยกชั่วคราว ผมหันไปมองใบหน้าที่เหมือนตุ๊กตาบาร์บี้นั่นอย่างคลางแคลงใจกับน้ำเสียงที่ฟังดูเหมือนประชดนั่น
“ก็ไม่ได้ลงทุนมากมายอะไร แค่สอนทั้งคืน พามาส่งแล้วก็ยืนรอก็แค่นั้นเอง” ดงเฮตอบขึ้นแต่หางตาหันมามองผม ฉันสำนึกในบุญคุณนายแล้วน๊า อย่ามองด้วยสายตาแบบนั้น >/|\<
“เหรอ” คีย์ตอบรับแต่ตวัดสายตามามองผมอย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง ก่อนที่จะยิ้มหวานเหมือนเดิม
“ไปซ้อมได้แล้ว อู้มาตั้งหลายวันแล้วนายน่ะ” ผมไล่ร่างสูงที่ยังยืนไม่กระดิกตัวไปไหน
“เพราะว่าต้องสอนวิชาคำนวณใครล่ะ” นายนั่นเถียงแต่ก็ยอมเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้า
“รุ่นพี่ซีวอนล่ะคีย์เห็นบอกว่าจะมาตอนบ่ายสามเหมือนกัน” ผมถามขึ้นหลังจากที่อยู่กันสองคนแล้ว
“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงล่ะ” คีย์สะบัดเสียงตอบก่อนจะเดินเลี่ยงไปอีกด้าน ทำให้ผมยืนมองกิริยานั้นงงๆ
“เป็นอะไรแก” เสียงของซองมินดังขึ้นทำให้ผมหันกลับไปมองแล้วแอบสังเกตเห็นความผิดปกติของเพื่อนสนิทจากดวงตาแดงก่ำ
“แกสิเป็นอะไร”
“เปล่านี่” ร่างบางตอบก่อนจะเบือนหน้าหนีไปอีกทางแต่ผมไม่ยอมแพ้หรอกผมก้าวไปดักหน้าคนปากแข็งเอาไว้
“อะไรของแกฮยอกแจ” ซองมินพูดแล้วเบี่ยงตัวจะเดินหนีแต่ผมขวางเอาไว้
“ฉันเป็นเพื่อนแกนะ” คำว่าเพื่อนทำให้คนที่อยู่ตรงหน้าผมปล่อยโฮออกมา จนผมอดแปลกใจไม่ได้แต่ที่ทำได้ตอนนี้คือกอดปลอบเท่านั้นก่อนจะพากันเดินออกมาในที่ลับตาคน
“ไหนแกบอกฉันมาสิ”
“ฉันรักเค้า รักเค้าข้างเดียว แต่เค้ากลับมารักแกฉันไม่รู้จะทำยังไง” คนพูด พูดไปพร้อมกับน้ำตาที่ไหลรินลงมา ส่วนผมได้แต่นั่งฟังอึ้งๆ
“เค้าของแกนี่รุ่นพี่คยูฮยอนใช่ไหม” ผมถาม คนถูกถามเพียงพยักหน้ารับน้อยๆ
“เค้ายังไม่ได้รักฉันนะ ฉันคิดว่าคงน่าจะเป็นแค่ความประทับใจมากกว่า” ผมพูดไปตามที่คิด
“แต่...”
“แกเคยบอกเค้ารึยังล่ะ แกเคยแสดงให้เค้าเห็นไหมว่าแกรักเค้า” ผมถาม ซองมินได้แต่ส่ายหน้าเป็นการปฏิเสธ โธ่เอ้ย...คนที่เก่งไปซะทุกเรื่องกลับมาตกม้าตายง่ายๆแบบนี้เนี่ยนะ
“เฮ้อ ฉันว่านะฉันอยู่เฉยๆไม่ได้แล้วล่ะ” ผมพูดขึ้นพร้อมกับลุกขึ้นยืนเพื่อไปทำหน้าที่เพื่อนที่แสนดี
“ดงเฮ” ผมส่งเสียงเรียกร่างสูงที่เพิ่งเดินออกมาจากห้องเปลี่ยนเสื้อ ทำให้คนถูกเรียกเดินเข้ามาหาผมงงๆ
“เราต้องช่วยกันแล้วล่ะ” ผมพูดแต่คิ้วเรียวของคนฟังกลับขมวดอย่างงุนงง
“จะเล่นอะไรแผลงๆอีกล่ะ” เสียงทุ้มพูดขึ้นพร้อมกับยิ้มน้อยๆที่มุมปาก จนผมต้องดึงร่างสูงให้ใบหูย่อลงมาอยุ่ในระดับปากของผมก่อนจะกระซิบบอกเรื่องราวทั้งหมด ซึ่งคนฟังก็เข้าใจเป็นอย่างดี ผมกับดงเฮเลยเริ่มแผนด้วยการที่ชวนซองมินกับรุ่นพี่คยูฮยอนออกไปทานข้าวหลังซ้อมที่ห้างสรรพสินค้าชื่อดังและตอนนี้เราทั้งสี่คนก็กำลังนั่งเผชิญหน้ากันอยู่ในร้านอาหารญี่ปุ่นชื่อดัง โดยที่ผมนั่งฝั่งเดียวกับดงเฮและซองมินนั่งฝั่งเดียวกับรุ่นพี่คยูฮยอน
------------------------------------------------------------------Katomnam Talk:
มาอัพแล้วค่า
หลังจากห่างหายไปนาน
มีใครรออยู่บ้างไหม
ความคิดเห็น