ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ]Love Point สะดุดรัก...พิกัดหัวใจ{HaeEun ft. sj}

    ลำดับตอนที่ #2 : !!POINT 2!!

    • อัปเดตล่าสุด 15 พ.ย. 53


    Chapter 2

     

    วันต่อมา...

                    “อะไรนะแกได้เข้าชมรมพิ้งกี้เหรอ” เสียงซองมินกระวีกระวาดถามผมขึ้นแทบจะทันที

                    ^^V” ผมไม่ตอบอะไรนอกจากพยักหน้ารับ

                    “อ๊า...เริ่ดมากแกฉันก็จะสามารถหาข่าวของชมรมดาร์กไอซ์ ได้ง่ายๆ แล้วสินะ อ๊า! ดงเฮที่รัก” o=.,=o อะไรที่รักๆ นะ ดงเฮที่รักงั้นเหรอ แหวะ! จะอ้วกไอ้เทพบุตรใจมารนั่นเนี่ยนะ เกลียดไอ้สายตากวนประสาทนั่นจนแทบอยากจะควักมันออกมาทิ้งซะ

                    “หมอนั่นไม่เห็นมีอะไรดีเลยหน้าตาก็งั้นๆ แหละ” ประชดครับท่านผู้อ่าน แต่เพื่อนรักหันมามองผมตาเขียวปั๊ด

                    “แกอย่ามาว่าพ่อสุดสวาทขาดใจของฉันนะ -..-

                    “เออ ขาดใจตายไปเลยแก” ผมพูดแล้วค้อนเพื่อนตัวแสบน้อยๆ

                    “ฉันไปชมรมดีกว่า เบื่อคุยกับแกแล้วเชอะ” ซองมินทำเสียงเชอะเป็นการแหย่เล่นก่อนเดินไป ผมจึงลุกขึ้นยืนแล้วเดินด้วยอารมณ์เซ็งสุดขีดเพื่อมุ่งหน้าไปยังห้องชมรมที่อยู่ทางฝั่งเหนือ ห้องชมรมที่ตั้งเด่นเป็นสง่าต้องขึ้นบันไดเกือบ 100 ขั้น! เพราะมันตั้งอยู่บนเชิงเขาที่คณบดีเงินเหลือสร้างมันขึ้นมาเองด้วยงบประมาณหลายล้านบาท

                    “อ้าว...นั่นมันไก่แห้งนี่นา” เอ๊ะ! OoO ผมหันกลับไปมองด้านหลัง เซเมะ 3 คนที่ยืนอยู่พร้อมรอยยิ้มละลายหัวใจดวงน้อยๆ ของผม ^O^ สวรรค์อันมีเทพบุตรมากมาย แต่...ใครบังอาจเรียกผมว่า ไก่แห้ง กัน

                    “เมื่อกี้พวกนายเรียกฉันว่าอะไรนะ - -V

                    “อ้าว...ไก่แห้งไง!” ตอบหน้าตาเฉยอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว

                    “ฉันไม่ได้ชื่อไก่แห้ง!!!

                    “อ้าว...ก็ดงเฮบอกว่านายชื่อนั้นนี่” หนอย! อีตาซาตานดงเฮเอ๊ย เดี๋ยวพ่อจะเตะให้

                    “จริงมั้ยซีวอน” >O< อยากจะกรี๊ดให้ภูเขาถล่มแผนดินทลายคนที่ยืนอยู่ข้างๆ อีตาคนปากเสียนั่นชื่อซีวอนหรอกเหรอเนี่ย แฮ่ๆ(น้ำลายไหล) ซีวอนยิ้มพร้อมกับพยักหน้ารับ >O< ช่างเป็นรอยยิ้มของจอมมารบูในดราก้อนบอลที่พร้อมจะละลายใจจริงๆ เลย

                    “แล้วนายชื่ออะไรกันแน่น่ะ”

                    “ฮยอกแจ - -

                    “คร้าบบบ ^-^ ผมชื่อคยูฮยอน นี่ซีวอน ยูชอน...” แล้วก็ร่ายยาวถึงเรื่องต่างๆในมหาวิทยาลัยจนสมองผมรับไม่ทัน พวกเขาคงจะเป็นนักศึกษาชั้นปีสองสินะ ผมคุยกับพวกหมอนั่นจนเดินขึ้นมาถึงบันไดขั้นที่หนึ่งร้อยอย่างไม่ยากเย็นนักทั้งๆ ที่เมื่อไม่กี่สิบนาทีก่อนผมยังเห็นว่ามันเป็นการวิ่งมาราธอนร้อยรอบอยู่แท้ๆ

                    “นี่แหละห้องชมรม” คยูฮยอนว่าอย่างอารมณ์ดีพร้อมกับผลักประตูบ้านใหญ่เข้าไป ด้านในถูกทาสีแบ่งออกเป็นสองส่วนคือสีดำ และสีขาวแต่ถูกเขียนภาพวาดประดับไว้อย่างสวยงามแล้วมันก็ใหญ่เท่ากับพระราชวังแวร์ซาย(เว่อร์ไปมั้ง) เอ่อ...เท่ากับห้องประชุมใหญ่ของมหาลัยที่จุคนได้เกือบพันคน

                    “พวกรุ่นพี่นายอยู่ที่ห้องสีขาว พวกเราไปก่อนนะ ^O^” คยูฮยอนว่าอย่างอารมณ์ดีแล้วเดินลอยหน้าลอยตาไปที่ซีกทางด้านสีดำ ผมหันมองรอบตัวอย่างตื่นๆ มันสวยได้ใจโคตรๆ ดูเหมือนสถาปัตยกรรมโมเดิร์นร่วมสมัย มีรูปถ่ายต่างๆ ติดไว้เกือบเต็มพื้นที่ผนัง

                    “ภาพงานประเพณีเมื่อ 10 ปีก่อน”

                    “ฉันไม่ได้ถามนาย” ผมตอบกลับทันทีที่รู้ว่าเป็นใคร

                    “อ้าว...ไก่แห้งพูดงี้ก็สวยดิ”

                    “อ้าว...สวยอยู่แล้วไม่รู้เหรอ!

                    “โถ่เอ๊ย! ไก่แห้งที่บ้านไม่มีกระจกหรือไงฮะ”

                    “โถ่เอ๊ย! นีโม่ล่ำนายดีกว่าฉันตรงไหน”

                    “แน่สิ ฉันดีกว่านายแน่~” หมอนั่นลากเสียงยาวพร้อมกับสาวเท้าเข้ามาใกล้ ผมรีบถอยหลังหนีเหมือนกันแล้วก็ชนเข้ากับผนังด้านหลังแต่ดงเฮไม่ปล่อยให้ผมรอดไปง่ายๆ หมอนั่นเท้ามือทั้งสองข้างไว้ที่ผนังกลายเป็นผมตกอยู่ในพันธนาการแทบจะทันที

                    “ไง...หนีไม่พ้นแล้วล่ะสิ ไก่แห้ง!

                    “ไม่ได้หนีโว้ย แค่ถอยมาตั้งหลัก”

                    “เป็นอุเคะพูดแบบนี้ไม่น่ารักเลยนะ อืม...เอาไงดีน๊า ไหนๆ นายก็หนีฉันไม่พ้นแล้วนี่” >O< พระเจ้า! ไอ้หมอนี่มันเลวสุดๆ ไปเลยอ่ะ ดงเฮทำท่าครุ่นคิดอยู่ครู่หนี่งก่อนจะยื่นหน้าเข้ามาใกล้กว่าเดิมอีก กลายเป็นหน้าของหมอนั่นอยู่ห่างจากผมแค่กระเบียด

                    “นายจะทำอะไรห๊ะ!

                    “ที่นี่เงียบก็เงียบ ผู้คนไม่ค่อยเดินผ่านไปผ่านมาหรอก ทำอะไรดีน๊า” ดงเฮว่าแล้วทำหน้าหื่นสุดๆ >O<

    OoO!!” หมอนั่นค่อยๆ เลื่อนริมฝีปากเข้ามาใกล้ ผมหลับตาปี๋ทำอะไรไม่ได้มากกว่าคิดคำด่าออกมาด่าไอ้ล่ำเขื่อนนั่น

                    “ไอ้เตี้ย ไอ้ล่ำ ไอ้คนไม่เป็นสุภาพบุรุษ ไอ้คนไร้มนุษยธรรม ไอ้คนไร้มารยาท ไอ้คนไร้ศีลธรรมจรรยาบรรณ ไอ้คนเรียนไม่เก่ง ไอ้คนนิสัยเสีย ไอ้คนชอบใช้กำลัง ไอ้คนชอบขู่บังคับ ไอ้...” ผมหยุดคำด่าลงเมื่อไม่รู้สึกถึงลมหายใจร้อนที่ปะทะข้างแก้มเมื่อครู่ หมอนั่นหายไปอย่างไร้ร่องรอยทิ้งเพียงเสียงหัวเราะเยาะเย้ยไว้เบื้องหลัง

                    กลายเป็นว่าผมด่าอากาศธาตุอยู่ตั้งเป็นนานสองนานเนี่ยนะ!

    “ไอ้บ้าเอ๊ย! นายได้เห็นดีกันแน่!” ผมตะโกนไล่หลังก่อนจะรีบเดินไปที่ทางซ้ายของห้องชมรม

                    “เมื่อกี้หลับตาด่าใครอยู่น่ะ” OoO พี่ฮีอลถามขึ้นแทบจะทันที

                    “เปล่านี่...-///-” ผมอ้อมแอ้มตอบมีคนเห็นด้วยเหรอเนี่ย ดีนะที่พี่ฮีอลไม่ค่อยสนใจอะไรนักก่อนจะลากผมเข้าไปร่วมโต๊ะกับหลายคนที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว พร้อมกับประกาศวาระการประชุมครั้งนี้

                    “ตอนนี้เราได้สมาชิกครบแล้วตามที่ฉันต้องการ และตอนนี้ก็เป็นช่วงของประเพณีการจับผิดแล้วด้วย การจับผิดจะเริ่มตั้งแต่หกโมงเย็นของวันนี้เป็นต้นไป ดังนั้นสมาชิกทุกคนที่รัก ได้เวลาแล้วที่เราจะกำชัยชนะเหนือหมู่มวล ดาร์กไอซ์ ทุกคน อันได้แก่...” -0- พี่ฮีชอลแกท่าทางจะเป็นเอามาก พูดเหมือนลอกจากเอาหนังเลยแฮะ

                    “นี่ชื่ออะไรเหรอ เราชื่อคีย์” จู่ๆ คนข้างๆก็ถามผมขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มอันเป็นมิตร

                    “ฮยอกแจฮะ” ผมตอบพร้อมยิ้มรับ

                    “นี่นายสองคนตั้งใจฟังที่ฉันพูดสิ!” พี่ฮีชอลหันมาโวยวายจนผมกับคีย์ต้องจบบทสนทนาลง

                    “ตอนนี้ได้เวลาที่เราจะส่งสายสืบเข้าไปอยู่ในหมู่หมวล ดาร์กไอซ์ แล้ว” พี่ฮีชอลว่าพร้อมกับหยิบโถดองปลาร้า เอ๊ย...โหลโบราณใบเขื่องที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางกว่า 1 เมตรออกมาตั้งตระหง่านอยู่กลางโต๊ะ แม่เจ้าพี่ฮีชอลแกพลังมหาศาลจริงๆ มีพี่แจจุงเป็นคนกางแผ่นกระดาษสีขาวออกมาทางด้านหลัง

                    บนนั้นมีรายชื่อของนายล่ำ คยูฮยอน ซีวอน และยูชอน ที่เรียงรายกันจนครบพร้อมรูปถ่ายแม้กระทั่งประวัติส่วนตัวชนิดที่เกลียดอะไรชอบอะไรมีอยู่จนครบ

                    “ตอนนี้เราจะใช้แผน One by One” พี่ฮีชอลบอกพร้อมกับล้วงมือลงไปในโหล

                    “ชื่อคนที่จับได้คนแรกจะต้องตามติดชนิดที่ห้ามละสายตาจากเป้าหมายที่ 1 เลยแม้แต่วินาทีเดียวคนนั้นได้แก่ แทน แท่น แท๊น....”

                    “เรียวอุคจ้า” ผมหันมองตามคนอื่นๆ ไปยังคนที่เรียบร้อยหวานเจี๊ยบ! ที่นั่งอยู่มุมด้านหลัง

                    “ไม่เอาเปลี่ยนคน =.,=” พี่ฮีชอลพูดเองเออเองเสร็จสรรพหันมาจับใหม่แทบจะทันที คนอยู่เกือบ 2 ชั่วโมงก็จับใบใหม่ขึ้นมาได้ซะที แต่อยู่ๆ พี่ฮีชอลก็หยิบเอาโหลนั่นปาทิ้งออกนอกหน้าต่างไปซะเฉยๆ

                    “ไม่เอาเปลี่ยนใจ งั้นเลือกเลยแล้วกันว่าใครอยากจับผิดใคร”

                    “ผมขอดงเฮฮะ” เอ๊ะ! คีย์ที่นั่งอยู่ข้างๆ ผมพูดขึ้นสร้างความฮือฮาให้ในชมรม พี่ฮีชอลยืนทำหน้ายู่

                    “ไม่เอาอ่ะ ดงเฮให้ฮยอกแจดีกว่า” >O< พระเจ้า! ไม่เอา แต่ดูเหมือนเป็นตลาดซื้อขายเซเมะเลยแฮะ

                    “ไม่เอาเหมือนกัน ผมเอาซีวอน ^O^” ผมตอบกลับ พี่ฮีชอลยืนทำหน้ายู่กว่าเดิมก่อนจะทำเสียงเชอะแชะแล้วเดินบิดก้นงอนงามของเขาหายไปในมุมที่มีกองกระดาษสีขาวที่กองอยู่บนโต๊ะ ไม่นานนักก็ออกมาพร้อมกับกระดาษกว่าร้อยแผ่น เรียกได้ว่ามันปึกใหญ่โคตร

                    “เอาๆ เลือกใครเลือกไปเลย แต่คนที่เลือก คยูฮยอน ซีวอน ดงเฮ ยูชอน ต้องไปสมัครเป็นผู้จัดการชมรมบาส เพื่อหาเวลาใกล้ชิดได้มากยิ่งขึ้น รวมไปถึงทุกคนต้องไปลงเรียนวิชาเลือกของนักเรียนชั้นปี 2 อย่างน้อย 2 หน่วยกิต” หา...O-O พี่ฮีชอลมัน 2 หน่วยกิตเชียวนะ! นี่พี่ฮีชอลจะฆ่าพวกผมหรือไงมันเท่ากับ 4 ชั่วโมงต่อสัปดาห์นะ

                    “โอ๊ะๆ ฉันคิดอะไรออกแล้ว เรียกชื่อกันเฉยๆ ไม่เห็นเหมือนการสืบเลยแฮะ อืมม์คิดโค้ดลับดีกว่า”

                    >O< นี่จะคิดอะไรแผลงๆ อีกมากไหมเนี่ย


    --------------------------------------------------

    Katomnam Talk:

    อัพค่า

    ไม่ได้รอกันนานใช่ไหมล่า

    คิกๆๆๆ

    กเม้นท์ขึ้นเร็ว  ต้มดีใจอัพเลย

    รักต้มแล้วใช่ไหมล่า

    รักทุกคนนะคะ

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×