ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [Fic SJ]Love Point สะดุดรัก...พิกัดหัวใจ{HaeEun ft. sj}

    ลำดับตอนที่ #1 : !!POINT 1!!

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 1.75K
      3
      13 พ.ย. 53

    ผม อีฮยอกแจ กำลังยืนอยู่หน้ามหาวิทยาลัยเอกชนอันมีชื่อเสียงโด่งดังขั้นรุนแรงมากถึงมากที่สุด มหาวิทยาลัยริชเชอร์มหาวิทยาลัยที่จะรับเฉพาะนักเรียนที่หน้าตา และฐานะดีเท่านั้น! บริเวณมหาวิทยาลัยเป็นสวนประดับ 4 ฤดูกาลพร้อมโฮมเทียร์เตอร์ประจำห้องพักแต่ละห้อง

                    ซึ่งมันไม่ได้บรรยากาศเด็กหอซักนิด = =V

                    “ฮยอกแจแกจะทำหน้าบูดไปถึงไหน ที่นี่ออกจะหรูเลิศอลังการงานสร้างขนาดนี้” เออ! ดีมากเลยนะ ดีตายเลยที่ต้องมาเรียนกับเพื่อนร่วมชั้นปีที่มีแต่อุเคะ!!! T_T แล้วผมจะน่ารักไปเพื่อใครถ้าไม่ได้อวดใครให้น้ำลายหยดกันล่ะห๊ะ!

                    ไอ้มหาวิทยาลัยบ้านี่มีเกณฑ์การรับนักศึกษาประหลาดมากถึงมากที่สุด คือ แต่ละปีจะรับนักศึกษาสลับกันโดยปัจจุบันปี 4 คือเซเมะ ปี 3 คืออุเคะ ปี 2 คือเซเมะ และแน่นอนปี 1 ก็อุเคะดวงกุดซวยซ้ำซากอย่างผมไง ถ้าแม่ไม่บอกว่าจะไม่ยกมรดกให้ถ้าผมไม่เข้าเรียนที่นี่ผมก็ไม่ยอมเข้ามาเรียนให้ประสาทเสียหรอก

                    “ฮยอกแจเดี๋ยวฉันจะไปซื้อน้ำแกรออยู่แถวนี้ก่อนนะ”

                    “อืม =.,=” ผมตอบซองมินอย่างเซ็งๆ ก่อนจะเดินไปบนทางเดินสีขาวสะอาดที่ประดับตกแต่งด้วยรูปปั้นในเทพนิยายกรีกตลอดเส้นทางที่ยาวผ่านไปยังสวนด้านตะวันออกและด้านตะวันตก โดยทิศตะวันตกจะติดกับทะเล ทิศตะวันออกจะเป็นเทือกเขาสูงที่ทุ่มทุ่นหลายสิบล้านเพื่อสร้างขึ้น

                    มันมหาลัย แน่เหรอเนี่ย = =

                    ไม่ทันที่จะก้าวเดินต่อก็มีมือลึกลับลากผมเข้าไปในห้องที่มืดสนิท

                    “อ๊าก! >O<...อุบ” ผมร้องลั่นก่อนจะถูกมือปริศนานั้นอุดปากผมไว้แน่น ไม่นานนักไฟนีออนสีขาวก็ถูกเปิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ห้องทั้งห้องเป็นสีชมพูแป๋มีลายคิตตี้ประดับไว้อย่างมากมายมันลายพล้อยเหมือนคนที่ทำห้องนี้ขึ้นมาจะมีสติไม่สมประกอบ ทุกอย่างในห้องเป็นสีชมพูไม่เว้นแม้แต่เจ้าแมวเปอร์เซียตัวกลมที่นอนขดอยู่

                    “คนนี้น่ะเหรอ”

                    “ใช่ๆ น่ารักไหม”

                    “อืม...ผ่านๆ เอาไปวัดตัวสิ”

                    เดี๋ยว!!! พูดเรื่องอะไรกันอยู่เนี่ย OoO ผมพยายามปรับสายตาให้เข้ากับไอ้สีชมพูบ้าบอนั่นอย่างเต็มที่ อุเคะน่ารัก 5 คนล้อมผมอยู่ แต่ละคนสวยหยาดฟ้ามาเหว ไม่ทันที่ผมจะถามอะไรก็ถูกจับไปวัดความสูงกับไอ้แท่นวัดความสูงสีชมพูแสบตานั่น

                    170 เซ็นต์”

                    “อืม...สูงใช้ได้”

                    แหงล่ะ -.,- พ่อแม่ผมให้มาดีนะ ไม่นานนักสายวัดสีชมพูก็ถูกมาวัดรอบตัวผม

                    “รอบอก 30

                    “เล็กไปหน่อยนะ ที่จริงมาตราฐานชมรมต้อง 32 นะ” = =V นี่! ใครจะอกตู้มอย่างกับผู้หญิงแบบนั้นล่ะ

                    “เอว 25

                    “นี่คนหรือไม้กระดาน” หนอย! อย่ามาวิจารณ์รูปร่างของผมนักนะ เดี๋ยวพ่อเลาะฟันออกให้หมดเลยสิ

                    “สะโพก 32

                    “จุนซู แกเอาตาไปดูไม้กระดานมาทำไมเนี่ย”

                    “น่ารักดีออก อีกคนเถียงกลับมา= =V

                    “เอ้าๆ ยินดีต้อนรับเข้าชมรมพิ้งกี้ เรดี้ วี๊ดวิ้ว กิ๋วกิ้วนะจ๊ะ” o=.,=o หา! ชมรมอะไรนะ

                    “ชมรมอะไรนะ” ผมถามกลับก่อนที่คน 5 คนจะเรียงตัวกันทำท่าพร้อมกับพูดทีละคน

                    “พิ้งกี้...เรดี้...วี๊ดวิ้ว...กิ๋วกิ้ว” แล้วจบด้วยท่าโชว์แผ่นอกขาวๆ! พระเจ้า  >O<

                    “ชมรมของเราเป็นชมรมที่คัดเฉพาะอุเคะหน้าตาดีชั้นปีละ อ่า ตามใจเราน่ะ” แล้วไงผมไปเกี่ยวอะไรด้วย! “แต่ละปีจะมีงานประเพณีการจับผิดระหว่างชมรมเรากับชมรมเซเมะหน้าตาดี ถ้าชมรมไหนแพ้ต้องฟังคำสั่งชมรมที่ชนะ ปีที่แล้วพวกเราชนะจึงไล่เจ้าพวกนั้นออกไปทำให้ปีนี้เราได้เปรียบเห็นๆ”

                    “แล้วเกี่ยวอะไรกับผมอ่ะ = =V” จะตบจะตีจะจับผิดใครมันเกี่ยวกับผมไหมเนี่ย

                    “ก็นายคือ สมาชิกของชมรมในปีนี้สิ” OoO สมาชิก ผมเนี่ยนะ!

                    “จุนซูจะให้น้องชื่ออะไรดีล่ะ เออลืมแนะนำตัวไป มายเนมอี๊ด...”

                    “ชื่ออี๊ดเหรออ่ะ =.,=

                    “จะบ้าเหรอ! ฉันชื่อฮีชอลเป็นประธานชมรม” คนที่ชื่อพี่ฮีชอลนั่นเป็นคนที่ดูแรงที่สุด โพสต์ท่าเท้าโต๊ะโชว์ ความเป็นใหญ่ตามด้วยอีกหลายคนที่แนะนำตัวจนผมจำไม่ได้คนสุดท้ายคือเรียวอุคที่มี ความเป็นใหญ่น้อยที่สุด

                    “แล้วผมจำเป็นต้องเข้าชมรมด้วยเหรอ” ผมถามออกไปงงๆ

                    “จำเป็น” เสียงหลายเสียงตอบพร้อมกัน

                    “ผมไม่เข้า!” ผมยืนกรานเสียงแข็งพร้อมกับเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย ชมรมที่มีแต่อุเคะบ้าๆ ใครจะเข้ากัน

                    “นายไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธหรอกนะชิคกี้ ^-^” พี่ฮีชอลคนที่บอกว่าเป็นประธานชมรมเดินเข้ามาหยิกแก้มผมแล้วพูด

                    ปังๆๆๆ   เสียงทุบประตังขึ้นขัดจังหวะการสนทนา พร้อมกับร่างสูงที่ก้าวเข้ามาในห้อง ผมยืนตะลึงมองบุคคลมาใหม่อยู่กับที่ คิ้วเรียวพาดเฉียงที่ทำให้ดูกวนประสาทนิดๆ นั่นรับกับจมูกโด่ง ริมฝีปากบางเฉียบ อะไรก็ไม่เท่าผิวเนียนที่ผมยังอิจฉาอีกล่ะ

                    “นายมีธุระอะไร ไม่ทราบ = =V” คนที่ผมเห็นเพื่อนๆเรียกว่าอีทึกออกปากถามผู้มาเยือน ส่วนอุเคะที่เหลืออยู่ในห้องต่างลุกขึ้นมายืนด้วยใบหน้าจริงจัง โห OoO นายนี่เก่งแฮะ ทำให้สติคนบ้ากลับคืนได้ด้วย ส่วนผมน่ะเหรอ ยืนเอ๋อ รับประทานอยู่ตรงกลางระหว่างคนติ๊งต๊องกับเทพบุตรคนนั้นน่ะสิ

                    “เหอะ ปีนี้คงได้สมาชิกครบแล้วสินะชมรมพิกกี้ ^-^” ผู้มาเยือนแค่นยิ้ม       

                    “ชมรมฉันชื่อ พิ้งกี้ไม่ใช่ชมรมหมูที่นายเรียกโว้ย = =V” พี่ฮีชอลเถียงขึ้นหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดงจัดด้วยความโกรธ ไปโกรธกันมาตอนไหนนะ o.o

                    “หรือให้เรียกว่าชมรมดิ๊กกี้ ดีล่ะ อย่าบอกนะว่าปีนี้อุเคะขาดแคลนมากขนาดที่นายต้องเอา ไก่แห้งๆมาเป็นพวก” นายนั่นพูดแล้วหันมามองผมตั้งแต่หัวจรดเท้า หนอยไม่ใช่เทพบุตรแล้วโว้ย ไอ้ซาตานบ้า ว่าใครเป็นไก่แห้งห๊ะ!

                    “มีสิทธิ์อะไรมาว่าฉัน นายมันก็แค่ไอ้ล่ำเดินได้เท่านั้น” ผมก้าวขึ้นมาประจันหน้ากับหมอนั่นทันที

                    “นายว่าไงนะ =.,=” นายนั่นพูดแล้วจ้องผมตาเขม็ง มีเหรอผมจะกลัว รู้จักฮยอกแจน้อยเกินไปแล้วนะ

                    “ถ้านายไม่ได้ยิน ฉันจะประกาศออกไมค์ให้ แล้วถ้ายังไม่ได้ยินอีกฉันคิดว่านายคงจะพิการทางหูหรืออาจจะพิการทางจิตใจไปแล้ว ฉันจะได้ส่งเสียเศษเงินพานายไปบำบัด” ผมพูดเย้ยๆ แล้วใช้หางตามองร่างสูงที่กำลังกำมืออย่างระงับอารมณ์เต็มที่

                    “นี่นาย!

                    “ฉันชื่อฮยอกแจ จำใส่สมองที่ไม่ค่อยมีของนายไว้ซะ ส่วนชื่อของนาย นายไม่จำเป็นต้องบอกฉันเพราะว่า หนึ่งฉันไม่อยากรู้และสองมันจะมารกสมองของฉันเปล่าๆ ถ้าไม่มีธุระอะไรก็ขอเชิญเลยแล้วกัน ^O^ “ ผมร่ายยาว แต่ก็ต้องชะงักลงเมื่อหมอนั่นดันไหล่ผมให้เข้าไปติดกับผนังพร้อมกับโน้มคอลงมาใกล้ๆ

                    OoO!!

                    “พูดได้ดีนี่นา... ปากอย่างนี้น่าจะปิดให้เงียบ” อ๊ากส์! ไอ้บ้าออกไปห่างๆ เลยนะ

                    “ฮ่ะๆ ไก่แห้งอย่างนายไม่เห็นน่าสนใจซักนิด” หมอนั่นว่าแล้วล่าถอยออกไปอย่างใจหายใจคว่ำทั้งๆ ที่เมื่อกี้หมอนั่นเกือบขโมยจูบแรกของผมไปแล้ว TTOTT แง้...ไอ้บ้าคอยดูนะ

                    “ฉันรอคอยจะชนะพวกนายจนอดใจไม่ไหวแล้ว” หมอนั่นว่าแล้วเปิดประตูออกไป ทันทีที่ประตูนั้นปิดลงเสียงปรบมือก็ดังขึ้นทำให้ผมที่มัวแต่ยืนอึ้งหันไปค้อมรับน้อยๆ เหมือนได้รางวัลออสก้าไม่ก็ดารานำของเทศกาลภาพยนตร์ที่กรุงโรมอะไรเถือกนั้น

                    “จุนซู แกเลือกได้ดีมาก” พี่ฮีชอลหันไปพูดกับคนข้างๆ

                    “คนนั้นชื่อ ดงเฮ เป็นประธานฝ่ายชายที่ตอนนี้เหลือแค่ไม่กี่คน” พี่ฮีชอลหันมาพูดกับผม ผมพยักหน้ารับก่อนที่จะตัดสินใจได้ว่า ผมจะต้องล้างแค้นที่นายนั่นมาว่าผมให้ได้

                    “การอยู่ชมรมต้องทำอะไรบ้าง” ผมถาม

                    “ต้องเข้าชมรมทุกเย็นวันละหนึ่งชั่วโมง แต่ว่าห้องชมรมของเมะกับเคะจะรวมกันอยู่ทางสวนฝั่งเหนือ เป็นห้องที่สะดวกสบายและใหญ่พอสมควร ชอบประดับรูปภาพไม่สวยอยู่รอบๆ แต่แบ่งสัดแบ่งส่วนกันด้วยสีดำและขาว” หนึ่งในรุ่นพี่อีกคนพูดขึ้น แต่ผมจำไม่ได้หรอกว่าชื่ออะไรจำได้แต่หัวกับท้ายเท่านั้น ความจำปลาทองอันแสนสั้นอย่างผมจำได้แค่นี้ก็บุญแล้ว ^^”

                    “นั่นหมายความว่า

                    “ใช่จ้ะ นี่ไม่ใช่ห้องชมรม ห้องนี้เคยเป็นเซฟเฮ้าส์ของพวกเราแต่ว่าดงเฮมันดันหาจนเจอ เอาเป็นว่า ชมรมเรายินดีต้อนรับนะจ้ะ” พี่ฮีชอลพูดขึ้นแล้วเดินเข้ามากอดผมเบาๆ  >O<

                    ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัยของผม จะเป็นยังไงต่อไปล่ะเนี่ย


    -------------------------------------------------------------------------------------

    Katomnam Talk:

    กรี๊ดๆๆๆๆ

    เอามาลงอีกเรื่องแล้วค่า

    ใครจะมาเจิมกันเนี่ย

    คู่หวานอีกคู่ของน้องฮยอกแจ

    เฮอึน  คิกๆๆๆ

    เม้นท์เป็นกำลังใจหน่อยนะคะ

    จะได้ไม่ดอง

    รักทุกคน

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×