Love Recipe ตอน 3 : ไหนว่าจะไม่รัก

เรื่องนี้เป็นภาคต่อจากสูตรรักหักคานนะคะ

..................................................................................................................................................................

วายุ นอนลืมตาอยู่บนเตียงใหญ่ในห้องนอนของตัวเอง ในขณะที่แขนก่ายอยู่ที่หน้าผาก อันที่จริงเขานอนท่านี้มาเป็นอาทิตย์แล้วตั้งแต่กลับจากงานเลี้ยงฉลองแต่งงานของแดนนี่กับรดามณี จะว่าไปอาการนอนไม่หลับมันคงไม่ได้เกิดจากมัวแต่พะวงกับอาถรรพ์จากช่อบูเก้ของเจ้าสาว ที่ใครได้รับก็อาจจะได้แต่งงานเป็นรายต่อไป แล้วไอ้ดอกไม้ช่อนี้มันดันลอยละลิ่วมาตกอยู่ในมือของเขาเองพร้อมกับผู้หญิงคนหนึ่ง ที่ถูกเหล่าสาวโสดเบียดจนเสียหลัก เซถลาตามช่อดอกไม้เข้ามาในอ้อมแขน เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวๆ ที่พลาดหวังจากช่อดอกไม้จนลั่นห้องจัดเลี้ยง ในขณะที่เขาร้องโอ้ย! เพราะโดนแม่คุณเหยียบเท้าเข้าอย่างจัง

“ขอโทษค่ะ!”

คำขอโทษสั้นๆ ก่อนที่เจ้าหล่อนจะดันตัวเองออกจากอ้อมแขน เขายังจำหน้าตาตื่นตระหนกของเธอได้ รวมถึงกลิ่นผมที่บังเอิญได้สูดดมเพียงเสี้ยววินาที แล้วผู้หญิงคนนี้ก็ไม่ใช่คนอื่นคนไกล เธอชื่อ ภีรดา เป็นน้องสาวคนเดียวของรดามณี!

แต่การได้กอดน้องเมียเพื่อนโดยบังเอิญไม่ใช่เรื่องใหญ่เท่ากับ เซอร์ไพรส์ที่แม่เจอเพื่อนรักโดยบังเอิญในงานแต่งงานของแดนนี่ เพื่อนรักของแม่ที่บังเอิญเป็นแม่ของรดามณี! เป็นแม่ยายของแดนนี่!

            เพื่อนรักที่โผเข้ากอดกันร้องไห้แบบไม่กลัวเครื่องสำอางเลอะหน้า เพื่อนรักที่ได้จับมือกันครั้งแรกในรอบสี่สิบปีหลังจากเรียนจบวิทยาลัยการฝึกหัดครู แล้วต่างแยกย้ายไปเป็นครูที่บ้านเกิดของตัวเอง ก่อนจะขาดการติดต่อกันไปเมื่อแม่ของเขาแต่งงานแล้วย้ายตามไปอยู่กับพ่อที่อังกฤษ

            วายุนั่งฟังเพื่อนเก่าสองคนไต่ถามสารทุกข์สุขดิบกันตั้งแต่งานเริ่มจนงานเลิก แต่ลำพังแค่เพื่อนเก่าเพื่อนแก่ได้เจอกันมันคงไม่ใช่เซอร์ไพรส์อย่างที่สุด แต่เหตุผลที่ทำให้เขาต้องมานอนก่ายหน้าผากอยู่อย่างนี้ก็เพราะ หลังจากเพื่อนรักวัยดึกนัดกันไปไหว้พระชอปปิงที่ฮ่องกงตามประสาคนแก่ แต่ดันกลับมาพร้อมของฝากลูกๆ เป็นคำทำนายจากซินแสชื่อดัง!

คำทำนายที่ว่าภีรดาคือผู้หญิงแกร่งดั่งหินผา หากวายุได้แต่งงานกับเธอชีวิตของเขาจะเจริญรุ่งเรืองและมั่นคงยิ่งกว่าเสาตอม่อสะพานข้ามแม่น้ำเจ้าพระยา! คำทำนายที่ทำให้คุณหญิงชื่นจิตรรีบถอดแหวนเพชรเม็ดงามจากนิ้วส่งให้เพื่อนรัก สู่ขอภีรดามาเป็นลูกสะใภ้ต่อหน้าซินแสทันที แล้วมันบ้าตรงที่น้าอัมพรดันตกลง!

‘รับแหวนเท่ากับรับหมั้นแล้ว’ ซินแสสรุปปิดจ็อบ!

“บ้าไปแล้ว! ผมจะไม่มีวันแต่งงานเพราะใครก็ไม่รู้มาบอกให้แต่งหรอกนะแม่”

“ทำไม น้องไม่น่ารักเหรอ”

วายุกัดกรามแน่นเมื่อเห็นรอยยิ้มกลั้วหัวเราะของแม่ที่ทำราวกับว่าเห็นความโมโหของเขาเป็นเรื่องน่าขำ “ไม่น่ารัก! แล้วผมก็ไม่ชอบเด็ก!”

            “เรื่องเยอะจังนะ เอาเถอะตอนนี้อาจจะไม่ชอบ อยู่ๆ กันไปเดี๋ยวก็ชอบกันเอง แล้วแม่ขอเตือนเอาไว้เลยนะ ช่วงที่น้องมาอยู่ที่นี่อย่างี่เง่ากับเขาให้มากนัก ถ้าน้องเปลี่ยนใจไม่แต่งขึ้นมาแกได้มีเรื่องกับฉันแน่”

            “เด็กนั่นจะมาอยู่ที่นี่เหรอ!”

            “ใช่ น้องจะมาเรียนแพทย์เฉพาะทางแปดเดือน แม่เลยให้เขามาอยู่ที่นี่ จะได้สนิทกันเร็วๆ แล้วแกห้ามเรียกน้องว่าเด็กนั่นให้ฉันได้ยินอีกนะ เขาเป็นคู่หมั้นของแกให้เกียรติน้องหน่อย”

            “ฮึ ต้องให้เกียรติด้วยเหรอ ผมยังไม่ได้ตกลงอะไรด้วยซะหน่อยก็รีบย้ายมาอยู่บ้านผู้ชายแล้ว ผู้หญิงหน้าไม่อาย”

            “เฮอะ พูดอย่างกับว่าตัวเองดีนักนี่” ชื่นจิตรลุกขึ้นจากโต๊ะอาหารเพราะเบื่อคุยกับลูกชายเต็มที ก่อนจะชะงักเท้าเมื่อนึกอะไรขึ้นได้ “แม่จัดห้องให้น้องอยู่ติดกับห้องแกนะ ถ้าแกจะเผลอเข้าห้องผิดแม่ก็ไม่ว่า จะได้รีบแต่ง รีบท้อง แม่อยากอุ้มหลานเร็วๆ”

            “ไม่มีทาง!” คนอย่างวายุ วรกาญจน์กุล ไม่มีวันยอมแต่งงานกับผู้หญิงที่เห็นหน้ากันแค่ครั้งเดียวเด็ดขาด อย่าว่าแต่เข้าห้องผิดเลย แค่ประตูห้องยังไม่อยากมองเลย

            แม้ตอนนี้จะได้ยินเสียงเหมือนใครเดินลากกระเป๋าผ่านหน้าห้องไป แล้วใครคนนั้นคงจะเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ผู้หญิงหน้าไม่อายที่รีบหอบผ้าย้ายมาอยู่บ้านผู้ชายตั้งแต่ยังไม่หมั้นกันอย่างเป็นทางการ! แล้วในฐานะเจ้าของบ้านถ้าไม่ออกไปดูน้ำหน้า ผู้อาศัย สักหน่อยคงเสียมารยาทแย่ ชายหนุ่มเหวี่ยงขาลงจากเตียงเดินไปเปิดประตูห้องนอน แต่แทนที่จะเห็นคู่หมั้น กลับเห็นเจ้าหน้าที่กู้ภัยยืนอยู่กับนวลจันทร์คนสนิทของคุณแม่

แล้วมันมีเรื่องอะไร ถึงมีเจ้าหน้าที่กู้ภัยมาอยู่ในบ้านตอนห้าทุ่ม!

            “มีเรื่องอะไรนวล!”

            “ไม่มีอะไรคะคุณลม คุณดาเธอเพิ่งมาจากอยุธยา นวลกำลังจะเปิดห้องให้เธอคะ”

            ชื่อที่ออกมาจากปากแม่บ้านทำเอาวายุกวาดตามองผู้หญิงในชุดเจ้าหน้าที่กู้ภัยสีขาวตั้งแต่หัวจรดเท้า

บ้าฉิบ! นี่เหรอภีรดา คู่หมั้นคู่หมายของเขา ไหนแม่ว่ายายนี่เป็นหมอ แล้วทำไมแต่งตัวเหมือนคนเก็บศพ!