NC

คำเตือนเนื้อหา

เนื้อหาของเรื่องนี้อาจมีฉากหรือคำบรรยายที่ไม่เหมาะสม

  • มีการบรรยายฉากกิจกรรมทางเพศ

เยาวชนที่มีอายุต่ำกว่า 18 ปี ควรใช้วิจารณญานในการอ่าน

กดยอมรับเพื่อเข้าสู่เนื้อหา หรือ อ่านเงื่อนไขเพิ่มเติม
ปิด
ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    ฮูหยินของข้า (Re-up)

    ลำดับตอนที่ #18 : บทที่ 10 (50%)

    • อัปเดตล่าสุด 7 ม.ค. 66


    เช้าวันต่อมา...

    เสียงการสนทนาอันแสนจะแผ่วเบาที่อยู่ห่างออกไปอีกสองห้องปลุกให้สือซานเหลียงตื่นขึ้นมาจากการหลับใหล หากเป็นคนทั่วไปนั้นคงจะไม่ได้ยิน แต่สือซานเหลียงที่มีพื้นฐานวรยุทธ์ที่แก่กล้าแล้วมันเป็นเรื่องปกติยิ่งนัก สำหรับเขาแล้วสิ่งเหล่านี้ก็แค่เสียงที่ผ่านหูไปเท่านั้น ดั่งว่าการสนทนานั้นไม่ได้เกี่ยวกับเขาอย่างสิ้นเชิง

    ท่านป้า แม่นางในห้องฝั่งโน้นนะหรือที่ช่วยคุณหนูลี่เอ๋อร์รอดมาจากประตูผีได้เสียงเด็กสาวนางหนึ่งเอ่ย

    หากไม่ใช่นางแล้วจะผู้ใดกันเล่า ฮูหยินนับถือนางมาก แต่ข้าว่านางไม่ใช่หมอผีเสียงนี้คือซินฝู

    ไม่ใช่หมอผีได้อย่างไรเล่า ก็ท่านบอกเองว่านางเป็นคนช่วยชีวิตคุณหนู

    ก็เมื่อคืนข้าได้ยินนางบอกกับฮูหยินว่า นางไม่ได้เก่งกาจขนาดนั้นและขอให้ฮูหยินปิดเรื่องนี้เป็นความลับด้วยหลังจากนั้นเสียงของซินฝูก็เบาลงเป็นกระซิบ ข้าว่าแท้จริงแล้วแม่นางเลี่ยงไม่ใช่หมอผี ส่วนท่านเหลียงผู้นั้นก็ไม่ใช่ญาติของนาง

    แล้วพวกนางเป็นอะไรกันเล่า ไม่มีความจำเป็นที่แม่นางเลี่ยงผู้นั้นต้องโกหกสักนิด

    พวกนางจะเป็นอะไรไปได้เล่า หากไม่ใช่คู่รักหนีตามกันมา

    คู่รักที่หนีตามกัน!”

    เสียงดังไปได้ เดี๋ยวพวกเขาก็ได้ยินกันพอดี

    ห่างกันตั้งสองห้อง เราก็คุยกันเบาอย่างนี้พวกเขาจะได้ยินได้อย่างไร แต่ท่านป้าจะยืนยันได้อย่างไรว่าสิ่งที่ท่านเอ่ยมาเป็นเรื่องจริง

    อย่าลืมว่าข้าอาบน้ำร้อนมาก่อนเจ้านะชุ่ยเอ๋อร์ จากการพูดจาท่าทางดูก็รู้แล้วว่านางเป็นลูกผู้ดีตกยาก

    แล้วอย่างไรต่อ

    คาดว่าบิดามารดาของนางคงจะบังคับให้นางแต่งให้กับคุณชายลูกผู้ดีหรือไม่ก็ลูกขุนนางบ้านใดบ้านหนึ่ง ท่านเหลียงผู้นั้นแท้จริงแล้วก็คงเป็นบ่าวในบ้านที่ทนเห็นคุณหนูของเขาถูกบังคับให้แต่งงานโดยไม่เต็มใจไม่ได้จึงยื่นมือเข้าช่วย

    แต่ไฉ่เอ๋อร์บอกว่าท่านเหลียงผู้นี้ท่าทางประหลาดหญิงสาวเอ่ยถึงสาวใช้คนสนิทของซย่าเจี่ยลุ่ย

    เมื่อคืนข้าไม่ได้เห็นหน้าเขา แต่ก็รู้สึกว่าเขาแปลกๆ ข้ามานอนคิดทั้งคืนจึงคิดได้ว่า ท่านเหลียงผู้นี้ตอนแรกคงจะไม่ได้ประหลาดเช่นนี้ แต่เพราะช่วยเหลือแม่นางเลี่ยงทำให้บิดาของแม่นางเลี่ยงไม่พอใจ เมื่อการช่วยเหลือไม่สำเร็จท่านเหลียงจึงถูกคนของบิดาแม่นางเลี่ยงทรมานจนเป็นเช่นนี้

    นั่นก็แค่ยื่นมือเข้าช่วยเหลือ ไม่เห็นจะเป็นคู่รักกันตรงที่ใด

    เจ้าไม่เข้าใจ ความสงสารเห็นใจเป็นบ่อเกิดแห่งความรัก แม่นางเลี่ยงคงทนเห็นท่านเหลียงถูกทำร้ายไม่ไหว นางเห็นใจเขาและเกิดเป็นความรักขึ้นมา เมื่อเห็นคนรักถูกทรมานไม่หยุดนางจึงตัดสินใจพาเขาหนีมาอย่างไรเล่า

    อาจจะไม่ใช่อย่างที่ท่านบอกก็ได้

    หากไม่เชื่อเจ้าก็คอยดูไปแล้วกัน แต่เรื่องพวกนี้ต้องปิดเป็นความลับรู้หรือไม่ ทั้งสองคนคงยังไม่ได้กราบไหว้ฟ้าดินกัน แม่นางเลี่ยงจึงไม่กล้าเอ่ยเต็มปาก ช่างน่าเห็นใจนักซินฝูส่ายหน้าน้อยๆ อย่างเห็นใจก่อนจะหันไปสั่งสาวใช้รุ่นลูก ไปๆ ป่านนี้พวกเขาคงใกล้ตื่นแล้ว เจ้ารับหน้าที่มาดูแลพวกเขาไม่ใช่หรือ รีบไปตักน้ำไปรอพวกเขาได้แล้ว

    เจ้าค่ะท่านป้า

    เสียงประตูเปิดและปิดก่อนที่เสียงอันน่ารำคาญเหล่านั้นก็เงียบลง ไม่นานแพขนขนตาบนใบหน้าพริ้มเพราที่เขามองอยู่ก็เริ่มขยับช้าๆ กระพือไหวคล้ายปีกผีเสื้อก่อนจะลืมตาขึ้นมาเผยให้เห็นดวงตาสุกใสที่ยังคล้ายงุนง่วงอยู่

    แต่แล้วดวงตาที่เพิ่งจะลืมก็เบิกกว้างรับแสงยามเช้าเข้ามาเต็มที่พร้อมกับภาพคนตรงหน้าที่อยู่ใกล้นางแค่คืบ

    สือ...นางเอ่ยได้แค่นั้นก็ลุกพรวดขึ้นมาขึงตาใส่คนที่นอนลืมตามองนางด้วยอาการตกใจและโมโหระคนกัน สำรวจเสื้อผ้าของตนเองก็เห็นว่าอยู่ครบ

    เพราะต้องนอนร่วมห้องกับบุรุษ เฟิงชิงถิงจึงไม่เคยถอดเสื้อนอกออกเวลานอน ส่วนสือซานเหลียงนั้นเขาไม่เคยสนใจเรื่องว่าจะมีเสื้อนอกหรือไม่มีเสื้อใส่อยู่แล้ว

    แต่ว่าเข็มของนางอยู่ที่ใดกันเล่า!?

    ในมือของนางว่างเปล่า ก้มหาตามเตียงแต่ก็ไม่เห็น จึงหันขวับกลับมาหาร่างใหญ่ที่ยามนี้ลุกขึ้นมานั่งเช่นเดียวกับนาง

    ท่านเอาเข็มของข้าไปใช่หรือไม่นางถามพร้อมกับยื่นมือไปหาเขาลืมเรื่องที่เขานอนอยู่บนเตียงของนางไปเสียสนิท เอาเข็มข้าคืนมา

    คนผู้นี้ทำให้ขมับของเฟิงชิงถิงเต้นตุบๆ ตั้งแต่เช้า เพราะสิ่งที่สือซานเหลียงยื่นมาให้ไม่ใช่เข็ม แต่เป็นหวีไม้อันหนึ่งต่างหาก

    ข้าไม่ได้หาหวี แต่หาเข็มของข้าต่างหากเฟิงชิงถิงวางหวีเอาไว้บนเตียง เริ่มมองหาเข็มของนางอีกครั้ง

    สางผมสือซานเหลียงก็ไม่ยอมแพ้ เขาหยิบหวีขึ้นมาแล้วยื่นให้นางอีกครั้ง

    ครั้งนี้เฟิงชิงถิงไม่สนใจ มองหาเข็มเล่มนั้นด้วยสีหน้ากระวนกระวาย เข็มชุดนี้สำคัญต่อนางมาก มันเป็นเข็มที่ท่านปู่มอบให้แก่นาง

    สางผมเสียงทุ้มดุดันขึ้น

    สือซานเหลียงเอาไว้ก่อน ขอข้าหาเข็มให้เจอก่อนแล้วค่อยสางผมให้ท่านนางหันไปบอกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าที่จริงแล้วเข็มหายไปตั้งแต่เมื่อใด อีกทั้งเขาก็สติไม่ดี แล้วนางจะโทษเขาได้อย่างไร เป็นนางเองที่ผิด นอนหลับโดยไม่รู้เรื่องรู้ราว

    สือซานเหลียงเห็นนางไม่สนใจก็ยิ่งไม่พอใจ ดวงตาคู่คมเข้มทอประกายดุร้าย เขาขว้างหวีทิ้งแล้วออกจากห้องไปทั้งที่ผมเผ้ายุ่งเหยิงเช่นนั้น

    แม่นางเลี่ยง ท่านเหลียง ไม่ทราบว่า ว้าย!” ชุ่ยเอ๋อร์ที่เพิ่งยกอ่างล้างหน้ามาถึงหน้าประตูถูกสือซานเหลียงชนจนล้ม น้ำที่ตักมาหกเลอะเทอะไปทั่ว แต่สือซานเหลียงหาได้สนใจสักนิด เขาเดินหัวฟัดหัวเหวี่ยงออกจากห้องไปอย่างไร้ทิศทาง

    โอย...ชุ่ยเอ๋อร์ครวญครางด้วยความเจ็บระบมที่ก้นกก นางพยุงตัวเองลุกขึ้นพร้อมกับเฟิงชิงถิงที่ได้ยินเสียงสตรีนางหนึ่งก็ออกมาดู

    เกิดสิ่งใดขึ้น

    แม่นางเลี่ยงชุ่ยเอ๋อร์ยิ้มเหยเกเพราะยังเจ็บไม่หาย ลุกขึ้นได้ก็รีบแนะนำตัว บ่าวชุ่ยเอ๋อร์เจ้าค่ะ เมื่อครู่คงเป็นท่านเหลียงสินะเจ้าคะ เขาชนข้า แต่ข้าไม่เป็นไรเจ้าค่ะ ฮูหยินสั่งให้ข้ามาดูแลความเรียบร้อยให้แม่นางเลี่ยงและท่านเหลียงเจ้าค่ะ พวกท่านต้องการสิ่งใดหรืออยากให้ข้าทำสิ่งใดบอกข้าได้เลยเจ้าค่ะ

    เฟิงชิงถิงรีบจูงสาวใช้หน้าตาจิ้มลิ้มเข้าไปในห้อง เช่นนั้นก็ดีเลย ช่วยข้าหาเข็มหน่อย

    เข็มหรือเจ้าคะชุ่ยเอ๋อร์แปลกใจ

    ใช่เข็ม เข็มของข้าหายไปเล่มหนึ่ง มันสำคัญต่อข้ามาก

    ได้เจ้าค่ะแม้ไม่รู้ว่าเป็นเข็มอะไรแต่ชุ่ยเอ๋อร์ก็ช่วยหาแต่โดยดี จำได้หรือไม่เจ้าคะว่าครั้งสุดท้ายแม่นางเลี่ยงไปวางไว้ที่ใด

    สตรีทั้งสองช่วยกันหาเข็มเล่มนั้นอย่างแข็งขัน แต่หากันได้ไม่นาน เสียงสตรีหลายคนก็หวีดร้องพร้อมกับเสียงคำรามเสียงดัง

    เฟิงชิงถิงหยุดหาเข็มมองหน้าชุ่ยเอ๋อร์ที่หันมามองนางพอดี

    ได้ยินเสียงร้องหรือไม่เจ้าคะชุ่ยเอ๋อร์ถามเพื่อความแน่ใจว่านางไม่ได้หูฝาด

    ฮื่อ...เสียงขู่ดังมาอีกครั้ง

    เฟิงชิงถิงรู้ทันทีว่าเสียงนั้นคือเสียงของสือซานเหลียง มีคนรู้ร่องรอยของเขาแล้วหรือ นางเลิกสนใจเข็มของท่านปู่ รีบวิ่งออกจากห้องพักตามเสียงคำรามและเสียงหวีดร้องไปอย่างรวดเร็ว

    รอข้าด้วยเจ้าค่ะแม่นางเลี่ยงชุ่ยเอ๋อร์รีบวิ่งตามด้วยความอยากรู้อยากเห็น

    เฟิงชิงถิงวิ่งไปตามเสียงหวีดร้องของสตรีหลายคนและเสียงขู่คำรามคล้ายสัตว์ป่าของสือซานเหลียง นางตรงเป็นยังเรือนอีกหลังหนึ่งที่มีประตูเปิดกว้างเกือบทุกด้าน ด้านในมีโต๊ะและเก้าอี้วางเรียงรายอยู่หลายชุด บนโต๊ะทุกตัวมีอุปกรณ์เย็บปักวางอย่างเป็นระเบียบ สะดึงที่ขึงผ้าเอาไว้ล้วนมีลวดลายปักที่ยังไม่แล้วเสร็จ อีกทั้งยังดูเหมือนพวกเขาจะทิ้งงานปักที่ทำเอาไว้กลางคัน

    ช่วยด้วย! เจ้าจะทำสิ่งใดอย่าเข้ามานะเสียงโวยวายดังมาจากมุมหนึ่งของเรือน

    เฟิงชิงถิงรีบตามเสียงไปอีกครั้ง และเมื่อวิ่งผ่านห้องปักผ้าเข้าไปนางก็เห็นว่าสตรีกลุ่มใหญ่กลุ่มหนึ่งต่างไปรวมกันอยู่ที่มุมห้อง พวกนางหน้าซีดตัวสั่นเกาะกันเป็นกลุ่มด้วยความหวาดกลัว

    ออกไปนะ เจ้าโจรร้าย ไม่รู้หรือว่าที่เมืองแห่งนี้มีมือปราบมากเพียงใด หากเจ้าทำอะไรพวกข้า อย่าคิดจะรอดจากมือปราบไปได้ซินฝูผู้ดูแลเรือนพักอยู่ด้านหน้าสุด ทำใจกล้าขู่กับโจรหน้าตาดุร้าย โดยไม่รู้ว่าเขาคือสือซานเหลียง

    เพราะเมื่อคืนสือซานเหลียงมีหมวกปิดบังใบหน้าตลอดเวลา ยามออกมาจากห้องหน้าตาเขาก็ดุดันอยู่แล้ว ด้วยใบหน้าที่มีหนวดรุงรังอีกทั้งผมก็ยังไม่ได้รวบ ดวงตาคู่ขวางกับอารมณ์ร้ายที่ยามนี้พอกพูนขึ้นจากสาเหตุบางประการทำให้ใบหน้าที่ดุร้ายดูโหดเหี้ยมจนคนเห็นจะคิดเป็นอื่นไปไม่ได้นอกจากมหาโจรในคราบเสือร้ายที่กำลังต้อนลูกแกะมากินทีละตัว

    เมื่อเข้ามาถึงสถานที่เกิดเหตุเฟิงชิงถิงทั้งตกใจและแปลกใจ ในนี้ไม่มีชาวยุทธ์มาล่าตัวสือซานเหลียง แต่นางเห็นเขากำลังคำรามอย่างดุดันใส่กลุ่มสตรีตรงหน้า เขาไม่เคยเป็นเช่นนี้มาก่อน

    สือ...อาเหลียงท่านจะทำอะไรนางเคยชินกับการเรียกเขาว่าสือซานเหลียง แต่เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อื่นนางจะต้องเรียกเขาว่าอาเหลียงแทน

    สือซานเหลียงตวัดสายตามามองนางเพียงครู่ก่อนจะจ้องกลับไปยังเหล่ากลุ่มสตรีต่างวัยด้วยแววตาที่ไม่ต่างกับมองศัตรู

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    นิยายแฟร์ 2024

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×