หัวใจของ..เขา..และ..เธอ..ดวงเดียว กัน
ความรักที่แท้จริงกับการสูญเสียคนรักไป
ผู้เข้าชมรวม
486
ผู้เข้าชมเดือนนี้
8
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
หัวใจของ..เขา..และ..เธอ..ดวงเดียว กัน
แนนๆ ใกล้วาเลนไท น์แล้วนะ....” จอย เพื่อนร่วมงานของแนนหันมาคุย ขณะแนนกำลังง่วนอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ที่โต๊ะตัวเอง“ อืม...วาเลนไทน์อีกแล้วสินะ” แนนเงยหน้าขึ้นสบตาจอยพลาง ยิ้มพูดเบาๆ วาเลนไทน์...14 กุมภาพันธ์ วันที่กุหลาบทั่ว โลกบานพร้อมกัน วันที่ความรักงอกงามได้เร็วกว่าทุกวัน และเป็นวันที่กามเทพแผง ศร ให้หลายๆคู่ได้สมหวัง แต่คงไม่ใช่แนน...เธอคนนี้แน่ นอน
ท่าม กลางความสับสนวุ่นวาย ความแออัดและตึกสูงในเมืองหลวง และเธอเองได้ย้อนเวลานึก ถึงอดีตและความทรงจำของตัวเธอ..มีหมู่บ้านจัดสรรเล็กๆกำลังก่อตัวขึ้น ก่อตัว ขึ้นพร้อมกับความรัก ความรักของเขาและเธอ“เธอๆ มาเล่นก่อกองทรายด้วยกัน มั้ย” เด็กผู้ชายตัวเล็กๆหน้าตามอมแมมกำลังนั่งเล่นบนกอง ทรายสูงท่วมหัว“เธอชื่ออะไร เราชื่อเอ” เด็กผู้ชายแนะนำตัวเองก่อน พลางกระโดดลงมาจากกองทราย“ฉันชื่อแนน” เด็กผู้หญิงแนะนำตัวเองบ้างพลางค่อยๆ นั่งลง ทั้งคู่ค่อยๆก่อกองทราย เด็กผู้หญิงวิ่งไปเอาน้ำมารดให้ทรายเปียกชุ่ม เด็กผู้ชายค่อยๆเอาเศษไม้เกลี่ยให้ดินทรายที่เปียกค่อยๆก่อตัวเป็นรูปเป็นร่าง จนได้เค้าโครงของปราสาททรายที่ต้องการ“เอ เดี๋ยวแนนประดับ ปราสาททรายเองนะ” เด็กผู้หญิงวิ่งมาพร้อมกับก้อนหินสีสวย ในกำมือ วางลงข้างๆปราสาททรายที่กำลังจะอวดโฉมออกมาเป็นรูปเป็น ร่าง“แนนๆ ตรงนี้เป็นห้องของแนนนะ ห้องของเจ้าหญิงงัย ส่วนตรงนี้เป็นห้องของเอ......อันนี้เป็นห้องประชุมนะ” เอ พูดพลางชี้ไปเรื่อยๆบนปราสาททราย.....กองทรายแห่งความฝัน“ เอๆ ต้องทำสวนดอกไม้ตรงนี้ด้วย เจ้าหญิงต้องมีสวนดอกไม้นะ” แนนพูดแย้งขึ้นพลางชี้ไปตรงด้านหน้าปราสาททราย“ แนนอยากได้สวนอะไร....อยากได้ดอกไม้อะไร” เอพูด เงยหน้า ขึ้นมองหน้าแนนอย่างใจจดใจจ่อ“เอาดอกอะไรดี...เอ ช่วยแนน คิดหน่อยสิ” แนนมองหน้าเอด้วยแววตาใสซื่อ เด็กตัวเล็กๆสอง คนกำลังสวมบทเจ้าหญิงและเจ้าชายกันอยู่“อืม...เจ้าหญิง ต้องเหมาะกับดอกกุหลาบนะ” เอพูดพลางทำท่า คิด “ตกลงๆ สวนดอกกุหลาบนะ เราจะทำสวนดอกกุหลาบที่ลานหน้า ปราสาทของเรา” แนนพูดพลางยิ้ม ค่อยๆเกลี่ยทรายให้เรียบ เพื่อทำเป็นลาน....ทั้งคู่สร้างปราสาททรายแห่งความฝันของพวกเขาอยู่นาน...นานจน กระทั่ง“เอ ไปได้แล้ว พ่อเสร็จงานแล้วลูก” เจ้าของโครงการบ้านจัดสรรเดินมาสะกิดลูกชายตัวเองเบาๆ “พ่อๆ ให้เอเล่นกันแนนอีกแป๊บนะ” ลูกชายออดอ้อนพ่อ ของตัวเอง “หน่า ไปได้แล้ว เดี๋ยววันหลังมาเล่นใหม่ก็ได้ นี่” พ่อของเขานั่งยองลง อธิบายให้ลูกชายฟังพลางลูบหัว เบาๆ “ตกลงครับ เดี๋ยวให้เอบอกแนนก่อนนะ” เด็กผู้ชายตัวมอมแมมพูดพลางวิ่งกลับหลังไปหาเพื่อนของ เขา “แนน เดี๋ยวพรุ่งนี้เอมาหานะ พรุ่งนี้เอจะเอาดอก กุหลาบมา มาทำสวนกุหลาบให้แนนนะ” เอพูดพลางชี้นิ้วลงตรง ลานหน้าปราสาททราย “ตกลงๆ พรุ่งนี้เจอกัน นะ” แนนยิ้มพูดพลางพยักหน้า เด็กสองคนเล่นกันช่างดูน่ารัก เสียนี่กระไร ทุกวัน เอและแนนจะมานั่งก่อปราสาททรายด้วยกัน ก่อสร้างความหวังบน มิตรภาพและความรัก ระหว่างลูกชายเจ้าของโครงการบ้านจัดสรรและลูกสาวนายช่าง ใหญ่ “แนนๆ เมื่อวานแม่เราสอนให้เราเขียนหนังสือด้วย แหละ” เด็กผู้ชายเสื้อผ้ามอมแมมคลุกฝุ่นและทรายเปียกเงย หน้าขึ้นมองเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆที่วิ่งเข้ามา “ไหนๆ แม่ ของเอสอนเขียนคำว่าอะไร” แนนถามด้วยสีหน้า ตื่นเต้น “แม่เอสอนเขียนหลายคำ แต่เอจำได้คำ เดียว” เอพูดพลางทำเสียงเศร้าๆ เอคงอยากจำทุกคำมาเขียนให้ แนนดู “เอจำคำไหนได้ เขียนให้แนนดูหน่อยสิ” แนนพูด เอค่อยๆก้มลงข้างๆกองทราย หยิบเศษไม้เล็กๆปักลงบนผืนทรายที่ เพิ่งผ่านฝนเมื่อคืนแล้วตวัดเป็นจังหวะเพียงชั่วครู่ ปรากฏเป็นตัวอักขระลายเส้น บิดพลิ้ว คำว่า “รัก” ปรากฏบนผืน ทรายราบเรียบที่เกาะตัวเหนียวด้วยหยดน้ำ เด็กตัวเล็กๆสองคนยืนมองด้วยความ ตื่นเต้น“อ่านว่าอะไร เอ” แนนพูด ด้วยสีหน้าตื่นเต้นและแปลกใจ “อ่านว่า รัก” เอพูดกระซิบข้างหูแนนเบาๆ “เหรอ อ่านว่ารัก เหรอ....สอนแนนเขียนหน่อยสิ นะๆๆๆ” แนนพูดพลางเกาะแขนออด อ้อนเอ “มานี่ๆ เอจะสอน” เอพูดพลาง หยิบเศษไม้เล็กๆให้แนนจับไว้ มือเอและมือแนนจับประสานกัน ตวัดบนกองทรายให้เกิด เป็นอักขระบิดพริ้ว “นี่ไง แนนเขียนได้แล้ว ดีใจจัง เลย” แนนพูดพลางหันหลังกลับไปกอดเอด้วยความ ดีใจ “มันแปลว่าอะไรเหรอ เอ” แนนยัง คงสงสัยไม่หายในความหมายของมัน “เอก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ แม่บอกว่ามันมีความหมายมากนะ มากจนอธิบายไม่ได้” ใช่สิ... ความหมายมันคงมากมายเกินกว่าเด็กห้าขวบจะรู้ หรือแม้แต่คนบางคนใช้เวลาทั้ง ชีวิต ก็ไม่อาจรู้ว่าคำว่ารักคืออะไร.... “สักวัน เราจะ รู้ความหมายมัน แม่เอบอก” เอพูดพลางหันไปมองแนน เด็ก ผู้หญิงตัวเล็กๆที่ยืนข้างๆตน “อืม สักวัน นะ” แนนพูดพลางหันมายิ้มให้กับเอ ใช่ สักวันแนนและเอคงรู้ ความหมายของมัน...... “โอ๊ย... เจ็บ”
เด็กผู้หญิงผม เปียพูดขึ้นพลางจับผมเปียของตัวเองด้วยสีหน้าเซ็งๆ เธอโดนเพื่อนแกล้งดึงเปียผม ของเธอประจำ “ใครดึงผมเปียแนน” เด็กผู้ชายนั่งข้างๆเธอหันขวับ กลับไปมองแทบจะพร้อมกันกับเจ้าของผมเปีย เห็นเด็กผู้ชายวัยเดียวกันสามคนนั่ง อยู่ข้างหลังหัวเราะกันคิกคักพลางชี้นิ้วมาที่ แนน
“ทำไมๆ ข้าดึงเอง จะทำไม” หนึ่งในเด็กสามคนพูดพลาง ชี้นิ้วเข้าหาตัวเอง “แกล้งผู้หญิง หน้าตัว เมีย” เอยืนขึ้นชี้หน้าด่า “แล้วจะ ทำไม” เด็กทั้งสามกรูกันมายืนหน้าเอ ถีบโต๊ะเรียนกระจัด กระจายคนละทิศคนละทาง “ไม่เอาเอ อย่าไปยุ่งกับพวก นั้น” แนนพูดพลางเกาะแขนเอไว้แน่น เอเอามือจับแขนแนนออก จากตัวทันที... ปั้ง...หนึ่งหมัดปล่อยออกไป คล้ายเป็นการประกาศสงครามของคน สองกลุ่ม ทั้งสามคนกรูเข้ามารุมเอคล้ายหมาป่ากำลังรุมขยุ้มเหยื่อโต๊ะเรียนที่ กระจัดกระจาย ข้าวของทั้งของเอและแนนตกกระจายเกลื่อนกลาดคนละทิศคนละ ทาง “หยุด!!” เสียงหนึ่งดังมาจาก ด้านหลัง...มีอำนาจมากพอจะทำให้ทั้งสี่คนหยุดการตะลุมบอนกัน “พวกเธอทำอะไรกัน อันธพาลกันใหญ่แล้วนะ” ครูประจำ ชั้นเข้ามาห้ามทัพหมาป่าขยุ้มเหยื่อ แม้จะห้ามทัพได้ แต่ก็ได้ปรากฏเลือดไหลซิบๆ ที่คิ้วและโหนกแก้มของเอ “เอ เจ็บมั้ย” แนนวิ่งเข้ามาทันทีที่ครูประจำชั้นเดินออกไป “ไม่ เจ็บหรอก” เอพูดพลางก้มหน้าหลบสายตาแนน “ไม่เจ็บอะไร เลือดไหลใหญ่แล้ว ไปห้องพยาบาลนะ แนนจะทำแผล ให้” แนนพูดพลางดึงตัวเอออกจากห้องเรียนไป เลือดไหลเป็น ทางลงมาจากคิ้วและโหนกแก้มเปรอะเปื้อนเสื้อนักเรียนสีขาวของเอ“โอ๊ย...เจ็บ อย่าจับสิ” เอพูดโพล่งขึ้นขณะที่แนน กำลังกดดูความลึกของบาดแผล...แต่แนนกลับยิ้มออก “โอ๊ย แสบ” เอโอดครวญด้วยความเจ็บปวดทันทีเมื่อแนนค่อยๆกดสำลี ชุบแอลกอฮอลงบนแผลของเอ “แสบก็ทนสิ อยากหาเรื่องเค้านี่ นา” แนนพูดพลางยิ้ม ค่อยๆเช็ดแผลบนใบหน้าของเอช้าๆอย่าง ระมัดระวังทุกครั้งที่มีคนแกล้งแนน เอจะยืดอกปกป้องแนนเสมอ แม้จะต้องเจ็บตัว หรือตกอยู่ในภาวะเป็นรองก็ตามที....
“แนนๆ แฮปปี้วาเลนไท น์นะ” ชายหนุ่มวัยรุ่นแต่งตัวภูมิฐานพูดห้วนๆพลางยืน กุหลาบแดงให้กับมือหญิงสาว “อีตาบ๊อง อย่ามาทำหวานใส่ฉัน หน่า” แนนพูดกวนๆพลางยิ้ม เอได้แต่ยืนม้วนด้วยความ อาย “อ้าว ก็วันนี้วันวาเลนไทน์ ทำหวานให้เจ้าหญิงของตัว เองสักหน่อยจะเป็นอะไรไป” เอพูดพลางยิ้ม ทำไมหนุ่มวัยรุ่น เวลาอายนี่ดูตลกดีแท้ ทั้งมือทั้งแขนแทบจะไม่มีที่เก็บ สงสัยถ้าแทรกแผ่นดินหนี ได้คงหนีหายไปแล้ว “หวานกับเค้าก็เป็นเหรอ เดี๋ยวนี้พัฒนา ขึ้นนะ” แนนพูดพลางยื่นมือไปหยิกจมูกเอด้วยความเขิน เอยัง คงพยายามสำรวมอาการเขินอยู่ “เอรักแนนนะ” เอพูดพลางจับมือแนนขึ้นมาเขียนรูปหัวใจไว้ที่ฝ่ามือ ตอนนี้แนนเริ่มหน้า แดงขึ้นบ้างแล้ว แต่ยังพยายามกลบเกลื่อนสีหน้าตัวเอง “ เหรอ....เขียนคำว่ารักตรงนี้ ดูไม่ซึ้งเลย” แนนพยายามบ่าย เบี่ยง ไม่เลิกแหย่เอ
“เดี๋ยวสักวัน เอจะเขียนไว้ตรงหัวใจแนนเลยนะ” เอ พูดประหม่า มองหน้าแนนพลางเอื้อมมือดึงตัวแนนเข้ามาโอบกอดไว้แน่น....สักวัน เอ จะเขียนคำว่ารักไว้ในหัวใจแนนเลย.....ใต้ต้นไม้ใหญ่ บรรยากาศร่มรื่น มีโต๊ะหิน อ่อนวางเรียงรายเป็นแนว มีนักศึกษาจับกลุ่ม บ้างคุยกัน บ้างอ่านหนังสือ บ้าง หยอกล้อกินขนมกัน...“เอ เย็นนี้แนนไปทำวิทยานิพนธ์กับ เพื่อนนะ” แนนพูดพลางเก็บ หนังสือ
“ไปทำวิทยานิพนธ์กับใคร” เอเงยหน้าขึ้นมองแนน ทันที “ไปกับกิ๊ฟกับฝนหนะ นะๆๆๆ” แนนพูดพลางเดินไปนั่งข้างๆเอ เขย่าแขนเหมือนเด็กอ้อนวอนผู้ใหญ่ “ให้เอไปส่งมั้ย เอว่างนะ” เอพูดพลางยิ้ม ลูบผมแนน เบาๆ “ไม่ต้องหรอก เดี๋ยวฝนเอารถมา” แนนพูดพลางซบหน้าลงบนบ่าของเอ “นี่ แล้วกินข้าว เสร็จแล้วอย่าลืมกินยาล่ะ เข้าใจมั้ย กลับถึงบ้านก็อย่าลืมโทรมาบอก ด้วย” เอพูดพลางจ้องหน้าแนนด้วยสีหน้าจริง จัง “ค่ะ หัวหน้า สั่งจริงๆเลย” แนน พูดพลางยิ้ม เอามือหยิกจมูกเอด้วยความเขิน “กิ๊ฟๆ แฟนแก เป็นงัยบ้าง” ฝนเอ่ยขึ้นท่ามกลางความเงียบภายในรถ ขณะที่ ตนอยู่หลังพวงมาลัย “ปวดหัวสุดๆ เจ้าชู้เป็นบ้า เลย” กิ๊ฟพูดปัดๆคล้ายกับไม่ค่อยพอใจในแฟนตัวเอง นัก
“ทำไมไม่เลิกๆไปสิ จะได้ไม่กลุ้ม” ฝนเสนอความเห็น มองหน้ากิ๊ฟผ่านกระจกมองหลัง “หน่า....ให้โอกาสสัก ครั้ง” กิ๊ฟพูดพลางซบหน้าลงที่กระจกหันหน้ามองออกนอกรถ ด้วยอาการเอือมระอา“โอกาสสักครั้ง รอบที่ ล้าน” เสียงหัวเราะดังขึ้นเกือบพร้อมกันทั้ง รถ “แล้วแนนล่ะ แหม...เจ้าชายเธอเอาใจเธอดี นะ” ฝนพูดขึ้นพลางหันไปมองแนนซึ่งนั่งอยู่ ข้างๆ “โอ๊ย รายนั้นไม่รู้กี่ปีแล้ว ยังจับไม่ได้สักทีว่า มีกิ๊กเก็บไว้ที่ไหน” แนนพูดยิ้มพลางหันไปมองหน้า ฝน “แปลได้สองอย่าง...ถ้าแฟนเธอไม่รักเธอคนเดียว เค้าก็ เก่งมากที่หลอกเธอมานานหลายปี” เสียงหัวเราะดังขึ้นแทบจะ พร้อมกันทั่วรถ “เอี๊ยยดดด.....” เสียงเบรกลากล้อดังยาวจากด้านข้างตัวรถ คนทั้งรถหันไปมองแทบจะพร้อมกัน รถบรรทุก ฝ่าไฟแดงพุ่งเข้าชนรถเก๋งของฝนอย่างจัง แรงอัดทำให้กระจกทุกบานแตก ละเอียด
ห้องโดยสาร ด้านหน้าฝั่งคนนั่งยุบเข้ามา อย่างเห็นได้ชัด.... ร่างไร้สติของแนนยังคงสงบนิ่ง ติดอยู่ในรถเก๋งขนาดสองตอน มัจจุราชอาจฉุดวิญญาณเธอออกจากร่างได้ทุก เมื่อ “แนนๆ” เสียงกระซิบเบาๆดังข้างหู ทำให้แนนค่อยๆ เปิดเปลือกตาขึ้นมา “อยู่ไหน....โอ๊ย เจ็บ” แนนค่อยๆอ้าปากพูด แต่ไม่ชัดนัก เฝือกขาวถูกแต่งแต้มถามร่างกายของแนน คล้ายกับเป็นเครื่องประดับ “ใจเย็นๆ แนน เธอสลบไปสอง เดือน” .....สองเดือน สองเดือน แนนแทบไม่เชื่อหูตัว เอง....ฝนค่อยๆอธิบายเหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดให้แนน ฟัง..... “แล้ว สรุปว่าฉันเจ็บคนเดียวใช่ มั้ย” แนนพยายามพูด
เสียงพูดของแนนแทบจะไม่ได้ ยิน “อืม...” ฝนพยักหน้าเบาๆ กำมือแนนไว้ นิ่งๆ “เอ ล่ะ เออยู่ไหน” แนนเพิ่ง นึกขึ้นได้ แฟนเธออยู่ไหน “เอมาหาเธอครั้งเดียว วันแรกที่ ชน แล้วหายไปเลย” ฝนพูดพลางลูบหัวแนนเบาๆ “ไม่เป็นไรนะ ไม่มีเอ เราก็อยู่กันได้ จริงมั้ยเพื่อน” ฝนพยายามพูดปลอบใจแนน “อืม...” น้ำตาค่อยๆกลั่นตัวหยดลงมาจากนัยน์ตาของแนน คำพูดของฝนตอนคุยกันในรถคง จะเป็นความจริง....เขาเก่งมากจริงๆ เก่งมากที่หลอกแนนมาหลายปี เก่งมากที่ หลอกว่ามีแนนคนเดียว.....ทำไมผู้ชายทั้งโลกถึงนิสัยเหมือนกันหมดเลย เสียดายเวลา ที่อยู่ด้วยกัน เสียดายความรักที่มอบให้.....เสียดาย ๆๆๆ“ คุณแนน ค่อยๆก้าวนะครับ ช้าๆ” บุรุษพยาบาลพยายามพยุงแนน ขึ้นเดิน แนนยังคงไม่หายเจ็บดี ยังคงต้องทำการกายภาพบำบัดอีก “ระวังล้มนะครับ จับผมไว้ดีๆ” บุรุษพยาบาลเดินช้าๆ เพื่อให้แนนเกาะแขนเดินตามช้าๆ.....ทำไมบุรุษพยาบาลถึงไม่ใช่เอนะ....ทำไม ทำไม ทำไม “คุณบุรุษพยาบาลค่ะ นี่ฉันสลบไปนานถึงขั้นต้องกายภาพ บำบัดกันเลยเหรอ”
แนน ถามด้วยความสงสัย “โห คุณไม่ได้เดินสองเดือนนี่ มันนานนะครับ” บุรุษ พยาบาลตอบด้วยความสุภาพ “จะว่าอะไรมั้ยค่ะ ถ้าจะถามชื่อ เล่น คือถ้าเรียกว่าคุณบุรุษพยาบาล เกรงว่ามันจะยาวไป” แนนพูดพลางยิ้ม “ผมชื่อ กอล์ฟ ครับ” บุรุษพยาบาลตอบด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม น้ำเสียงเรียบๆ นับจากวันนั้น แนนและกอล์ฟเริ่มสนิทกัน ทุกเย็นกอล์ฟจะพาแนนออกไปทำกายภาพบำบัด ไม่นานแนนก็ สามารถเดินเองได้และออกจากโรงพยาบาลในที่สุด....“คุณแนน ค่ะ น้ำดื่มค่ะ” พยาบาลชุดขาวเดินถือแก้วน้ำมาวางข้างๆ เธอ ขณะเธอนั่งรอกอล์ฟที่ล็อบบี้ของโรงพยาบาล เธอได้แต่พยักหน้าและยิ้มให้ด้วย ไมตรี “กอล์ฟๆ ไปกินข้าวกัน” แนนพูด ทันทีที่เห็นกอล์ฟเดินออกมา มีพยาบาลหลายคนยกมือไหว้แนน แนนก็ได้แต่รับไหว้ด้วย สีหน้างงเล็กน้อย “ไปสิครับ” กอล์ฟ พูดพลางค้อมตัวลงผายมือไปที่ห้องอาหารของทางโรงพยาบาล ดูกอล์ฟค่อนข้างสุภาพและ ให้เกียรติแนนมาก....มากจนน่าแปลกใจ ท่าทางโรงพยาบาลนี้จะเข้มงวดเรื่องมารยาท กับพยาบาลมาก แนนและกอล์ฟสนิทกันขึ้นเรื่อยๆ....จนบางครั้งแนนก็อยากให้กอล์ฟมา แทนที่เอ บ่อยครั้งที่แนนคิดถึงเอ เอก็ไม่โทรมา บ่อยครั้งที่แนนอยากคุยกับเอ เอ ก็ไม่ติดต่อมา บ่อยครั้งที่แนนนั่งเหงา อยากให้เอนั่งเป็นเพื่อน แต่เอก็ไม่ ปรากฏตัว เอ....เอ....เอ เอหายไปไหน ไหนล่ะ หัวใจที่เอบอกว่าจะให้แนน ไหนล่ะ หัวใจที่เอเคยเขียนไว้บนฝ่ามือแนน มันคงหายไปแล้ว....หายไปพร้อมกับเอ หายไป พร้อมกับผู้ชายโกหก....ผู้ชายเจ้าชู้ ทำไมผู้ชายเหมือนกันทั้งโลก.....ทำไม หล่ะ..ทำไมต้องโกหกกัน ใกล้วาเลนไทน์เข้าไปทุกที ปีนี้ไม่เหมือนกับปีก่อนๆ ไม่ มีเอคอยให้ดอกกุหลาบแดง ไม่มีอีตาบ๊องทำท่าเขินอายให้ดู “ แนนๆ วาเลนไทน์ปีนี้ ว่างหรือเปล่าครับ” เสียงกอล์ฟดังตาม สายโทรศัพท์ “ว่างค่ะ ทำไมค่ะ” แนน ตอบด้วยน้ำเสียงเรียบๆ “พอดีผมมีของจะให้แนนนะครับ เดี๋ยว วันวาเลนไทน์บ่ายสามโมงเจอกันที่สยามนะครับ” กอล์ฟเสนอ ความเห็น “ตกลงค่ะ” แนนพูดพลางกดวาง สาย สีหน้าแววตาเปี่ยมด้วยความหวัง....หวังว่ากอล์ฟคงจะมาแทนที่เอได้เสียทีวัน วาเลนไทน์ วันที่กุหลาบแดงบานสะพรั่งพร้อมกันทั่วโลก แม้ในลานที่สยามหรือที่วัย รุ่นเรียกกันสั้นๆว่า “เซนเตอร์พอยต์” ยังถูกละเลงด้วยดอกกุหลาบสีแดง...นักเรียน นักศึกษาต่างถือกุหลาบแดงใน มือเดินกันขวักไขว่ทั่วลาน “ขอโทษค่ะ มา สาย” แนนพูดพลางยิ้มก่อนดึงเก้าอี้ออกมา นั่ง “ไม่เป็นอะไรครับ” กอล์ฟพูด พลางยิ้ม “อืม...ว่าแต่มีอะไรจะให้แนนเหรอ” แนนพูดพลางจ้องตากอล์ฟ...หากกอล์ฟมีพิรุธ แนนจะจับได้ ทันที “อันนี้ของแนนนะครับ” ดอก กุหลาบสีแดงถูกดึงออกมาจากถุงอย่างช้าๆ วางลงบนโต๊ะอย่างนิ่มนวล “หมายความว่ายังไงค่ะ จะขอหัวใจแนนเหรอ” แนนพูดติด ตลกพลางยิ้ม เธอคิดว่าเธออ่านเกมส์ออกหมด “ผมคงไม่กล้าขอ หัวใจแนนหรอก” กอล์ฟพูดพลางยิ้ม แต่กลับทำให้แนนง ง “อ้าว...แล้วกุหลาบสีแดงนี่...” ไม่ทันแนนจะพูดจบ กอล์ฟต่อคำพูดของเขาทันที “ผมไม่กล้าขอ หัวใจแนนหรอกครับ เพราะหัวใจของแนนไม่ใช่ของแนน” ปั้ง... เหมือนมีแผ่นเหล็กหนาหลายฟุตทุบลงกลางศีรษะ แนนเริ่มงงกับความหมายขึ้นไป ทุกที...มันแปลว่าอะไร??? “หัวใจของคุณ คือเจ้าของกุหลาบ ดอกนี้” กอล์ฟพูดต่อ.... แนนทำหน้างงๆไม่เข้าใจความหมาย แม้แต่นิดเดียว “ตอนคุณประสบอุบัติเหตุเข้ามาที่โรง พยาบาล คุณเสียเลือดมาก...หัวใจคุณเต้นอ่อนจนแทบจะล้มเหลว พวกผมและหมอพยายาม เยียวยาจนถึงที่สุด” กอล์ฟเริ่มอธิบายเรื่องที่เกิด ขึ้น.....เรื่องที่แนนไม่เคยรู้ “มีผู้ชายคนนึง วิ่งเข้า มาบอกว่าเป็นแฟนคุณ เขาบอกให้ช่วยคุณให้ได้ เสียเงินเท่าไหร่ไม่ว่า...เขายอม จ่ายไม่อั้น ไม่ว่าทางเราจะขออะไร เขาจะจัดหาให้หมด.....คำพูดของเขาทำให้ผม ประทับใจมาก” กอล์ฟหยุดพูดชั่วครู่...แนนรู้ทันทีว่ากอล์ฟ หมายถึงเอ “ผมยอมแลกทุกอย่างกับชีวิตเธอ เขายอมแลก ทุกอย่างกับชีวิตคุณ” กอล์ฟพูดพลางจ้องหน้าแนนนิ่ง แต่แนน ยังคงทำสีหน้างงอยู่ “เขายอมทุกอย่างจริงๆ ทีแรกหมอบอกว่า ทางเราหาเลือดไม่พอให้คุณ เขาวิ่งตามหาเลือดให้คุณไปทั่วทุกโรงพยาบาล แต่กลับ ไม่พบว่ามีเลือดถุงไหนที่ตรงกับเลือดคุณ” กอล์ฟพูดด้วยน้ำ เสียงปกติ สายตามองไร้จุดหมาย “สุดท้ายเราตรวจเลือดของ เขา พบว่าตรงกับของคุณพอดี เขาบอกให้ทางเราเอาไป เอาไปให้คุณ....ไม่ต้องห่วงว่า เขาจะเป็นอย่างไร ขอแค่คุณปลอดภัยก็พอ” กอล์ฟหยุดพูดชั่ว ครู่พยายามกลั้นน้ำตา....แต่นัยน์ตาแนนเริ่มเจิ่งนองไปด้วยน้ำ ใสๆ “ต่อมา...ตอนพวกผมถ่ายเลือดให้คุณ หัวใจคุณเต้นอ่อนลง เรื่อยๆ
จนหมอต้องเดิน ออกไปบอกให้เขาทำใจ.....ทำใจว่าเขาจะต้องเสียคุณ” กอล์ฟพยายามเล่าต่อไปเรื่อยๆด้วย น้ำเสียงปกติ นัยน์ตาแนนเริ่มแดงก่ำ “เขาถามหมอว่า เธอ ต้องการอะไร.....” ใช่ เอถามหมอว่าแนนต้องการ อะไร“เธอต้องการ หัวใจครับ หัวใจเธอเต้นไม่ปกติ การสูบฉีด ล้มเหลว
เราหาเลือดให้ เธอช้าไป เพราะฉะนั้นสิ่งที่เธอต้องการคือ หัวใจ” หมอหวังว่าเอคงจะเลิกหวังในตัว แนน...หยุดเล่นเกมกับมัจจุราชเสียที “ตกลง ผมหาให้ เขาตอบ สั้นๆโดยไม่ลังเลเลย” ตกลงผมหาให้....เอจะหาหัวใจให้แนน ทั้งๆที่รู้ว่าคงเป็นไปไม่ได้...เขาไม่ลังเลแม้แต่วินาทีเดียวเพื่อจะทำให้ คุณ
“คุณรู้มั้ย ว่าคำพูดของเขาทำให้ผมและหมออึ้งกันไปหมด โรงพยาบาลยังหา หัวใจให้คุณไม่ได้ เขาจะมีปัญญาที่ไหนหาหัวใจให้คุณได้” กอล์ฟพูดพลางพยายามหลบสายตาแนน....ตอนนี้กอล์ฟเริ่มกลั้นน้ำตาไม่อยู่ แล้ว “เขาถามเลขบัญชีของโรงพยาบาลกับหมอ....เขาไม่ได้โอน เงินมาซื้อหัวใจเทียมให้คุณ แต่เขาโอนมาตั้งมูลนิธิการกุศลให้โรงพยาบาล มูลนิธิ ช่วยเหลือผู้ป่วยด้านหัวใจเทียม “นานา” คุณดูดีๆ คำว่า แนน และ เอ ถ้าเขียนติดกัน มันคือ “นานา” นี่คือความปรารถนาสุดท้ายของเขา( แนน..nan เอ..a = nana) เขาอยากให้ ตัวเขาเอง เป็นคนสุดท้ายที่ไม่ได้อยู่ กับคนที่เขารัก...เพราะไม่มีหัวใจเทียม สำรอง” เปี้ยง....แนนโดนสะกิดต่อมความจำเข้าเต็มเปา... เธอเคยเห็นป้ายมูลนิธิขึ้นหราที่โรงพยาบาล แต่เธอไม่เคยเฉลียวใจสักนิด...มิน่า ทำไมหมอและพยาบาลต้องให้เกียรติและ ดูแลเธอดีเสียจนน่าแปลกใจ ทั้งๆที่เธอไม่มี ส่วนได้เสียกับโรงพยาบาลแม้แต่บาทเดียว “ทันทีที่มีการยืน ยันว่าเงินเข้าบัญชีทางโรงพยาบาล เขาก็ยิงตัวตายในห้องน้ำโรงพยาบาลครับ ทิ้ง โน้ตไว้ว่า มอบหัวใจให้เธอ เขามอบหัวใจของเขาให้คุณ” ทันทีที่กอล์ฟพูดจบ แนนปล่อยโฮออกมาเหมือนไม่มีใครอยู่ข้างๆ โต๊ะรอบข้างหันมา มองแนนเป็นตาเดียว....เอคือเจ้าของหัวใจ หัวใจที่อยู่ในร่างของ แนน “เขายอมแลกทุกอย่างกับคุณจริงๆ” กอล์ฟพูดพลางวางของทั้งหมดที่เอ เคยฝากไว้กับทางโรงพยาบาลคืนให้กับแนน มีทั้งเครื่องเล่นเทป ม้วนเทป จดหมาย..... “ผมคงไม่กล้าขอ หัวใจคุณหรอก หัวใจคุณเป็นของเขา หัวใจเขาเป็นของคุณ” ใช่ หัวใจเอเป็นของแนน เป็นของแนนจริงๆ...ตอนนี้หัวใจแนนตายไปเรียบร้อยแล้ว ตาย ไปพร้อมกับเอ ตายไปพร้อมกับผู้ชาย ที่ยอมทุกอย่างเพื่อเธอ “กุหลาบดอกนี้ เขาบอกผมก่อนไปเข้าห้องน้ำว่า...วาเลนไทน์ที่จะถึง รบกวน ซื้อกุหลาบสีแดงให้คุณสักดอก ขอแค่ดอกเดียวก็พอ...เป็นคำขอร้องครั้งสุดท้ายของ เขา” กอล์ฟพูดพลางเช็ดน้ำตา นั่งนิ่งๆสักพักก่อนลุกจาก โต๊ะไป.... ทิ้งแนนนั่งนิ่งอยู่เพียงลำพัง “เอรักแนน นะ” “เอรักแนนนะ” “เอรักแนน นะ” คำพูดซ้ำๆดังมาจากเครื่องเล่นเทป เป็นคำพูดเดียวกัน ที่พูดกันซ้ำ โดยไม่มีการตัดต่อทั้งเทป.....เทป 120 นาที โดยมีเพลงประกอบเบาๆ แนนค่อยๆคลี่จดหมายออกอ่าน....จดหมายที่มีเนื้อความเพียง บรรทัดเดียว
“หัวใจเอ...เขียนคำว่ารักไว้
.. เขียนให้แนนคน เดียว”
ผลงานอื่นๆ ของ Kingko. ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ Kingko.
ความคิดเห็น