คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : 3 On the way with you
3
On the way with you
กึก...กึก..กึก!!
“นายช่วยเบาเสียงกระเป๋าของนายหน่อยได้ไหม” เอลซ่าพูดเสียงขุ่นพร้อมจ้องมาที่แจ็ค
“ก็ผมใส่ของเยอะนิครับ” แจ็คตอบอย่างอารมณ์ขัน
“นายนี่มัน...เฮ้อ...ตายแล้ว” เอลซ่าถอนหายใจเฮือกใหญ่ พร้อมหันหลังกับไปแต่ต้องพบว่าเมื่อเธอพ้นจาก บริเวณขายของปลอดภาษีที่เล็กมากมาแล้ว เธอต้องมาเจอกับสงครามนักท่องเที่ยวมหึมาที่กำลังเข้าแถวเรียงรายเพื่อรอตรวจเข้าเมือง ซึ่งพนักงานมีเพียงสองคนเท่านั้น และไม่เปิดเพิ่มซะด้วย
“ฮิ้ว...ว...ว...~~” แจ็คที่เดินตามหลังเอลซ่ามานั้นก็ตกใจเช่นกัน เสียงผิวปากของแจ็คที่ขึ้นสูงสุดกับจะต่ำลงแสดงถึงความตกใจสุดขีดกับกองพลนักท่องเที่ยว
“แล้วเราจะเสร็จตอนไหนเนี่ยไหนเนี่ย” เอลซ่าบ่นเบาพร้อมยกนาฬิกาขึ้นมองอย่างกังวล
“เธอรีบไปที่ไหนรึเปล่า” จู่ๆแจ็คก็ถามขึ้น ทำให้เอลซ่าให้ไปมอง
“ฉัน...ฉันต้อง...ฉันต้องรีบไปขึ้นบัสที่เที่ยวระหว่างเมืองต่อเมืองให้ทัน ละ...แล้วก็เช็คอินที่โมเทล (เหมือนโรงแรมแต่รถสามารถจอดได้ใกล้ที่พัก) ที่ฉันจองไว้” เอลซ่าตอบอย่างลุกลนเหมือนจะพลาดบัสที่จองไว้
“ฮึ่ม...” แจ็คทำท่าคิดหนัก ราวกับหาทางให้เอลซ่ารีบไปที่ยังบัสที่จองไว้ ก่อนจะคิดอะไรออก
“ฉันคิดออกล่ะ” แจ็คหันไปมองที่เอลซ่าอย่างมีเลศนัย
“อะไรล่...” มีอสีขาวราวเกล็ดหิมะ ถูกมือแกร่งดึงไว้เพื่อถอยไปยังที่ที่ใกล้ห้องน้ำที่สุด
“นายทำบ้าอะไรของนาย” เอลซ่าพูดขึ้นพร้อมหันไปยังแจ็ค ทำกำลังถอดเสื้อตัวนอกออกพร้อมยื่นให้เอลซ่า พร้อมเปิดกระเป๋าตัวเก่งของเขาออก
“นะ...นายจะทำอะไร” ร่างของเอลซ่าเริ่มสั่น ด้วยความหวั่นกลัวว่าจะโดนนายนี่ข่มขืนก็เป็นได้
“อ่ะ” แจ็คยื่นเสื้อผ้าที่มีทั้งหมดในกระเป๋าของเขาพร้อมเชือกหนึ่งเส้นให้กับเอลซ่า
“ให้ฉันทำไม ฉันมีเสื้อผ้าอยู่แล้วนะ” เอลซ่ามองแจ็คแบบแปลกๆแต่ก็ไม่ได้รับของไว้
“ปลอมตัวไง”
“ปลอมตัว...แล้วนายจะให้ฉันปลอมเป็นอะไรล่ะ” เอลซ่าพูดพร้อมรับเสื้อมาไว้อย่างฉงน
“ก็...เป็นสาวท้องแก่ไง ส่วนฉันก็เป็นคุณพ่อวัยใส” คำตอบของแจ็คทำเอาเอลซ่าคิ้วขมวดทันที ก่อนจะขว้างเสื้อผ้าทั้งกองกับไปที่ท้องของแจ็ค ทำเอาแจ็คร้องโอดครวญ
“โอ๊ย! ทำอะไรของคุณเนี่ย วะ..เหวอ” ทันใดนั้นเอง เอลซ่าจู่ๆก็ดึงคอเสื้อของแจ็ค เพื่อให้ใบหน้าของเขา ประสานต่อหน้าเธอ
“จำไว้...คุณไม่มีวันที่จะเป็นเพื่อน แฟน และสามีของฉันเด็ดขาด ที่ฉันมาเที่ยวก็แค่คำขอร้องของน้องสาวของฉันเท่านั้น”
“โอเคๆ ฟังดีๆนะคุณ ที่ผมทำอย่างนี้ก็แค่อยากช่วยคุณเท่านั้น” แจ็คพูดอย่างใจเย็น พร้อมยกมือสองข้างขึ้นแสดงถึงว่าเขายอมแพ้
“แล้วคุณคิดยังไงถึงใช้การปลอมตัวบ้าๆแบบนี้” เอลซ่าพูดพร้อมปล่อยคอเสื้อของแจ็คออก ทำเอาแจ็คจับชีพจรตรงคอเพื่อตรวจสอบว่าเขายังมีชีวิตอยู่หรือไม่
“มันเป็นทางเดียวที่ ทำให้เธอออกจากสถานการณ์นี้ได้เร็วที่สุด จะร่วมมือกันไหมล่ะ” แจ็คพูดด้วยน้ำเสียงมั่นใจ ก่อนจะยกมือขึ้นเพื่อทำสัญญาต่อกันและกัน
“...” เอลซ่ายังคงครุ่นคิดเกี่ยวกับแผนการนี้อย่างรอบคอบ แต่เมื่อเธอมองไปที่นาฬิกาข้อมือสีเงินของเธอ แสดงให้เห็นว่าในอีกไม่ช้ารถบัสก็จะมาถึงแล้ว ทำให้เธอมีทางเลือกเดียวเท่านั้น
“ได้ตามนั้น!” เอลซ่าพูดพร้อมยกมือเพื่อประกบกับมือของแจ็ค แจ็คยิ้มบางๆพร้อมเอาเสื้อผ้าของเขาที่เอลซ่าเพิ่งขว้างมาที่เขากลับไปให้เอลซ่า
“รีบใส่ซะ เดี๋ยวสาย”แจ็คพูดพร้อมให้กำลังใจเอลซ่า เอลซ่าพยักหน้าก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำทันที
.
.
ห้านาทีต่อมา แจ็คยังคงยืนรอเอลซ่าต่อไป เขาเริ่มจ้องมองนาฬิกาข้อมือของเขาถี่ขึ้นเรื่อยๆ ก่อนจะหันไปดูบริเวณตรวจเข้าเมืองที่ยังมีผู้คนหลั่งไหลเข้ามาอย่างไม่ขาดสาย แจ็คได้แต่ภาวนาว่า แผนของเขาจะสำเร็จ สิ่งที่เขาทำนั้นเขารู้ว่ามันผิด ที่จะปลอมตัว ถ้าขืนตำรวจของที่นี่จับได้ อาจจะได้จ่ายค่าเสียหายในราคาไม่น้อยเลยที่เดียว แจ็คหันไปมองยังทางออกของห้องน้ำหญิงอีกรอบนึง ก็ต้องตะลึงเมื่อเอลซ่าออกมาในชุดลูกไม้สีฟ้าอ่อน ที่ข้างในถูกมัดด้วยเสื้อผ้าของฝ่ายพ่อ ทำเอาแจ็คหลุดขำใหญ่
“นี่ หัวเราะทำไมไม่เคยเห็นผู้หญิงท้องหรอ”เอลซ่าทำหน้าค้อนพร้อมเอามีเท้าสะเอวยิ่งทำให้ส่วนที่เรียกว่าท้องออกมามากเกินไป
“คุณเนี่ย เหมือนจริงๆเลยนะ คุณแม่มือใหม่” แจ็คพูดเพื่อให้สำเนียงคล้ายคลึงกับคุณพ่อ พร้อมเข้าไปโอบรอบคอของหญิงสาวที่ทำเอาเอลซ่าต้องจับมือที่โอบรอบคอของเขาไว้ก่อนหันไปมองเขา
“คุณนี่ก็ไม่เบาเหมือนกันนะ คุณพ่อ”เอลซ่าเผยรอยยิ้มบางๆก่อนจะเดินไปที่ไปยังด่านตรวจ
“อย่าลืมแผนที่เคยเตี๊ยมกันเอาไว้ล่ะ” แจ็คหันไปกระซิบที่หูของเอลซ่าอย่างแผ่วเบา แต่ทว่าเพียงลมหายใจไปกระทบที่หูของเธอทำเอาเธอปรากฏหน้าแดงระเรื่อขึ้นมาทันที
“อะ...อืม”
“ขอโทษนะครับ คุณตำรวจ” แจ็คสะกิดพร้อมเรียกขานชื่อของเขา ทำให้เขาหันมาพร้อมทำหน้าเบื่อหน่ายกับชีวิต
“มีอะไรหรอ”
“คือแฟนผมท้องแก่มากเลยครับ คราวนี้อีกไม่นานจะคลอดแล้วด้วย” แจ็คพูดพร้อมทำสีหน้ากังวล ก่อนจะหันไปมองที่เอลซ่าเพื่อเป็นสัญญาณ ว่าทำอะไรสักอย่างหน่อย
“โอ๊ย! คุณตำรวจไม่ไหวแล้วค่ะ ไม่ไหวแล้ว!”เอลซ่าทำเป็นร้องครวญคราง เมื่อใกล้คลอดอย่างดัง ทำเอานักท่องเที่ยวหลายๆคนหันไปมองพร้อมกัน
“ตาเถตก เชิญช่องนี้เลยครับๆ”หน้าตาที่แสนเบื่อหน่ายของตำรวจคนนั้น เปลี่ยนไปเป็นสีหน้าที่วิตกกังวลที่สุดในโลกก่อนจะรีบผายมือไปยังช่องตรวจวีซ่าพิเศษที่ตอนนี้ไม่มีผู้คนอยู่เลย
“ขอบคุณมากครับ”แจ็คพยักหน้าขอบคุณ ก่อนจะจูงมือเอลซ่าให้ไปยังที่ตรวจวีซ่าทันที แต่ทว่าเขาลืมคิดว่า เขามาจากคนละประเทศและคนละนามสกุล
“นี่ครับพาสปอร์ตสองเล่ม”แจ็คพูดพร้อมยื่นพาสปอร์ตให้กับผู้ตรวจที่เป็นผู้ชายหน้าออกอินเดียมองอย่างสงสัย
“พวกคุณอยู่คนละประเทศหรอ”สีหน้าอันแสนจริงจังบวกกับความเข้าของสีผิวของเขาทำเอาแจ็คถึงกับตัวสั่นไปเลย
“เอ่อ...ใช่ครับ พอดีเราเพิ่งแต่งงานกันแล้วมีเหตุเร่งด่วนที่ต้องมาก่อนนะครับ”แจ็คพูดพร้อมยิ้มสั่นๆให้ เอลซ่าได้แต่มองแจ็ค เธอจึงพยายามกุมมือเขาแน่นขึ้น เพื่อเป็นกำลังใจ อีกมือก็กุมท้องไว้
“นี่ท้องก่อนแต่งหรอ”คำถามจากปากผู้ตรวจยังคงไหลมาเรื่อยๆ แต่เมื่อพวกเขาทั้งสองได้ยินคำถามนี้ทำเอาพวกเขาหน้านิ่ง ทั้งแจ็คและเอลซ่าหันไปมองซึ่งกันและกัน ก่อนที่แจ็คจะหันกลับไป
“ใช่ครับ” เขาพยักหน้า ตอนนี้บรรยากาศเริ่มทะมึนลงเรื่อยๆ คนตรวจผิวเข้มเริ่มเปิดหน้าแรกของพาสปอร์ตอย่างพินิจพิจารณาก่อนจะหันกับไปมองพวกเขาสองคน
“ทำไมนามสกุลถึงไม่เหมือนกัน”
“แจ็ค ฉันไม่ไหวแล้ว”เอลซ่าพยายามเบี่ยงเบนความสนใจจากคำถามมาที่ลูก (ปลอม) ที่อยู่ในท้องของเธอ ทำให้คนตรวจเห็นใจรีบประทับตราที่พาสปอร์ตทันที
“ผ่านแล้วนะครับ ไม่มีอาหารใช่ไหม”เขาพูดพร้อมยื่นพาสปอร์ตคืนพร้อมกับใบสีฟ้าที่แยกไว้
“ครับ”แจ็คพูดพร้อมรับพาสปอร์ตพร้อมใบสีฟ้าขึ้นมา
“เดินทางปลอดภัยนะครับ”พนักงานพูดพร้อมส่งยิ้มให้
“ขอบคุณครับ/ค่ะ” หลังจากที่ต้องผ่านศึกสัมภาษณ์แล้ว แจ็ครีบจูงมือเอลซ่าและไปยังสายพานรับกระเป๋าที่ไกลตาจากตำรวจและคนตรวจทันที
“เยส! สำเร็จแล้วนะ”แจ็คพูดพร้อมทำท่าแบบได้รับรางวัลชนะเลิศ เอลซ่าก็อดขำไม่ได้แต่เธอได้แค่เพียงหัวเราะเบาๆ
“คุณเนี่ยนะ เจ้าเล่ห์สุดๆไปเลย”เอลซ่าพูดพร้อมขำไม่หยุด
“รีบรับกระเป๋าซะ จะได้ไปขึ้นบัสให้ทัน”
“โอเค”เอลซ่าพูดพร้อมเดินไปยังสายพานต่างๆเพื่อเช็กว่ากระเป๋าใบไหนเป็นของเธอ
ในขณะเดียวกันดวงตาสีฟ้าก็มองเธออย่างเอ็นดู ก่อนที่จะยกมือที่เอลซ่ากุมไว้แน่น ตอนที่เขาตอบคำถามนั้นมันรู้สึกพิเศษเหมือนกับเธอกำลังให้กำลังใจเขาอยู่ เขาลูบมือข้างนั้นเบาๆอย่างคิดถึงสัมผัสนั้น
หลังจากพวกเขาทั้งสองรับกระเป๋าพร้อมกับเอกซเรย์กระเป๋าก่อนออกเสร็จเรียบร้อยแล้ว แสงแดดที่เริ่มริบหรี่ ที่สื่อว่าอีกไม่นาน ยามราตรีจะมาถึงแล้ว ทำให้เวลาที่พวกเขาทั้งสองคนที่จะเจอหน้ากันลดน้อยลงไปอีก
“อ่ะ เสื้อผ้านาย”เอลซ่าพูดพร้อมยิ่นเสื้อผ้าของเธอที่ทำเป็นคนท้องให้แจ็ค
“หวังว่าคงไม่เปื้อนอะไรนะ”แจ็คพูดติดตลก ทำเอาเอลซ่าทำหน้าหงิดหน้างอใส่
“ฉันยังสะอาดกว่าคุณอีก”
“โอเคๆ ไม่แกล้งแล้วก็ได้”แจ็คพูดพร้อมเก็บเสื้อเข้ากระเป๋าลากใบเก่งของเขา
“ยังไงก็ขอบคุณนะ ที่ช่วยฉัน”เอลซ่าพูดพร้อมส่งยิ้มบางๆให้แจ็คอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรหรอก แต่ผมรู้สึกว่าบินเที่ยวนี้สนุกกว่าครั้งไหนๆอีกนะ”คำพูดของแจ็คทำเอาเอลซ่าอมยิ้ม เมื่อเอลซ่าหันไปมองที่ถนน รถรับส่งก็มาถึงแล้ว
“ยังไงก็ยินดีที่ได้รู้จักนะ” เอลซ่าพูดพร้อมยื่นมือออกไป แจ็คจึงยื่นมือออกไปอีกข้างเป็นการทำความรู้จัก
“เที่ยวให้สนุก ดูแลตัวเองด้วยล่ะคุณป้า” แจ็คพูดยังคงติดตลกเหมือนเดิม เอลซ่าได้แต่หน้าบูดก่อนเดินขึ้นไปยังบัส
สายลมอันหนาวเย็นเริ่มพัดผ่านใกล้บริเวณจุดหยุดรถบัส เมื่อเอลซ่านั่งลงที่เก้าอี้ติดขอบหน้าต่างแล้วนั้น เธอก็โบกมือให้กับแจ็ค ก่อนที่รถจะออกตัวอย่างช้า แจ็คโบกมือกลับ จ้องมองรถที่กำลังเคลื่อนออกที่ไป ตอนนี้หัวใจเขารู้สึกหายไป ทั้งๆที่ไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อน
ไม่ต่างจากเอลซ่า ใบหน้าที่เคยส่งยิ้มให้กับผู้ชายผมขาวคนนั้นได้เปลี่ยนไปเป็นความหม่นหมอง เธอรู้ไม่ดีที่เขาไม่ได้อยู่ด้วยบนรถคันนี้ เธอเพียงแค่อยากให้เขามาอยู่ตรงนี้เหมือนกัน
แจ็คนั่งลงที่เก้าของจุดหยุดบัส พร้อมนึกขึ้นได้ว่านอร์ทมีภารกิจมาให้ ทำให้เขาหยิบมันออกมา พร้อมฉีกซองออก และพบกับข้อความสั่นๆ
‘เที่ยวให้สนุกนะแจ็ค ใช้ชีวิตให้คุ้มค่า ฉันอยากเห็นนายมีชีวิตเป็นของตัวเอง’
ทันทีที่ดวงตาของเขาอ่านข้อความจบ ตาของเขาให้ไปมองที่รถบัสของเอลซ่าที่ยังคงเคลื่อนช้าอยู่ แต่กำลังเร่งสปีดในอีกไม่ช้า แจ็คจึงรีบยกกระเป๋าขึ้นหัวอย่างกรรมกรแบกหาม แล้ววิ่งไปให้ทันรถบัสคันนั้น แต่แล้วก็มีเสียงไซเรนของรถพยาบาลมาจากหลัง ทันทีที่แจ็คหันไปมอง เสียงโทรโข่งก็ดังขึ้น
แจ็คเร่งสปีดฝีเท้ามาขึ้นให้ทัน รถบัสที่กำลังจะเข้าวงเวียน ซึ่งอาจจะท่วงเวลได้ วิ่งเต็มสปีดทันที
ฝ่ายเอลซ่าที่กำลังนั่งเหม่อลอยออกไปทางหน้าต่าง เธอมองไปที่กระจกข้างรถบัสก็เห็นแจ็คกำลังวิ่งมาใกล้ทุกที เธอได้เหลือบมองก่อนจะแน่ใจว่าเขาต้องการจะมาด้วย
“คุณช่วยหยุดรถหน่อยได้ไหมค่ะ”เอลซ่าหันไปหาคนขับรถบัสที่กำลังใช้สมาธิอย่างสูงอยู่
“ไม่ได้หรอกครับคุณ มันผิดกฏ”คนขับรถพูดพร้อมขับไปอย่างสบายใจ
“ขอร้องเถอะ เพื่อนหนูต้องการขึ้นรถด้วย”
“ไม่ได้ครับ”เสียงยืนยันคำเดิมของคนขับทำให้เอลซ่ารีบค้นหาวิธีอื่น
“จอดตรงจุดหยุดบัสตรงนี้นะคะ ขอร้อง”
“ได้ครับ ผมจอดได้ตรงที่มีจุดหยัดบัสเท่านั้นเองครับ”คนขับรถพูดพร้อมอมยิ้มค่อยๆเลี้ยวรถไปยังที่จอดรอ แต่เอลซ่าก็ได้นึกว่า
‘เนี้ยบจริงๆ’
เอลซ่าหันกลับไปมองด้านหลัง ที่แจ็คยังคงวิ่งมาเรื่อยๆพร้อมกระเป๋าที่แบกอยู่บนหัว ที่กำลังใกล้ถึงจุดหยุดบัสแล้ว
“ผมจะต้องไปแล้วนะ เพื่อนคุณอยู่ไหน”คนขับพูดในขณะที่ฝีเท้ากำลังจะเหยียบเกียร์พร้อมไป เอลซ่ายังไม่ตอบเธอหันไปมองที่แจ็คทีกำลังเริ่มใกล้มามาขึ้น
“ผมไม่มีเวลาขนาดนั้นหรอกนะ ผมจะนับสิบถึงหนึ่ง”คนขับพูดพร้อมทำหน้าจริงจัง
“สิบ”เอลซ่ายังคงจ้องมองแจ็คที่กำลังวิ่งมาด้วยสายตาที่กังวล
“เก้า”ฝีเท้าของแจ็คเริ่มเมื่อยล้าทำให้เธอยิ่งกังวลยิ่งขึ้น
“แปด”กระเป๋าที่เคยยกขึ้นบนหัวเริ่มเปลี่ยนมาเป็นลากแทน
“เจ็ด”ฝีเท้าของแจ็คเริ่มก้าวยากขึ้นทุกที
“หก”
“ห้า”เอลซ่าเห็นท่าจะไม่ดี เธอรีบวิ่งไปยังประตูรถ
“แจ็ค มาเร็ว”เอลซ่าพูดพร้อมยื่นมือออกไป มืออีกข้างก็จับบาร์ไว้
“สี่”
“สาม”แจ็ครีบเร่งฝีเท้าก่อนและยื่นมือออกไป เพื่อจับมือเอลซ่าไว้
“สอง”แจ็ครีบกระโดดขึ้นรถทันที
“หนึ่ง”กระเป๋าของแจ็ครีบดึงขึ้นพอดีจังหวะปิดประตูทันที
“เฮ้อ นายปลอดภัยแล้ว...เอ่อ...โทษที”จู่ๆเอลซ่าก็โผล่กอดแจ็ค แต่เมื่อเธอนึกขึ้นได้ เธอรีบถอนกอดพร้อมมองเขาอย่างเขินๆ
“ว่าแต่นายบัสทำไมหรอ”เอลซ่าถามแจ็ค
“ร่วมเดินทางกับเธอ”
ความคิดเห็น