คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #3 : 2 What would you like?
2
What would you like?
ปิ๊ง..ปอง..
สัญญาณรัดเข็มขัดได้ดับลง ดวงไฟในแต่ละชั้นของผู้โดยสารเริ่มเปิดขึ้นตามลำดับ ตั้งแต่ระดับเฟิร์สคาร์ส ชั้นธุรกิจ ลงไปยังชั้นประหยัด เนื่องจากว่าเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินช่วงเช้าสาย ผู้โดยสารหลายๆคนจึงไม่มีที่ท่าว่าจะเหนื่อย บ้างก็อ่านหนังสือพิมพ์ บ้างก็ดูหนัง บ้างก็ฟังเพลง หรือไม่ก็คุยกัน เอลซ่าที่กำลังหลับไหล เพราะการนอนไม่พอจากเมื่อคืน ตื่นจากการงีบเล็กน้อย ดวงตาสีฟ้ากระพริบตาเพื่อปรับระดับแสงเล็กน้อย ก่อนที่จะหันออกไปมองนอกหน้าต่าง ตอนนี้น้ำทะเลสีเขียวมรกตถูกแสงอาทิตย์สะท้อนกับผิวน้ำเผยถึงแสงระยิบระยับสวยงามแต่ดวงตาของเอลซ่าไม่สามารถทนกับแสงสะท้อนได้มากขนาดนั้น เธอจึงปิดบานหน้าต่างลง พร้อมหันมาทำกิจกรรมอย่างอื่น แทน
“ทำอะไรดีนะ” เอลซ่าพูดพร้อมสัมผัสหน้าจอทีวีที่อยู่ด้านหน้าของเธอ พร้อมหาคิดที่จะหาหนังดูสักเรื่อง เธอจึงค่อยๆเลื่อนไปดูหนังแต่ละแบบ ที่มีทั้ง แอคชั่น โรแมนติค ดราม่า หรือเด็ก เยอะมากจนเธอเลือกแทบไม่ถูก จึงตัดสินใจหันไปมองผู้ชายผมขาว ซึ่งเธอคิดว่าเขาคงแก่มากๆ ว่าดูอะไร
‘อ่ะ...เร็วกว่านี้...เร็วกว่านี้อีก...’
เสียงที่หลุดออกมาจากหูฟังของผู้ชายที่นั่งข้างๆเธอ พร้อมกับภาพที่เธอเห็นทำเอาเธอแทบจะเข่าอ่อนเพราะว่า เขาดู...หนัง..อีโรติค เอลซ่าเริ่มขยับที่ออกห่างตากผู้ชายคนนั้นที่ไม่ใช่เพราะความหวั่นไหว แต่เป็นความกลัวที่จะโดนผู้ชายโรคจิตแต๊ะอั๋งต่างหาก ทันทีที่เอลซ่าเขยิบห่างไปยังพื้นที่ที่ติดหน้าต่างมากที่สุด ชายผมสีเงินเริ่มรู้ตัวจึงหันไปสบตากับเอลซ่าทันที เอลซ่าได้แต่มองกลับไปที่ชายคนนั้นแบบกล้าๆกลัว
“คุณจะหนีห่างจากผมทำไมเนี่ย” คิ้วสีเงินขมวดเป็นปมพร้อมหันกลับไปยังหนังที่เขาดูอยู่ ก่อนจะเหลือกตากลับไปยังเอลซ่า
“อ๋อ ที่แท้คุณกลัวผมเรื่องนี้เองหรอก”หนุ่มสีเงินพูดพร้อมส่งรอยยิ้มให้กับเอลซ่า ซึ่งยิ่งทำเอลซ่ากลัวกว่าเดิมเพราะนั่นคือ รอยยิ้มที่เจ้าเล่ห์ที่สุดที่เธอเคยพบมา
“คุณมัน...ผู้ชายโรคจิตชัดๆ” เอลซ่าพยายามพูดให้เสียงเบาที่สุดเพื่อให้ได้ยินแค่สองคน แต่ด้วยความหูไวของคนนั่งข้างแจ็ค ทำเอาชายคนนั้นเลื่อนตัวหนีเขาบ้าง
“ฮึ...ผมเปล่าโรคจิตนะ ก็แค่...ส่วนหนึ่งของหนังเอง” แจ็คจ้องมองเอลซ่าอย่างกวนๆ ทำเอาเอลซ่าแทบจะเข่าอ่อน และพยายามเบี่ยงเบนไปยังเรื่องอื่น
“คุณคงเป็นคงที่แก่มากๆด้วยสินะ ดูจากลักษณะสีผมแล้ว” เอลซ่าพูดพร้อมมองไปยังแจ็คที่กำลังกลับไปอินกับหนังต่อ แต่เมื่อได้ยินคำว่า แก่ ทำเอาแจ็คแทบจะพูดอะไรไม่ออก เขาจึงกดยกเลิกการดูหนัง พร้อมถอดหูฟังออก ก่อนจะจ้องหน้ามาที่เอลซ่า
“คุณเห็นผมแก่ขนาดนั้นเล่นหรอ” แจ็คพูดพร้อมชี้มาที่ตัวเอง
“ก็จริงไหมล่ะ แค่สีผม ฉันก็รู้แล้วล่ะค่ะ คุณลุง” เอลซ่าพูดพร้อมทำหน้าเชิด เหมือนกับว่าตัวเองรู้ดี ทำเอาแจ็คเกือบจะหลุดขำ
“งั้นคุณต้องเป็นป้าสินะ”แจ็คพูดพร้อมขำออกอย่างดัง ผิดกับเอลซ่าที่ทำหน้าค้อนใส่เขาทันที
“ฉันไม่ใช่ป้าสักหน่อย”
“ก็ขี้บ่นซะขนาดนี้ ไม่ป้าก็บ้าแล้ว”
“หยุดเรียกฉันว่าป้า...”เอลซ่าพูดเสียงเข้ม แต่ก็ต้องหยุดกระทันหัน เมื่อเธอรู้สึกตัวอีกทีว่า เธอ...นั้นเพิ่งจะเคยโกรธคนเป็นครั้งแรก ถึงแม้ว่าคนที่
“ฮัลโหล พูดว่าอะไรนะไม่ได้ยินเลย” แจ็คพูดพร้อมเงี่ยหูไปใกล้ๆ ทำเอาเอลซ่าแทบตื่นจากภวังค์ เมื่อเธอหันไปอีกรอบ หน้าของเธอกับแก้มของแจ็คแทบจะห่างกันไปกี่เซนซะแล้ว ใบหน้าของเอลซ่าร้อนแผ่วก่อนจะรีบคว้าหมอนโยนใส่ใส่แจ็ค ทำเอาเขาหันไปข้างผู้โดยสารอีกคน
“คุณทำอะไรของคุณเนี่ย” แจ็คพูดจับแก้มใสๆของเขา ก่อนจะหันไปหาเอลซ่าเบี่ยงตัวเองไปที่หน้าต่าง
“ขอโทษนะคะ ไม่ทราบว่าจะรับอะไรดี ระหว่าง สเต็กปลาแซลมอน หรือ ไก่ย่างเทริยากิ”เสียงเรียกของแอร์โฮสเตสทำให้ทั้งเอลซ่าและแจ็คหันไปหาเธอคนนั้น
“สเต็กปลาแซลมอนค่ะ/ครับ”เอลซ่าหันไปหาแจ็คด้วยสายตาดุๆ เหมือนสั่งเหมือนฉันทำไม แอร์โฮสเตสแอบขำเล็กน้อยก่อนจะหยิบกับข้าวออกมาให้พวกเขาสองคน
“นี่ค่ะ จะรับน้ำอะไรดีค่ะ”
“น้ำส้มครับ/ค่ะ”คราวนี้แจ็คเป็นคนหันไปมองเอลซ่าบ้าง แอร์โฮสเตสได้แต่หัวเราะออกมาเล็กน้อย พร้อนรินน้ำส้มใส่แก้วพลาสติกทั้งสองแก้ว พร้อมยื่นให้เขาสองคน
“พวกคุณเป็นแฟนกันหรือเปล่าคะเนี่ย ใจตรงกันจังเลย”แอร์โฮสเตสพูดแหย่เอลซ่ากับแจ็ค ทำเอาเอลซ่าแทบจะสำลักน้ำทันที
“เปล่าหรอกครับ พวกเราไม่ใช่แฟนกันครับ”แจ็คพูดพร้อมส่งยิ้มให้พนักงานแอร์โฮสเตส ทำเอาสาวคนนั้นหัวใจละลายเลยทีเดียว
“แหม่ นึกว่าเป็นแฟนกัน เห็นคุยกันตลอดเลย ขอตัวนะคะ”แอร์โฮสเตสพูดพร้อมลากรถเข็นห่างออกไปเพื่อบริการผูโดยสารคนอื่นๆต่อไป
“ลุงเนี่ย เสน่ห์แรงไม่ใช่เล่นนะ”เอลซ่าพูดพร้อมใช้มีดตัดปลาเป็นชิ้นเล็กๆ
“ไม่เหมือนใครบ้างคนหรอก จะป้าอยู่แล้ว ยังไม่มีแฟนเลย” เอลซ่าหันขวับไปหาแจ็คด้วยสายตาโกรธๆ ก่อนจะหยุดกึกอีกครั้ง
‘รู้สึกโกรธ...อีกแล้วหรอเนี่ย’
หลังจากนั้นเป็นต้นมา การสนทนาระหว่างแจ็คกับเอลซ่าก็ได้หยุดลง พวกเขาสองคนได้ปล่อยเวลาอยู่กับตัวเอง แจ็คได้ดูหนังมาราธอนไปเรื่อย ผิดกับเอลซ่านั่งอ่านข้อมูลท่องเที่ยวนิวซีแลนด์ พร้อมวางแผนสถานที่ ที่จะไปในเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ บางครั้งแจ็คก็เหลือบตามามองเอลซ่าไปพรางๆ เพื่อดูว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่
พร้อมๆกับตะวันที่กำลังจะหลับขอบฟ้าในอีกไม่นาน แต่ทว่าผู้โดยสารบางคนก็เริ่มเข้าสู่ห้วงแห่งการหลับไหลกันหมดแล้ว ดวงไฟของชั้นประหยัดเริ่มริบหรี่ลง เหนือหัวของผู้โดยสารแต่ละคน เริ่มปรากฏแสงของดวงดาวทำจากพลาสติก เพื่อให้เกิดการสะท้อนให้เหมือนแสงของดวงดาวเป็นเอกลักษณ์ของสายการบินเอมิเรสต์ ตกแต่งขึ้นมาเพื่อให้ผู้โดยสารความรู้สึกเหมือนตนนั่นได้อยู่ท่ามกลางหมู่ดวงดาว ตอนนี้อากาศยานได้อยู่เหนือน่านฟ้านครจอร์แดน ดินแดนที่ขึ้นชื่อเกี่ยวกับทะเลเดดซี(Dead sea)
แจ็คยังคงนั่งดูหนังมาราธอนต่อไปโดยไม่มีทีท่าจะเหนื่อยอ่อนแต่น้อย ว่าช่วงเวลาที่เขาอยู่ในสถานที่เลี้ยงเด็กกำพร้า เพราะเขามีหน้าที่เลี้ยงดูเด็กทุกคนจนไม่มีเวลาเป็นของตัวเองแม้แต่น้อย เขาจึงใช้เวลาระหว่างบินให้เต็มที่ ที่เขาจะได้อยู่กับตัวเองได้มากที่สุด แต่แล้วเขารู้สึกเหมือนมีอะไรมาทับหัวไหล่ด้านขวาของเขา พอเขาหันไปพบว่าป้าสาวผมสีบลอนด์อ่อนกำลังหลับอย่างสบาย โดยไม่รู้ตัวว่าตัวเองนั้นได้นอนซบหัวไหล่ที่เธอเรียกเขาว่าลุงซะแล้ว
“ไม่ไหวจริงๆนะป้า”แจ็คยิ้มพร้อมสายหัวเบาๆพร้อมปรับหัวเอลซ่าให้นอนสบายขึ้น แต่มีดวงตาสีฟ้าสดประสบกับใบหน้าขาวเนียนของเอลซ่า ทำเอาเขาแทบหันหน้าไปทางอื่น เพราะหน้าสวยๆยามหลับของเอลซ่าทำให้ใจของแจ็คหวั่นไหวซะแล้ว
“ป้าอะไรเนี่ย หน้าสวยขนาดนี้”แจ็คพูดพร้อมหยิบโทรศัพท์ของตนขึ้นมาเพื่อถ่ายรูป ผู้หญิงที่กำลังซบไหล่อย่างสบาย
“ตอนหลับน่ารักกว่าตอนตื่นเยอะเลยนะ”แจ็คพูดพร้อมดูรูปที่ตัวเองถ่าย ก่อนหันไปหาเจ้าของรูป ก่อนจะเก็บโทรศัพท์ลง พร้อมหันไปเห็นหนังสือที่เอลซ่าอ่านตอนที่พวกเขาไม่คุยอย่างสงสัย ทำให้แต็คถือวิสาสะหยิบขึ้นมาพร้อมเปิดอ่านแบบเบาๆ
“ที่แท้จะไปเที่ยวเองหรอเนี่ย”แจ็คพูดกับตัวเองเบาๆ
“ทะเลสาบเทคาโปเหรอ น่าสนใจชะมัดเลย”
“อืม...”เอลซ่าร้องขึ้นมา ทำเอาแจ็คแทบจะรีบเก็บหนังสือท่องเที่ยวของเอลซ่าทันที เพียงแค่เอลซ่าปรับท่านอนนั้นไปทางฝั่งตรงกันข้ามของแจ็คทันที
“นึกว่าเธอจะตื่นซะอีก”แจ็คพูดพร้อมถอนหายใจเบาๆ ก่อนจะรู้สึกตัวอีกทีว่า เขาเริ่มง่วงแล้ว ดังนั้นเขาจึงเอนกายพิงเบาะที่นั่งก่อนจะปิดตาลงอย่างช้าๆ
เครื่องบินยังบินต่อไป และมีจุดแวะเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ ในขณะรอเครื่องขึ้นอยู่นั้น ทั้งเอลซ่าและแจ็คต่างไม่ได้คุยอะไรกัน พูดเขานั่งรอเครื่องขึ้น พวกเขาทั้งสองต่างนั่งตรงกันข้ามกันโดยที่แจ็คนั่งฟังเพลงสุดโปรดของเขากับหูฟังรุ่นบีทส์พร้อมกับจ้องมอง เอลซ่าที่กำลังใจจดใจจ่อกับหนังสือท่องเที่ยวในนิวซีแลนด์
“นี่...จะจ้องอีกนานไหมคุณ”เอลซ่าหันหน้าขึ้นมามองพร้อมทำหน้าค้อนใส่แจ็ค
“ผมเปล่าจ้องนะ”แจ็คส่ายหัวเล็กน้อยก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ
‘นายนั่นโรคจิตชัดๆ’เอลซ่าพูดพร้อมหันมองตามแจ็ค
หลังจากที่เปลี่ยนเครื่องบินเสร็จแล้ว เครื่องบินก็เดินทางต่อไปมุ่งตรงไปยังนิวซีแลนด์ทันที ตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มปรากฏแสงอรุณของวัน พร้อมกับการประกาศจากกัปตันที่เล่าว่า เครื่องจะถึงในอีกสองชั่วโมง ตอนนี้แอร์โฮสเตสได้ถือตระกร้าหนึ่งใบที่ใส่ ใบตรวจขาเข้าของนิวซีแลนด์ ทุกคนที่จะเข้าในนิวซีแลนด์ จะต้องกรอกใบก่อนทุกครั้ง สำหรับชาวยุโรปสามารถอาศัยอยุ่ในนิวซีแลนด์แบบไม่ต้องทำวีซ่าประมาณเก้าสิบวัน
“นี้นะคะ ใบขาเข้านิวซีแลนด์ เอาให้เธอคนนั้นด้วยนะคะ”แอร์โฮสเตสส่งยิ้มให้แจ็คก่อนจะให้ใบกรอกแก่เขา
“ขอบคุณครับ อ่ะป้า”แจ็คพูดพร้อมยื่นใบกรอกขาเข้าให้เอลซ่า
“ขอบใจนะ แต่ไม่ต้องเรียกว่าป้าได้ไหม”เอลซ่าคว้าใบขาเข้าจากมือแจ็คก่อนจะหยิบพาสปอร์ตของตนขึ้นมา
“เป็นชาวนอร์เวย์งั้นหรอ”แจ็คพูดพร้อมจ้องมองพาสปอร์ตสีแดงของเอลซ่าอย่างพิจารณา เอลซ่าไม่ได้พูดอะไรแต่เปิดหน้าแรกของพาสปอร์ต
“เอลซ่า เอเรนเดลล์”แจ็คพูดขึ้นเมื่อเขาเห็นชื่อของที่ถูกติดกับหน้าที่เอลซ่าค้นหหมายเลขออกตน ทำเอาเอลซ่าหันไปมองแจ็ค อย่างสงสัยราวกับเรียกชื่อของเธอทำไม
“ชื่อเพราะดีนิ”คำชมทำเอาเอลซ่าเผยแก้มสีชมพูอ่อนขึ้นมาเล็กน้อย แต่กับนั่งเขียนหมายเลขของพาสปอร์ต ต่อไป
“เรียกผมแจ็คเฉยๆก็ได้นะ”แจ็คพูดพร้อมส่งยิ้มบางๆให้เอลซ่า แต้ท่าทีของเอลซ่าไม่มีที่ส่าจะสนใจสักนิด
“ถ้าเรียกชื่อของฉัน ห้ามเรียกว่าป้าเด็ดขาด โอเคไหม”เอลซ่าเคลื่อนสายตาจากกระดาษก่อนมองมาที่แจ็ค แบบไม่ให้เรียกว่าป้า
“ครับๆ คุณหญิงเอลซ่า”แจ็คยังมีท่าทีที่จะล้อเอลซ่าต่อไป ทำให้เธอหลีกเลี่ยงการสนทนากับแจ็คโดยสิ้นเชิงเสียกว่า
ในที่สุดการเดินทางอันแสนยาวนานก็ได้สิ้นสุดลง เครื่องบินเริ่มลดระดับความสูงก่อนลงสู่พื้นดิน ทั้งผู้โดยสารและเจ้าหน้าที่การบินต่างเข้าประจำที่ รัดเข็มขัดให้เรียบร้อย ล้อของเครื่องบินได้กระทบกับพื้นรันเวย์ด้วยความเร็วยังสม่ำเสมอก่อนที่จะลดความเร็วลงเรื่อยๆ
“ผู้โดยสารทุกท่าน ตอนนี้เราได้มาถึงท่าอากาศยานนานาชาติไคร์ชเชิร์ต (Christchurch International airport) ป็นที่เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้เป็นเวลาเจ็ดโมงเช้า อุณหภูมิอยู่ที่ประมาณห้าองศาเซลเซียส คุณสามารถรับกระเป๋าได้ที่สายพานหมายเลขห้า ขอบคุณที่บินกับเอมิเรต์ แอร์ไลน์ หวังเป็นอย่างยิ่งว่าเราจะได้รับใช้ท่านอีก ขอให้มีความสุขกับการเดินทางค่ะ”
L I T T L E ♡ S W E E T
ความคิดเห็น