ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    [ Fic Jelsa ] Snow in your heart

    ลำดับตอนที่ #2 : 1 Prepare for take off

    • เนื้อหานิยายตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 482
      19
      28 ม.ค. 58

    1

    Prepare for take off

        เวลาได้ล่วงเลยเกือบจะเที่ยงคืนแล้ว เสียงของเข็มยาวบนนาฬิกาสีเขียวยังคงเคลื่อนไหวตามวินาทีของโลกและยืนหยัดจะเดินต่อไป พร้อมกับแสงอาทิตย์ที่สาดส่องผ่านผ้าม่านสีฟ้าอ่อน สำหรับฤดูร้อนดวงอาทิตย์เหนือออสโลจะตกเพียงหกชั่วโมงก่อนจะกลับขึ้นมาอีกครั้ง  แน่นอนสำหรับชาวนอร์วิเจียน การนอนในยามแสงอาทิตย์ส่องอาจจะเป็นเรื่องง่ายสำหรับทุกคน ยกเว้นแต่สาวผมบลอนด์แพลตตินัมที่ชาวเมืองออสโลกล่าวหาว่าเธอคือ แกะดำ ก็ยังคงนั่งทบทวนรายรับ รายจ่ายของร้าน ไปเรื่อยโดยไม่รู้สึกเพลียแม้แต่น้อย

    เอ...ลิลลี่ขายออกสิบช่อ ลาเวนเดอร์ขายได้...เอลซ่าพึมพำถึงรายการที่เธอขายได้ในวันนี้พร้อมกดแป้นพิมพ์บนหน้าจอโน้ตบุ๊คที่รัวและเร็วแสดงถึงความชำนาญในการพิมพ์ของเอลซ่าเป็นอย่างดี

    วันนี้ขายได้ดีไปตามคาดจริงๆ เอลซ่าพูดพร้อมบิดขี้เกียจลงที่เก้าอี้ แสดงถึงความเหนื่อยอ่อนที่เธอทำมาทั้งวัน เธอพักสายตาจากหน้าจอโน้ตบุ๊ค โดยหันไปมองสิ่งต่างๆรอบตัว และทุกสิ่งในห้องนอนเธอจะมีภาพความทรงจำระหว่าเธอกับน้องสาว

    นี่คืออะไรบางอย่างได้เข้าสะดุดตาของเอลซ่าที่ข้างๆโต๊ะของเธอ เนื่องแสงอาทิตย์ได้กระทบกับของสิ่งนั้น เอลซ่าไม่รอช้าที่จะหยิบสิ่งนั้นขึ้นมา เข็มกลัดใบเฟิร์นแถบสีดำและแดงปรากฏออกมาพร้อมกับจดหมายฉบับหนึ่ง ที่เขียนชื่อสลักไว้ด้านหน้าไว้อย่างดี

    อันนา น้องส่งอะไรมาให้พี่เนี่ย เอลซ่าถอนหายใจพร้อมเปิดอ่านข้อความในจดหมายฉบับนั้น

    แด่ พี่เอลซ่า

       พี่เอลซ่า หนูรู้มาโดยตลอดว่า พี่ต้องดูแลหนูให้ปลอดภัยจากภัยอันตรายทั้งปวงตั้งแต่พ่อแม่เสียไป คำว่าเหนื่อยไม่เคยหลุดจากปากพี่เลยแม้แต่น้อย หนูดีใจนะที่มีพี่อย่างนี้  แต่พี่ก็ไม่เคยที่จะได้พักผ่อนแบบเต็มที่สักที ที่พี่บอกว่าไม่มีอะไร หนูรู้ว่าทุกคนในเมืองต่างนินทาว่าร้ายพี่ หนูอดห่วงไม่ได้ที่จะเห็นพี่ต้องทนทุกข์กับสิ่งนี้ตลอดเวลา พี่ต้องการให้ชาวเมืองมีแต่ดุว่าพี่หรอ เป็นหนู ทุกข์แทนเลยนะ หนูอยากให้พี่ไปพักผ่อนที่นิวซีแลนด์นะ ช่วงนี้ฤดูหนาวเป็นฤดูที่พี่ชอบที่สุดด้วย หนูอยากให้พี่มีวันดีๆกับเขาบ้างเท่านั้นเอง หวังว่าพี่จะชอบนะคะ

    (ป.ล. เครื่องออก 10 โมงนะจ๊ะ)

                                                                                                                                                                                 ด้วยรัก อันนา

      ดวงตาสีฟ้าใสไล่อ่านบทความที่น้องสาวเขียนให้มา ทำเอาน้ำตาที่เบ้าตาแทบจะหยดลงแผ่นกระดาษ แต่เอลซ่าก็พยายามกลั้นสุดชีวิต ก่อนหยิบกระดาษอีกแผ่น มันคือตั๋วเครื่องบินที่อันนาพิมพ์ออกมาให้แล้วเรียบร้อยแล้ว เอลซ่าได้แต่แหงนหน้ามองเพดานซึ่งเป็นห้องนอนของอันนา

    ขอบคุณนะ อันนา เอลซ่ายิ้มบางๆก่อนจะเข้านอนในสภาพชุดทำงานอยู่ แต่ด้วยกำลังเพลียที่ถูกสะสมมานาน เปลือกตาจึงเปิดอย่างง่ายได้

     

    พี่เอลซ่า

    อืม...

    พี่ตื่นสิ อันนาพยายามสะกิดพี่สาวที่กำลังหลับสบายใต้ผ้าห่มผืนหนา ให้ตื่นจากห้วงนิทรา

    ขออีกแปปนะเอลซ่าพูดพร้อมหันหน้าไปทางอื่น

    ไม่ได้นะพี่ เครื่องจะขึ้นอยู่แล้วอันนาพูดพร้อมดึงผ้าห่มออกจากร่างพี่สาว แต่เพียงคำว่า เครื่องจะออกตาสีฟ้าได้เบิกโตขึ้นมาทันทีทันใด

    ว่าไงนะ เครื่องจากออกแล้วงั้นหรอเอลซ่ารีบลุกจากเตียงก่อนจะวิ่งเข้าห้องน้ำทันที

    เครื่องออกกี่โมงเสียงตะโกนของเอลซ่าดังออกมาจากห้องน้ำ พร้อมเสียงซู่ซ่าของฝักบัว

    สิบโมงอันนาตะโกนกับก่อนจะหันไปดูนาฬิกาบนหัวที่นอนของเอลซ่า ที่ต้องนี้เข็มสั้นชี้ที่เลขเก้า เข็มยาวที่เล็กสิบ นั้นมาถึง แปดโมงห้าสีบนาที

    จะสายแล้วนะเนี่ยอันนาพูดพร้อมมองไปรอบๆ ก่อนจะหยิบกระเป๋าแบ็คแพ็คสีฟ้ามิ้นต์ขึ้นมาไว้บนเตียง ก่อนจะค้นเสื้อผ้ากันหนาว ชุดชั้นใน เสื้อเล่น และกางเกงออกมาวางไว้บนเตียง

    สายแล้วๆ อันนาพึมพำก่อนจะรีบยัดเสื้อผ้าทุกอย่างลงไปในกระเป๋าที่เอากระเป๋ายังเล็กไปเลย เมื่อทุกอย่างถูดยัดเรียบร้อย อันนาจึงรีบรูดซิบกระเป๋าเป็นจังหวะเดียวกับที่เอลซ่าออกมาจากห้องพอดี

    หืม? จัดกระเป๋าให้หรอ เอลซ่าถามพร้อมมืออีกข้างที่ยังเช็ดผมอยู่ เสียงพูดอันนุ่มนวลของเอลซ่าทำเอาอันนาแทบหันขวับทันที

    พี่ อย่าช้าจะขึ้นเครื่องไม่ทันแล้ว อันนาพูดพร้อมขว้างเสื้อผ้าใส่พี่สาวให้รีบใส่ทันที ทำเอาเอลซ่าแทบจะวิ่งหน้าวิ่งหลังเลยทีเดียว

    ทำไม่ไม่บอกพี่ว่า เครื่องจะขึ้นวันนี้เอลซ่าพูดพร้อมสวมเสื้อใส่

    ก็หนูเขียนไว้อยู่ไง ตรงนี้อันนาพูดพร้อมยกจดหมายให้เอลซ่าดู

    แบบนั้นใครจะไปเห็นล่ะ เฮ้อ เอาเถอะ ไปกันเอลซ่าพูดพร้อมกุมขมับกับความเซ่อซ่าของน้องสาวเธอ ก็ยกเป้ขึ้นพร้อมวิ่งไปที่รถแท็กซี่ที่จอดรออยู้แล้วทันที

    ในขณะที่รถเคลื่อนที่ไปยังสนามบิน อันนาก็ได้ทำหน้าที่เป็นไกด์แนะนำสถานที่ท่องเที่ยวแก่พี่สาวของเธอเป็นอย่างดี แต่ทว่าเอลซ่าไม่ได้ฟังอะไรทั้งสิ้นเพราะจิตใจที่กระวนกระวายเกี่ยวกับตกเครื่องนั้นมากกว่า

    สถานที่ ที่น่าท่องเที่ยวมากที่สุด ในแถบเกาะใต้ของนิวซีแลนด์ คือ ทะเลสาบเทคาโป (Lake tekapo) เป็นทะเลสาบที่มีน้ำเป็นสีฟ้า ช่วงฤดูหนาวเหมาะกับการเล่นสกี สเก็ต แช่น้ำร้อนและดูดาวเป็นอย่างยิ่ง พี่ไปอันนี้ด้วยนะ

    โอเคๆ เดี๋ยวพี่ไป

    พี่ไม่ได้ฟังหนูเลยใช่ไหมเนี่ย อันนาพูดท้วงก่อนจะทำแก้มป่อง

    ฮะว่าอะไรนะ เอลซ่าที่เพิ่งตื่นจากภวังค์ถามคำถามอีกครั้ง

    อ่านเองแล้วกัน เชอะ อันนาพูดพร้อมวางหนังสือไว้ที่ตักของเอลซ่า

    ถึงแล้วครับ เสียงคนขับแท็กซี่เตือนสติทั้งสองคน เอลซ่ารีบเก็บหนังสือใส่กระเป๋า พร้อมยกเป้ขึ้นเพื่อเป็นการเตรียมตัว หันไปมองอันนาก่อนจะสวมกอดเบาๆ

    พี่ไปก่อนนะ เอลซ่าพร้อมปิดประตู แล้ววิ่งตรงไปที่ตัวอาคารทันที

      ภายในตัวอาคารขาออกของสนามบินออสโล เต็มไปด้วยผู้คนมากมายหลายเชื้อชาติที่กำลังจะเดินทางกลับสู่ประเทศของตนเองไปตามสายการบินต่างๆ เสียงรถเข็นที่ถูกเติมเต็มโดยกระเป๋าหลายใบของผู้โดยสารที่มาทั้งครอบครัวได้สร้างสีสันให้แก่สนามบินเป็นอย่างดี  ผิดกลับผู้โดยสารที่เดินทางคนเดียวที่มีกระเป๋าลากหนึ่งใบก็เอาอยู่แล้ว เรือนผมสีเงินจดจ้องกระดานบอร์ดที่บอกเวลาขึ้นเครื่องสายการบิน พร้อมมองตั๋วสลับกับมองตารางบินแบบงึนงง

    นอร์ทจะให้ไปทำอะไรที่นิวซีแลนด์เนี่ย แจ็คพูดขึ้นพร้อมมองไปยังจดหมายที่นอร์ทเขียนให้เขา เหมือนเป็นภารกิจอะไรสักอย่าง แต่ก็ถูกกำชับไว้ด้วย ข้อความที่เขียนว่า อย่าเพิ่งเปิดอ่านก่อนถึงนิวซีแลนด์ล่ะ

    แทนที่จะให้เปิดเลย จะได้รู้ว่าต้องทำอะไรตอนไปถึงแจ็คบ่นอุบอิบก่อนจะเอาตั๋วใส่กระเป๋าเสื้อ

    ขอทางหน่อยคะ ขอโทษนะคะเสียงพูดที่ไพเราะที่กำลังกล่าวขอทางผู้คนสัญจรไปมาได้ไปแตะโสตประสาทหูของแจ็ค ทำเอาเขาหันไปมองตามเสียง แต่ทว่าแม่สาวคนนั้นก็ได้เดินตัดหน้าเขาอย่างรวดเร็วจนเขาแทบมองไม่ทัน มีสิ่งเดียวที่เขาจำได้จากเธอ คือ ผมสีบลอนด์อ่อนราวหิมะที่ถูกเปียรวบไว้เป็นเกล้า

    ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันนะแจ็คพูดพร้อมเกาหัวเบาๆ

    ช่างมันเถอะรีบเข้า เกตต์ ดีกว่า แจ็คพูดพร้อมลากกระเป๋าเข้าไปยังบริเวณตรวจออกเมืองทันที

      หลังจากที่เอลซ่าได้แลกตั๋วพร้อมฝากกระเป๋าเพื่อเข้าใต้ท้องเครื่องแล้วนั้น เธอไม่รอช้าวิ่งไปยังตรวจคนออกเมืองทันที ซึ่งโชคดีที่ตอนนี้ที่ไม่มีคน ทำให้เธอไปได้เร็วยิ่งขึ้น หลังผ่านด่าน เธอก้มลงดูนาฬิกาข้อมือสีฟ้าซึ่งบอกเวลา เก้าโมงห้าสิบห้านาที

    Miss Elsa Arendelle, this is your final call for Emirates Airline EK 914 to New Zealand..เสียงประกาศจากสายการบิน ทำเอาเอลซ่าต้องวิ่งแบบสปีดเพิ่มขึ้นสิบเท่า

    เกตต์ที่ห้าสิบสาม เกตต์ที่ห้าสิบสาม เอลซ่ามองไปรอบบริเวณที่มีเกตต์เต็มไปหมด  

    นั้นไงเอลซ่ารีบวิ่งไปที่เกตต์ที่ห้าสิบสามทันที เมื่อเธอไปถึงพบว่ามีพนักงานรออยู่แล้ว จึงรีบนำตั๋วให้เขาทันที

    คุณเอลซ่า เอเรนเดลล์ใช่ไหมค่ะ

    ใช่ค่ะ

    ขึ้นเครื่องด่วนค่ะ พนักงานพูดพร้อมายมือเชิญ สำหรับเอลซ่ามันคือสัณญาณเตรียมวิ่ง เธอจึงวิ่งผ่านท่อเดินแบบรวดเร็วจนถึงเครื่องบินทันเวลาพอดี

    สวัสดีค่ะนั่งที่เท่าไหร่ค่ะ 50A ด้านซ้ายเลยค่ะพนักงานตอนรับพูดพร้อมผายมือไปยังด้านซ้าย 

       เอลซ่าที่วิ่งมาตั้งแต่ด่านตรวจออกเมือง จนถึงเครื่องบินทำเอาเธอแทบหอบขึ้น เอลซ่ารีบเดินไปยังฝั่งซ้ายทันที ตอนนี้ผู้โดยสารมากหน้าหลายต่างจดจ้องมาที่เธอด้วยแววตาว่า มาสายนะแน่นอนว่าเธอโดนสายตาที่ถูกเหยียดยามมานับเป็นร้อย แต่ก็ไม่ได้น่าอายขนาดนี้ เอลซ่ารีบเดินไปเรื่อยๆจนกระทั่งมาถึงที่นั่งที่ 50A

    ขอโทษนะค่ะ ขอเข้าไปหน่อยได้ไหม เอลซ่ากล่าวพร้อมยิ้มเปรยเพราะความเหนื่อย ทันทีที่ผู้โดยสารทั้งสองคนได้ยิน ผู้ชายผมสีขาวราวเกล็ดเงิน สะดุ้งเล็กน้อยก่อนที่นิ่งและลุกให้เพื่อที่เอลซ่าจะได้เข้าไป

    ผู้ชายผมขาวเป็นอะไรนะเอลซ่าคิดในขณะเดินเข้าไปยังที่นั่งใกล้หน้าต่าง เนื่องจากกิริยาของชายผู้นั้นมันแสดงให้เห็น

      จากนั้นหน้าจอที่ถูดติดกับเบาะนั่งด้านของผู้โดยสารแต่ละคนเริ่มฉายวิธีการสวมเสื่อชูชีพ หน้ากากออกซิเจน กฏ ข้อห้ามของเครื่องบิน แต่ทว่าเอลซ่าก็ไม่ได้สนใจเสียเท่าไหร่ เพราะเธอมองออกไปนอกหน้าต่า ที่ในความคิดขอเธอ เธอจะได้เห็นความสวยงามของเมืองออสโลเหนือน่านฟ้าเป็นครั้งแรกแล้ว ในขณะเดียวกัน ดวงตาสีฟ้าใสของชายเจ้าของเรือนผมสีเงินขาวก็จ้องมองเธอด้วยเช่นกัน ด้วยแสงสะท้อนจากกระจกจของหน้าต่างทำให้เอลซ่ารับรู้ว่าผู้ชายคนที่นั่งข้างๆเธอมองเธอแบบไม่ตากระพริบ เมื่อเธอลองหันไปหาเขาบ้าง เขากลับเบือนหน้าหนี ทำให้เอลซ่ารู้สึกตะหงิดใจเสียไม่น้อย

    ใช่เธอคนนั้นแน่ๆแจ็คพูดพร้อมหันไปสนใจหนังสือที่อยู่หน้าที่นั่งทัน

    แสงกระพริบของสัญลักษณ์รัดเข็มขัดบวกกับเสียงเตือนสองครั้ง เหนือที่ศีรษะผู้โดยสารอีกครั้งนั้นไม่ใช่สำหรับผู้โดยสาร แต่สำหรับลูกเรือให้เข้าประจำที่พร้อมที่ทะยานเครื่องขึ้นฟ้าแล้ว

    Cabin Crews, prepare for takeoff

    ◈ T H E M E ◈
    L I T T L E ♡ S W E E T
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×