ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    เล่ห์

    ลำดับตอนที่ #4 : สั่งสอนไม่ละเว้น

    • อัปเดตล่าสุด 18 ธ.ค. 65



    รัชศกเซียนเทียนที่สาม เดือนหนึ่ง ปีจอ วันที่สิบเจ็ด

     

    นี่มันอะไรกัน!พยัคฆ์เฒ่าตวาดลั่นเมื่อเห็นร่างกายเปียกปอนทั้งยังร่องรอยตบตีบนตัวของหลานรักที่แทบจะกลายเป็นผักปลาข้างสระน้ำ 

    ดรุณีน้อยในอาภรณ์สีชมพูอ่อนตัวสั่นระริกด้วยความหวาดกลัว นางมิเคยต้องเผชิญความกดดันเยี่ยงนี้มาก่อน ดวงตากลมสั่นวูบไหว หยดน้ำตามากมายพรั่งพรู เสียงสะอื้นชวนให้ผู้อยู่ในเหตุการณ์อยากปลอบขวัญ เพียงแต่ติดที่ร่างกายใหญโต แม้สูงวัยทว่ายังทรนงองอาจขวางกั้น

    หมิงชื่อซิ่นโกรธจนเคราสั่น ที่ยังมิได้สติคือหลานรักที่เจ้าหลานชายเพิ่งช่วยขึ้นมาจากสระ เสียงสาวใช้ร้องห่มร้องไห้โวยวายด้วยเนื้อตัวเปียกปอน กรีดใจเหลือแสน

    เหวินลู่ซือ!เจ้าตัวน่าตายจงตอบข้า!

    ท่านพ่อตาระงับอารมณ์ก่อนเถิด เรื่องนี้ย่อมเป็นเพียงอุบัติเหตุผู้เป็นบุตรเขยรีบใช้น้ำเย็นเข้าลูบ

    แม้บุรุษตรงหน้าจะปลดตนเองจากตำแหน่งแม่ทัพแล้ว ทว่ายังเหลือตำแหน่งที่ปรึกษาของแม่ทัพใหญ่ให้เขาพอยืมชื่อมาใช้ประโยชน์ได้บ้าง เพราะอย่างนั้นจึงมิได้ทอดทิ้งภรรยาเอกที่แต่งเข้ามาด้วยสมรสพระราชทาน

    อุบัติเหตุรึ! เจ้าคิดว่าข้าโง่งมนักหรือพยัคฆ์เฒ่าคำรามเสียงต่ำในลำคอ เจ้า! บอกข้ามาว่าเกิดอันใดขึ้น!

    เสี่ยวเหยาชะงัก คุณหนูของนางที่ยังมิได้สติ นางพยายามกระโดดลงน้ำเพื่อช่วยคุณหนูแล้ว ทว่าเรี่ยวแรงของนางมิอาจดึงคุณหนูขึ้นมาได้ สาวรับใช้น้ำตาไหลพรากอย่างรู้สึกผิด หากคุณหนูเป็นอันใดไปย่อมเป็นเพราะนาง

    คุณหนูของเสี่ยวเหยา ฮึก คุณหนูออกมารับลมเจ้าค่ะ แล้วบังเอิญเห็นว่าคุณหนูสามถือปิ่นที่เป็นสินเดิมของฮูหยินเอกจึงได้เอ่ยถาม แต่-แต่คุณหนูสามกลับโกรธ กล่าวว่าทุกอย่างในจวนล้วนเป็นของนาง คุณหนูจึงเข้าไปยื้อแย่งจนถูกผลักตกสระน้ำเจ้าค่ะ

    บังอาจ!หมิงชื่อซิ่นตวาดลั่น ได้ยินไปถึงนอกจวน ชาวบ้านต่างรีบเงี่ยหูฟังด้วยหวังจะนำไปบอกต่อให้สนุกปาก

    นี่หรืออุบัติเหตุของเจ้า กล้าขโมยของของผู้อื่น ขวัญกล้าถึงกับกล้าทำร้ายบุตรีฮูหยินเอก ต่ำช้านัก!

    ข้าไม่ได้ทำ!เหวินลู่หลินแม้หวาดกลัว ทว่านางมิคิดว่าจำเป็นต้องเคารพผู้ที่มิได้ร่วมสายเลือดกับนางสักนิด ดรุณีน้อยเชิดหน้าถือดี แม้ใบหน้างามจะติดซีดเซียวอยู่บ้าง 

    เจ้ามได้ทำแล้วจะกล่าวว่านางทำรึเหวินเลี่ยงหรงที่เพิ่งกลับจากไปตามหมอถามน้องสาวอีกคนเสียงเรียบ เขาจ้องหน้านางรอคอยคำตอบ

    เป็นนางกระโดดลงไปเอง ข้าไม่เกี่ยวนางยังคงนับถือพี่ชายผู้นี้อยู่บ้าง พอกันกับที่ยังคงให้เกียรติหัวหน้าพ่อบ้านนั่นแหละ 

    คิดแล้วแค้นใจนัก นางบังเอิญเจออาภรณ์และเครื่องประดับงดงามที่นังแพศยาเอาไปซ่อนไว้ในเรือนนอนโกโรโกโส ทั้งยังมีเครื่องประทินผิวอีก จึงได้ริบมาทั้งหมด ปิ่นนี่ก็เช่นกัน เพราะมันงดงามเหมาะกับสตรีงามเช่นนางจึงได้ยึดเอามา ตั้งใจจะเก็บไว้ใช้วันปักปิ่น แต่นั่งแพศยามิรู้เอาเรี่ยวแรงมาจากที่ใดกลับคว้าไปจากมือนาง ทำให้บาดเป็นแผลได้เลือด นางเพียงโมโหลงมือตบตีไปเล็กน้อย จู่ๆมันกลับฉุดแขนนาง เอนตัวลงไปในสระน้ำด้วยตนเอง

    นางมิได้ทำอันใดทั้งสิ้น!

    คุณหนูไม่ได้โดดลงไปเจ้าค่ะ คุณหนูถูกผลัก! นางยังจับยึดแขนของคุณหนูสามไว้อยู่เลยเจ้าค่ะ เสี่ยวเหยารีบทวงความยุติธรรมให้คุณหนูของตน ดวงตาจับจ้องยังชายที่โกรธแค้นแทนคุณหนูของนางอย่างหวังขอที่พึ่งพิง

    เปิดแขนเสื้อพยัคฆ์เฒ่าพยายามข่มกลั้นโทสะมิให้เผลอทำลายสิ่งใดในจวนไรค่าหรือบีบคอหญิงไม่เจียมตนตรงหน้าให้แหลกคามือ

    ได้อย่างไร นางเป็นสตรีนะขอรับเหวินลู่ซือรีบแย้ง แม้เป็นเด็กสาวแต่อย่างไรก็คือสตรี จะให้เปิดเผยเนื้อหนักให้ผู้ใดดูได้อย่างไร

    เปิด!

    เหวินลู่หลินจับแขนเสื้อตนเองแน่น เป็นตายอย่างไรนางก็มิยอมเปิดแขนเสื้อเด็ดขาด นังแพศยาจับแขนนางไว้จริง ทั้งยังใช้เล็บจิกจนเป็นอยแดงเลือดซิบ ยามนี้ยังแสบไม่หาย

    อย่าให้ต้องใช้กำลัง เจ้ารู้ดีว่าข้าทำอะไรได้บ้างเหวินลู่ซือนัยน์ตาพยัคฆ์จับจ้องบุตรเขยอย่างกดดัน เขาสามารถทำให้สกุลเหวินหายไปสิ้นยังได้

    หลินเอ๋อร์เจ้าบ้านสกุลเหวินเอ่ยเรียกบุตรีสุดที่รักเสียงอ่อย แม้มิยินยอมแต่จะทำอย่างไรได้

    เปิดแขนเสื้อ

    ท่านพ่อ!

    พ่อสั่ง!หากต้องแลกกับสกุลเหวิน เขายินดีที่จะให้บุตรีเปิดแขนเสื้อเล็กน้อยเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์ เขาเชื่อว่าลูกรักมิมีทางลดตัวลงไปกระทำดั่งที่ถูกกล่าวหาแน่ แม้นางจะอารมณ์ร้ายไปบ้าง แต่อย่างมากย่อมเพียงตบตีเท่านั้น

    บุตรีของเขาแท้จริงแล้วแสนอ่อนหวาน

    เหวินลู่หลินหายใจกระฟัดกระเฟียด มือซ้ายเลิกชายแขนเสื้อขึ้นเล็กน้อย ทว่ากลับเพียงพอให้ผู้ที่รั้งรออยู่ก่อนมองเห็นรอยแดง

    หมิงชื่อซิ่นตวัดสายตามองบุตรเขยของตน เอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบ

    เจ้าจะอธิบายว่าอย่างไร

    คุณหนูฟื้นแล้ว! เสี่ยวเหยาร้องเสียงดังเมื่อเห็นแพขนตาหนาขยับไหวก่อนลืมขึ้น

    เหวินเลี่ยงหรูไสองสามครั้งก่อนปล่อยเสียงร้องไห้โฮน่าสงสารจับใจ นางขดตัวเป็นก้อนกลม ปากร้องบอกอย่าฆ่านางเลยอย่างหวาดกลัว ยิ่งทำให้ผู้เป็นตาทวีความโกรธจนเผลอตวัดมือทำลายหินประดับสวนจนป่นเป็นผุยผง

    เหวิน! ลู่! ซือ!

    ท่านพ่อตาโปรดเมตตา เรื่องนี้ข้าอธิบายได้เหวินลู่ซือทิ้งตัวลงคุกเข่า ละสิ้นซึ่งศักดิ์ศรี เพราะมิเคยเห็นอีกฝ่ายโกรธเคืองเพียงนี้มาก่อนจึงหวาดกลัวจับใจ

    ข้าไม่ต้องการคำอธิบายแล้วนัยน์ตาพยัคฆ์คล้ายลุกโชนด้วยเปลวเพลิง หมิงชื่อซิ่นกระตุกยิ้มเหี้ยมยามจับจ้องคนขลาดกลัว มิลังเลที่จะปล่อยรังสีฆ่าฟันดั่งอยู่ในสนามรบ

    หากเป็นไปได้เขาปรารถนาจะฉีกมันเป็นชิ้นๆทั้งเป็น!

    หย่ากับบุตรีของข้าเสีย!

    วังลี่หลินกอดบุตรสาวแน่น หากแต่ในใจกลับหัวเราะร่ายินดี เพราะสามีของนางมิยอมหาเรื่องหย่าขาดกับนังจิ้งจอกหนิงเซียน ทำให้นางยังคงเป็นรอง มิอาจออกงานเชิดหน้าชูตาได้ บัดนี้บิดามันยื่นคำสั่งมาเองเยี่ยงนี้นับว่าเป็นผลดีกับนางนัก

    ผิดกับเหวินลู่ซือที่ใบหน้าเผือดสี เค้าลางความหล่อเหลาหดหายจนหมดสิ้น เขามิอยากปล่อยอำนาจสกุลหมิงที่แม้ลดน้อยถอยลงทว่าหาได้สิ้นไป อย่างน้อยพ่อตาของเขายังมีตำแหน่งที่ปรึกษาในกองทัพให้ผู้นับหน้าถือตาอยู่บ้าง

    ท่านพ่อตา เรื่องใหญ่เช่นนี้...”

    หากไม่หย่าก็จงนำตัวบุตรีของเจ้าไปให้ทางการเสียหมิงชื่อซิ่นมิยอมผ่อนปรน บุตรเขยเลวทรามเช่นนี้สกุลหมิงหาได้ต้องการไม่ นับว่าบุตรีของเขามีตาแต่ไร้แวว หลงคารมเจ้าคนขี้ขลาดตาขาวแล้วเมินเฉยผู้สูงศักดิ์ในคราก่อน

    และเป็นเพราะเขามิอยากให้นางต้องจมอยู่ในวังวนแก่งแย่งชิงดี จึงยินยอมให้แต่งกับบุตรเขยผู้นี้

    ท่านพ่อ!เหวินลู่หลินร้องลั่น มิยอมถูกจับส่งทางการให้ชื่อเสียงที่สั่งสมมาต้องมัวหมอง

    อีกเพียงสองปีนางก็จะเข้าพิธีปักปิ่น

    อีกเพียงสองปีนางจะได้ยืนอยู่เบื้องหน้าท่านแม่ทัพอย่างภาคภูมิแล้ว นางจะยอมแปดเปื้อนมิได้

    ข้าไม่หย่า!เหวินลู่ซือประกาศกร้าว แม้มิรักภรรยาหรือบุตรีที่เกิดจากนาง ทว่าเขารักผลประโยชน์ที่ติดตัวนางมา อย่างไรก็มิยอมปล่อยเด็ดขาด

    ดี! ในเมื่อเจ้ามิยอมหย่า เช่นนั้นก็จงรอรับความพินาศเสียเถอะ!

    พยัคฆ์เฒ่ากระตุกรอยยิ้มมาดหมาย มิยอมหย่าแต่โดยดีเช่นนี้ย่อมเป็นผลดีกับฝ่ายตน

    หรงเอ๋อร์ พาหรูเอ๋อร์กลับสกุลหมิง

    ไม่ได้! นางเป็นบุตรีของข้าย่อมต้องอยู่ที่นี่!ผู้ที่เพิ่งตระหนักได้ว่าตนเป็นบิดายืนยันขัดขวาง เขาผุดลุกจากพื้นในสายตามีความมิยินยอม

    อยู่ให้ตายตกไปรึหมิงชื่อซิ่นยิ้มเยาะ เจ้าดูสิ่งที่ลูกและภรรยาเจ้าทำกับหลานข้า จะให้ข้ายอมปล่อยนางไว้ในดงหมาในหรือ ไม่มีทาง!

    ต่อว่ากันเกินไปแล้ว ท่านเป็นเพียงคนนอกมิมีสิทธิ์เข้ามายุ่งเรื่องในครอบครัวของข้าเหวินลู่ซือมิอาจปล่อยให้พ่อตาพาบุตรชายที่น่าภาคภูมิใจและบุตรสาวน่าชังออกไปได้ หากผู้อื่นทราบมิเท่ากับเขาต้องถูกว่าร้ายหรือ

    แม้มิใส่ใจนางกับมารดาของนาง ทว่าอย่างไรนั่นก็เลือดเนื้อเชื้อไข

    นางยังใช้ประโยชน์ได้

    เช่นนั้นจงรอดู ว่าข้ามีสิทธิ์หรือไม่กายสูงใหญ่ย่อตัวลงข้างหลานสาวที่รักที่เอาแต่สะอึกสะอื้นอยู่ในอ้อมกอดของสาวรับใช้

    หรูเอ๋อร์ ตามารับเจ้าแล้ว

    เหวินเลี่ยงหรูผินดวงหน้าซีดเซียวมองผ่านกลุ่มน้ำตา เห็นชายชราท่าทางใจดีกำลังส่งยิ้มให้ ในห้วงความจำของนางจดจำได้ทันที คนผู้นี้คือท่านตาที่กล่าววนางคือแก้วตาดวงใจ

    ท่านตา ช่วยหรูเอ๋อร์ด้วย ฮือ หรูเอ๋อร์ไม่อยากอยู่ที่นี่แล้วนางผละออกจากอ้อมกอดขแสนอบอุ่นองเสี่ยวเหยา โผเข้ากอดผู้เป็นตาแน่น

    พวกเขาจะฆ่าหรูเอ๋อร์ พวกเขาจะ...โฮ

    หมิงชื่อซิ่นลูบปลอบหลานสาวเป็นพัลวัน นัยน์ตามิมีร่องรอยฝ้าฟางแข็งกร้าวตวัดมองบุตรเขยตัวดีที่กำลังจะเต้นผางชี้หน้าหลานสาวเขา ทำให้เหวินลู่ซือจำต้องลดมือลง หากแต่ยังคงแช่งชักหักกระดูกบุตรีมิได้ความของตน

    เฮยหลาง

    ร่างในชุดสีดำสนิทเคลื่อนกายหยัดยืนด้านหลังผู้เป็นนายรวดเร็ว ชายหนุ่มร่างกายสูงใหญ่ท่วงท่าย่างก้าวดุดันค้อมศีรษะรอฟังคำสั่ง

    ข้าจะพาหลานกลับจวนเขาช้อนร่างบอบบางของหลานรักขึ้นอุ้ม มันเบาโหวงเสียจนใจคนแก่ทุกข์ตรม ทว่าความโกรธเคืองกลับมีมากกว่าจึงสั่งการต่อด้วยน้ำเสียงไร้ปราณี

    ใครขวาง สั่งสอนไม่ละเว้น!

    ต่อให้มันเป็นสตรีก็จงทำให้มันจดจำว่ามิควรต่อกรกับเขา!

    หลังจากนั้นเพียงหนึ่งวัน ชาวบ้านต่างพากันรุมล้อมอยู่หน้าจวนสกุลเหวิน คนของทางการพากันเอากระดาษมาปิดประกาศถึงหน้าประตูจวน ผู้รู้หนังสืออยู่บ้างพยายามอ่านให้ฟัง

    ได้ความว่าหัวหน้าอาลักษณ์เหวินลู่ซือจิตใจหยาบกระด้าง ให้ท้ายบุตรีจากฮูหยินรองรังแกบุตรีฮูหยินเอก ละเลยความเป็นธรรมในจวน ส่งเสริมบุตรสาวคนเล็กลักขโมยสินเดิมของฮูหยินเอกขายทอดโรงจำนำ รับสั่งพักงานหนึ่งปีเพื่อขัดเกลาตนเอง ริบเบี้ยหวัดย้อนหลังหนึ่งปีเข้าท้องพระคลังและให้ไถ่ถอนสิ่งของทั้งหมดส่งคืนฮูหยินเอกตามรายการสินเดิมยามแต่งเข้าสกุลเหวิน 

    โบยเหวินลู่ซือหกสิบไม้ฐานเป็นบิดาและขุนนางแต่กลับมิดำรงตนในคุณธรรม

    โบยวังลี่หลินสี่สิบไม้ฐานเป็นมารดาแต่มิอบรมสั่งสอนบุตรี

    โบยเหวินลู่หลินสามสิบไม้ ตบปากสี่สิบที ส่งไปบวชชีขัดเกลาจิตใจสองปี

    พระราชทานหนังสือหย่าระหว่างเหวินลู่ซือและหมิงหนิงเซียน บุตรทั้งสองให้ถือเป็นทายาทสกุลหมิง

    ฉะนั้นยามนี้จึงได้ยินเสียงกรีดร้องของสตรีที่ดังออกมาจากจวนสกุลเหวิน คนต่างคาดเดาว่าเป็นเสียงของฮูหยินรอง เสียงคร่ำครวญหาความเป็นธรรมของคุณหนูคนเล็ก ชาวบ้านล้วนได้ยินเสียงไม้กระทบเนื้อดังลั่นจนพากันลูบแขนด้วยความหวาดกลัว

    เจ้าพวกสุนัขสกุลเหวินกล้าวางยาน้องสาวข้า!

    ชาวบ้านต่างหลีกทางให้บุรุษท่าทางสุภาพที่กระโดดลงจากหลังม้าตรงเข้าถีบประตูจวนสกุลเหวินเสียงดัง ชายผู้นั้นใบหน้าเกลี้ยงเกลาทว่าคร้ามแดด ดวงตาที่ควรจะอ่อนโยนดั่งรูปหน้ากลับฉายแววโกรธขึง เขาสวมอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มที่เปื้อนหมึกหลายจุด มือทั้งคู่ทุบตีประตูเช่นเดียวกับขาที่เตะต่อย

    กระทั่งพ่อบ้านสกุลเหวินแล่นรี่มาเปิดประตูให้ ชายผู้นั้นจึงได้เข้าไปยังผลให้ชาวบ้านที่ชะเง้อชะแง้แลมองหวังได้เห็นภาพภายในจวน

    ทหารมากมายที่แต่งกายด้วยเครื่องแบบวังหลวงยืนรายล้อมตามจุด สองนายกำลังโบยตีเหวินลู่ซือจนเนื้อแตก สองนายกำลังนำน้ำสาดร่างของวังลี่หลิน และอีกหนึ่งนายกำลังตบปากเหวินลู่หลินโดยมีสาวรับใช้พยุงร่างเจ้านายตน

    โหดร้ายยิ่ง!

    ทว่าเสียงตะโกนด้วยโทสะของบุรุษที่เพิ่งก้าวเข้าจวนไปกลับทำให้ชาวบ้านได้หัวข้อสนทนาขึ้นถกเถียง คล้ายว่าภาพโหดร้ายเมื่อครู่จะสมควรยิ่งแล้ว

    สุนัขสกุลเหวิน เจ้าคิดฆ่าเมียฆ่าลูกตนเอง เจ้าคนต่ำช้า!

    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน
    ดูอีบุ๊ก

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×