ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายพร้อมลูกหมูอีกสามตัว(มีอีบุ๊ก) - นิยาย ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายพร้อมลูกหมูอีกสามตัว(มีอีบุ๊ก) : Dek-D.com - Writer
×

    ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายพร้อมลูกหมูอีกสามตัว(มีอีบุ๊ก)

    ทะลุมิติไปอยู่ในร่างหญิงม่ายพร้อมลูกอีกสามคน เพื่อความอยู่รอดของลูก เธอต้องทำทุกวิถีทางเพื่อเลี้ยงดูพวกเขา

    ผู้เข้าชมรวม

    18,327

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    165

    ผู้เข้าชมรวม


    18.32K

    ความคิดเห็น


    52

    คนติดตาม


    459
    จำนวนตอน :  14 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  23 ก.ย. 67 / 09:19 น.
    loading
    กำลังโหลด...
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    ไรต์ขอฝากนิยายไทยอีสานอีกเรื่องค่ะ เร่ื่องนี้เป็นเรื่องสั้นประมาณสองหมื่นคำ เป็นเรื่องราวของปานวาดที่ทะลุมิติไปอยู่ในร่างของผู้หญิงที่มีชื่อเดียวกันกับเธอ เธอเป็นแม่ม่ายลูกสาม เจ้าของร่างเดิมขายสมบัติสามีไปจนหมด เธอต้องทำทุกวิถีทางเพื่อความอยู่รอดของเจ้าลูกหมูทั้งสาม

    ฝากติดตามนิยายของไรต์ด้วยนะค้า เรื่องนี้ไรต์อัปไม่จบน้า

    ……………..

    หนุ่มตัวโตผิวเข้มที่แอบยืนมองอยู่บนบ้านนานแล้วได้แต่ส่ายหัวแล้วแค่นยิ้ม จะปีนต้นไม้แต่ไม่ได้ดูสารรูปตัวเองเลยสักนิด

    ร่างใหญ่เดินข้ามรั้วไม่ถึงสามนาทีก็มาถึงต้นมะขาม

    “อ้วนแล้วยังไม่ฉลาดอีก” เมื่อคืนรู้สึกปวดเอวมากพอนอนคิดไปคิดมาถึงได้รู้ว่าเกิดจากการที่เขาอุ้มยายตุ้ยนุ้ยคนนี้ เขายังรู้สึกทึ่งตัวเองว่าอุ้มร่างเธอวิ่งเข้าไปในร่มได้อย่างไร นี่แหละหนาเขาถึงว่าเมื่อยามตกใจยกโอ่งใบใหญ่แค่ไหนก็ได้ 

    ปานวาดหันขวับเมื่อเสียงทุ้มดังอยู่ไม่ไกล อ้อ อีตาหมีกินผึ้งนี่เอง “อ้วนแล้วมันหนักหัวใคร” เธอถามออกมาอย่างอารมณ์ฉุน เขาหล่อมากเลยนะแต่ไม่รู้ทำไมเขาเป็นคนปากหมาเช่นนี้ ในความทรงจำเดิมเธอไม่เคยคุยกับอีตานี่เลย แล้วทำไมวันนี้เขาถึงมาหาเธอถึงบ้านได้

    “หึ ๆ มันก็ไม่หนักหัวใครหรอก แต่มันปีนต้นไม้ไม่ไหวไง แล้วจะปีนขึ้นไปทำอะไรบนนั้น หรือข้างล่างไม่มีที่ให้นั่งแล้ว” เห็นว่าเอาแกงหอยไปฝากหรอกนะ ถึงได้มีกะจิตกะใจเดินมาถาม อีกอย่างเห็นกวาดลานบ้านงก ๆ ก็เลยจะเดินมาดูสักหน่อย ดูท่าฝนจะตกลงมาในหน้าหนาวเสียแล้วกระมัง

    ปานวาดทำหน้างอแต่ก็ยอมบอกเขา “จะปีนไปเก็บมะขาม” ยืนขึ้นปัดเศษดินและใบมะขามออกจากผ้าถุงตัวเอง เดินมาเสียเปล่าจะช่วยดึงแขนเธอลุกขึ้นก็ไม่ช่วย แล้งน้ำใจชะมัด

    “จะใช้เยอะขนาดนั้นเลยเหรอทำไมไม่ใช้ไม้สอย หรือทำไม่เป็น” ก็เขาไม่เห็นเธอทำอะไรช่วยสามีเลยสักอย่างเลยคิดว่าแค่สอยมะขามก็น่าจะทำไม่เป็นเช่นกัน

    “สอยเป็น แต่ฉันจะเอาหมดทั้งต้นนี้เลยไง จะเอาไปขาย”

    ดรุนัยก็เพิ่งคิดได้ตอนนี้ว่าแท้จริงแล้วมะขามเปียกมันขายได้ เขาจึงบอกเธอเสียงอ่อนลงแต่ก็ยังห้วนเหมือนเดิม “ไปยืนที่อื่น” 

    ปานวาดจึงเดินหลบออกไปจากตรงนั้นแล้วถามเขาออกไป “คุณจะทำอะไรคะ”

    เขาไม่ตอบแต่ร่างสูงใหญ่กลับถอดรองเท้าแตะคีบออกแล้วปีนขึ้นไปบนต้นมะขามแทน จากนั้นก็ขย่มแรง ๆ ทีละกิ่ง เห็นว่าเธอจะเอาไปขายเพื่อนำเงินมาเลี้ยงครอบครัวหรอกนะเขาถึงอยากช่วย ถ้าไม่เห็นแก่เด็ก ๆ และกิตติสามีของเธอที่เป็นรุ่นพี่ที่เขาเคยนับถือล่ะก็เขาไม่มีทางเหยียบย่างเท้าเข้ามาในบ้านหลังนี้เป็นอันขาด

    มะขามสุกร่วงลงมาเกลื่อนพื้นดิน ปานวาดจึงยิ้มออกมาได้ ดรุนัยขย่มกิ่งมะขามให้เธอจนครบทุกกิ่ง มะขามบนต้นเหลือเพียงไม่กี่สิบลูกเขาจึงลงจากต้นของมัน สวมรองเท้าแตะแล้วเอ่ยถาม “เก็บคนเดียวได้ใช่ไหม” เขายังมีงานอย่างอื่นที่ต้องทำ รถมอเตอร์ไซด์ที่รอซ่อมยังมีอีกสองคัน เขาต้องขับรถไปซื้ออะไหล่ที่อำเภอด้วย หลังจากที่ลาออกจากงานที่สมุทรปราการแล้วกลับมาอยู่บ้านดรุนัยเพิ่งเปิดร้านซ่อมรถมอเตอร์ไซด์ได้เพียงสองเดือนเท่านั้น

    ปานวาดยิ้มให้พร้อมบอกเขา “เก็บได้ค่ะ ขอบคุณมากนะคะ” จากที่เคยคิดว่าเขาแล้งน้ำใจก็เปลี่ยนใจทันที ถึงจะปากไม่ดีเท่าไรแต่ก็ยังพอให้อภัยได้

    “ฉันกลัวเธอตกต้นไม้ตายก่อนจะได้ไปขายมะขามมาเลี้ยงลูกต่างหากล่ะ” พูดแค่นั้นก็เดินกลับบ้านตัวเองไป ก้าวขายาว ๆ ข้ามรั้วไม้ไผ่ช่องที่มีเพียงสองชั้นไปอย่างรวดเร็ว

    ปานวาดมองตามแผ่นหลังกว้างแล้วแอบคิดในใจ ผู้ชายอะไรขี้เก๊กเป็นบ้า!

     

    อีบุ๊กในเมพพร้อมโหลดแล้วนะคะ โปรโมชันจากราคา 79 บาท ลดเหลือเพียง 49 บาท ถึงวันที่ 2 มิถุนายนนี้นะคะ

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น