แค่ใครสักคน. - นิยาย แค่ใครสักคน. : Dek-D.com - Writer
×

    แค่ใครสักคน.

    เธอ: จากเด็กกำพร้าสู่เจ้าของธุรกิจหลักล้าน ทุกอย่างกำลังจะไปได้ดีหากเธอไม่พบว่าตัวเองเป็นมะเร็งระยะลุกลามเสียก่อน เขา: จากเด็กวัดที่ไม่มีอะไรเลยยอมรับจ้างเป็นแฟนตามสัญญาจ้างของเธอ

    ผู้เข้าชมรวม

    592

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    7

    ผู้เข้าชมรวม


    592

    ความคิดเห็น


    1

    คนติดตาม


    5
    หมวด :  ซึ้งกินใจ
    จำนวนตอน :  5 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  1 ก.ย. 66 / 18:52 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    เรื่องนี้เป็นเรื่องสั้นมาก ๆ ค่ะ เอาไว้อ่านเล่น ๆ นะคะ

    บทนำ

    นานแค่ไหนแล้วที่เธอไม่เคยตรวจร่างกายประจำปีเลย ชีวิตมีแต่งานและการสร้างฐานะเพื่อให้ชีวิตตัวเองมีความมั่งคั่งมั่นคง เหตุเพราะเธอเติบโตมาจากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้า เมื่อกัดฟันทำงานพิเศษจนสามารถส่งเสียตัวเองจนเรียนจบปริญญาตรี จากนั้นก็ทำงานด้านการบริการกับบริษัทชั้นนำแห่งหนึ่งอยู่เกือบสิบปี

    ระหว่างนั้นก็ขายสินค้าออนไลน์ไปด้วย ด้วยความมุมานะและแรงปรารถนาอันแรงกล้าที่จะเป็นเจ้าของธุรกิจ สุดท้ายก็ลาออกมาทำผลิตภัณฑ์ของตัวเองจนกลายเป็นเจ้าของแบรนด์เครื่องสำอางชื่อดังระดับประเทศ

                ตลอดเวลาเกือบสิบปีที่เป็นเจ้าของธุรกิจเธอไม่ค่อยใส่ใจกับการดูแลสุขภาพภายในของตัวเองมากนัก คิดตลอดว่าร่างกายตัวเองแข็งแรง เพราะเธอไม่เคยป่วยเลยมากสุดก็เป็นแค่ไข้หวัดคัดจมูกธรรมดา

                จนกระทั่งวันนี้หมอนัดเธอมาฟังผลตรวจร่างกายด้วยวิธีการตรวจโดยใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ หรือเรียกว่าซีทีสแกน (CT Scan) เมื่อสัปดาห์ที่แล้วที่โรงพยาบาลเอกชนแห่งหนึ่งในใจกลางเมืองหลังจากที่เธอรู้สึกปวดแขนข้างซ้ายจนยกแขนแทบไม่ขึ้น และปวดศีรษะโดยหาสาเหตุไม่ได้

    เจ้าของธุรกิจเกือบร้อยล้านยังคงนั่งนิ่งในมือกำผลตรวจไว้บนตักแน่น มือของเธอสั่นน้อย ๆ ก้มมองผลตรวจด้วยสายตาพร่าพราย น้ำตากำลังเอ่อขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้จนมันรวมกันเป็นก้อนวาวคล้ายไข่มุกแล้วหยดลงบนเอกสารค่อย ๆ แผ่ซึมเป็นดวงใหญ่บนแผ่นกระดาษ

                บุณยาวีร์คิดว่าตัวเองปวดเมื่อยกล้ามเนื้อธรรมดาหรือมากสุดก็คงเป็นออฟฟิศซินโดรมเพราะผลพวงจากการที่เป็นคนทำงานหนัก แต่เมื่อพบแพทย์กลับตรวจเจอเนื้อร้ายที่แขนภายในกระดูก กระทั่งพบว่าเป็นมะเร็งที่ไตลามมาที่แขนข้างซ้าย โดยวิธีการรักษเธอต้องใช้ยาจำเพาะเจาะจงต่อเซลล์มะเร็ง หรือ targeted therapy เท่านั้น โดยในทางการแพทย์พบว่าการเป็นมะเร็งในระยะแพร่กระจายมาถึงกระดูกมีความอันตราย และโอกาสในการรักษานั้นเป็นไปได้ยาก หมอบอกให้เธอทำใจ

                ‘นานแค่ไหนคะคุณหมอ’ 

                ‘มากสุดก็น่าจะสิบเดือนครับ’

                เสียงของหมอยังแว่วอยู่ในหู มือไร้เรี่ยวแรงจนเอกสารร่วงลงพื้นรถอย่างสิ้นหวัง มือนุ่มปรับเบาะเอนกายลงช้า ๆ ปิดเปลือกตาลงเพื่อขับไล่น้ำตาที่ยังเอ่ออยู่บนขนตาให้เหือดแห้งไป เสียงกระหึ่มจากเครื่องยนต์ที่เธอสตาร์ททิ้งไว้ดังขึ้นมาเป็นระยะ เครื่องปรับอากาศภายในรถเย็นฉ่ำ แต่เหมือนโสตประสาททุกส่วนของผู้หญิงตัวเล็ก ๆ คนนี้จะไม่รับรู้อะไรแล้ว มันไร้ความรู้สึกไปทั้งร่าง

                ‘ฉันต้องทำยังไงบ้างคะคุณหมอ’

                ‘ปฏิบัติตามคำแนะนำของหมออย่างเคร่งครัด และห้ามเครียดครับ’ นั่นน่าจะเป็นคำที่หมอคอยบอกคนไข้ทุกคนที่ป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้ายเช่นเธอ

                แล้วเธอมีอะไรให้ห่วงอีกล่ะ ในเมื่อบุณยาวีร์อยู่ตัวคนเดียวมาตั้งแต่ก้าวขาออกจากสถานสงเคราะห์เด็กกำพร้าแล้ว จนสามารถสร้างธุรกิจเครื่องสำอางของเธอเองจนมั่งคั่งร่ำรวยมาจนถึงทุกวันนี้ คำว่าครอบครัวน่ะเหรอ เธอไม่เคยรู้จักหรอก หน้าตาพ่อกับแม่แท้ ๆ ก็ไม่เคยเห็น

                สูดหายใจเข้าลึกหยัดกายขึ้นปรับเบาะนั่งตัวตรงแววตาแน่วแน่ ปัดเป่าอารมณ์ขุ่นมัวทั้งหลายออกไปจากใจให้หมด ก้มเก็บเอกสารแล้วเก็บมันไว้อย่างดี

                เอาล่ะในเมื่อไม่มีอะไรจะเสียแล้ว ไม่มีอะไรให้ห่วงแล้ว ต่อไปนี้เธอจะทำทุกอย่างที่ยังไม่เคยทำมาก่อนตลอดสี่สิบสองปีที่ผ่านมา เลิกทำงานหนัก เข้าผับสักครั้ง ไปทุกที่ที่อยากไป แต่อันดับแรกที่ต้องทำในตอนนี้ก็คือ…แกต้องหาแฟนให้ได้ก่อน เพราะอันนี้งานหินมากสำหรับคนที่โสดมาตลอดชีวิตอย่างบุณยาวีร์

     

     

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น