Kaiserreich GATE - นิยาย Kaiserreich GATE : Dek-D.com - Writer
×

    Kaiserreich GATE

    จะเกิดอะไรขึ้น หากกองทัพยุคสงครามปรัสเซีย-ฝรั่งเศส เผชิญหน้ากับ กองทัพยุคเรเนซองค์แฟนตาซี

    ผู้เข้าชมรวม

    4,836

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    35

    ผู้เข้าชมรวม


    4.83K

    ความคิดเห็น


    71

    คนติดตาม


    136
    หมวด :  สงคราม
    จำนวนตอน :  28 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 มิ.ย. 65 / 22:38 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สวัดดีครับผม Corgi of Queen (นามปากาอะนะ) เอาเป็นว่าแต่ก่อนผมเคยแต่งเรื่องอะไรมานั้นก็อีกนามปากาหนึ่ง แต่คราวนี้ผมอยากจะลองเปิดประสบการณ์และลองแต่งอะไรใหม่ๆดูบ้าง เอาเป็นว่าขอให้สนุกครับจะเขียนให้ออกมาดีที่สุดเท่าที่ทำได้ เพื่อความสนุกของรีดเดอร์ทุกท่านนะครับ 

    ทั้งนี้ทั้งนั้น ความแม่นยำ ถูกต้องของประวัติตัวละครในเรื่องอาจจะไม่ตรงกับความจริงบ้าง เพราะผมก็ยังสืบหาได้ไม่ดีพอ หากมีข้อมูลเสนอก็เสนอผ่านคอมเมนท์ได้เลยนะครับ จะรับฟังเอาไว้และนำมาเขียนในเรื่องเพื่อแต่งเติมให้มันสมบูรณ์แบบแน่นอนครับ

    ทั้งนี้ทั้งนั้นผมจะไม่บอกเนื้อเรื่องคร่าวๆอะไรก่อนหน้ามากนักนอกจากเรื่องย่อ เอาเป็นว่าไม่รู้ว่าผมจะเขียนได้ดีมากขนาดที่จะสื่อถึง ความโหดร้ายของยุโรปในยุคปลายวิกตอเรียได้ดีมากพอหรือเปล่า ยุคที่คนมองว่าคนชนชาติอื่นนั้นด้อยกว่าตนเอง ยุคที่ชาตินิยมทำลายมนุษย์ธรรม ยุคที่เป็นจุดเริ่มต้นของหายนะในอนาคต และแสดงมันออกมาผ่านเด็กหนุ่มขุนนางตกอัปคนหนึ่งเท่านั้น 

    ยังไงก็ ขอให้สนุกนะครับ

     

     

    สวัดดีครับ ผมเพาล์ ฟอน ฮินเดินบวร์ค ลูกชายตระกูลฮินเดินบวร์ค อ่าใช่ ตระกูลตกอัปที่เขาว่าๆกันว่าจะโดนถอดยศฐาในเร็ววันนั้นแหละ ผมเป็นแค่เด็กวัยรุ่นธรรมดาๆ มีความฝัน อาชีพและการงานธรรมดาๆตามมาตรฐานชาวปรัสเซียทั่วๆไป แม้จะได้เรียนในโรงเรียนนายร้อยระดับสูง แต่นั้นก็เพราะเส้นสาย ผมไม่ได้แสดงมันออกมาเลย ความสามารถของผมมันก็ไม่ได้สูงขนาดที่จะอยู่ในที่แบบนั้นหรอก ผมรอดชีวิตจากสงครามมาได้ นับจากตอนนั้นก็ผ่านมาแล้วเกือบปีเต็ม เห็นเพื่อนร่วมรบตายมาก็นับไม่ถ้วน นั้นมันทำให้ผมค่อนข้างหมดแรงกำลังใจที่จะรบต่อหรือทำอะไรต่อแล้ว ไหนจะความบัดซบของพวกขุนนางที่เอาแต่กรอกหูเด็กรุ่นใหม่ว่าสงครามคือเกียรติยศและศักดิศรี ผมพอกันทีกับพวกสารเลวนั้น 

    แต่จะลาออกก็ไม่ได้ทางบ้านที่ยังถือในทำเนียมบ้าๆนั้นก็ยังรั้งผมเอาไว้ ตระกูลเราก็ไม่ได้รํ่ารวยขนาดนั้นที่จะมีกินมีใช้หากว่าลูกชายคนโตลาออกจากกองทัพ 

    ตอนเด็กๆผมนับถือและเคารพในเกียตริและศักศิศรีของตระกูลของผมเอง จนโตมาถึงรู้ว่ามันไม่ใช่ ตระกูลของเรานั้นตอนนี้นอกจากชื่อเสียงแย่ๆที่คนในบ้านทำเอาไว้ก็ไม่เหลืออะไรเลย อ่า ให้ตายเถอะ ผมไม่อยากจะพูดเรื่องนี้เลยจริงๆ 

    ชีวิตแสนบัดซบของผมเริ่มถึงจุดตกตํ่า มันแย่ไปหมดทุกอย่าง แต่เพื่อนของผมคนหนึ่งเขาเสนอให้ผมไปพักผ่อนกินลมสบายยๆกับเขา ล่าสัตว์หรือว่าชมเมืองตอนใต้บ้าง เขาคงจะหมายถึงเขตบาเดินไม่ก็เบาวาเรียล่ะมั้ง ตอนนั้นผมคิดแบบนั้นแหละ 

    จนกระทั้งผมมาถึงป่าดำ ป่าสูงใหญ่ และทุ่งหญ้าไกลสุดลูกหูลูกตา กินลมชมนกชมไม้ สบายจิตและใจจากความเครียดไปได้บ้าง 

    แต่เหมือนว่าโชคชะตาจะไม่เข้าข้างผมเลยนะ เพราะตอนนั้นผมบังเอิญไปเห็นบางอย่างเขา บางอย่างที่สะดุดตาเข้าแบบสุดๆ ประตูคอนกรีกสีขาวมันเหมือนกับพวกประตูหินโบราณแบบกรีกยังไงยังนั้น ลวดลายการวางศิลป์ก็เป็นแบบนั้น 

    มันใหญ่มากจนหน้าตกใจ มันใหญ่จนผมกลัวเลยล่ะ ในตอนนั้นผมกับเพื่อนนอกเหนือจากปืนไรเฟิลล่าสัตว์ธรรมดาๆที่ติดมือมานั้น ก็ไม่ม่ีอาวุธอย่างอื่นเลย กระสุนก็น้อยนิดและเราก็ไม่กล้าจะเสี่ยงเข้าไปที่ตรงนั้นด้วย 

    ไม่ทันสิ้นความคิดของผมว่าจะเอายังไง ประตูนั้นก็เปิดออกมา 

    น่าขันที่ผมกับเพื่อนไม่เหลือความกล้าใดๆหรือศักศิศรีและเกียตริใดๆเหลืออีกแล้ว เราสองคนออกตัววิ่งสุดกำลัง อย่างน้อยก็เพื่อหนีไป หนีไปจากความวุ่นวายอีกครั้ง โดยไม่สนแล้วว่ามันจะเป็นอย่างไรต่อ 

    แต่ว่าก็เหมือนว่าพระเจ้าหรือว่าโชคชะตาของผมก็ไม่ต้องการแบบนั้นล่ะนะ เพราะแบบนั้นผมเลยได้เข้าปะทะกับพวกมัน 

    และนั้นก็เป็นการเปลี่ยนชีวิตของผมไป ตลอดกาล

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น