ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOODIE RETURN ll ผู้ร้ายสวมรอยรัก

    ลำดับตอนที่ #17 : GOODIE16 ll เป็นโจรครั้งที่16 {อัพ100%} บอกเขาไป

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.17K
      13
      23 ธ.ค. 60



    EP16
    -เป็นโจรครั้งที่16-


    -PRIK TALK-

    ฉันตัวแข็งทื่อไปหมด เมื่อได้ฟังคำพูดประโยคสุดท้ายซึ่งดูจริงจังของเขา ฝ่ามือแกร่งที่บีบบริเวณต้นแขน มันทำให้ฉันรู้สึกปวดมากขึ้นทุกที 

    “…”

    “…”

    เราใช้เวลาจ้องสู้ตากันอยู่ครู่หนึ่ง แววตาของอ้ายกอล์ฟที่มองมา แม้จะดูดุดัน แต่กลับกันฉันกลับมองเห็นความวูบไหวที่ซุกซ่อนอยู่ภายในได้อย่างชัดเจน

    ไม่นาน คนตัวใหญ่ก็ค่อยๆ คลายมือที่กดทึ้งตัวฉันเอาไว้ออกไป สายตายังคงจับจ้องมาที่ฉันขณะเขาใช้หลังมือปากขอบปากตัวก่อนค่อยๆ หันหันหลังเดินออกไปโดยไม่พูดทิ้งท้ายอะไรไว้อีก 

    ตอนนี้ที่ทำได้คือการมองตามแผ่นหลังเขาไปจนกระทั่งอ้ายกอล์ฟเดินพ้นไปจากระยะสายตา ทิ้งไว้เพียงเสียงฝีเท้าของเขาซึ่งคาดว่าจะใช้บันไดแทนลิฟต์เท่านั้นที่ยังดังก้องอยู่

    พี่รักพริกนะ…’ เมื่อคืนเขาพูดออกมาแบบนั้น แต่เมื่อกี้เขากลับบอกฉันว่าเกลียดขี้หน้า

    หลายสิ่งหลายอย่างที่ฉันรู้สึกได้จากเขา มันคือความคุ้นเคยแปลกๆ ทั้งที่ไม่เคยเจอกันมาก่อน ทั้งที่ไม่เคยรับรู้ว่าเขาเคยมีตัวตน แต่พอยิ่งใกล้ชิด ฉันกลับยิ่งรู้สึกแปลกต่อผู้ชายคนนี้ ไม่ว่าจะเรื่องภาษาที่เขาทำท่าเหมือนจะไม่เข้าใจมัน แต่กลับพูดปร๋อเหมือนรู้อยู่แล้วทุกอย่าง เขาเหมือนกำลังปิดบังอะไรบางอย่างเอาไว้ ด้วยคำพูด การกระทำ และท่าทาง จนความต้องการบางอย่างในหัวคล้ายกับจะเปลี่ยนไป

    ฉันควรจะทำยังไงดี ถึงจะรู้เรื่องของอ้ายกอล์ฟได้มากกว่านี้นะ

    Rrrrrrr

    ความคิดของฉันหยุดลง เมื่อแรงสั่นของโทรศัพท์ในกระเป๋าผ้าบังเกิดขึ้น จนต้องรีบเปิดกระเป๋าเพื่อหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดู 

    อ้ายก็อต

    ฮัลโหลเจ้า!” ฉันรีบแสร้งทำเสียงสดใสกรอกเสียงผ่านสาย เมื่อเห็นรายชื่อของคนที่โทรเข้ามา

    [น้องพริกอยู่ไหนคะ? ไปมหาลัยหรือยัง?]

    ยังค่ะ หนูกำลังจะไป อ้ายก็อตล่ะคะ อยู่ไหน?”

    [พี่กำลังไปหาหมอค่ะ เมื่อคืนไข้ขึ้นอีกแล้วเขายังไม่หายอีกหรือไงนะ...

    ให้หนูไปเยี่ยมนะคะ” พอคิดได้แบบนั้น ฉันก็เลยเอ่ยปากพูดขออกไป แม้จะรู้ว่า อีกฝ่ายอาจจะปฏิเสธไม่หาเหมือนทุกครั้งก็ได้ 

    [อยากมาหาพี่เหรอคะ?] แต่คราวนี้มันต่างออกไป [หนูโดดกิจกรรมของมหาลัยได้เหรอ?]

    ค่ะ หนูไปไม่ได้เหรอคะ?”

    […]

    หนูมีเรื่องอยากคุยกับอ้ายก็อตเยอะมาก โดยเฉพาะเรื่องของพี่ชายอ้ายก็อต

    [เรื่องไอ้กอล์ฟเหรอ?] ปลายสายย้อนด้วยเสียงที่อ่อนลง

    ค่ะ ให้หนูไปหานะคะ” ส่วนฉันยังคงยืนกรานคำพูดของตัวเองในเชิงร้องขอไม่หยุด แล้วรู้ไหม คำตอบที่ฉันได้กลับมาคืออะไร

    [พี่อยู่ที่โรงพยาบาลเอกชน A ชั้น 15 ค่ะ มาไวๆนะ พี่จะรอ…]

    แปลก

    ทั้งที่พี่ก็อตบอกว่ากำลังจะไปหาหมอแท้ๆ แต่แล้วทำไมเขาถึงสามารถบอกชั้นของโรงพยาบาลได้แม่นยำขนาดนั้นล่ะ ในเมื่อเขาแค่กำลังจะไปหาหมอเฉยๆ ไม่ได้อยู่ที่โรงพยาบาลสักหน่อย 

    ตอนนี้ไม่ใช่แค่อ้ายกอล์ฟเท่านั้นที่ทำให้ฉันรู้สึกแปลกๆ เหมือนกับว่ากำลังถูกเขาปิดบังอะไรไว้ แต่อ้ายก็อตที่กำลังพูดสายกันอยู่ในตอนนี้ก็เช่นกัน

    ฉันคุยโทรศัพท์กับอ้ายก็อตโดยเก็บทุกข้อสงสัยของตัวเองเอาไว้ในอก ก่อนจะวางสายจากหลังจากนั้นอีกไม่กี่นาทีต่อมา วันนี้ฉันไม่ได้เดินออกจากหอพักเพื่อตรงไปมหาวิทยาลัยเหมือนอย่างทุกที แต่เลือกที่จะโบกแท็กซี่สักคัน เพื่อพาตัวเองไปยังโรงพยาบาลที่เป็นจุดหมาย

    ฉันไม่ได้ถามอ้ายก็อตหรอกว่าเขาจะถึงโรงพยาบาลกี่โมง ไม่ได้คิดถึงผลที่จะตามมาด้วยซ้ำ ว่าถ้าหากโดดกิจกรรมไปหนึ่งวันจะโดนอะไรบ้าง ที่รู้เพียงอย่างเดียวตอนนี้คือ ฉันต้องพาตัวเองไปให้ถึงโรงพยาบาลเร็วที่สุด เพื่อที่จะได้พบหน้าเขา


    โรงพยาบาลเอกชน A

    เวลา 10.50 นาฬิกา

    ฉันพาตัวเองมานั่งอยู่ตรงซุ่มพุ่มไม้หน้าทางเข้าโรงพยาบาล จากตรงนี้ฉันสามารถมองเห็นได้ถนัดว่า มีใครเข้าออกโรงพยาบาลบ้าง และใช่ จากจุดนี้ฉันคิดว่า ฉันสามารถมองเห็นอ้ายก็อตได้ทันที หากเขาขับรถหรือนั่งรถมาถึง 

    แต่จนแล้วจนรอด ดูเหมือนว่าจะไม่มีวี่แววของอ้ายก็อตโผล่มาให้ฉันได้เห็นเป็นบุญตาเลยสักที แถมแดดในตอนนี้ก็เริ่มจะร้อนมากขึ้น

    จากที่คิดว่าจะทนรอเขาอยู่ตรงนี้ได้จนกว่าจะได้เจอกัน ฉันก็ต้องเป็นอันล้มเลิกความคิด ตัดสินใจสะพายกระเป๋าผ้าเดินเข้าไปในโรงพยาบาลโดยพยายามสอดส่องสายตามองหาบุคคลที่คาดว่าน่าจะใช่อ้ายก็อตไปพลางๆ แต่มันก็เหมือนเดิม ที่หน้าโรงพยาบาลก็ไม่เห็นแม้แต่เงา ในโรงพยาบาลยิ่งหนักเข้าไปใหญ่

    ฉันพาตัวเองมานั่งพักเหนื่อยอยู่ใกล้ๆ หน้าเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์อยู่พักหนึ่งเพื่อคิด จริงๆ แล้วฉันรู้ชื่อจริงของอ้ายก็อตนะ แต่เพราะสิ่งที่เขาพูดในโทรศัพท์มันทำให้ฉันสับสนนิดหน่อย ฉันก็เลยลังเลที่จะเดินไปถามประชาสัมพันธ์ว่าอ้ายก็อตตอนนี้น่ะแท้จริงแล้วอยู่ที่ไหนกันแน่

    ก็อย่างที่บอก คำพูดของอ้ายก็อตในโทรศัพท์มันฟังดูย้อนแย้งกัน...

    [โรงพยาบาลเอกชน A ชั้น 15] แต่เพราะอยากเจอเหลือเกิน พอในหัวนึกถึงคำพูดของเขาขึ้นมาได้ ร่างกายเลยยอมทำตามคำพูดที่ได้ฟังมา ด้วยการลุกขึ้นจากที่นั่ง เดินตรงไปยังลิฟต์ เพื่อพาตัวเองไปยังชั้น 15 แทนที่จะเดินไปถามฝ่ายประชาสัมพันธ์อย่างในความคิด

    ติ้ง!

    เมื่อลิฟต์เลื่อนลงมาถึง ใจฉันก็เริ่มเต้นแรง ยิ่งได้ก้าวเท้าเข้าไปยืนข้างในด้วยแล้ว ฉันยิ่งรู้สึกเหมือนไม่เป็นตัวของตัวเอง จะบอกว่าตื่นเต้นมันก็ใช่ จะบอกว่ารู้สึกเป็นกังวลกับสิ่งที่จะต้องเจอมันก็ใช่เหมือนกัน 

    ความรู้สึกดังกล่าวเริ่มหนักและรุนแรงมากขึ้น เมื่อลิฟต์ค่อยๆ เคลื่อนจากชั้นล่างสุดไปทีละชั้นอย่างช้าๆ ฉันหลับตา มือกำบีบกระเป๋าผ้าเอาไว้แน่น เพื่อลดอาการเกร็ง

    เคยเป็นไหม ยิ่งรู้สึกเป็นกังวลหรือตื่นเต้นกับเรื่องอะไร เวลาในตอนนั้นก็คล้ายกับจะผ่านเราไปไว เพียงแค่สูดลมหายใจเข้าออกเท่านั้น ลิฟต์ที่ฉันโดยสารมาก็มาหยุดลงที่ชั้น 15 ในที่สุด

    ลมหายใจถูกสูดหายใจเข้าจนลึก และทันทีที่ประตูลิฟต์เปิดออก ฉันก็รีบก้าวเท้าออกไปทันที แม้ว่ายังไม่รู้ทิศทางว่าควรจะเดินไปตั้งหลักที่ตรงไหนก่อนก็ตาม ทว่า เดินเข้าไปได้ไม่ทันเท่าไหร่ เท้าของฉันกลับต้องหยุดชะงักลง เมื่อภาพที่ปรากฏตรงหน้าคือภาพของคู่ชายหญิงคู่หนึ่ง สิ่งที่เห็นมันทำให้ฉันต้องรีบพาตัวเองหลบเข้าหลังเสาโดยอัตโนมัติ

    นั่นมันพี่ชมพูนี่!

    กอล์ฟ!” เสียงของพี่ชมพู ดังก้องไปทั่วทั้งชั้น และที่ทำให้ฉันใจเต้นผิดจังหวะ ก็คงเป็นชื่อของคนที่เธอเอ่ยออกมานั่นแหละ “มาที่นี่เหมือนกันเหรอ?”

    ได้ยินเพียงแค่นั้น ต่อมความอยากรู้ของฉันก็เริ่มทำงานอีกครั้ง จำต้องเกาะขอบเสาชะเง้อหน้ามองสถานการณ์ที่เกิดด้านในอย่างห้ามไม่ได้

    มันอย่างที่พี่ชมพูจริงๆ เพราะผู้ชายซึ่งกำลังยืนเผชิญหน้าอยู่กับเธอในตอนนี้ มันคือคนเดียวกับผู้ชายที่เพิ่งทำรุนแรงใส่ฉันที่หน้าห้องพักเมื่อเช้า ซึ่งน่าแปลกที่ตอนนี้ บังเอิญว่าเขามาที่โรงพยาบาลแบบเดียวกับที่ฉันมา 

    ที่สำคัญในมือของอ้ายกอล์ฟยังถือช่อดอกไม้เล็กๆ เอาไว้ ทำให้ยิ่งดูแปลกตา โดยเฉพาะกับคำถามต่อมาของพี่ชมพู

    มาเยี่ยมก็อตเหรอ?” แต่คำถามของพี่ดูกลับฟังเหมือนว่าเธอกำลังพูดคนเดียว เพราะคนตัวใหญ่ที่เธอพยายามซักไซร้ไม่ปริปากพ่นคำพูดใดๆ ออกมาเลยสักวลีเดียว ดอกไม้เนี่ย กอล์ฟเอามาเยี่ยมก็อตใช่ไหม…”

    ถึงอย่างงั้นพี่ชมพูก็ยังพยายามถามและพูดต่อไป

    ก็อตคงจะดีใจมากเลยนะ ที่เห็นว่ากอล์ฟมา…”

    เงียบปากได้ยัง?” หลังจากอ้ายกอล์ฟเงียบไปนาน คราวนี้เขาก็เริ่มมีปากมีเสียงขึ้นมาบ้าง “อย่าสอด ไม่ใช่เรื่องของเธอ

    ทำไมจะไม่ใช่เรื่องของเราล่ะ กอล์ฟก็รู้ว่าเราน่ะ เป็นห่วงกอล์ฟกับก็อตนะ!” ที่ฉันรับรู้ได้ตอนนี้ คือพวกเขาเริ่มจะมีปากเสียงกัน “แต่กอล์ฟทำกับก็อตแบบนี้มันไม่มากไปหน่อยเหรอ…”

    พลั่กตุบ!

    ว้ายยย!” ฉันทำตาโตด้วยความตกใจ เมื่อคนตัวใจแสดงนิสัยต่ำช้าด้วยใช้มือผลักไหล่ของคนตัวเล็กกว่าจนเธอล้มพับลงไปนั่งกับพื้น ซึ่งนั่นตามมาด้วยคำพูดเกรี้ยวกราดแสดงความไม่พอใจของผู้กระทำ

    บอกว่าอย่าแส่ พูดภาษาคนไม่เข้าใจหรือไง?”

    กอล์ฟคิดว่าทำแบบนี้ แล้วก็อตจะมีความสุขหรือไง ทำไมไม่แสดงความรู้สึกของตัวเองออกมาตรงๆ สักที!” ยิ่งได้ฟังที่สองคนนั้นทะเลาะกัน ฉันยิ่งไม่เข้าใจ จนกระทั่งพี่ชมพู ตะคอกประโยคๆ หนึ่งออกมา “ที่กอล์ฟมาที่นี่ ก็เพราะว่ากอล์ฟเองก็รักแล้วห่วงน้องมากไม่ใช่หรือไงล่ะ!?”

    อ้ายก็อตเป็นน้องชายพี่ไม่ใช่เหรอคะ... พี่ไม่รู้สึกผิดต่อน้องชายตัวเองบ้างเลยหรือไง’ ฉันจำคำพูดตัวเองในคืนนั้นได้ และยังจำสายตากับน้ำเสียงที่อีกฝ่ายตอบโต้กลับมาได้อย่างไม่เคยลืม

    ทำไมต้องรู้สึกอะไรด้วย?’ เสียงเย็นชาราวกับคนไร้ความรู้สึกและสามัญสำนึกของอ้ายกอล์ฟที่พูดออกมาอย่างเต็มปากเต็มคำในตอนนั้นน่ะ ในเมื่อพี่เกลียดมันยิ่งกว่าอะไรดี…’ 

    ฉันจำได้ทุกคำ

    ยอมรับความจริงได้แล้วว่าตัวเองน่ะ ไม่ได้เกลียดน้อง กอล์ฟห่วงก็อตมาก ทำไมไม่ยอมรับสักที….ว๊าย!!”

    เสียงจากภาพของความเป็นจริง ทำฉันเบิกตากว้าง พร้อมทั้งรีบยกมือขึ้นปิดปากด้วยความตกใจ ไม่ใช่เพราะคำพูดของพี่ชมพูซึ่งฟังดูตรงข้ามกับสิ่งที่ฉันรู้ หากแต่เป็นเพราะ อ้ายกอล์ฟเหวี่ยงช่อดอกไม้สำหรับเยี่ยมคนป่วยในมือ ลงกับพื้นอย่างแรงจนเกิดเสียงดังก้องไปทั่วต่างหาก

    ฟึ่บตุบ!!

    เขาเหมือนกำลังพยายามจะหยุดคำพูดของพี่ชมพู ด้วยวิธีห่ามๆ ของตัวเองโดยไม่ลงมือทำร้ายคนที่เสียเปรียบกว่าตนแต่อย่างใด  เพราะหลังจากนั้นอ้ายกอล์ฟก็เอาแต่ยืนนิ่ง จ้องคนตัวเล็กบนพื้นเพียงเท่านั้น

    ภาพสถานการณ์ที่เห็น ทำหัวใจฉันเต้นแรงมากกว่าที่เคย สมองไม่สามารถประมวลเหตุผลหรือคาดเดาสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตรงหน้าได้ ทุกอย่างในตอนนี้มันดูเป็นความลับไปเสียหมด ทุกคนไม่ไม่ว่าใคร อ้ายกอล์ฟ อ้ายก็อต หรือพี่ชมพู

    Rrrrrr

    ฉันสะดุ้งตัวโยนเมื่อจู่ๆ โทรศัพท์ที่ไม่น่าจะมีใครโทรเข้ามาดังขึ้น ขัดขั้นสถานการณ์น่าตกใจเบื้องหน้า ด้วยความว่องไว ฉันรีบเปิดกระเป๋าพร้อมทั้งหยิบโทรศัพท์ขึ้นมากดปิดเสียงทันที ทว่า ดูเหมือนว่ามันคงไม่ทัน...

    ตึก! ตึก! ตึก!

    กึก...

    มาทำอะไรที่นี่…” เสียงเข้มราบเรียบเอ่ยขึ้นพร้อมกับเสียงฝีเท้าที่ก้าวเข้ามาหยุดลง พานให้ขนแขนลุกได้ทั้งที่ยังไม่หันไปมอง และต่อให้ต้องมอง ฉันก็จำเสียงของเขาได้

    คะ คือหนู…”

    ใครใช้ให้เธอมาที่นี่?!” ฉันหลับตาปี๋เมื่อคนตัวใหญ่ตะคอกเสียงดุ แต่ในขณะเดียวกันพี่ชมพูที่อยู่ตรงนั้นด้วยก็รีบช่วยปราม

    กอล์ฟพอสักทีเลิกว่าน้องเขาได้แล้ว” 

    อย่าสะเอ่อะ!” ฉันไม่รู้เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้น 

    ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าไอ้ที่พวกเขาทะเลาะกันมันคือเรื่องอะไร แต่พอเงยมองสถานการณ์เบื้องหน้า ฉันก็ได้เห็นสีหน้าโกรธจัดของอ้ายกอล์ฟ เขากำลังโกรธมาก แต่ไม่ใช่กับแววตาที่แสดงความวูบไหวอย่างเห็นได้ชัด

    กอล์ฟ บอกความจริงน้องเขาไปซะ…” เสียงของพี่ชมพูกำลังอ่อนลง จนรู้สึกได้ ใบหน้าสวยๆ กำลังแสดงความเศร้า 

    นัยน์ตากลมของเธอแดงเหมือนอยากจะร้องไห้เช่นเดียวกับเสียงสั่นๆในช่วงสุดท้าย

    ฮึก… บอกน้องเขาไปเถอะ...”

    To Be Continued...

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต #ผู้ชายสายโจร

    ll Character ll












    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ติดตามเรื่องนี้จิ้มที่หน้าอ้ายกอล์ฟโลด

    ^

     รักกันชอบกันกดติดตามข้างบน 
     ส่งฟีดแบ็กทางทวิต เพจ คอมเม้น
     หรือโหวตข้างล่างเต็ม100นะเออ 
    v
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×