ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    GOODIE RETURN ll ผู้ร้ายสวมรอยรัก

    ลำดับตอนที่ #18 : GOODIE17 ll เป็นโจรครั้งที่17 {อัพ100%} อยากให้พูดเหรอ?

    • เนื้อหาตอนนี้เปิดให้อ่าน
    • 2.26K
      12
      18 ธ.ค. 60



    EP17
    -เป็นโจรครั้งที่17-


    ฮึก… บอกน้องเขาไปเถอะ...”

    ฟึ่บ!

    ดูเหมือนคำขอของพี่ชมพูจะใช้ไม่ได้ผลกับผู้ชายที่กำลังโกรธจัดคนนี้ อ้ายกอล์ฟไม่ฟังเสียงร้องขอดังกล่าว แต่เลือกที่จะกระชากตัวฉันพาออกไปจากบริเวณลานพักผู้ป่วยชั้น 15 ทั้งๆ อย่างงั้น โดยไม่คิดหันมองหลังอีก

    ตึก! ตึก! ตึก!

    สัมผัสจากฝ่ามือของอ้ายกอล์ฟในวันนี้ มันต่างจากตอนเช้านัก ฉันรับรู้ถึงความสั่นจากร่างกายเขาชัดมาก มากเสียจนฉันไม่เข้าใจว่าเขากำลังเป็นอะไร รู้สึกแบบไหนอยู่กันแน่

    ฉันถูกคนตัวใหญ่กระชากลงลิฟต์ไป เขาไม่ถามฉันสักคำว่ามาทำอะไรที่นี่ และสถานการณ์ที่เกิดขึ้นแบบทันตั้งรับนี่แหละ มันก็ทำให้ฉันลืมจุดมุ่งหมายของการมาที่นี่ไปโดยปริยาย

    หลังจากอ้ายกอล์ฟไม่พูดอะไรอยู่นาน พอเดินออกจากลิฟต์ เขาก็เอ่ยขึ้น

    เธอขัดคำสั่งพี่...” เสียงของเขากดต่ำอย่างเยือกเย็น คล้ายกับพยายามเก็บงำความรู้สึกบางอย่างของตัวเองเอาไว้

    โอ๊ยอ้ายกอล์ฟหนูเจ็บ!” เขาบีบมือฉันแน่นขึ้น ขณะออกแรงกึ่งเดินกึ่งลากตัวพาออกไปด้านนอกตัวโรงพยาบาล

    คิดจะมาหามันหรือไง!?” เป็นอีกครั้งที่อ้ายกอล์ฟตะคอกเสียงขึ้น เมื่อเราทั้งคู่หยุดยืนอยู่นี่ลับตาคน เขาเหวี่ยงมือฉันที่กุมมาร่วมหลายนาทีออกด้วยท่าทางเกรี้ยวกราดและใช้โทนเสียงเดิมต่อว่า “พี่บอกแล้วใช่ไหม ว่าไม่อนุญาตให้เราเจอมัน!?”

    ฉันรู้และเข้าใจสิ่งที่เขาพูดว่าหมายถึงใครและอะไร แต่การกระทำที่แสดงออกไปตอนนี้น่ะ มันกลับตรงกับข้าม

    อ้ายกอล์ฟอู้อะหยัง?” ฉันพยายามเล่นละครตบตาเขาอยู่ “หนูไม่สบาย ก็เลยมาหาหมอที่โรงพยาบาลเท่านั้นเอง…”

    โกหก!!” เสียงเข้มแสดงความเกรี้ยวกราดของตัวเองออกมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยคำพูดรู้ทัน “คิดว่าพี่โง่จนไม่รู้เหรอ ว่าพริกมาหาไอ้ก็อตที่นี่!?”

    มันแปลกที่เขาสามารถรับรู้เป้าหมายการมาของฉันในวันนี้ได้ได้เพียงแค่การพบกันฌเยบังเอิญ ทุกเสียงเสียงต่อว่าที่ลอดผ่านปากให้ได้ยินนั้น ราวกับว่าเขารู้อยู่แล้วว่าเราสองคนจะได้พบที่นั่น...

    ถึงจะแคลงใจกับหลายๆความคิด แต่ฉันก็ยังเลือกที่จะตีหน้าซื่อ พูดเฉไฉออกไปเหมือนคนไม่รู้เรื่องรู้ราว

    อ้ายก็อตอยู่ที่โรงพยาบาลนี้เหรอคะ?” โดยพยายามจับผิดสังเกตท่าทีของคนตัวใหญ่ตรงหน้าไปด้วย เพื่อดูการตอบสนอง ทว่า อ้ายกอล์ฟกลับไม่แสดงสีหน้าหรือแววตาอย่างอื่นออกมาให้สามารถจับผิดได้เลย นอกจากแววตาที่โกรธจัด

    มันสำคัญตรงไหน ว่าแม่งจะอยู่ที่นี่หรือเปล่า” แถมยังย้อนกลับมาน้ำเสียงไม่ค่อยพอใจนัก “เพราะเรื่องสำคัญตอนนี้ก็คือ เธอขัดคำสั่งพี่!”

    เขาตะคอกเสียงใส่ฉันอีกแล้ว ไม่หยุดเลยเหมือนโกรธอะไรนักหนา

    เคยบอกแล้วไง ว่าคำพูดพี่ถือเป็นเด็ดขาด” แถมยังแสดงความเห็นแก่ตัวออกมามากขึ้น มากขึ้น จนฉันอดไม่ไหว จำต้องแย้งกลับไป

    ตะ แต่อ้ายกอล์ฟไม่มีสิทธิ์บังคับหนู อ้ายกอล์ฟไม่ใช่เจ้าของความคิดหนูสักหน่อย” คนฟังชะงักนิ่งทันทีที่หลังสิ้นเสียง ฉันจึงอาศัยจังหวะนั้นพูดความรู้สึกของตัวเองออกไปจนหมด “หนูกับอ้ายก็อตเป็นแฟนกัน หนูมีสิทธิ์ที่จะได้เจอเขา ส่วนพี่น่ะ…”

    หึ ใครบอกว่าพี่ไม่ใช่เจ้าของความคิดพริก” คนตัวใหญ่ตรงหน้าหัวเราะเอ่ยขัดขึ้นแบบไม่รอฟังให้จบ ใบหน้าคมคายส่อแววร้ายกาจกำลังเหยียดยิ้มอย่างคนเหนือกว่าในท่ากอดอก แบบไม่สนใจถึงสิ่งที่ฉันกำลังพูด

    รอยยิ้มน่ากลัวนั่นคล้ายกับเป็นตัวบอกทุกสิ่งว่าฉันกำลังใกล้แพ้ทางเขาเต็มที โดยเฉพาะกับคำพูดประโยคถัดมา

    อะไรที่พี่เคยได้แล้ว พี่ถือว่าพี่เป็นเจ้าของหมด ไม่ว่าจะความคิดหรือร่างกาย” เขาเว้นช่วงหายใจไปชั่วขณะหนึ่ง นัยน์ตาคมดุจดั่งใบมีดกำลังจ้องหน้าฉันเหมือนพยายามจะกรีดสายตาข่มขู่ที่เขามีให้ฉันรับรู้ความต้องการของตัวเอง พร้อมเสริมด้วยคำพูดประโยคหลัง “และโคตรไม่ชอบ ที่ต้องรับรู้ว่าของของตัวเอง เอาแต่คิดถึงผู้ชายคนอื่น

    ยิ่งได้ฟัง ฉันยิ่งโกรธ ที่ผู้ชายคนนี้เปรียบฉันเป็นแค่เพียงสิ่งของ ที่เขากำลังล้อเล่นกับความรู้สึก และแสดงนิสัยเห็นแก่ตัวออกมามากถึงขนาดนี้!

    หนูไม่ใช่ของของอ้ายกอล์ฟ!” ความโมโหส่งผลให้ต้องย้ำชัดความจริงระหว่างเราออกไป “อ้ายกอล์ฟไม่ใช่เจ้าของหนู ระหว่างเรามันก็แค่เรื่องผิดพลาดเท่านั้น

    พูดจบ ฉันก็ไม่รอให้ตัวเองตกเป็นเหยื่อของเขาอีกต่อไป ตัดสินใจสะบัดหน้าเดินหันหลังเพื่อที่จะเดินกลับเข้าไปในโรงพยาบาลอีกครั้งเพื่อตามหาความจริง เพราะตอนนี้ฉันรู้แล้วว่าควรจะทำอะไรต่อไป หากต้องการที่จะพบหน้าคนรัก ทว่า...

    พอเป็นเรื่องไอ้ก็อตเนี่ย ดูรีบร้อนเหลือเกินนะ…” อ้ายกอล์ฟก็ยังไม่วายหยุดทุกการเคลื่อนไหวของฉันลงด้วยคำพูดประชดประชันของตัวเองอยู่ดี “ทีเรื่องของพี่ชาติกว่า ก็ยังช้าเป็นเต่าคลาน…”

    คำพูดยียวนที่ฉันไม่เข้าใจความหมาย ทำเอาร่างกายตอบโต้กลับด้วยการเหลียวหลังมองเจ้าของคำพูดอย่างช้าๆ พร้อมกันนั้นหูก็ยังเงี่ยฟังเสียงของอีกฝ่าย

    อยากเข้าไปหามันก็ไปนะเพราะพี่ก็อยากเห็นหน้าไอ้ก็อตตอนรู้ความจริงเหมือนกัน...

    “…” เสียงที่เขามักใช้ข่มขู่กันอยู่ตลอดเวลานับตั้งแต่เกิดเรื่องผิดพลาดในคืนนั้น

    ว่าสีหน้าตอนรู้ว่าแฟนที่คบกันมา 6 ปีกลายเป็นเมียของพี่ชายตัวเองจะเป็นยังไง…” คำพูดประโยคดังกล่าวของอ้ายกอล์ฟ กระตุกใจฉันให้วูบหล่นไปอยู่ตาตุ่ม โดยยังคงจ้องสายตาค้างไว้ที่เขาอยู่แบบนั้น

    ป่ะ เข้าไปหาไอ้ก็อตข้างในกันดีกว่า” ว่าแล้วคนใจร้ายก็เอ่ยขึ้นอีกครั้งคล้ายกับเป็นการยียวน มิหนำซ้ำยังฉวยโอกาสคว้าเข้าที่แขนแล้วออกแรงดึงเบาๆ เหมือนจะลากฉันให้เดินกลับเข้าไปข้างในตามอย่างที่ปากว่า

    หมับ! ฟึ่บ!

    ปล่อยหนูนะ!” ตอนแรกฉันก็อยากกลับเข้าไปข้างในอยู่หรอก แต่พอฟังคำขู่บ้าๆ นั่นแล้ว ในอกมันก็รู้สึกกลัวขึ้นมาจำต้องสบัดแขนเพื่อหลีกเลี่ยงสถานการณ์

    อ้ายกอล์ฟเองก็คงจะเดาสถานการณ์ได้อยู่แล้วตั้งแต่ต้น พอได้ยินเสียงปฏิเสธ เขาก็คลี่ยิ้มเจ้าเล่ห์ และเอ่ยถามเหมือนจงใจจะกวนประสาท

    เอ้า ทำไมอ่ะ ไอ้ก็อตอยู่ข้างในนะ…”

    …” ฉันกัดริมฝีปากปากล่างแน่นด้วยความเจ็บใจ ช้อนตามองคนตัวใหญ่นิสัยเจ้าเล่ห์นิ่งๆ ส่วนหูก็ยังเงี่ยฟังคำพูดท้าทาย 

    ไม่อยากเจอ แฟน-สุด-ที่-รัก แล้วเหรอ?”

    มือสองข้างกำแน่นจนสั่นหลังสิ้นเสียงคนใจร้ายตรงตรงหน้า ไม่ใช่แค่มือหรอก ทุกส่วนของร่างกายเลยแหละ 

    ฉันกำลังโกรธเขา โกรธมาก ตั้งแต่เกิดมาจนอายุเท่านี้ ฉันไม่เคยถูกบังคับอะไรขนาดนี้มาก่อนเลย อย่างมากก็แค่ต้องเรียนวิชาที่ไม่ชอบ แต่ตอนนี้ผู้ชายคนนี้ทำยิ่งกว่านั้น เขาบังคับและกังขังความรู้สึกทั้งหมดของฉันเอาไว้ ล้อเล่นกับความรู้สึกจนกลายเป็นเรื่องสนุก...

    พี่รักพริกนะ…’ บ้าบอชัดๆ ฉันไม่น่าหลวมตัวใจสั่นต่อคำพูดบ้าๆ นั่นเลยสักนิด

    เอายังไง จะเข้าไม่เข้า ถ้าไม่เข้าก็กลับ” คนตัวสูงยังคงความเผด็จการของตัวเอง ต่อให้ฉันจะชักสีหน้าแสดงความไม่พอใจให้เห็นก็ตาม

    สมองสั่งการให้ฉันก้าวเท้าเดินชนไหล่เขาออกไปทั้งๆ อย่างงั้น และหวังว่าเขาน่าจะรู้ตัวสักที ว่าสิ่งที่กำลังพยายามทำอยู่มันบ้าสิ้นดี ทว่า

    จะไปไหน?” อ้ายกอล์ฟกลับมองข้ามความรู้สึกและท่าทางที่ฉันแสดงออกไปให้เห็น มิหนำซ้ำยังเดินตามหลัง พุ่งมือไวคว้าแขนรั้งเอาไว้

    ตอนนี้ไม่ว่าจะคำพูดหรือสีหน้าท่าทางที่เขาทำใส่ มันดูเป็นเรื่องน่ารังเกียจที่สุดสำหรับฉันแล้ว

    ฉันไม่ชอบ จะเรียกว่าเกลียดเลยก็ว่าได้... 

    ปล่อยหนูจะกลับ!” ร่างกายต่อต้านการคุกคามจากสัมผัสมือดังกล่าวด้วยความโกรธ โดยการสะบัดแขนให้หลุดเป็นอิสระเพื่อหนี แต่อิสระภาพที่ได้รับก็คงอยู่ได้ไม่นาน เมื่อร่างกายทุกส่วนถูกรวบเอาไว้ด้วยอ้อมกอดอุ่นจากทางด้านหลังแบบไม่สามารถดิ้นขัดขืนได้อีกต่อไป

    หมับฟึ่บ!

    เดี๋ยวพี่ไปส่ง...” ทั้งที่ฉันต่อต้านเขาอย่างสุดกำลัง แต่ในวินาทีเดียวกันอ้ายกอล์ฟกลับเปลี่ยนน้ำเสียงและแสดงลักษณะนิสัยอีกด้านที่ฉันไม่ค่อยเจอออกมาให้เห็น น้ำเสียงและท่าทีที่เย็นลง คล้ายกับจะทำให้ร่างกายฉันอ่อนตามลงไปด้วยโดยเฉพาะอย่างยิ่งกับถ้อยคำร้องขอต่อมา “กลับบ้านกับพี่นะ…”

    อ้อมกอดของเขาไม่ได้บีบรัดกายฉันรุนแรงเหมือนอย่างทุกที แต่หากเป็นการกอดเอาไว้ในลักษณะเหมือนกับกลัวว่าฉันจะหนีเขาไปไหนต่างหาก ท่าทางที่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนคนสองบุคลิกโดยฉับพลันขอเขา เล่นเอาฉันทำตัวไม่ถูก ถึงอย่างงั้น ฉันก็ยังคงยืนกรานความรู้สึกเดิมของตัวเองไว้

    อ้ายกอล์ฟปล่อยหนูเจ็บนะ!” ยังคงพยายามดิ้นขลุกขลักให้ตัวเองเป็นอิสระ

    ก็ถ้าเราไม่ดื้อ พี่จะทำเราเจ็บไหม?” คำถามถูกเอ่ยออกมาแทบจะทันทีกับที่อ้อมกอดอุ่นของคนใจร้ายกอดกระชับลงมาจนแน่นมากขึ้น

    และแล้วมันกลับเป็นฉันเสียเองที่หยุดชะงักทุกส่วนของร่างกายลงได้ราวกับต้องมนต์ ที่เป็นเช่นนั้นไม่ใช่เพราะคำถามที่คนใจร้ายใช้ถาม และไม่ใช่เพราะอีกฝ่ายมีกำลังมากกว่าจนสามารถบังคับข่มขู่หรือข่มเหงได้เหมือนทุกครั้ง

    อย่าดื้อกับพี่ให้มากนักสิ…”

    “…” หากแต่เป็นเสียงอู้อี้ขณะที่อ้ายกอล์ฟซบหน้าลงมาบนไหล่ แบบไม่ให้เตรียมตัวเตรียมใจต่างหาก

    เพราะตอนพริกเจ็บ พี่เองก็เจ็บเหมือนกัน…”

     

    เวลาต่อมา

    สุดท้ายอ้ายกอล์ฟก็พาฉันออกมาจากโรงพยาบาลดังกล่าว โดยใช้สิทธิ์ที่เขามีในการขู่บังคับและแสดงความเผด็จการ พาฉันกลับมาที่หอพักของเรา ตลอดเส้นทางกลับหอ เราไม่พูดอะไรกันเลย จนกระทั่งตอนนี้ ตอนที่เรากำลังเดินเข้ามาในหอพักพร้อมกัน

    ตึกตึกตึก!

    ฉันเดินตามหลังเขา มองทุกๆ อิริยาบถและอดคิดไม่ได้ว่า ฉันเคยไปทำอะไรให้เขาแค้นนักหนา หรือเพราะว่าฉันเป็นแฟนน้องชายของเขาแค่นั้น เลยทำให้เขาพานเกลียดไปด้วย บอกตามตรงว่าฉันตามอารมณ์เขาไม่ทัน  ไม่รู้จริงๆว่าในหัวของผู้ชายคนนี้กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่ 

    วูบหนึ่งที่บางคำพูดของเขาแสดงความเกลียดชังที่มีต่อน้องชายและฉันออกมาให้เห็น แต่ในมุมกลับกัน ฉันก็รู้สึกเหมือนกับว่าสิ่งที่อ้ายกอล์ฟพยายามนั้นมันตรงกันข้าม บางคราวเขาทำเหมือนกำลังสนุกกับการล้อเล่นบนความรู้สึกของฉันมากกว่า

    ทุกครั้งเขาดูสะใจและพอใจที่ได้ทำเช่นนั้น แต่ว่า เขาก็ดูเศร้าไปในคราวเดียวกัน...

    พี่รักพริกนะ…’ ฉันไม่เข้าใจความหมายที่เขาพูด โดยเฉพาะกับประโยคสุดท้าย

    เรื่องไอ้ก็อตเนี่ย ดูรีบร้อนเหลือเกินนะ… ที่เรื่องของพี่ชาติกว่า ก็ยังช้าเป็นเต่าคลาน…’ 

    เพราะตอนที่พริกเจ็บ พี่ก็เจ็บเหมือนกัน…’ คำถามมากมายที่ประดังเดเข้ามา มันเริ่มทำฉันทนไม่ไหวต่อความรู้สึก ยิ่งเราไม่พูดกันเลยฉันก็ยิ่งรู้สึกเหมือนบรรยากาศรอบตัวกำลังกดดันให้ฉันเป็นบ้ากับอารมณ์ที่หลากหลายของผู้ชายใจร้ายตรงหน้า

    ฉันไม่ได้สับสน แค่อยากรู้ว่าเขากำลังคิดอะไร  บางทีถ้ารู้ ฉันอาจจะช่วยเขาแก้ไขมันได้ ฉันคงทนอยู่ในสภาวะอึดอัดแบบนี้ต่ออีกได้ไม่นานนักหรอก

    อ้ายกอล์ฟ…” รู้อีกที ปากก็กำลังขยับเรียกชื่อเขาออกไปพร้อมกับคำถามมากที่มี “อ้ายยะกับหนูจะอี้เพื่อจะใด

    คำถามของฉันสิ้นสุดลง ในวินาทีที่ประตูห้องพักถูกอ้ายกอล์ฟไขกุญแจเปิดเข้าไป แต่ก็ใช่ว่าเขาจะเลี่ยงตอบคำถามหรือเดินกลับเข้าไปในห้องทีเดียวหรอกนะ คนตัวใหญ่เหลียวมองฉันที่เอาแต่ยืนนิ่งแบกรับทุกข้อสงสัยเอาไว้ในหัว แต่ครู่สั้นๆ เขาก็ยิ้มออกมา แล้วเอ่ยปากเชิญชวน ซึ่งไม่ได้ตรงกับสิ่งที่ฉันต้องการเลยสักนิด

    เข้ามาในห้องก่อนสิ

    เขาเปลี่ยนเรื่องอีกแล้ว...

    ไม่ค่ะ หนูจะยืนตรงนี้” ฉันบอกเขาด้วยเสียงที่หนักแน่น แต่คนฟังกลับไม่ยักไม่แสดงสีหน้าหรือท่าทางโมโหร้ายออกมาให้เห็นเลยสักนิด

    เขาแลบลิ้นเลียริมฝีปากแห้งผากของตัวเองคล้ายกับเหนื่อยหน่ายที่จะต่อปากต่อคำ นัยน์ตาคมกลอกไปมาเมื่อฉันเริ่มแสดงความกบฏใส่

    อ้ายกอล์ฟไปยะหยังที่โรงพยาบาลเจ้า?” ฉันฉวยโอกาสยิงคำถามแรกออกไป เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ยอมปริปากตอบโต้ “ทำไมทุกครั้งที่หนูจะไปไหนมาไหน หนูจะต้องป๊ะหน้าอ้ายกอล์ฟตลอด…”

    ครั้งนี้คนถูกถามเริ่มแสดงปฏิกิริยาตอบโต้ออกมาให้เห็น เขาหลุบตาลงพร้อมทั้งถอนหายใจคล้ายกับเหนื่อยหน่ายอะไรบางอย่าง และเมื่อเขายอมช้อนตามองฉันอีกครั้ง หัวใจก็คล้ายกับถูกบีบ 

    แววตานิ่งๆ ไร้ซึ่งความรู้สึกใด ต่างจากรอยยิ้มร้ายๆ ของอ้ายกอล์ฟยังคงกดดันความรู้สึกฉันได้ทุกครั้ง

    ก็ได้ยินหมดแล้วไม่ใช่หรือไง?” มิหนำซ้ำเขายังย้อนถาม “แล้วยังจะถามทำไมอีก?”

    หนะ หนูไม่รู้…” ปากขยับออกไปแบบนั้น ทั้งที่จิตใต้สำนึกรู้ดี ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลมันคืออะไร

    มาเยี่ยมก็อตเหรอ?’

    ดอกไม้เนี่ย กอล์ฟก็เอามาเยี่ยมก็อตใช่ไหม…’ ทั้งที่รู้ แต่ฉันก็ยังอยากได้ยินจากปากของเขาอยู่ดี ยอมรับความจริงได้แล้วว่าตัวเองน่ะ ไม่ได้เกลียดน้อง กอล์ฟห่วงก็อตมาก ทำไมไม่ยอมรับความจริงสักที

    หนูไม่ได้ยินอะไรสักหน่อย…” เสียงหัวเราะหึดังขึ้นทันที ก่อนที่มันจะค่อย เปลี่ยนไปกลายเป็นเสียงหัวเราะที่ฟังเหมือนตลกอะไรนักหนา คนตัวสูงทุบมือลงกับขอบประตูห้องเบาๆ คล้ายกับจะระบายความตลกนั่นออกไป กลับกลายเป็นฉันเสียเองที่ต้องขมวดคิ้วมองการกระทำดังกล่าวของคนตัวใหญ่อย่างไม่เข้าใจ

    อ้ายกอล์ฟ… หัวเราะอะหยัง?

    พริกไง” เขาตอบเสียงติดหัวเราะ และหยุดเสียงลงได้ในวินาทีนั้นราวกับเปิดปิดสวิตซ์ “กำลังหวังอะไรจากคำตอบพี่อยู่งั้นเหรอ?”

    คำถามแทงใจทำฉันนิ่งพูดอะไรไม่ออก มันเหมือนว่าเขาอ่านความคิดฉันออกอยู่ตลอดเวลา จนไม่รู้จะตอบโต้กลับไปอย่างไร จนกระทั่งเขาหลุดพูดประโยคหนึ่งออกมา

    พริกอยากให้พี่พูดเหรอ...ว่าตอนนี้ไอ้ก็อตมันนอนป่วยใกล้ตายอยู่ที่โรงพยาบาล?”

    To Be Continued...

    ชอบก็เม้นไว้ ถูกใจเรื่องนี้อย่าลืมโหวตเต็ม100%

    1เม้น1กำลังใจเนอะ ขอบคุณที่ติดตามนิยายเรื่องนี้นะครับ

    ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคอมเม้นและโหวตดีๆในหน้านิยาย

    ติดแท็กในทวิต #ผู้ชายสายโจร

    ll Character ll












    ---------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------


    ติดตามเรื่องนี้จิ้มที่หน้าอ้ายกอล์ฟโลด

    ^

     รักกันชอบกันกดติดตามข้างบน 
     ส่งฟีดแบ็กทางทวิต เพจ คอมเม้น
     หรือโหวตข้างล่างเต็ม100นะเออ 
    v
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    นิยายที่ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×