Bubble Tea มีรัก - นิยาย Bubble Tea มีรัก : Dek-D.com - Writer
×

    Bubble Tea มีรัก

    แค่ทริปเที่ยวไต้หวันสี่วันสามคืน แหล่งต้นกำเนิดชาไข่มุกที่แท้ทรู กลับทำให้ทั้งดาวเหนือและที ติดใจรสชาติหวานมันนี้มิรู้ลืม ^^

    ผู้เข้าชมรวม

    2,001

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    12

    ผู้เข้าชมรวม


    2K

    ความคิดเห็น


    63

    คนติดตาม


    17
    หมวด :  นิยายวาย
    จำนวนตอน :  31 ตอน
    อัปเดตล่าสุด :  6 ม.ค. 64 / 14:20 น.
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

    สวัสดีจ้า ^^ นิยายวายทั่วไปเรื่องที่สองของไรท์ในนามปากกา 'จวิ้ณ' นะคะ
    เพื่อน ๆที่เคยอ่าน 'ข้ารับใช้ หมายเลข ๐' กันมาแล้ว
    ไรท์ก็ขอฝาก 'ที' กับ 'ดาวเหนือ' ไว้ด้วยอีกหนนะคะ
    เอาล่ะไม่เสียเวลา ไปอ่านบทนำกันก่อนเลยจ้า ^^

    ******

    Bubble Tea มีรัก

    ... บทนำ ...

     

                    ตั๋วเครื่องบินสายการบินระดับฟูลเซอร์วิสของประเทศไทยสองใบวางอยู่ตรงโต๊ะทำงานซึ่งบนนั้นมีเครื่องคอมพิวเตอร์พีซีวางไว้อยู่ หน้าจอของมันเปิดใช้งานและกำลังปรากฏภาพในไอจีของหญิงสาวขาวหมวยวัยใกล้เบญจเพสกำลังยิ้มกว้างสดใสคู่กับชายหนุ่มสูงขาวหล่อตี๋

    ช่างเป็นคู่ที่เหมาะสมกันเสียจริง!

    หลายคอมเม้นต์ต่างกล่าวแสดงความยินดีกับคู่รักใหม่ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่ถึงสัปดาห์ แค่นั้นยังไม่พอ แค็ปชั่นที่หญิงสาวเขียนไว้นี่สิ ทำให้ชายหนุ่มผิวไม่ขาวแต่ไม่อาจเรียกได้ว่าคล้ำ ส่วนความสูงนะเหรอ ถ้าใส่เสริมส้นก็เพียงอีกเซ็นเดียวถึง 180 ซ.ม. เขาถึงกับยกมือกุมขมับ เกือบจะทึ้งผมตัวเองแล้วแต่เปลี่ยนใจเป็นเสยมันอย่างลวก ๆ แทนพลางถอนหายใจหนัก หันมองตั๋วเครื่องบินที่วางนิ่งมาเป็นชั่วโมงอีกหน

                    ไม่นานนักเสียงสายเรียกเข้าจากโปรแกรมไลน์ก็ดังขึ้น เขาไถเก้าอี้ล้อเลื่อนไปยังเตียงนอนซึ่งห่างออกไปไม่ไกลนัก คว้ามือถือขึ้นมารับสายซึ่งหน้าจอแสดงโปรไฟล์และชื่อของเพื่อนร่วมชั้นเรียนสมัยมัธยมปลาย ถึงไม่ใช่เพื่อนกลุ่มเดียวกันในสมัยเรียน แต่พอเรียนจบแล้วนัดรวมรุ่นกันทุกปีหลังช่วงเทศกาลปีใหม่ เพื่อนคนที่เขากำลังรับสายก็มาให้เห็นหน้าทุกปี จนตอนนี้อาจเรียกได้ว่าเขาสนิทกับเพื่อนคนนี้มากกว่าเพื่อนมัธยมกลุ่มเดียวกันเสียอีก

                    “เฮ้ยเตี้ย!” ปลายสายทักทันที โดยไม่รู้ตัวเลยว่าคนที่ตนกำลังคุยด้วยลอบกรอกตาอย่างเบื่อหน่าย

                    “ดาวเหนือ!” ชายหนุ่มตัวเล็กกรอกชื่อตัวเองกลับไป “เป็นเพื่อนกันมีกี่ปีแล้ววะ!? เรียกเตี้ย ๆ อยู่ได้ ไม่ชอบ!

                    พอถูกตอบกลับด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง ปลายทางถึงรู้ตัวว่าเล่นไม่ถูกกาลเทศะ เพื่อนเขาคนนี้แม้จะเป็นคนอารมณ์ดีกว่ามนุษย์ทั่วไป แต่การถูกเทจากอดีตแฟนเก่าอย่างไม่ทันตั้งเนื้อตั้งตัว วิมานที่ช่วยกันสร้างมาหลายปีพังทลายลงไม่เป็นท่าภายในเวลาไม่กี่วินาที ใครมันจะไปทำใจได้ไวขนาดนั้น

                    “ขอโทษ ๆ แต่แกรีบหายโกรธฉันแล้วฟังเรื่องที่ให้ฉันช่วยหน่อยเหอะ” ปลายทางสำนึกผิดแล้ว

                    ดาวเหนือไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้น พอเพื่อนเอ่ยขอโทษเขาก็หายโกรธทันที อีกอย่างยังมีเรื่องสำคัญกว่าจะมามัวเคืองกันด้วยเรื่องไม่เป็นเรื่องอีก

                    “ว่าไงล่ะ แต่ฉันไม่ต้องเดาก็รู้ เธอไม่รับผิดชอบใด ๆ ทั้งสิ้น ฉันจะไปทริปนี้คนเดียวหรือจะทิ้งเงินไปเฉย ๆ ก็แล้วแต่สินะ”

                    “เออ” ปลายทางตอบรับ ทุกอย่างที่ดาวเหนือพูดถูกต้อง

                    ดาวเหนือถอนหายใจยาว เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยถามเพื่อนที่เป็นคนคอยประสานให้ตนกับแฟนเก่า คนที่เขาเพิ่งจะส่องไอจีของเธอไปเมื่อสักครู่ ตั๋วเครื่องบินแบบฟูลเซอร์วิสและรถรับส่งส่วนตัวจากสนามบินถึงโรงแรมซึ่งรวมการเดินทางไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ จำนวนสี่วันสามคืน ที่ดาวเหนือเป็นคนรูดบัตรเครดิตซื้อไว้เมื่อต้นปี ตั้งใจว่าจะไปเที่ยวต่างประเทศใกล้ ๆ ครั้งแรกกับแฟนสาวที่คบกันมาตั้งแต่สมัยปีหนึ่งจนกระทั่งถึงวัยเบญจเพส ที่นั่นเขาจะทำเซอร์ไพรส์เธอด้วยการนั่งคุกเข่าขอแต่งงาน แต่ทุกอย่างกลายเป็นเพียงภาพฝันในชั่วข้ามคืนไปเมื่อเดือนที่แล้วนี่เอง

                    “ไอ้เหนือ อย่าเงียบสิวะ ฉันและพวกเพื่อน ๆ เป็นห่วงแกนะ”

    ความห่วงใยที่เพื่อนรักส่งมา ทำให้ดาวเหนือรับรู้ได้ว่าตนเองไม่ได้เหลือตัวคนเดียว เขายังมีมิตรสหายที่ดีและครอบครัวอันแสนน่ารัก แม้ผู้เป็นบิดาจะลาจากโลกนี้ไปเมื่อสี่ปีก่อน แต่เขาและครอบครับที่เหลือก็ไม่ได้รู้สึกเดียวดาย ส่วนตอนนี้ก็แค่ ... คนเคยรักจากไปอีกคน เขาก็ต้องอยู่ต่อไปบนโลกนี้ได้สิ!

    “โจ้ แกไปทริปไต้หวันกับฉันไหม แกไม่ต้องออกอะไรเลยนะเว้ย”

    “ใจเย็นไอ้เหนือ ฉันก็อยากไปเป็นเพื่อนแกนะ แต่แกก็รู้ว่าการทำงานในวงการบันเทิงมันหยุดเหมือนชาวบ้านเสียทีไหน” โจ้ เพื่อนสนิทผู้มิได้เป็นดารา แต่มีหน้าที่คอยดูแลและประสานงานให้บรรดาศิลปินหนึ่งในสังกัดใหญ่ของประเทศไทยกล่าวอย่างน่าเห็นใจ

    “อืม ฉันเข้าใจ ฉันไปคนเดียวก็ได้ หรือไม่ก็อาจลงขายแพ็กเกจเที่ยวที่ซื้อมาในเน็ท เอาแบบไม่ให้เข้าเนื้อก็พอ”

    “เฮ้ย ๆ อย่าเพิ่งคิดไปไกล ฉันกำลังจะบอกแกอยู่เนี่ย ว่าหาคนแชร์ค่าเที่ยวกับแกให้ได้ว่ะ” โจ้ไม่โกหก เขาทำงานในวงการบันเทิงตั้งแต่ตอนฝึกงาน ดังนั้นจึงไม่แปลกที่จะรู้จักคนมากมาย

    “ใครวะ?” ดาวเหนือข้องใจ “เพื่อนแกเหรอ? ฉันรู้จักหรือเปล่า ถ้าไม่ ไม่เอาด้วยหรอก ไปกับใครก็ไม่รู้”

    “ไม่ใช่เพื่อนฉัน แต่เอาเป็นว่าแกรู้จักแน่นอน และเขาก็เป็นคนที่ไว้ใจได้ ไม่ต้องห่วง” โจ้ยืนยัน

    “ผู้ชาย?”

    “เออสิ จะมีผู้หญิงคนไหนกล้าไปกับคนแปลกหน้าวะ แต่ก็ไม่แน่ ถ้าคนแปลกหน้านั้นคือ ที กลทีป์” โจ้พูดถึงศิลปินไอดอลหนุ่มยอดนิยมคนหนึ่งในเวลานี้

    ดาวเหนือคุ้นหูและคุ้นหน้าศิลปินไอดอลผู้นั้นดี อยู่ประเทศไทยมีหรือจะไม่รู้จักคนคนนี้ ไปถามเด็กสามขวบยังรู้เลย

    “เพ้อเจ้อแล้วไอ้โจ้ กลับมาเรื่องทริปไต้หวันของฉันก่อน” ดาวเหนือดึงเพื่อนให้กลับมาเรื่องคนตน ก่อนที่จะพาเขาไปสู่วงการคนบันเทิงและเรื่องกอสซิปต่าง ๆ “แกรับรองได้นะว่าจะไม่มีปัญหา”

    โจ้รู้ดีว่าเพื่อนเขาเป็นคนสบาย ๆ ไม่มากเรื่อง ถึงได้กล้าหาคนแปลกหน้ามาแชร์ค่าทริปที่เพื่อนเขารูดบัตรเครดิตผ่อนจ่ายไปหมดแล้วนี่ให้ อีกอย่างคนที่เขาหามาให้ดาวเหนือก็ต้องการความเป็นส่วนตัวและคนที่ไว้ใจได้เช่นกัน ในเมื่อต่างฝ่ายต่างวิน-วิน มีเหรอที่โจ้จะไม่จัดให้ทั้งสองฝ่าย

    “เออ วันเดินทาง ฉันพาเขาไปส่งให้แกถึงที่เลย แกตกลงแล้วใช่ไหม?”

    “อืม แค่สี่วันสามคืนเอง ก็ดีกว่าไปคนเดียวหรือทิ้งเงินไปเปล่า ๆ” ดาวเหนือเลิกคิดเยอะ ในเมื่อโจ้รับรอง เขาก็สบายใจไปได้หนึ่งเปราะ

    “โอเค ฉันได้บอกน้องเขา อ่อ ฉันให้เบอร์แกกับน้องเขาไปเลยนะ จะได้ติดต่อกันเอง”

    “น้อง?” ดาวเหนือทวนคำ “แกให้ฉันเป็นพี่เลี้ยงเด็กเหรอวะ?”

    “โอย ไอ้นี่! ดีลจนเสร็จแล้วยังจะมาเรื่องเยอะอีก เขาอายุน้อยกว่าเราต้องเรียกน้องเปล่าวะ? แต่ยังไงก็ไม่ใช่เด็กอมมือแน่ น้องเขา 20 แล้วโว๊ย!

    “เออ ๆ ก็ถามไปอย่างนั้นแหละ แกจะโวยอะไรนักหนา” ดาวเหนือชักรำคาญโจ้มาหน่อย ๆ แล้ว “ตามนั้น แกจัดการตามสะดวกเลย จะไปทำงานต่อแล้ว”

    ดาวเหนือไม่ได้เอ่ยตัดบทไปอย่างนั้น เขาจะลงไปช่วยกิจการของครอบครัวอยู่แล้ว ที่บ้านของเขาเปิดเป็นร้านโชห่วยตั้งแต่เขาจำความได้ จนกระทั้งเมื่อ 3-4 ปีก่อนที่กระแสร้านคาเฟ่กำลังมา แม่กับพี่ชายและพี่สาวจึงคิดปรับปรุงกิจการให้ทันสมัยด้วยเงินประกันชีวิตที่พ่อทำไว้ให้รวมกับเงินเก็บของสามที่น้องที่ช่วยกันทำงานสะสมมา ในที่สุดบ้านไม้หลังใหญ่สีขาวก็ได้ต่อเติมพื้นที่ตรงลานหญ้าหน้าบ้านให้เป็นร้านคาเฟ่ในฝัน หัวแรงหลักในการดูแลกิจการคือแม่และพี่สาว ส่วนพี่ชายยังทำงานประจำและมาช่วยงานในวันหยุด ส่วนตัวเขานะเหรอ แค่เป็นช่างภาพสมัครเล่น รายได้จะเท่าไหร่กันเชียว พออดีตแฟนสาวชวนมาเปิดร้านขายของออนไลน์ด้วยกัน เขาก็กลายเป็นลูกน้องของเธอไปโดยปริยาย รายได้ก็แล้วแต่เธอจะให้ซึ่งส่วนมากก็อยู่ในเกณฑ์ขั้นต่ำของแรงงานในกรุงเทพนั่นแหละ

    แต่ใช่ว่าดาวเหนือจะพอใจกับการช่วยงานอดีตแฟน เขาหารายได้พิเศษด้วยการเป็นลูกจ้างร้านของตนเองในวันหยุดและยังรับถ่ายรูปตามงานต่าง ๆ ด้วย ถึงอดีตแฟนสาวจะหารายได้ต่อวันได้มากกว่า แต่ดาวเหนือก็ไม่ทำตัวให้เป็นขี้ปากชาวบ้าน เขาขยันทำงาน ขยันมากจนไม่รู้เลยว่า อดีตแฟนมีใครอีกคนจนกระทั่งค่ำวันนั้นที่เขาตั้งใจซื้อดอกไม้ช่อสวยไปเซอร์ไพรส์เธอที่คอนโด

    ติ้ง!

    เสียงเตือนในโปรแกรมแชทดังขึ้นก่อนที่ดาวเหนือจะยื่นมือไปเปิดประตูร้าน เขาหยิบมือถือที่ใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงด้านหลังออกมาดู มีคนแอดไลน์มาหา จากโปรไฟล์รูปหมีเท็ดดี้แบร์และชื่อ ชานมแล้ว คงเป็น เด็กน้อยที่ไอ้โจ้พูดถึงแน่ ๆ

    ดาวเหนือตอบรับไปสักครู่แล้วถึงมั่นใจว่าเป็นเด็กคนนั้นจริง ๆ

                   ‘สวัสดีครับพี่ดาวเหนือ ขอบคุณนะครับที่ให้ผมเดินทางไปกับพี่ด้วย อีกสามวันพบกันนะครับ

    ******


    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น