คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #5 : Call : 3 AM. II
อยากจะเรียกอะไรก็ตามใจเธอละกัน!
“ ตีสาม! ” มิฮอว์คเอ่ยขณะจ้องมองหน้าปัดนาฬิกา ช่วงเวลานี้ควรจะเป็นเวลานอนพักร่างกายมากที่สุด!
ทว่ายัยหนูลีอาเกิดตื่นขึ้นกลางดึกแถมลงมาวิ่งซนเล่นซ่อนแอบ โดยให้เขาเป็นผู้หาส่วนหล่อนนั้นวิ่งสะเปะสะปะไปทั่ว
และเมื่อเขาเจอตัวหล่อนแล้ว ก็ต้องหิ้วปีกกลับขึ้นห้องพักอีกครั้ง เสื้อเชี้ตสีขาวบนตัวหล่อนก็เปียกน้ำ
จะปล่อยให้หลับไปทั้งๆเนื้อตัวเปียกปอนเช่นนี้ก็กลัวจะไม่สบายปอดบวมให้ แต่คิดอีกที ก็บวมอยู่แล้วป่าววะ?
(ชิว: อันนั้นไม่ได้ปอดบวม!)
เออๆ เปลี่ยนก็เปลี่ยน สุดท้ายก็จำใจถอดเสื้อผ้าหล่อนอีกเช่นเคย
โดยหยิบผ้าห่มมาคลุมร่างบอบบางนั้นไว้ แล้วค่อยสอดมือเข้าไปใต้ผ้าแล้วปลดกระดุม เสื้อผ้าที่พับไว้ตระเตรียม
ไว้ให้หล่อนผลัดเปลี่ยนในวันพรุ่งนี้ก็หมดพอดี ต้องเดินไปหยิบจากตู้เสื้อผ้าของเขา ซึ่งมิฮอว์คชักเริ่มติดขี้เกียจเดินไป
มาอย่างไม่จำเป็น
ตีสาม! ตอนนี้มิฮอว์คง่วงนอนเป็นอย่างมากถึงมากที่สุด
ล้มตัวลงนอนข้างกายของลีอาอย่างอ่อนล้า โดยหวังว่าพรุ่งนี้หล่อนคงไม่กรี้ดปรี้ดแตก เมื่อตื่นมาเจอเขานอนอยู่ข้างกาย
ลีอาขยับตัว รู้สึกว่าเหมือนมีแสงอ่อนๆบางอย่างส่องกระทบลงมาบริเวณใบหน้า หล่อนคลอนลำคอซ้ายทีขวาที
ตามด้วยเรียวแขนทั้งสองข้าง พร้อมเริ่มต้นสำหรับวันใหม่ แสงอรุณส่องลอดผ้าม่านสีทึบเข้ามาจากทางหน้าต่างห้อง
เหมือนจงใจปลุกให้หล่อนตื่น ปรือตามองรอบตัวก็เห็นว่า...เอ่อ ไม่ได้มีแค่หล่อนคนเดียวนอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์
ไม่ใช่ครั้งแรกที่หล่อนตื่นหรือรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาไร้อาภรณ์ แถมยังมีผู้ชายนอนหันหลังให้
สำหรับหล่อนแล้วไม่ใช่เรื่องที่ต้องตกใจมาก ดังนั้นหล่อนสลัดผ้าห่มแล้วรีบลุกขึ้นหยิบเสื้อผ้ามาสวมบนตัว
จัดการสางผมเผ้าชี้โด่เด่ให้เข้าที่ แล้วจากไปอย่างเงียบๆ
เสียงบานประตูห้องถูกปิดลง ร่างหนาบนเตียงเริ่มขยับ บิดตัวคลายกล้ามเนื้อช้าๆ
เสียงฝีเท้าเริ่มเดินห่างออกไปได้ไกล จึงค่อยขยับตัว เปิดเปลือกตามองตามบานประตูสี่เหลี่ยม
มิฮอว์ครู้สึกตัวตั้งแต่ลีอาเริ่มขยับกาย เพื่อไม่ให้หล่อนเกิดเขินอาย เขาขยับตัว ปล่อยให้หล่อนเป็นอิสระจากวงแขน
ค่อยตะแคงนอนหันหลังให้ หล่อนจากไปอย่างโพรเฟส'เชินเนิล ไม่มีแม้แต่เสียงกรี้ดกร้าด
หรือโวยวายหาคนรับผิดชอบ! แค่ใส่เสื้อผ้า แล้วเดินจากไปอย่างเงียบๆเท่านั้น!
“ รู้สึกเหมือนโดนฟันแล้วทิ้งเลยแฮะ ” มิฮอว์คชำเลืองมองหัวเตียงเล็กน้อย รู้สึกว่าเหตุการณ์คุ้นๆ
ต่างแค่บริบท ถ้าหล่อนวางเงินไว้ตรงหัวเตียงแล้วเดินออกไปโดยไม่หันกลับมามองนี่ก็ชัดเจน!
ดริปกาแฟดื่มยามเช้าหน่อยละกัน ....แล้วค่อยออกไปตามหล่อนกลับ
ลุกขึ้นยืนเต็มสัดส่วนได้ก็เดินกลับเข้าห้องของตนเอง
ลีอาเดินออกจากคฤหาสน์ให้เงียบที่สุดเท่าที่จะทำได้ เดินออกมาทางด้านหน้าของคฤหาสน์ได้
โดยไม่ได้รู้ทิศทางเพียงแค่หวังว่าออกไปที่ชายฝั่ง ถามทางคนจากข้างทางก็เป็นพอ ทว่าหล่อนต้องผิดหวัง
เศษคอนกรีตมากมาย กองพะเนินเทินเป็นชั้นๆคาดว่าคงมาจากอาคาร บ้านเรือน ซากปรักหักพัง แตกกระจายเละเทะ
ไม่เหลือเค้าโครงเดิม สุดลูกหูลูกตา
ราวกับว่าเมืองแห่งนี้เคยเกิดสงครามมาก่อน หล่อนออกเดินอย่างระแวดระวัง พยายามยกเท้าสูงไว้ตลอด
เผื่อเจอกับดักไม่ว่าจะดักคนหรือดักสัตว์ หล่อนต้องระวังตัวไว้ เดินตรงออกมาทางทิศเหนือของตัวเกาะ
มาได้เกือบห้ากิโลเมตร หันหลังก็ยังคงมองเห็นคฤหาสน์สีดำตั้งเด่นเป็นสง่าท่ามกลางป่ารกร้าง
“ เหมือนพวกคฤหาสน์จอมมารเลยอ่ะ ” ลีอาขนลุกซู่ อย่างน้อยหล่อนก็เลือกที่จะก้าวขาหนีออกมาแล้ว
และคิดว่าเขาคงไม่ตามออกมาแน่ เพราะแสงแดดจ้า...เอ่อ สิ่ง...เอ่อ คิดว่าเขา เรียกว่าเขาไปก่อนละกัน
เขาคงไม่ออกมาแน่... ถ้าเจอแสงแดด...
ดังนั้นต้องรีบไปท่าเรือก่อนจะฟ้ามืดหรือตะวันตกดิน ว่าแล้วก็ออกเดินต่อมุ่งหน้าขึ้นเหนือ ก้าวขาเดินต่อเรื่อยๆ
แม้ว่าแสงแดดเริ่มแผดเผาบนผิวกาย ร่างกายเริ่มเหงื่อออก ลีอากลืนน้ำลายหนืดๆลงคออย่างยากลำบาก
ตอนนี้หล่อนกระหายน้ำอย่างมาก ข้างหน้าพอจะมีซากปรักหักพัง พอจะเห็นเป็นโครงบ้านสองชั้น
ซึ่งชั้นบนได้หายไปเกือบครึ่ง ส่วนชั้นล่างยังอยู่ครบแม้จะเป็นห้องเล็กๆไม่ว่าจะเป็นหน้าต่างหรือบานประตู
คิดว่าเข้าไปแอบซ่อนตัวอยู่ในนั้น พักขาสักสิบนาทีคงไม่มีอะไรต้องหวาดกลัว
เข้ามาด้านในหล่อนยังไม่ก้าวเดินอย่างผลีผลาม มองรอบตัวพยายามหาสิ่งผิดปกติ
อาจจะมีกับดัก หรือว่าลิงบาบูนโผล่เข้ามาทำร้ายก็เป็นได้ หล่อนต้องมีสติตลอดเวลา
ห้ามเผลอแม้แต่วินาทีเดียว!
ไม่มี ลีอาสำรวจคร่าวๆที่นี่ไม่มีกับดักใดๆ ดังนั้นหล่อนจึงหามุมสำหรับนั่งพักและแน่นอนว่าต้องมีทางให้หล่อนได้ชิ่งหนี
หากเกิดเหตุไม่คาดฝันได้อย่างทันเวลา
ภายในตัวบ้านที่คาดว่าสมบูรณ์สุดเต็มไปด้วยคราบฝุ่นหนาเตอะ ราวกับว่าบ้านหลังนี้ไม่ได้มีคนเข้ามาใช้งาน
ไม่ว่าจะลูกบิดประตูฝืดๆ คราบฝุ่นตามขอบหน้าต่าง(ซึ่งถูกปิดไว้) ไม่มีร่องรอยของการถูกบุกรุก
หรือมีคนเข้ามาเช่นหล่อน คงถูกทิ้งปิดตายไว้สินะ เดินมาถึงโต๊ะทำงานเคลือบด้วยฝุ่นหนาและหยากไย่
โต๊ะทำงานโล่งๆมีพวกเอกสารทับถมกันเป็นตั้ง ไม่มีอาหารหรือเครื่องดื่มทิ้งไว้ ดวงตาสีน้ำเงินเข้มสะดุดกับกล่องสี่เหลี่ยม
ขนาดพอดีมือถูกซ่อนภายใต้กองเอกสาร
“ โชคดีจัง ” ดีใจยิ่งกว่าเจอทอง! ลีอาคว้าหยิบซองบุหรี่สีดำมันขึ้นมา
เปิดฝากล่องดูมวลบุหรี่ด้านในเหลือไว้ให้ครึ่งซอง ซิบโบ้สอดไว้คู่กับมวลแท่งมะเร็งปอด หล่อนคลี่ยิ้มหย่อน
เก็บมันใส่กระเป๋าเสื้อตบ ฝ่ามือลงบนอกเบาๆอย่างอุ่นใจ
ต้องรีบไปต่อแล้ว
ลีอามัวชักช้าเสียเวลาไม่ได้หากจะสำรวจบ้านต้องใช้เวลามากกว่านี้ อีกอย่างหล่อนเป็นภูมิแพ้ หากยืนอยู่ในนี้นานๆละก็
นอกจากจะหายใจไม่ออก ซ้ำยังอากาศไม่ถ่ายเท
หล่อนอาจจะวูบสลบ ผื่นขึ้นตามตัวถึงขั้นเสียชีวิตคาที่แน่
จึงต้องรีบออกเดินทางต่อ ในบ้านหลังเล็กๆมีเสาคอนกรีตทับปิดทาง ไม่ให้เดินออกไปส่วนของด้านหลังบ้าน
ดังนั้นหล่อนจึงต้องออกมาทางด้านหน้าออกเดินต่อ
ผ่านซากปรักหักพังที่คิดว่าเป็นใจกลางของเมืองไปเรียบร้อย ราบรื่นตลอดทาง กลับเข้าสู่พื้นที่ของป่าทึบอีกครั้ง
ใบหูทั้งสองข้างไม่ได้ยินเสียงร้องของเหล่าสรรพสัตว์นกสักตัว หรือจิ้งหรีดเรไร จักจั่น ไม่มีให้ได้ยิน!
ต้นไม้รอบๆเป็นต้นไม้ใหญ่โบราณ ราวๆห้าคนโอบ อัดแน่นอึกทึก ไม่มีสายลมเย็นๆจากฝั่งทะเลพัดผ่านร่าง
มีเพียงแค่อากาศและแสงแดดร้อนๆ ลีอายกท่อนแขนขึ้นปาดเหงื่อบนหน้าผาก หามุมร่มพ้นแดดเงยหน้ามองท้องฟ้า
พระอาทิตย์ส่องแสงเจิดจ้ากลางท้องนภา จนต้องหรี่ตามอง ก้อนเมฆสีขาวคล้ายขนมสายไหมสีขาวลอยเป็นก้อนเล็กๆ
ทั่วท้องฟ้าเปิดขนาดนี้ช่วงบ่ายพายุคงมาแน่
กลับตัวก็ไม่ได้...ให้เดินต่อไปก็ไปไม่ถึง…
ลีอาหนักใจ หันหลังกลับไปที่คฤหาสน์ไม่ได้แล้ว เกาะแห่งนี้กว้างใหญ่เกินกว่าที่จะวิ่งไปถึงชายฝั่งก่อนช่วงบ่าย
อาจจะเป็นเพราะด้วยสภาพร่างกายเช่นนี้ นอกจากจะดวงตาเริ่มพร่ามัว จากการต้องแสงแดดแรงๆ
ยามเช้าซ้ำยังเป็นเวลานานท่อนขาข้างซ้ายเริ่มปวดตะคริวกิน เป็นสัญญาณเตือนจากร่างกายเนื่องจากขาดน้ำ
เหงื่อออกโชก ทั่วทุกอณูร่างกายเส้นผมเปียกแฉะ ไม่ต่างกับร่างกายเพิ่งอาบน้ำเสร็จหมาดๆ เสื้อเชี้ตสีขาวแนบไปบนตัว
จนต้องจับยกอกเสื้อขึ้นมากระพือ ระบายความร้อนจากร่างกายและหาที่หลบร้อน
จะว่าไปก็มีสิ่งปลูกสร้าง ขนาดใหญ่มหึมาตั้งอยู่ตรงหน้า ซึ่งหล่อนได้ยืนใต้ชายคา
รูปร่างของมันเหมือน...เอ่อ ไม้กางเขนขนาดใหญ่ ทำจากเนื้อไม้หนา แน่นแข็งแรงไร้ซึ่งรอยต่อ
ไม่สิ...มันมีรากแก้วขนาดใหญ่
โผล่พ้นคอนกรีตฝังดินให้เห็นอย่างชัดเจน ส่วนที่เหลือยังคงอยู่ใต้ดิน
หากสังเกตดีๆอีกครั้ง ม มันไม่ใช่สิ่งปลูกสร้าง ทว่าคือต้นไม้ขนาดใหญ่มโหฬาร
ไม่แน่ใจว่าตายทั้งๆที่กำลังยืนต้นหรือไม่ ถูกฟันด้วยดาบนอกจากคมกริบแล้ว ยังต้องรวดเร็วและแม่นยำ
ไม่มีการบิดเบี้ยว เอนเอียง ทุกอย่างเป็นเส้นตรงราวกับใช้ไม้บรรทัดวาดด้วยดินสอร่างไว้ก่อน แล้วค่อยใช้ดาบตวัด
ตัดตามรอบ จนกลายเป็นรูปทรงของไม้กางเขน ดูจากมุมเหลี่ยมของเสา
แล้วบอกได้เลยว่าเจ้าของผลงานชิ้นนี้ฝีมือคงไม่ธรรมดาอย่างแน่นอน
พระเจ้า! ฝีมือของคนจริงๆอย่างนั้นหรอ?
ลีอาได้แต่ยืนตะลึง! อ้าปากกว้างจนสามารถยัดโอ่งมังกรใส่ปากได้ เบิกตาค้าง!
อาจจะจัดเป็นหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์ของโลกก็ว่าได้
หางตาของลีอาเริ่มกระตุก เหมือนเป็นเรดาห์รับรู้ เริ่มสึกตัวว่ากำลังมีบางอย่างแอบซ่อน
หลังซากปรักหักพังรอบๆตัว มองมาทางหล่อน
ลิงบ้า เอ้ย ลิงบาบูน ราวๆยี่สิบตัวได้ล้อมหล่อนดักไว้ซึ่งทุกทางแล้ว
“ กี้ กี้ ” โจทย์เก่าโผล่ออกจากที่ซ่อน ดักทางด้านหน้าไว้ห้าตัว พวกมันส่งเสียงร้องอันเป็นเอกลักษณ์
พร้อมทำท่าชี้นิ้วมือเข้าหาตนกันทุกตัว ถ้าหากให้แปลด้วยภาษากายแล้วละก็...คงต่างพากันเสนอตัวเป็นคนเปิด
เริ่มลงมือสังหารหล่อนก่อนแน่ๆ
“ ดันมาเป็นตอนนี้เอาซะได้! ” ลีอาทำหน้าเซ็ง ร่างกายของหล่อนต้องการที่นอนเป็นอย่างมาก
รองลงมาก็เป็นน้ำดื่มเย็นๆ ไม่ได้พร้อมสำหรับการต่อสู้
หล่อนแอบถอนหายใจ...มีหวังได้กลายเป็นอาหารป่า อาหารของลิงพวกนี้แน่
“ กี้! ” ไม่ทันไรลิงบาบูนกระโจนตัวเข้ามาใส่พร้อมกับง้างดาบในมือ ยกสูงเหนือศีรษะ
แล้วฟาดลงอย่างรวดเร็วและว่องไว ลีอาย่อตัวหลบแทบไม่ทัน แถมยังเสียหลักล้มนอนคว่ำอีกตังหาก
แค่ทำให้เสียหลักล้มหน้าขมำคงยังไม่หนำใจ ลิงบาบูนหวดดาบฟาดลงซ้ำอีกครั้ง หวังให้ปิดฉากจบเกมอย่างรวดเร็ว
เสี้ยววินาทีสั้นๆลีอากลิ้งตัวหลบไปอีกทิศได้อย่างฉิวเฉียด สปิงตัวกระโดดขึ้นมายืนด้วยสองขาอย่างยากลำบาก
เนื่องจากขาเรียวเล็กข้างขวาเริ่มเป็นตะคริว เสียงลั่นไกปืนดังขึ้นหนึ่งนัด ทำให้หล่อนสะดุ้ง เริ่มขยับตัวอีกหน
หลบแทบไม่พ้น! กระสุนนั้นเฉียดต้นขาข้างขวาใต้สะโพกไม่ได้รู้สึกเจ็บมาก พอให้เลือดไหลออกซิบๆ
นั่น...การใช้อาวุธไม่ว่าจะดาบ ปืน ล้วนแล้วแต่เป็นวิธีการใช้ของพวกมนุษย์ทั้งหมด
แต่ว่าทำไมลิงบาบูนถึงนำพวกอาวุธเหล่านี้มาใช้ละ? แถมยังใช้ได้อย่างเชี่ยวชาญอีกด้วย!
นอกจากร่างกายอันหนักอึ้ง ดวงตาพร่ามัว ขาข้างซ้ายเริ่มเป็นตะคริวตามข้างขวาตามไปติดๆ
แถมยังโดนยิงแบบถากๆก็เถอะ มีอะไรแย่กว่านี้อีกไหมเนี่ย?
“ กี้! ” หนึ่งในนั้นกระโดดเข้ามายืนตรงหน้าของลีอา แล้วทำการวาดวงแขนสุดเอื้อม
เหวี่ยงค้อนไม้ยักษ์ในมือสุดแรงเกิดออกแรงจากมัดกล้ามทั้งตัว เพื่อออกวงสวิงหวังฟาดหล่อนในหนเดียว
“ หว๋า! ” หลบไม่ทัน! ร่างของลีอาถึงกับปลิวกระเด็นตามแรงหวดจากค้อนไม้ขนาดยักษ์
ปลิวเข้ากระแทกกับซากคอนกรีตโครมใหญ่ จนซากคอนกรีตเกิดรอยร้าวสองเสี่ยงใหญ่เป็นเส้นตรง
อูยยย
ลีอาอ้าปากค้างร้องไม่ออก ไม่มีเสียงร้องออกจากลำคอแห้งผาก ร่างบอบบางถึงกับอ่อนแรง
ไหลจากกำแพงลงสู่พื้นดินอย่างน่าเวทนา
“ กี้ กี้ ” ลิงบาบูนเจ้าของค้อนไม้ร้องดีใจเมื่อล้มลีอาลงได้ แค่นี้คงยังไม่หนำใจ
มันกระโดดขึ้นกลางอากาศแล้วใช้ค้อนไม้ในมือหวังจะปิดฉาก สังหารหล่อนภายในครั้งเดียว
นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเหลือบดำกำลังเริ่มปิดตาลงทีละนิด พอจะเห็นลางๆ ว่าหล่อนกำลังจะโดนโจมตี
ด้วยท่าอัลติฯสูงสุดของเจ้าลิงถือไม้ ลีอาหอบหายใจถี่ ไร้เรี่ยวแรงจะคลานหนี ทำได้เพียงแค่นอนกองอยู่กับพื้น
กระพริบตารอความตายตรงหน้า พยายามยกมือข้างซ้ายขึ้นเพื่อเป็นการขอร้องห้าม ยกธงขาวยอมแพ้
แต่คงไม่ได้…ลิงบาบูนเหมือนไม่เข้าใจกับความหมายของหล่อน กลับเร่งให้มันออกแรงขั้นสุด ไม่มีการออมมือ
ไม่มีการเห็นอกเห็นใจใดๆทั้งสิ้น! ลีอาหายใจไม่ทั่วท้อง ดวงตาใกล้ปิดลงเต็มทีแต่เจ้าลิงยังไม่หยุดลงมือ
มีหวัง...หล่อนคง... และแล้วทุกอย่างก็ดับลงราวกับว่าโลกถึงกาลอวสาน
“ เฮ้อ วุ่นวายแต่เช้าเลย ” มิฮอว์คตีหน้ามุ่ย หยิบยกดาบดำประจำกายโครุโตะ โยรุออกจากช่องเก็บด้านหลัง
ของเสื้อคลุม ออกแรงเหวี่ยงดาบเบาๆ เพื่อซัดให้ลิงบาบูนกระเด็นออกไปให้พ้นทาง
“ กี้ กี้ กี้ ” พวกมันส่งเสียงร้อง วงแตก ลุกฮือหนีเข้าป่าหายไปภายในพริบตา
ไม่ต่างอะไรกับตำรวจลงตรวจร้านคลับ บาร์ ในคืนวันศุกร์
“ หวังว่าแค่ไร้สติ ” เหมือนทุกครั้งที่ผ่านมา แต่หากว่าเป็นร่างไร้วิญญาณแล้ว... เขาคงจะเสียใจไปตลอดกาล
มิฮอว์คหยุดตรงยืนปลายเท้าของหล่อน ยืนมองใบหน้างดงามไร้เลือดฝาดนอนแน่นิ่งไม่ไหวติง...
เสี้ยววินาทีก่อนหล่อนจะสลบสไล ลีอาได้ชูมือข้างซ้ายขึ้นเหนือร่างและแววตาคู่นั้นกำลังอ้อนวอน .....
ไม่ได้ขอร้องเพื่อให้เจ้าลิงบาบูนตัวนั้นหยุดการกระทำ แต่เป็นการอ้อนวอนขอให้มันได้ปิดฉากจบชีวิตของหล่อนทิ้งซะ!
“ อือ...คุณ “ ลีอาครางในลำคอเริ่มรู้สึกตัว พยายามปรือตามองคนตรงหน้า
แม้ดวงตาของหล่อนจะพร่ามัวแต่ก็ยังคงมองเห็นดวงสีอำพันประดุจเหยี่ยวในระยะประชิด ลีอาพยายามมองรอบตัว
หล่อนนอนบนโซฟาสุดหรูตัวยาว ข้าวของตกแต่ง เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้น เช่นเคย ....
หล่อนกลับเข้ามาอยู่ในคฤหาสน์อีกแล้วสินะ...
“ เงียบน่า! ” เขาสั่ง แล้วกดปลายคอตตอนบัดชุบเบตาดีนในมือลงบนสะเก็ดแผลเล็กๆข้างหมับหล่อนให้หนึ่งที
“ งือ เจ็บ! ” ลีอาเอียงหน้าหลบอีกทาง ราวกับว่าคอตตอนบัดนั้นเป็นของมีคม ทิ่มแทงเข้าผิวหน้าอันบอบบาง
“ ทำแผลเองละกัน ” ว่าแล้วร่างหนาข้างกายก็ขยับตัวออกห่าง ยัดคอตตอนบัดในมือหนา
ใส่ในมือของลีอาแทน
“ คุณ...” หล่อนเรียก พร้อมกับพยายามใช้ท่อนแขนเล็กยันกายลุกขึ้นในท่านั่ง
“ อมนี้ไว้ซะ แล้วจะรู้สึกดี! ” เขากำลังป้อนบางอย่างเท่าลูกอมขนาดสี่เหลี่ยมใส่ปากหล่อน
“ อือ อย่า ” ลีอาเอื้อมมือปัดเป็นพัลวัน ปฏิเสธของในมือเขาจรดริมฝีปากหล่อน
“ อย่าดื้อสิ! ” ในที่สุดมิฮอว์คก็ส่งเข้าไปในช่องปากเล็กๆ
“ อือ...คุณ ” เขาป้อนบางอย่างมีรสเย็นใส่ปากหล่อน และแน่นอนละว่า
กลไกการป้องกันตัวของหล่อนทำงาน บ้วนของในปากทิ้งไปอีกทาง
“ อะไร? ” มิฮอว์คถามเสียงห้วน ลีอาทำท่าบ้วนก้อนน้ำแข็งที่เขาป้อนให้ทิ้ง
ในช่วงเวลาสั้นๆมิฮอว์คกลับได้ปิดปากหล่อนแน่น เขาปิดปากหล่อนไว้แน่นไม่ให้คายทิ้งอีกเด็ดขาด
หล่อนมัก เรียกว่า ‘คุณ’ ตลอดทุกครั้งที่ปรือตามอง
“ คุณเป็นคนใช่ไหมคะ? หรือว่าฉัน...ตายไปแล้ว? ” ลีอาลดเสียงลงพูดประโยคสุดท้าย
หล่อนแงะนิ้วมือหนาๆของเขาออกจากริมฝีปากได้ รีบเอ่ยถามทันที แต่ในใจหล่อนคิดว่าคงเป็นอย่างหลัง
นี่คงจะเป็นโลกหลังความตาย
“ แล้วคิดว่าไงละ? ” นี่คือประโยคคำถามเต็มๆของลีอาสินะ
มิฮอว์คเอื้อมมือขวาจับผ้าม่าน กระชากเปิดผ้าม่านออกเพื่อให้แสงแดดส่องเข้ามาผ่านร่างของเขา
“ ฮือ ผีแน่ๆ ” หล่อนส่งเสียงร้องในลำคอ ยกมือปิดตาไว้ เนื่องจากเกรงกลัวต่อภาพตรงหน้า
แค่รู้สึกว่าชายตรงหน้าเป็นพลังงานบางอย่าง ผึง! เส้นผมทั้งศีรษะถึงกับลุกขึ้นตั้งเหมือนลืมทฤษฎีแรงโน้มถ่วง
ไรขนอ่อนทั่วทั้งตัวก็เช่นกัน หากพวกแวมไพร์ ผีดิบต้องแสงแดดยามเช้าเข้าจังๆ ผิวหนังจะเกิดเปลวไฟลุกไหม้
หรือไม่ก็ระเบิดตู้ม กลายเป็นโกโก้ครันช์ ซึ่งหล่อนคิดว่าเป็นภาพที่ไม่น่าพิษสมัยนักจึงขอหลับตาปี๋ดีกว่า
“ ดูซะสิ! ” จะได้รู้ๆกันไปข้าง! มิฮอว์คดึงมือน้อยๆซึ่งลีอาได้ปิดตาไว้ออก เพื่อให้ได้คลายความสงสัย
คราแรกลีอาก็ไม่ยอม ทว่าพอมิฮอว์คออกแรงดึง หล่อนต้องจำใจเปิดตามอง แค่เปิดตาคงไม่พอ
ฝ่ามือหนาบังคับให้หล่อนจับตรงกลางหน้าอก
ใบหน้าหล่อเหลาไร้ที่ติ ไม่ว่าจะเส้นผมทรงสลิคแบล็คเสยไปทางด้านหลังทั้งหมด
(น้อยคนที่จะทำทรงผมนี้แล้วรอด) ขนคิ้วเรียงตัวสวย หนวดเคราล้วนแล้วเป็นสีรัตติกาลถูกจัดออกแบบตกแต่ง
มาอย่างเรียบร้อย นัยน์ตาสีอำพันกลมโตประดุจเหยี่ยวจ้องจับมาทางหล่อนราวกับว่าสามารถมอง เห็นความคิดภายในใจ
อย่างทะลุปรุโปร่ง จมูกโด่งเป็นสัน ริมฝีปากหนาได้รูป โดยเฉพาะสันกรามที่เด่นชัดเหมาะรับกับโครงหน้า
ฝ่ามือเล็กๆของหล่อนสัมผัสลงบนผิวส่วนกลางหน้าอกของเขา เสียงหัวใจของเขาเต้นตามจังหวะ ตึก ตัก ตึกตัก
ผ่านกล้ามเนื้อหน้าอกอย่างสม่ำเสมอ โดยมิฮอว์คหวังว่าหล่อนคงได้คำตอบโดยที่เขาไม่ต้องพูดอะไรเยอะ
ดวงตาสีน้ำเงินเข้มจับจ้องมองผ่ามือของตนสัมผัสลงบนผิวกายขาวสะอาด ผิวกายของเขาแทบไม่เคยโดนรังสียูวี
รังแกเลยสักนิดเดียว! เพียงแค่สวมเสื้อเชี้ตสีขาวเหมือนที่หล่อนใส่ เปิดเม็ดกระดุมบนให้เห็นเครื่องประดับบนตัวเช่น
ไม้กางเขนสีทอง กล้ามเนื้อส่วนอกแน่นๆ ชวนให้จินตนาการไปถึงส่วนหน้าท้องที่เรียกว่าซิคเแพก
เพียงแค่นี้ก็ทำให้ลีอาเลือดลมสูบฉีดไหลพล่านทั่วทั้งตัว!
เอ่อ โอโห... หล่อขนาดนี้...! ถ้าเขาเป็นผี...หล่อนก็จะยอมให้เขาหลอก!
นอกจากใบหน้าหล่อเหลา ร่างกายอัดแน่นไปด้วยกล้ามเนื้อไม่ได้ถึงกับแน่นล่ำสันขึ้นกล้ามปู หากลองคำนวณกับส่วนสูง
แม้ว่าเขาจะนั่งอยู่ก็ตาม...ถือว่ากล้ามเนื้อบนตัวทุกสัดส่วน เหมาะสมกับส่วนสูง น้ำเสียงทุ้มหนาชวนฟังให้เคลิ้ม
เพียงแค่สวมเสื้อเชี้ตสีขาว กางเกงสแลคสีดำ รองเท้าบูทหนังง่ายๆ สบายๆ
นี่มัน....ลูกรักพระเจ้าชัดๆ
“ จะจับอีกนานไหม? ” มิฮอว์คเอ่ยถาม รู้สึกเหมือนว่าลีอาจะเงียบไปพักใหญ่
“ ขอโทษค่ะ ” ลีอารีบชักมือกลับ แถมก้มหน้างุดหลบสายตาของคนตรงหน้า
จะให้ไม่หลบสายตาได้ไง...ก็คนตรงหน้าคือ แดรคูล มิฮอว์ค หนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด พ่วงด้วยดีกรีนักดาบ-
แข็งแกร่งที่สุดในโลก บุคคลผู้มีชื่อเสียงโด่งดังแค่เพียงเอ่ยชื่อ..คนฟังต้องตัวสั่นกันบ้าง
ข้อมูลส่วนตัวแทบไม่มีใครได้ล่วงรู้....ไม่ว่าจะค่าหัวก่อนเข้ามาเป็นหนึ่งในเจ็ดเทพโจรสลัด
บ้านเกิดหรือว่าถิ่นที่อยู่อาศัย ฯลฯ และเขานั่งอยู่ตรงหน้าของหล่อนแล้ว!
“ รู้สึกว่าแผลจะเปิด ” มิฮอว์คมองรอยเลือดบนอกเสื้อของลีอา
“ เอ๋? ” ลีอาสะดุ้ง รู้ว่ามิฮอว์คพูดถึงตัวหล่อนอยู่ ว่าแล้วก็ปลดกระดุมเสื้อเพื่อเช็คบาดแผลบนตัว
“ นี่ฉันเป็นผู้ชายนะ! ” อยู่ดีไม่ว่าดียัยลีอาก็แหวกอกเสื้อให้เขาดูเฉยเลย
มิฮอว์ครีบลุกขึ้นยืนหันหลังให้ทันที
“ ฉันรู้ค่ะ แต่ว่าคุณคอยดูแลฉันมาตลอดเลยนี่คะ? ” จริงๆจะเปิดหรือไม่เปิด มิฮอว์คคงไม่น่าจะเขินแล้วมั้ง
คงจะเห็นบ่อย...จนชินแล้วก็ได้ ลีอาใช้คอตตอนบัดในมือค่อยๆแตะลงบริเวณปากแผลเบาๆ รอยแผลกากบาทไขว้
ยังไม่หายดี ยังตึงๆ เหมือนว่าปากแผลจะถูกเปิดออกจากการต่อสู้กับลิงบาบูน เลือดไหลซิบๆเลอะบนเสื้อสีขาว
“ มีแม่บ้านผู้หญิงมาดูแผลให้ ” มิฮอว์คปดคำโตเพื่อให้หล่อนสบายใจ
ถ้าหากบอกไปว่าเขาเป็นคนดูแล...ร่างกายหล่อนตอนไม่ได้สติคงไม่ใช่เรื่องดีแน่ อีกอย่างกลัวเทียบหน้ากันไม่ติด
ดังนั้นจึงตอบแบบเซฟๆเรื่องความรู้สึกของทั้งสองฝ่าย
“ แต่ว่า..” เท่าที่หล่อนพอจะจำได้คลับคล้ายคลับคราว่าเป็นเขา คนที่เช็ดตัวให้ในตอนนั้น....
ทั้งน้ำเย็นๆผ้าขนหนู ซับลงบนผิวกายอย่างทะนุถนอมแตะลงบนหน้าอก....เอ่อ แล้วก็...เอ่อ
อ่า...ขอไม่พูดต่อละกันเดี๋ยวจะเข้าจังหวะอีโรติก สายตาดุๆของมิฮอว์คส่งมาทำให้ลีอาต้องหยุดเป็นหนูจำไม
คอยระดมยิงคำถามทุกอย่างต้องสงสัย
“ แล้วฉันต้องเรียกคุณว่าอะไร? คุณแดรคูล? คุณมิฮอว์ค ” ลีอาเอ่ยถามความสมัครใจ แถมเอ่ยถามทีละอย่าง
“ เอาที่สบายใจ ” มิฮอว์คตามใจ ลีอาอยากจะเรียกเขาว่าอะไรก็ตามที่หล่อนจะสะดวกละกัน!
" เถ้าแก่ "
" เสี่ย! "
" อันตรายๆ ถ้าเป็นไปได้อย่าเรียกอย่างนั้น! " มิฮอว์คถึงกับต้องหันมาร้องห้าม
" เอ่อ ...งั้นก็...แด๊ดดี้! " ลีอาทำท่านึกคิดบางอย่างก่อนจะเอ่ยพูดออกมาเหมือนทุกครั้ง
หล่อนพูดด้วยลีหน้าเคอะเขิน
" แต่ฉันไม่มีลูกอย่างเธอหรอกนะ! " ยังไม่ได้แต่งงานเลยด้วยซ้ำมาเรียกแบบนี้ได้ยังไง? มิฮอว์คไม่เข้าใจ
" แด๊ดดี้... แด๊ดดี้ที่แปลว่าที่รักค่ะ ^^ " ลีอากระซิบข้างหูแปลความหมายให้ พร้อมกับรอยยิ้มหวานเก๋ๆ
ให้อีกหนึ่งที ก็แบบว่า แด๊ดดี๊ที่ไม่ได้แปลว่าพ่ออะค่ะ! แล้วค่อยล้มตัวลงบนโซฟาตัวยาว ซุกใบหน้างามลงบนหน้าอิงแก้เขิน
แถมส่งกรี้ดกร้าดอัดใส่หมอนเพื่อไม่ให้เกิดเสียงดัง
“ เป็นสาวเป็นแส้! ” มิฮอว์คถึงกับส่ายหน้า
หากว่าหล่อนจะเรียกเขาว่าเสี่ยยังจะดีกว่า มาเรียกแด๊ดดงแด๊ดดี้อะไรแบบนี้!
“ งั้นต้องเรียกว่า ป๋าดีกว่า คุณป๋าคะ คุณป๋าขา ” ใช่แค่เรียกเอ่ยด้วยน้ำเสียงโทนปกติ
ลีอาพูดโดยใส่น้ำเสียงติดลูกอ้อน แน่นอนว่าต้องเสียงสองด้วยถึงจะดูตัวเล็กน่ารัก!
“ กลับไปเรียกคุณแดรคูล คุณมิฮอว์คแต่แรกฉันก็ไม่ติดอะไรนะ ”
นอกจากใบหน้าอันงดงามราวกับเทพธิดาของหล่อนแล้ว พอเจอน้ำเสียงใสๆออดอ้อน
บอกตามตรงหากจิตใจไม่แข็งแกร่ง มีหวัง...แย่แน่
“ ไม่เอาอ่ะ คุณป๋าขาน่ารักที่สุดแล้ว! ” ลีอาไม่ยอม หากจะบังคับให้เรียกอย่างอื่น
“ เออๆ เอาๆ ป๋าก็ป๋า ” มิฮอว์คตัดความรำคาญนั้นออกไปทันที
อีกอย่างเขาก็เป็นคนเอ่ยปากพูดเอง หากหล่อนใครอยากเรียกอะไรก็เรียกไป!
เอาอีกแล้วนะคุณคุมะ! แต่ละคนที่ซัดมามักเป็นตัวเต็งของแต่ละที่... คนแรกก็เพโรน่า
สาวน้อยแดนไกลจากทริลเลอร์บาร์ค รูปร่างบอบบางอ้อนแอ้นได้ฟีลลูกคุณหนูไม่เคยหยิบจับอะไร
แล้วก็ไม่คิดจะช่วยหรือหยิบจับอะไรทั้งนั้น! ดูจากร่างกายแล้วคงเป็นพวกถนัดใช้แต่ผลปีศาจในการต่อสู้มากกว่า
แม้ว่าจะอยู่กับเขาเพโรน่าเองก็ยังใช้พลังของตน ลอยไปลอยมากลางอากาศ นอกจากจะทำให้เสียสมาธิ
แล้วแถมยังกวนประสาทเขาอีกด้วย!
คนต่อมาโรโรโนอา โซโล กับวิชาสามดาบ คนนี้ไม่ต้องพูดเยอะ เพราะคิดว่าทุกคนรู้จักกันเป็นอย่างดีอยู่แล้ว
โซโลเป็นคนหัวไว เรียนรู้จากตัวเขาได้อย่างรวดเร็ว แน่นอนว่าฝีมือพัฒนาขึ้นอย่างก้าวกระโดด
พร้อมสำหรับเข้าสู่นิวเวิร์ล(โลกใหม่)
และคนล่าสุด ลีอา ไม่รู้ว่าเธอเป็นใคร มาพร้อมปริศนาดำมืดกับร่างกายบาดเจ็บสาหัสหนักกว่าโซโลเป็นเท่าตัว
ยังไม่มั่นใจว่าเป็นสายไหน ถนัดแนวใด แต่ดูจากร่างกายผอมบอบบางนั้นแล้ว...แต่อย่าให้ความอ้อนแอ้นหลอกสายตาได้!
สัมผัสลงบนเนื้อตัวร่างกายของหล่อนเต็มไปด้วยกล้ามเนื้อ(ลีนสุดๆ) และยิ่งรอยแผลบนหน้าอกเป็นหลักฐานชั้นดี
ไม่ผิดแน่ลีอา รอยแผลของฝากบนตัวหล่อน...ฝีมือของฟูจิโทระ!
ถ้าใช่...คงต้องบอกได้คำเดียวเลยว่าหล่อนไม่ธรรมดาแน่!
โปรดติดตามตอนต่อไป...
04/03/2563
สาบานได้เลยว่าห่างหายจากการเขียนโรแมนติกคอมเมดี้อย่างมาก ส่วนมากที่เขียนจะยังคงความแอ็คชั่น
คอมเมดี้(ติดอีโรติกเบาๆพอกรุบกริบ) แต่พอลองอ่านตอนของ3AM จบ ครบสามตอน
ชิวได้กลับเข้าสู่แนวแอ็คชั่นเหมือนเดิม!
ในส่วนของลีอา นางเอกน้องใหม่ นิสัยจากต่างฟิคอื่นๆ(ฟิคอื่นก็นิสัยต่างกันหมด) ลีอามักจะแทนตัวเองว่า " หนู "
เฉพาะเวลาคุยกับมิฮอว์ค หล่อนจะชอบอ่อยป๋าเหยี่ยวเป็นว่าเล่น(ทุกครั้งที่มีโอกาส)
ประดุจทดสอบความใจแข็งดุจหินผาของป๋าเหยี่ยว ออดอ้อน ออเซาะ
อ่อนแอเฉพาะกับมิฮอว์คเท่านั้น! แต่พอลับหลังของมิฮอว์คไปแล้วก็จะกลายเป็นอีกขั้ว!
ชิวไม่แน่ใจว่ายังมีนักอ่านโอเคกับนิสัยของลีอาบ้างรึป่าว แต่ขอฝากน้องลีอาไว้ในอ้อมใจทุกๆท่านด้วยนะครับ
ก็สามารถคอมเมนต์ติ-ชม พูดคุยหรือทักทายในกล่องสี่เหลี่ยมด้านล่างได้เสมอนะครับ ชิวชอบอ่านคอมเมนต์ครับ
แล้วก็จะได้ปรับปรุง พัฒนางานเขียนให้ดียิ่งขึ้น
ขอให้มีความสุขกับการอ่าน
นายชิว
ความคิดเห็น