คืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ลำดับตอนที่ #4 : Call : 3 AM.
มิฮอว์ครู้สึกตัวว่ากำลังมีบางอย่างปลุกให้เขาตื่นจากภวังค์ เปิดเปลือกตาอย่างช้าๆ
พยายามปรับสายตาหาจุดโฟกัส ครึก ครึก ครึก เตียงนอนขนาดคิงไซส์เกิดสั่นไหวจนเริ่มรู้สึกตัว
ดวงตาคมประดุจเหยี่ยวกวาดมองรอบทิศ สังเกตจากกะละมังเล็กๆข้างหัวเตียงบรรจุน้ำภายในนั้นกำลังสั่นสะเทือน
ผิวน้ำกระเพื่อม ไม่ใช่แค่เตียงนอนที่กำลัง สั่นราวกับแผ่นดินไหว ราวๆเจ็ดริกเตอร์เป็นอย่างต่ำ
ข้าวของเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างสั่นสะเทือนจนเกิดเสียงกระทบกันทั้งห้อง!
“ หนีไป ฉันจะถ่วงเวลาไว้ให้ ไปซะ! ” เหลียวมองคนข้างกาย เหมือนว่าหล่อนกำลังละเมอพูดทำลายความเงียบ
พูดบางอย่างต้องสงสัย สาวน้อยนอนขนาบกาย ขยำมือกำเสื้อเชี้ตสีขาวบนตัวเขาแน่น เหมือนกับกำลังระงับ-
พลังบางอย่างไม่ให้พลุ้งพล่าน
ไม่ผิดแน่ หล่อนเผลอปล่อยฮาคิออกมา แม้กระทั่งตอนหลับ ปล่อยออกมาทั้งๆที่ไม่รู้สึกตัวอย่างนั้นหรอ?
มิฮอว์คสงสัย เขาไม่อาจสามารถอยู่เฉยได้แล้ว หากยังเป็นเช่นนี้อยู่….ไม่ดีแน่! ช่วงเวลาผ่านไปราวนาทีเศษๆเห็นจะได้
ทุกอย่างเพลาลง แรงสั่นสะเทือนค่อยๆเบาลงจนกระทั่งเหตุการณ์กลับเข้าสู่สภาวะปกติ
อันตรายจริงๆ มิฮอว์คถึงกับส่ายหน้า
แตะหลังมืออังบนหน้าผาก ตัวหล่อนยังร้อนจี๋ คาดว่าคงได้เวลานำผ้าขนหนูบนหน้าผาก ชุบน้ำอีกครั้ง
ไม่สิต้องเปลี่ยนน้ำในกะละมังใหม่ ค่อยๆผละหล่อนออกจากร่างกายหนา เขาลุกขึ้นยืนเต็มสัดส่วนอีกครั้งอย่างจำใจ
หันกลับมองใบหน้าของหล่อน ใบหน้างดงามราวกับเทพธิดาแม้จะให้เห็นเพียงแค่เสี้ยวหน้าเดียว โครงหน้ารูปไข่
คิ้ว หน้าตา จมูก ปาก ผิวพรรณนวลเนียน บอบบางทุกอย่างลงตัวหมดราวกับภาพวาด
เดาไม่ยากเลยว่าบางทีอาจจะเป็นพวกเชื้อพระวงศ์
เจ้าหญิงผู้สูงศักดิ์หรือไม่ก็คงเป็นขุนนางจากชนชั้นสูง หยิบกะละมังข้างหัวเตียงเพื่อในไปเปลี่ยนน้ำใหม่
สำหรับใช้ชุบบิดหมาด วางบนหน้าผากหล่อน
“ หนาวจัง ” ร่างบอบบางบ่นอุบ ขยับมือดึงผ้านวมบนตัวขึ้นมากอดแน่นแนบอก
ประสาทการได้ยินเริ่มกลับมาทำงานอีกครั้งหลังจากถูกปิดระบบเสียเนิ่นนาน เสียงของหยาดน้ำฝนหล่น
กระทบกับตัวหลังคา เป๊าะ แป๊ะ เป๊าะ แป๊ะ ยังคงให้ได้ยินอย่างต่อเนื่อง นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มเปิดเปลือกตาอย่างช้าๆ
ปราดมองไปรอบตัว ก็พบว่าหล่อนนอนอยู่บนเตียงขนาดคิงไซส์ ค่อยๆชันกายลุกขึ้นนั่งอย่างทุลักทุเล
สถานที่แห่งนี้ไม่คุ้นเอาเสียเลย แถมเสื้อผ้าบางๆบนตัวยัง....ไม่ใช่ของหล่อนอีกด้วย
ค่อยๆขยับตัวอย่างเชื่องช้า เนื่องจากช่วงแผลตรงหน้าอกยังมีอาการตึงๆอยู่หากขยับมากอาจจะส่งผลเสียต่อแผล
ลุกขึ้นยืนเต็มสัดส่วน ฝ่าเท้าเปลือยเปล่าเหยียบลงบนพื้นคฤหาสน์ อย่างน้อยหากออกจากห้องนอน
คงจะพอนึกอะไรออกได้บ้าง
เย็นจัง
เพียงแค่ฝ่าเท้าเหยียบลงพื้นก็รู้สึกเย็นเฉียบจากแผ่นกระเบื้องสุดหรู ค่อยๆก้าวขาออกเดิน พ้นบานประตูห้องแล้ว
มองกำแพงข้างฝาทั้งสองด้านถูกจัดตกแต่งด้วยกรอบรูปมากมาย กระถางต้นไม้ขนาดพอเหมาะเพื่อเพิ่มความสดชื่น
เงยหน้ามองเพดานด้านบนถูกออกแบบตกแต่งได้งดงาม ไม่แพ้กับด้านกำแพงทั้งสองด้าน เฟอร์นิเจอร์ทุกชิ้นล้วน
แล้วแต่มีหรูหราสมฐานะ บ่งบอกได้ถึงความชอบ รสนิยมส่วนตัวหรืออุปนิสัยของเจ้าของได้อย่างดี
หล่อนใช้ฝ่ามือลูบต้นแขนป้อยๆขับไล่ความหนาวเย็นเนื่องจากฝนตก
เปรี้ยง!
เสียงของท้องฟ้าคำรามกึกก้อง เหนือคฤหาสน์หลังโตอีกครั้ง ร่างบางถึงกับสะดุ้งโหยงต้องห่อตัวด้วยความตกใจ
คฤหาสน์เงียบสงัดจนกระทั่งได้ยินแค่เสียงหายใจของตนเอง และเสียงจากหยาดฝนกระทบกับหลังคาจากภายนอก
ฝ่าเท้าทั้งสองข้างสามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นสะเทือน คล้ายแผ่นดินไหว ไม่สิ..เมื่อครู่สายฟ้าอาจจะฟาดลงมา
ใส่บางที่เป็นสายล่อฟ้าบนพื้นดิน
ไม่คุ้นเลย ที่นี่ที่ไหนกัน?
สอดส่องสายตารอบตัว คฤหาสน์หลังโตยามค่ำคืนแทบจะไร้แสงไฟส่องสว่าง
ให้เห็นทางเดินได้อย่างชัดเจน พอมีแสงจากเทียนไขเล็กๆตั้งตามมุมห้องโถงทางเดินพอเห็นเลือนลาง
มิฮอว์คกลับมาที่ห้องนอนสำหรับรับรองแขก พร้อมกับเปลี่ยนน้ำในกะละมัง ผ้าขนหนูสำหรับเช็ดตัว
เขาเดินช้าๆ วางกะละมังในมือลงข้างเตียง นัยน์ตาคมสีดำพันมองมายังบริเวณเตียงนอนอีกครั้ง ก็ไม่พบร่างของหล่อน
ซึ่งคิดว่าจะนอนหลับสนิทราวกับโดนยาสลบช้าง ปลายจมูกโด่งยังพอกลิ่นหอมจากสมุนไพรจางๆจากบนผ้าปู
ผ้าห่ม ปลอกหมอนหลงเหลืออยู่บ้าง
“ แสดงว่ายาดี " ฟื้นตัวไวเชียว ก็คงเพราะราคาเจ็ดหลักนั่นเป็นเครื่องการันตี
ว่าแล้วเขาก็คงต้องเดินกลับลงไปชั้นล่างของตัวคฤหาสน์ เพื่อตามตัวหล่อนกลับมาที่ห้อง
ร่างบางพยายามมองรอบตัวออกเดินอย่างเชื่องช้า เพื่อให้กระเทือนกับบาดแผลบนหน้าอกให้น้อยที่สุด
ใช้สองมือลูบต้นแขนช้าๆคลายหนาว หากหยิบผ้าห่มบนเตียงติดมือมาคลุมตัวด้วยก็คงจะดี คงไม่หนาวเย็นแบบนี้...
บรรยากาศก็วังเวงชอบกลแถมยังเป็นช่วงเวลาฝนตกอีกตังหาก!
อาจจะมีสิ่งเร้นลับ..ซึ่งวิทยาศาสตร์ไม่สามารถพิสูจน์ได้...โผล่ออกมากระโดดใส่ร้อง แบร่! ระยะประชิด
ให้หล่อนได้ตกใจกลัว โดยเฉพาะผีแม่ชีใบหน้าซีดเซียว ริมฝีปากเลอะไปด้วยคราบเลือดสดๆ
ที่น่ากลัว สยดสยองมากกว่านั้นคือผีดูดเลือดหน้าหยกกำลังแยกฟันเขี้ยวพร้อมขย้ำต้นคอไม่ว่าจะแร่เงิน
ไม้กางเขนหรือกระเทียมก็ไม่สามารถต้านทานได้อยู่ (ซึ่งหล่อนกลัวมากที่สุดจากบรรดาหนังผีที่เคยดูมา!)
ซึ่งเข้ากับธีมในตอนนี้! ร่างบางส่ายหน้าดิก ขับไล่ความคิดชวนสยองพองเกล้าออกไปให้พ้นสมอง
“ ฮัลโล มะ มีใครอยู่หรือเปล่า? ” หล่อนเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงสั่นเทา
พยายามเค้นเสียงออกมาจากลำคอแห้งผาก หากได้น้ำผึ่งผสมมะนาวอุ่นๆจิบสักแก้วก็คงดี แต่ในเวลาคงไม่เหมาะ!
อย่าแต่หาน้ำผึ่งเดือนห้า และมะนาวเปรี้ยวๆเลย แค่หาน้ำเปล่าดื่มให้ได้ก่อนเสียดีกว่า!
“ แค่ก “ หล่อนต้องจิบน้ำสักนิดแล้วสิ ว่าแล้วก็ค่อยๆเดินเท้าเปล่า
พยายามออกเดินหาห้องครัวอย่างรวดเร็ว ขอแค่ได้จิบน้ำให้ดับกระหายก็เพียงพอ
ผลุบ!
ทันใดนั้นเอง เหมือนมีบางอย่างแล่น ไม่สิเคลื่อนไหวผ่านทางด้านหลังร่างหล่อนไปอย่างรวดเร็ว
จนต้องหันหลังกลับมองด้วยความสงสัย
ว่างเปล่า… ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
“ ฮัลโล ” หล่อนเอ่ยปากถาม ไร้เสียงตอบกลับ หล่อนจึงต้องปิดปากนิ่งเงียบไม่พูดอะไรต่อทั้งนั้น
หมุนร่างของตนเองกลับทางเดิม ออกเดินอย่างงงๆเพื่อตามหาห้องครัว สำรวจไปทีละห้องห้องโถงขนาดใหญ่
ห้องรับรองแขกถูกประดับด้วยเฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างบุหนังมันวาวอย่างดี บางจุดก็เป็นเครื่องชุดกำมหยี่ แสงไฟสีส้มสลัวๆ
น่านั่งพักผ่อนหย่อนใจเหมาะกับบรรยากาศฝนตก เผลอเลียริมฝีปากนึกอยากสูบบุหรี่สักมวน จิบเบียร์เย็นๆสักกระป๋อง
ให้หายปวดเนื้อเมื่อยตัวก็ดีไม่ใช่น้อย ค่อยๆเดินผ่าน ทีละห้องอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งมาถึงห้องครัวขนาดใหญ่
หล่อนมุ่งตรงไปที่ตู้เย็นก่อนเป็นอันดับแรก เปิดบานประตู้เย็นได้ สัมผัสไอเย็นมาถึงหลังเท้า คว้าขวดน้ำดื่ม
ขนาดเหมาะมือ ขึ้นมาหมุนเปิดฝาแล้วดื่มทันทีด้วยความกระหาย
อ่า สดชื่นยิ่งกว่าซัดกระทิงแดงสองขวดรวด!
รู้สึกสดชื่นจัง ราวกับว่าเดินเท้าเปล่าเล่นบนทะเลทรายซาฮาร่าอันร้อนระอุ ใบหน้า ร่างกายอาบชุ่มทั่วทั้งตัว
ด้วยน้ำคราบเหงื่อ ได้รับน้ำดื่มจากโอเอซิลย่อมๆดับกระหายก็มิปาน มือสองข้างสั่นเทาด้วยความกระหาย
น้ำจากขวดกระฉอกเลอะข้างมุมปากไหลช้าๆเลอะลงบนเสื้อเชี้ตสีขาวตัวบาง แนบสัมผัสผิวกาย
กึก
ร่างบางสะดุ้งโหยงเมื่อได้ยินเสียงเหมือนฝีเท้าของใครบางคนหยุดอยู่ใกล้ตัว ในระยะบ้วนน้ำลายยังถึง!
นัยน์ตาสีน้ำเงินกรอกมองด้วยหางตา เหมือนมีเงาบางอย่างอีกฝั่งของบานตู้เย็น! หล่อนหายใจเข้าออก ช้าๆ
พยายามรวบรวมสติให้กลับเข้าร่าง แตะปลายนิ้วลงบนขอบฝาตู้เย็น ตรงตามสุภาษิตว่า ใจดีสู้เสือ
หล่อนตัดสินใจปิดบานประตูตู้เย็นทันที และทันใดนั้น!
“ แว้ก! ” หล่อนร้องเสียงดังด้วยความตกใจ สติหลุด ปล่อยขวดน้ำในมือหล่นหกกระจายเป็นวงกว้าง
เลอะพื้นครัวเพียงแค่ปิดบานตู้เย็น ก็พบกับชายร่างสูงโปร่งเกือบสองเมตรยืนอยู่อีกฝั่ง ทันใดนั้นแสงสว่างสีขาว
วาบกลางท้องนภาเสมือนเป็นไฟฉายกระบอกใหญ่ ส่องให้เห็นทุกอย่างส่องให้เห็นทุกสรรพสิ่งอย่างภายในช่วงเวลาสั้นๆ
และหายไปในทันใด
เปรี้ยง!
ท้องฟ้าคำรามเสียงดังอีกครั้ง
เสี้ยววินาทีที่ท้องนภาสว่างวาบแม้จะเป็นช่วงเวลาสั้นๆ นัยน์ตาสีอำพันประดุจเหยี่ยวคู่นั้น
สะท้อนแสงท่ามกลางความมืดมิดทั้งดุดัน น่ากลัวภายในคราวเดียว ร่างกายสูงโปร่งเกือบสองเมตร ผิวกายซีดเซียวราวกับ
ผิวของไข่ต้ม เส้นผม หนวด เคราสีดำสนิท ใช่ เขาเป็นคนที่โอบร่างของหล่อนไว้ในตอนเช็ดตัวเพื่อลดไข้
ร่างกายอัดแน่นไปด้วยมัดกล้ามกำยำ สังเกตได้จากเสื้อเชี้ตสีขาวบนตัวที่เขาสวมอยู่
ปลดกระดุมคอเสื้อ สร้อยคอรูปไม้กางเกงสีทองเห็นกล้ามเนื้อส่วนอกได้อย่างชัดเจน
“ อย่าเข้ามานะ! ” หลังจากดื่มเอ็มร้อย เอ๊ย น้ำเปล่าก็เริ่มส่งเสียงพูดอย่างฉะฉาน
แต่อาการปวดหัวตึ๊บๆ จนสมองแทบจะระเบิดนั้นกำลังแทรกเข้ามาแทนที่
“ เดินคล่องขนาดนี้ นอนต่ออีกสักตื่นพรุ่งนี้คงฟื้นตัวแล้วละ ” เขากล่าวเรียบง่าย
แล้วเดินเข้ามาส่งฝ่ามือข้างขวาให้ เป็นการเชิญชวนให้หล่อนไปกับเขาอย่างสุภาพ
“ ไม่! ” หล่อนส่ายหน้าช้าๆ ปฏิเสธเขาอย่างไร้เยื่อใย
แถมค่อยๆถอนฝ่าเท้าไปด้านหลัง สายตายังจับจ้องคนตรงหน้าอย่างไม่ไว้วางใจนัก
“ เดี๋ยวก็เป็นลมไปอีกหรอก กลับขึ้นไปพักเถอะ ” เขากล่อม พูดต่อด้วยน้ำเสียงปกติ
“ ไม่ไป! ” เก้าเท้าถอยหลังจนแผ่นหลังเล็กๆชนเข้ากับเคาน์เตอร์อเนกประสงค์ไม่ว่าจะทำอาหาร
หรือวางอาหารก็ดี ปลายนิ้วสัมผัสได้ถึงกล่องสแตนเลสสำหรับเก็บอุปกรณ์ของมีคม โดยเก็บส่วนคมมีดไว้ด้านใน
เหลือเพียงด้ามจัดไว้ด้านบนปากกล่อง เพื่อสะดวกในการจัดเก็บและหยิบนำออกมาใช้
“ อย่าเข้ามานะ! ” ไม่รอช้าหล่อนดึงมีดเชฟ(สำหรับหั่น)ทำครัวออกมา จับด้ามมีดให้มั่นด้วยสองมือเล็กๆ
ชี้ปลายมีดไปที่คนตรงหน้าด้วยความสั่นเทา เหมือนอยากจะขู่ว่าจะใช้มีดเชฟนี้เล่มนี้สับ หั่น ตัด แล่ ซอย
ให้คนอย่างมิฮอว์คกลัว
“ อันตราย วางลงเถอะ!” มิฮอว์คยกมือทั้งสองข้างพยายามปราม พร้อมค่อยๆกล่อมให้หล่อนทำตามคำพูด
มีดทำครัว ของมีคมทุกอย่างภายในคฤหาสน์ นั้นอันตรายเกินกว่าจะหยิบมาเล่นสนุก!
“ ไม่! ” หล่อนยืนกรานเสียงแข็ง
แสงสว่างจ้าชั่วครู่ เสียงฟ้าผ่าลงมาอีกหน ภาพตรงหน้าของหล่อนคือชายร่างยักษ์ ร่างกายเต็มไปด้วยกล้ามเป็นมัดๆ
เห็นใบหน้าไม่ค่อยชัด เงาสีดำจากตัวของเขากำลังทาบทับตัวหล่อนจนมองอะไรแทบไม่เห็น กลืนกินตัวหล่อน
เข้าไปกับความมืดมิด มีเพียงแค่ดวงตาสีอำพันคมประดุจเหยี่ยวคู่นั้น ดุดันและน่ากลัวจะหล่อนต้องถอยกรูด
แผ่นหลังเล็กชิดฝาตู้เย็น
น่ากลัวจังเลย!
มิฮอว์คไม่อยากพูดเป็นการเหยียดหยามหล่อนหรอกนะ…สภาพของหล่อนไม่ได้ต่างกับลูกแมวตัวน้อยๆ แยกเขี้ยวจิ๋วๆ
ส่งเสียงขู่ฟ่อๆ เลียนแบบพวกเสือ สิงห์ พยายามข่มขวัญให้ศัตรูเกิดความหวาดกลัว
ก็อย่าหาว่าเขาใจร้ายเลยก็แล้วกัน!
เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา มิฮอว์คหมายจะสืบเท้าเข้าไปแย่งมีดทำครัวจากมือหล่อน
“ บอกว่าอย่าเข้ามาไง! ” หล่อนหวีดเสียงดัง ทำขู่แสดงท่าเหมือนจะแทงเขาด้วยมีดเล่มนั้น แต่ผิดคาด!
หล่อนเกิดปามีดในมือใส่หน้าเขาเต็มแรง แต่ดูเหมือนว่าจะกะระยะส่วนสูงของเขาผิดไป…….เยอะ
เจ้ามีดทำครัวขนาดเหมาะมือล่องลอยขึ้นสู่เพดานคฤหาสน์ด้วยความเร็วตามแรง กระทบกับเพดานจนเกิดเสียง
ครึก!
ส่วนปลายแหลมของมีดทำครัวเข้าได้ไปเสียบติดกับเพดานแน่น จนไม่สามารถดึงอกมาได้
แต่ดูเหมือนว่ามีบางส่วนหลุดออกมา
แปะ!
ด้ามจับทำจากเนื้อไม้ได้หลุดออกมาจากตัวมีด แถมยังหล่นแปะใส่บ่ากว้างของมิฮอว์คอีกตังหาก!
ตั้งแต่ลืมตาเกิดมาทั้งชีวิต….ไม่เคยคิดเลยว่าจะมีคนใช้ด้ามมีดในการต่อสู้
ไม่สิต้องเรียกว่าทำร้ายเขาด้วยด้ามมีดจึงจะถูก!
“ อีกแล้วนะเพโรน่า บอกกี่ครั้งแล้วว่ามีดทำครัวใช้เสร็จควรล้างทันที! ” ห้ามแช่น้ำเด็ดขาด!
ดูเหมือนว่ามิฮอว์คจะไม่พอใจกับการทำความสะอาดอุปกรณ์ทำครัวของเพโรน่า คงเป็นเพราะแช่น้ำนาน
จนด้ามจับเกิดหลวมและหลุดออกมาจากใบมีด เขามองด้ามจับหล่นใส่บ่ากว้าง กระเด้งลงพื้นอีกหนึ่งจังหวะ
นอนแอ้งแม้งแน่นิ่งบนพื้นตรงหน้าระหว่างหล่อนกับเขา
“ ศพที่แล้วคงชื่อเพโรน่า...แต่ครั้งนี้คงไม่ชื่อลีอาหรอกนะ! ” หล่อนหยุดชะงักกับเหตุการณ์ชั่วครู่
เผลอทำมีดอาวุธป้องกันตัวเพียงชิ้นเดียวหลุดจากมือไปเป็นที่เรียบร้อย คราวนี้คงหมดสิทธิ์ในการป้องกันตัว
ไม่ต่างกับยื่นอาวุธให้ศัตรู ได้แว้งกลับมาทำร้าย เรื่องอะไรคนอย่างลีอาจะยอมกลายเป็นอาหาร-
ของผีดิบกระหายเลือดตรงหน้า! หล่อนอาศัยจังหวะนี้รีบชิ่งหนีไปซ่อนตัวภายในความมืดทันที
“ ชื่อ ลีอา สินะ ดี! จะได้มีชื่อเรียกกันหน่อย ” อย่างน้อยก็พอจะรู้ชื่อเสียงกันบ้าง
จะให้เรียกไอ้ด่าง ไอ้ดำ ก็กลัวจะหาว่าบูลลี่อีก! ยิ่งช่วงนี้กระแสบูลลี่มาแรง สายตาของลีอามองมาทางเขาราวกับว่า-
เขากำลังเป็นฆาตกรโรคจิต ไม่เฟรดดี้ ครูเกอร์ ก็ เจสัน วอร์ฮีส์กับหน้ากากฮอกกี้ คอยไล่ล่าตามเชือดเหยื่อไปเรื่อยๆ
(ค่อยๆไล่ล่าตามเก็บทีละคน)อย่างใดอย่างนั้น มิฮอว์คปิดเปลือกตาลงแทบไม่ต้องใช้ฮาคิในการตรวจจับความเคลื่อนไหว
คงเป็นเพราะกลิ่นหอมบนตัว...แม้จะวิ่งออกห่างไปแล้ว เขาก็ยังได้กลิ่นหอมจางๆจากตัวหล่อนอยู่ดี
เปิดเปลือกตาขึ้นอย่างช้าๆ ปลายจมูกยังได้กลิ่นหอมหวานจากกายสาวตลอดเวลา
ซ่อนแอบอย่างนั้นหรอ?
ก็เอาสิ เล่นด้วยก็ได้!
“ ลีอาไม่ใช่เหยื่อของแกอีกต่อไป! " หล่อนหายใจหอบตัวโยน ซอยขาวิ่งหนีสุดแรงเท่าที่มี ซ่อนตัวหลังกำแพง
ซึ่งคาดว่าคงเป็นห้องรับแขก อาศัยพวกหุ่นสวมชุดเกราะนักรบอาวุธครบมือถูกจัดตั้งไว้เป็นของตกแต่งคฤหาสน์
บดบังร่างกาย เงี่ยหูทั้งสองข้างอย่างตั้งใจ พยายามฟังเสียงฝีเท้าของเขาตลอดเวลา เสียงหัวใจของหล่อนเต้นโครมคราม
แทบจะหลุดออกมานอกหน้าอกคัพซี ลุ้นทุกเสี้ยววินาทีที่ยังไม่ถูกพบตัว ไม่ต่างกับคอยลุ้นหวยของรัฐบาล
ทุกวันที่หนึ่งและสิบหกของเดือน!
ต่อก ต่อก ต่อก
ไม่ทันไรประสาทจากการรับฟังกลับมาทำงานอีกหน หล่อนได้ยินเสียงฝีเท้าของเขาใกล้เข้ามาทางหล่อนขึ้นเรื่อยๆ
อย่าเผลอกรี้ดเชียวนะลีอา!
ลีอายกมือปิดปากตัวเองแน่นไม่ให้ส่งเสียง แทบจะกลั้นหายใจด้วยซ้ำ ยืนตัวลีบแอบอยู่ระหว่างหุ่นสวมชุดเกราะสองตัว
พยายามขยับกายช้าๆ ค่อยๆชะโงกหน้าออกไปดูตรงทางเดิน เสียงฝีเท้าของเขาเงียบไปแล้วสิ คาดเดาทางได้ยาก-
ว่าเขาเดินไปในทิศทางไหนของคฤหาสน์
ไม่มี!
ไม่มีแม้แต่เงาให้เห็น หล่อนถอยตัวหลบอีกรอบ พยายามหายใจให้ทั่วท้อง ให้เกิดเสียงเบาที่สุด
ไม่เจอ!
ลีอาค่อยๆโผล่หน้าไปอีกครั้ง คราวนี้สอดส่องให้ทั่วไม่ว่าจะด้านข้างซ้าย ขวา หน้า หรือด้านบน ถอดหายใจอย่างโล่งอก
เขาคงเดินไปหาหล่อนตามห้องอื่นแล้วละมั้ง ลีอาวางแผนขั้นต่อไป ถ้าหากฝนหยุดตกแล้วละก็ต้องรีบเผ่น
ออกจากที่นี่ทันที! ค่อยไปสืบสาวราวเรื่องอีกทีว่าโดนซัดมาอยู่ส่วนไหนของแกรนด์ไลน์ เมื่อวางแผนเสร็จสรรพเรียบร้อย
เหลือเพียงคืนนี้จะหลบตัวซ่อนแอบมุมไหน ไม่ให้ถูกจับได้เสียดีกว่า!
แต่จะว่าไปก็ยังมีอีกที่นะ ที่ยังไม่ได้สำรวจ
เหลือเพียงแค่ด้านหลังของหล่อนซึ่งคิดว่าเป็นกำแพง…เอ่อ ก้อนอิฐ...
“ ชู่ววว อย่าได้เอ็ดไปนะลีอา! ” เขาเรียกชื่อหล่อน น้ำเสียงทุ้มหนาทรงอำนาจของเขาดังขึ้นข้างใบหูด้านซ้าย
เขาพูดด้วยน้ำเสียงกระซิบแผ่วเบา จงใจให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคนเท่านั้น ลีอากรอกตาไปทางซ้าย
แม้จะไม่ได้หันใบหน้าไปมองเต็มๆก็ตาม สิ่งแรกที่มองเห็นคือดวงสีดำอำพันสุกสกาว
แม้จะเป็นในที่มืดมองไม่เห็นแม้แต่เงา!
“ แว้กกกก ” ชัดเลย! ใช่จริงๆด้วย!
ลีอาเผลอร้องหวีดเสียงดังด้วยอารามตกใจกลัว เส้นผมยาวสลายดุจเกลียวคลื่นยาวถึงสะโพกชี้ตั้งขึ้นเก้าสิบองศา
หดลำคอใบหูชิดกับบ่า รีบกระโดดออกจากที่ซ่อนราวกับว่ากระต่ายน้อยกำลังตื่นตูมตกใจกลัวถึงขั้นขีดสุด
“ นี่! ” จับได้แล้ว เขาดึงข้อศอกให้หล่อนหยุดส่งเสียงร้องดังลั่น แต่เหมือนว่ายิ่งการสัมผัสและแตะเนื้อตัว
บอบบางนั้น ทำให้หล่อนตกใจกลัวมากกว่าเดิม ร่างบางถึงกับเต้นเร่าๆราวกับโดนข้าวสารเสก
ด้วยความกลัวถึงขั้นช็อคหมดสติกลางอากาศ มิฮอว์คกระตุกดึงร่างของหล่อนกลับเข้ามาสู่อ้อมอกอีกครั้ง
เล่นแรงเกินไปไหมเนี่ย?
แค่นางนอนของเรา เอ๊ยนางหลับ เฮ้ยนางเอก เอ้ย! ถูกแล้ว! ตื่นมาแค่ช่วงสั้นๆ ก็ป่วนเต็มที่
ถ้าหากว่าลืมตาตื่นขึ้นมาทั้งตอนจะขนาดไหนกันละเนี่ย?
รู้สึกสงสารป๋าเหยี่ยวจังแหะ
โปรดติดตามตอนต่อไป….
1/03/2564
เฮ้อ ตอนนี้ชิวไม่ได้เวิร์คฟอร์มโฮมแล้วนะครับ คิดว่า จะมาอัพให้อ่านกันอีกทีก็คงนาน
แต่ก็ไม่อยากค้างเติ่งตอนกำลังเข้าสู่เนื้อเรื่องจริงๆจังๆ เพราะกลัวขาดตอน หรืออยู่ในช่วงติดลมบน
คิดว่าคงมีนักอ่าน(หรือเปล่านะ?) รอตอนนางเอกของเราตื่นขึ้นมา จึงอัพไว้ก่อนล่วงหน้า
คอมเมนต์ติชมให้กำลังกันได้อีกเช่นเคยนะครับ (พอรู้ว่ามีคนคอยเวลาหาย…จะได้ไม่หายไปนาน)
ขอบคุณครับ
นายชิว
ความคิดเห็น