Fic [Unlight] : มันเขี้ยว - Fic [Unlight] : มันเขี้ยว นิยาย Fic [Unlight] : มันเขี้ยว : Dek-D.com - Writer

    Fic [Unlight] : มันเขี้ยว

    อาการมันเขี้ยวของลูกหมาแรกเกิด ใช่ว่าจะเกิดกับคนไม่ได้หรอกนะ

    ผู้เข้าชมรวม

    247

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    4

    ผู้เข้าชมรวม


    247

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    0
    หมวด :  รักอื่น ๆ
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  14 ต.ค. 57 / 00:14 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    Fic  :   มันเขี้ยว

     

     

    Form [Unlight] 

     

     

    Pairing : Izac x Evarist


     

           Talk About :  ทุกคนเคยเลี้ยงลูกหมารึเปล่า LoL  ไอ้อาการมันเขี้ยวของลูกหมาแรกขึ้นนี่  ส่วนตัวที่เคยเลี้ยงมาโคตรน่ารำคาญเลยค่ะ ก๊าก  ไม่รู้จะกัด จะแทะ จะงับ อะไรหนักหนา  แรกๆ ก็จั๊กกะจี๋หรอกนะ แต่หลังๆ ชักจะเจ็บตอนฟันขึ้นแล้วเนี้ยสิ


            เหอ... เกี่ยวอะไรกับหมางั้นเหรอ แหม พฤติกรรมที่ว่ามันไม่ก็ต่างกนัเท่าไหร่ละ ครึ  จริงๆ เราเขียนด้วยความไวแสงเพราะกรีดร้องรูปของอวตาร์คิริยะ ที่หมาแง่บคอเอวานะคะ <- 


           หมานี่ คงจะชอบงับเอวามากเลยละมั้งน้า <3 คงเป็นอาการมันเขี้ยว อยากงับของนุ่มๆ ละนะ !! 

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

       

                      ไอแซ็คเอาคางเกยมองโซฟา นัยน์ตาสีฟ้าจ้องเขม็งไปยังร่างโปร่งกำลังถอดเสื้อโค้ทหนาตัวนอกออก  หมวกที่เคยใส่ประจำถูกเก็บไว้อย่างดีกับราวแขวน  สักพักเขาก็รู้สึกได้ถึงน้ำหนักตัวที่ทิ้งลงกับโซฟาเบาๆ ตรงที่นั่งข้างๆ


                      “มีอะไร ?” เป็นเอวาริสท์ที่เอ่ยปากถามขึ้นก่อน  นัยน์ตาสีอำพันจ้องกลับมายังคนข้างกาย  หนุ่มแว่นขมวดคิ้ว ผูกเป็นปมอย่างสงสัยกับพฤติกรรมอีกฝ่าย พลางดึงถุงมือสีขาวซึ่งใส่ประจำออก 


                       ไอแซ็คส่ายหัวแถบจะทันที เมื่ออีกฝ่ายสิ้นเสียง  ชายหนุ่มทิ้งตัวพิงโซฟาอีกครั้ง “ไม่มีอะไรสักหน่อย ฉันแค่มองให้แน่ใจว่า วันนี้นายไม่ได้บาดเจ็บอะไรมา ก็เท่านั้นเอง”

       

                      ในโลกประหลาดหลังความตายอย่าง “อันไลท์” นั่น  ซับซ้อน พิศวง เสียจนหาเหตุผลด้านวิทยาศาสตร์ไม่ได้  พวกเขารู้เพียงว่ามันเป็นโลกที่ไร้ซึ่งแสง เป็นโลกที่ถูกเย็บขึ้นจากเศษเสี้ยวของโลกแห่งความเป็นจริง เป็นมิติไร้ที่มาที่ไป  และเป็นแหล่งรวบรวมวิญญาณคนตาย

       
       

                  ใช่แล้วเพราะตายไปแล้ว  ถึงได้เจอกันแบบนี้

       

                      ถึงบอกว่าตายไปแล้ว ทุกคนก็ยังสามารถบาดเจ็บได้ ยังตายได้ ไม่ผิดเพี้ยนไปจากสมัยที่มีชีวิต  แตกต่างนิดหน่อยตรงที่ เมื่อเวลาผ่านไปสักระยะพวกเขาจะฟื้นคืนชีพในเวลาต่อมา  ต่อให้บาดเจ็บปางตายยังไง ปล่อยไว้สักพัก  บาดแผลก็จะฟื้นฟูจนหายเป็นปรกติ ในระยะเวลาที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้

       
       

                      ด้วยเหตุนี้ ทำให้เอวาริสท์อดไม่ได้ที่จะส่ายหน้าไปมาให้กับคู่สนทนาข้างๆ 


                      “ถึงจะกลับมาเหมือนเดิม แต่ไม่ใช่ว่าจะไม่เจ็บนะเอวา  อีกอย่างตุ๊กตาที่นายติดตาม ก็ชอบถือว่านายได้ความทรงจำกลับมาเยอะที่สุด เวลาเจอพวกมอนสเตอร์ประหลาดๆ เลยชอบให้รับหน้าตลอดเลยไม่ใช่รึไง  หรือฉันพูดไม่ถูกกัน ?”  คราวนี้เป็นเสียงถอนหายใจแทนการส่ายหน้าของหนุ่มแว่น 


                      เจ้าของเรือนผมสีนิล เอื้อมมือไปลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ อย่างถือวิสาสะ  คลี่ยิ้มบางๆ พร้อมกับเสียงขบขันเบาๆ ในลำคอ  ก่อนเลื่อนมือไปจิ้มระหว่างคิ้วของคนขี้เป็นห่วง 


                      “นายเป็นพวกคิดมากขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ ?  ฉันได้ข่าวว่าตุ๊กตานำทางก็ใช่ย่อย  ไม่เป็นไรหรอกน่า”  ไอแซ็คฮึดฮัดเล็กน้อย  อยากเถียงใจจะขาดว่ากรณีของเขากับอีกฝ่ายมันแตกต่างกัน  ทว่าขาก็ทำได้แค่คิดเท่านั้น


                      “แน่ใจนะว่าไม่ได้บาดเจ็บ?”  ไอแซ็คย้ำอีกรอบ และสิ่งที่ชายหนุ่มได้รับกลับมาคือการพยักหน้าของเอวาริสท์  นั้นยิ่งทำให้เจ้าของนัยน์ตาสีฟ้ายอมแพ้  ชายหนุ่มยอมร่นถอยไม่ต่อความใดๆ ทั้งสิ้น  เป็นจังหวะเดียวกับที่คนข้างๆ เริ่มปลดเนกไทตรงช่วงคอให้คลายลง


                      ชั่วพริบตาที่มือกร้านของไอแซ็ค แตะลงเบาๆ กับลำคออีกฝ่ายอย่างลืมตัว  นัยน์ตาสีฟ้าจ้องลึกเข้าไปในสีอำพันที่อยู่ตรงหน้า  ลงแรงที่ปลายนิ้ว กดเบาๆ คล้ายกับมีความหมายอะไรสักอย่าง


                      เสียงกระแฮ่มดังขึ้นในลำคอ พร้อมกับนัยน์ตาหลังเลนส์แว่นจะหลุบมองไปทางอื่นราวกับจงใจขัดบรรยากาศเมื่อสักครู่  ไอแซ็คได้เพียงแต่ถอนหาย พลางชักมือของตนกลับ


                      “ตรงนี้  ในห้องส่วนตัวนะเอวา มิดชิด แถมไม่ใช่ที่สาธารณะด้วย โอเคไหม ?”  เอวาริสท์ขมวดคิ้วเพิ่มเป็นปมเล่นอีกหนึ่งปม  หันกลับมามองคนตรงหน้าที่ดูไม่ทุกข์ไม่ร้อน แถมยิ้มตอบได้ชวนน่าหมั่นไส้ไร้ที่สิ้นสุด


                      “แต่ฉันเพิ่งกลับมา


                      “แล้วมันเกี่ยวอะไร?”  ชายหนุ่มยื่นหน้าเข้าไปใกล้ คล้ายจะเย้าแหย่  สวนทางกับสีหน้าอีกฝ่ายที่ตึงเครียด ผสมกับสีแดงระเรื่อซึ่งเห็นชัดขึ้นเรื่อยๆ


                       เขารู้ดีว่าเอวาริสท์ไม่ได้รังเกียจ กระทั่งสัมผัส แววตา ความรู้สึกที่มอบให้  อีกฝ่ายก็ไม่เคยแสดงทีท่าบอกว่าเกลียดหรือไม่ชอบ 


                      ถึงไม่พูดอะไรทำนองนั้น  แต่ในขณะเดียวกัน เอวาริสท์ก็ไม่เคยบอกสักนิดว่ารู้สึกยังไง  ที่ผ่านมาก็เพียงรับรู้ได้กลายๆ จากพฤติกรรมอ้อมโลกของอีกฝ่ายล้วนๆ

       

       

                  พวกปากหนัก

       

       

                      มือกร้านแตะลงบนๆ ที่ลำคออีกหน  อดไม่ได้ที่จะสนุกไปกับการมองคนตรงหน้ากระวนกระวายเล็กๆ แถมพยายามจะเก๊กให้ดูสุขุมตลอดเวลา ยิ่งดู ยิ่งชวนให้ขำกับพฤติกรรมของคนตรงหน้ามากกว่าเดิม


                      “ตื่นตูมไปได้ ฉันยังไม่ทันทำอะไรเลยนะ”  เจ้าของแก้มสีแดงระเรื่อถอนหายใจเบาๆ อย่างโล่งอก สีหน้าของเอวาริสท์เป็นประกายอย่างเห็นได้ชัดว่าโล่งใจมากมายแค่ไหน


       

                  โล่งใจมากจนชักหงุดหงิด

       

       

                      ชั่วพริบตาที่มือกร้านละจากลำคอ  ขยับดึงอีกฝ่ายให้เหวี่ยงตัวเข้ามาใกล้ รั้งเนกไทออก ขยับคอเสื้อจนเห็นพื้นที่ส่วนผิวช่วงลำคอได้ชัด ก่อนก้มลงฝังเขี้ยวงับกัดเบาๆ

                     

                      จะให้บอกยังไง ว่าอีกฝ่ายทำตัวเองแท้ๆ 

       

       

                      เกิดเป็นเสียงต่อสู้ดิ้นขลุกขลักบนโซฟา   ในขณะที่ไอแซ็คลงแรงงับเรื่อยๆ ราวกับลูกหมาฟันแรกขึ้น กำลังงับหยอกเย้ากับเจ้านายด้วยความมันเขี้ยว  ประกายนัยน์ตาสีฟ้าเต็มไปด้วยความสนุกสวนทางกับเสียงก่นบ่นร้องห้าม และช่วงต้นคอที่แดงระเรื่อด้วยรอยงับ




                      จะให้บอกยังไง



                      จะให้อธิบายยังไง




                       ไอแซ็คเชื่อว่า เอวาริสท์คงไม่มีวันเข้าใจเกี่ยวกับความรู้สึกที่ฟันงับเข้ากับผิวนุ่มเป็นแน่  เขาถึงได้เลือกที่จะเงียบไม่พูด ไม่แม้แต่ต่อล้อต่อเถียงกับเสียงโวยวายของหนุ่มแว่นเสียด้วยซ้ำ 


                      และถึงไอแซ็คจะไม่สามารถอธิบายได้  มีแค่อย่างเดียวเท่านั้นที่เขามั่นใจ

                     

                      ไอ้อาการมันเขี้ยวอยากกัด อยากงับนะ


                  มีแค่กับเอวาริส์คนเดียวเท่านั้นแหละ

                      

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×