Fic [K Project] : If... Blue&Red - Fic [K Project] : If... Blue&Red นิยาย Fic [K Project] : If... Blue&Red : Dek-D.com - Writer

    Fic [K Project] : If... Blue&Red

    พวกเขาคือราชาที่เป็นสีขั้วตรงกันข้าม ทำอะไรไม่ได้ นอกเสียจากชะตากรรมทำซ้ำกับรอยเดิม...

    ผู้เข้าชมรวม

    1,130

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    1

    ผู้เข้าชมรวม


    1.12K

    ความคิดเห็น


    3

    คนติดตาม


    19
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  21 ส.ค. 56 / 11:28 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    Fic  : If... Blue&Red

     

     

    Form : [K-Project] 

     

     

    Pairing : sarumi  


     

    Talk About :   แฟนฟิคสืบเนื่องจากความเสี้ยนชั่ววูบ ในขณะที่การ์ดใบใหม่ออกมา และมีคนแซวว่าคงมีฟิคซารุเป็นคิงน้ำเงิน และแซวต่อว่ายาตะจังงได้ที่สอง เป็นควีนจากผลการโหวตเรื่องการ์ด (ก๊าก)  



    มันอดคิดไม่ได้ว่าสองคนนี้จะทำซ้ำรอบเดิมรุ่นพ่อแม่อย่างคิงกับควีนไหม (ฮา)  


    "ถ้าซารุเป็นคิงน้ำเงิน และ ยาตะจังขึ้นเป็นคิงของสีแดง  จะเป็นยังไง กับความสัมพันธ์ที่เดินเคียงคู่โดยต้องมีใครสักคนที่ต้องเจอชะตากรรมดาบเดโมเครสที่ร่วงหล่น"


    งวดนี้ดราม่าหน่อย  แต่ส่วนตัวแล้วคิดว่า "ฉันจะฆ่าเธอเอง"  เป็นคำสารภาพที่ดาร์ก แบล๊คโรแมนซ์ดีค่ะ =v=,,,,,,,  //ที่สำคัญ เหมาะอย่างยิ่งที่จะให้ซารุเป็นคนพูดใส่ยาตะจัง (ฮา)  อีกอย่างเราว่าการเป็นคิงไม่มีอะไรดี นอกจากจะรอวันตายด้วยดาบบที่ร่วงหล่น  ให้คนอื่นมาฆ่าตัวเองอะคะ //พรากกกก 


    เราก็หวังว่าโกระจะไม่ทำร้ายซารุมิของเราแบบให้ยาตะจังขึ้นเป็นคิงแดง ฟุชิมิกลายเป็นคิงน้ำเงินนะ //ซรับ 


    หวังว่าทุกคนคงสนุกกับฟิคนะคะ  ยังไงก็คอมเม้นต์ด้วยละ เราอยากรู้ว่าสนุกไหม เย่ห์ 

    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

                   เฝ้าฝัน



                  แม้ไม่ร้องขอ



                  ถึงอนาคตที่ถูกทำลายด้วยมือของตัวเอง

       

       

                      ยาตะ มิซากิ สะดุ้งเฮือกขึ้นกลางดึก หมอนหนุนนอนประจำบนเตียงชื้นไปด้วยเหงื่อและน้ำตาที่ไหลผสมปนเปกัน  ชายหนุ่มวัยยี่สิบหกที่หน้าเด็กไม่สมอายุ กัดริมฝีปากแน่น

       

       

                      ซ้ำซากไปมา


                  มิโคโตะซัง คุณเคยฝันแบบนี้รึเปล่า ?

       

       

                      น้ำตาไหลอาบแก้มโดยไม่รู้ตัว ฝันในครั้งนี้เขาระลึกถึงมันได้ดีกว่าครั้งไหน มันเหมือนจริงเสียจนน่ากลัว  เหมือนจริงถึงกลิ่นเหม็นไหม้ของเนื้อ กลิ่นคาวเลือดของมนุษย์ และ เสียงกรีดร้องของคนที่ตนรู้จัก พังทลายลงด้วยเพลิงสีแดงในมือตน

                     


                      เขาไม่อยากใช้พลังนี้ทำร้ายทุกคน



                      พลังราชาที่เหมือนคนที่ตัวเองเคารพ  มันควรใช้ไว้เพื่อปกป้อง ไม่ได้ทำลาย

       



       

                      ยาตะสะอื้นเงียบๆ แม้เขาจะโตจนพ้นวัยเบญจเพสแล้ว แต่อาการของคนที่พึ่งตื่นจากฝันร้ายนั้นกลับคล้ายเด็กเล็กๆ  ถ้าเป็นช่วงเวลาปรกติเขาคงจะทำปากแข็งไม่แสดงทีท่าอ่อนแอออกไปแล้วแท้ๆ 



                      “ซารุ” เจ้าของชื่อที่อยู่ข้างๆ งึมงำในลำคอคล้ายกับขัดใจที่ถูกปลุกกลางครั้น  แต่ก็ไม่ได้แสดงท่าทีโมโหใส่คนตัวเล็กแต่อย่างใด



                      ฟุชิมิ ซารุฮิโกะ ลืมตามองอีกฝ่ายในความมืด นัยน์ตาสีน้ำเงินเข้มที่เคยมองอีกฝ่ายชัดเจนผ่านเลนส์แว่นกลับเบลอจนมองลำบากต้องหรี่ตา  แต่เขาก็รับรู้ได้ว่าอีกฝ่ายทำหน้าแบบไหน



                      “ฝันร้ายเหรอ มิซากิ” คนร่างสูงดึงคนตัวเล็กกว่าเข้ามาอยู่ในอ้อมกอด  เอื้อมมือไปเช็ดคราบล้ำตาและขยับมือเลื่อนไปลูบหัวอีกฝ่ายเบาๆ คล้ายจะปลอบโยน   ร่างกายของอีกฝ่ายนั้นสั่นระริก มือกำเสื้อของเขาจนแน่น



                       “ดาบดาบเดโมเครส…. มัน” พยามยังไงแต่เสียงก็ยังคงสั่นเครือ เก็บอาการต่างๆไว้ได้ไม่มิด  ฟุชิมิกระชับกอดแน่นขึ้นอีก



                      “ไม่เป็นไร มิซากิ”


                      “ไม่เป็นไร”


                      “ฉันจะฆ่านายเอง”


                      ยาตะ มิซากิ มีทีท่าที่สงบขึ้นเมื่อได้ยินคำนั้น  มันไม่ใช่คำขู่อาฆาตที่น่ากลัว จนต้องหยุดพฤติกรรมอันน่าอายอย่างการร้องไห้  แต่มันเป็นคำปลอบโยนแด่ราชาสีแดงคนใหม่ ที่ปลายทางอาจมีชะตากรรมหนีไม่พ้นแบบเดียวกับ สุโอ มิโคโตะ

                     



                      ชะตากรรมของผู้เป็นราชานั้นน่าเศร้า


                      แม้อยู่จุดสูงสุดของพลังทั้งมวล


                      สุดท้ายก็ต้องร่วงหล่น ด้วยพลังของตนเอง

       


       

                      ฟุชิมิ ซารุฮิโกะ รู้ถึงข้อนั้นดี ในฐานะราชาสีน้ำเงิน ขั้วสีตรงข้ามที่ต้องหักล้างกับสีแดง 

       

       

                      โลกนี้ศิลานี้ช่างโหดร้าย



                  สุดท้ายเส้นด้ายของชะตากรรมก็กลับเข้าสู่รูปรอยเดิม

       


       

                      ยาตะ มิซากิ ถูกรับเลือกด้วยศิลาพร้อมพลังเพลิงสีแดงที่เหมือน สุโอ มิโคโตะ  ส่วนเขากลับถูกรับเลือกจากศิลาด้วยอีกขั้วสี และกลายเป็นผู้นำสูงสุดของเซปเตอร์โฟร์ 



                      แม้อาการของยาตะจะดีกว่าราชาสีแดงคนก่อน  การกัดกร่อนไม่ผุพังอย่างรวดเร็ว ไม่มีการรั่วไหลของพลังงานที่เหมือนกับสัตว์ป่า ไม่จำเป็นต้องมีผู้ดึงโซ่ตรวนไว้  แต่คนในอ้อมกอดของเขาก็แย่ลงทุกครั้งที่ปล่อยดาบเดโมเครสสู่ท้องฟ้า



                      เจ้าของเรือนผมสีน้ำเงินเข้มค่อนดำลูบไล้ไปตามเรือนผมสีส้มหม่นที่ยาวมากขึ้นกว่าเมื่อครั้นอดีต  มันยาวจนเกือบกลับไปทรงเดิม ณ สมัยที่พวกเขาแค่อายุ 15 ช่วงเวลาที่ไม่จำเป็นต้องสนใจโลกภายนอก


                      “อย่าห่วงเลย ดาบเดโมเครสนายจะไม่ร่วงลงมาแน่  เพราะฉันจะฆ่านายด้วยมือฉันนี่แหละ” เจ้าของอ้อมกอดย้ำอีกหน  นัยน์ตาสีอำพันที่มีแวววูบไหวเริ่มสงบนิ่งเมื่อได้ยินคำนั้นวนซ้ำจนแน่ใจ


                      “แล้วจากนั้น ฉันจะฆ่าตัวตายตามนายไปเอง มิซากิจะได้ไม่เหงา” ยาตะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ  พอคนออกปากคือ ซารุฮิโกะ ช่างมีน้ำหนักน่าเชื่อถือ  หากเป็นเมื่อหลายปีที่แล้วเขาคงถอยหลังให้ห่างจากคนตรงหน้าแน่  แต่ตอนนี้มันแตกต่างกัน กับฐานะที่คาบเกี่ยวระหว่างราชากับฆาตกรหมู่   การที่เอาความตายมาพูดราวกับเป็นเรื่องปรกติจึงไม่เป็นเรื่องแปลกอีกต่อไป



                      “แกกำลังจะผิดสัญญา”



                      “อ่า ใช่ๆ ขอโทษที  ชีวิตของฉัน มิซากิฆ่าได้คนเดียวนี่นะ”


                      “ใช่ ไอ้ลิงงี่เง่า ถ้าอยากจะตาย  แกต้องตายด้วยมือฉันเท่านั้น”


                      ฟุชิมิคลี่ยิ้ม เมื่อคนในอ้อมกอดกำลังคืนสติกลับมาเป็นยาตะการาสุคนเดิม  คนตัวสูงสบตากับคนตัวเล็กกว่า ริมฝีปากประทับลงเบาๆ ที่หน้าผากของราชาสีแดง


                      “ซารุ 


                      “บอกแล้วไง ไม่ต้องห่วง ฉันจะฆ่านายเอง  ถ้าตอนนอนปล่อยพลังออกมาโดยไม่รู้ตัว ฉันก็จะจัดการมิซากิเอง” มือกร้านที่จับดาบประจำดึงอีกฝ่ายเข้ามากอด  สัมผัสได้ถึงไออุ่นของอีกฝ่ายและเสียงหัวใจเต้น


                      “หลับได้แล้ว  พรุ่งนี้ฉันมีประชุมตอนเช้า”  คนปลอบได้ยินเสียงตอบรับเบาๆ จากร่างบาง  ใช้เวลาไม่นานนักคนในอ้อมกอดเขาก็กลับเข้าสู่ห้วงนิทราอีกครั้ง

       

       

                      ในอนาคตข้างหน้า


                      ชะตากรรมของพวกเขาก็คงไม่พ้นรอยเท้าที่สองราชาองค์ก่อนทิ้งไว้


                      ทว่าช่วงเวลานี้เท่านั้นที่ขอพวกเขาอยู่เคียงข้างกันและกัน

       

       

       

                      จนกว่าปลายดาบของราชาจะร่วงหล่นคืนพื้นดิน  



                  จนกว่าความตายจะมาพรากเราจากกัน

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×