ตั้งค่าการอ่าน

ค่าเริ่มต้น

  • เลื่อนอัตโนมัติ
    Power Love พลังรัก ผู้พิทักษ์หัวใจ

    ลำดับตอนที่ #2 : บทนำ

    • อัปเดตล่าสุด 27 ธ.ค. 56


     

    บทนำ

            ในเมืองไลน์ ราชอาณาจักรที่ยิ่งใหญ่ที่ไม่ว่าใครต่อใครในโลกที่ยิ่งใหญ่กว่ามนุษย์ทั่วไปก็ต้องรู้จัก ภายนอกปราสาทสีขาว เกล็ดหิมะ ใครก็รู้ดีจนเป็นที่เลื่องลือว่ามีเจ้าหญิง 4 พระองค์ ผู้เป็นธิดาของผู้ร่วมกันสร้างเมืองไลน์มาทั้ง 4 องค์ วังเมืองไลน์จะมีวังไฟ วังไฟฟ้า วังน้ำ และวังน้ำแข็งที่สำคัญที่สุด ธิดาสี่พระองค์นั้นไม่มีใครเคยพบตัวพวกเธอ เพราะพวกเธอจะไม่ออกมาเดินเพล่นพล่านภายนอกวังแน่นอน ใครๆก็รู้ว่าทั้งสี่ธิดามีพลังที่พิเศษส่วนตัวของพระองค์ และนิสัยของแต่ละพระองค์จะแทบไม่เหมือนกัน เพียงแต่สิ่งที่เหมือนกันคือความอยากรู้อยากเห็น ความขี้สงสัย ความซุกซน และความกล้าหาญ เธอทั้งหมดจึงมาเป็นเพื่อนรักกัน ตราบนานเท่านานที่สุด...

           “มาแล้วว" เสียงเจ้าหญิงร่างบาง ตัวสูงผมบอร์นอย่างเปลวฟ้าร้องยืดยาด มาแต่ไกล ลักษณะของเธอดูสง่า ใน ขณะที่เร่งรีบ  เจ้าหญิงเมืองไฟฟ้ามองเจ้าหญิงเมืองน้ำแข็งที่นั่งอยู่บนหัวโต๊ะรับประทานอาหารอันหรูหรา

     

          “ช้าตลอดน้ะ ยัยเปลว" เสียงช้าๆ เข้มๆ ที่ฟังดูแล้วซ่อนความเผ็ดร้อนของเจ้าหญิงแห่งธาตุไฟพูดขึ้นมา จากเก้าอี้ใกล้ๆของเจ้าหญิงแห่งธาตุน้ำแข็ง

     

           “ขอโทษที  นาฬิกาปลุกไม่ทำงาน’’ เสียงรีบๆ ของเปลวฟ้าตอบจากปากสีชมพู สวยงาม และลากเก้าอี้ขึ้นมานั่งข้างๆธารใส

     

          “ไม่ต้องทะเลาะกัน ธารว่าทานข้าวกันเถอะเสียงหวานๆ เรียบร้อยออกมาจากหญิงน่าตาน่ารัก อย่างธารใส เจ้าหญิงเมืองน้ำ

     

    ชาเย็นไม่พูดอะไรเลยในขณะนั้น  ซักครู่หนึ่งในขณะที่สายตาจับจองมองเพื่อนสาวอีกคนที่นั่งอยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลนั่งอ่านหนังสืออย่างนี้เป็นประจำ

     

           “นี่มันดอกไม้อะไรเนี่ยยยยยยยยยยยย เพลิงรุ้งเจ้าหญิงแห่งไฟ พูดออกมาด้วยความตกใจ นิ้วสวยๆชี้ไปที่หน้าหนังสือ

          “ไหนๆ อะไร”  ชาเย็นพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาออกมาจากหัวโต๊ะ และขยับตัวเข้ามาดู

     

    ธารใสและเปลวฟ้ารีบลุกจากเก้าอี้ออกมามุงดูตรงข้างๆเพลิงรุ้งเช่นกัน

     

          “ดอกหัวใจไง ธารใสตอบออกมาด้วยความมั่นใจ ท่านพ่อเคยเล่าให้ธารฟังว่า   เมืองไลน์เคยมีไร่หัวใจอยู่ไร่นึง เจ้าของไร่เป็นคนที่ดูแลดอกหัวใจมายาวนานมาก ถ้าพวกเราอยากจะรู้   เราก็แค่ต้องไป เท่านั้นเองธารใสตอบด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ และเจ้าหญิงอีก 3 คนต่างก็ตั้งใจฟัง ต่างคนต่างก็ลุ้นต่างก็อยากรู้พร้อมๆกันว่ามันมีความพิเศษอะไร ทำไมภาพในหนังสือที่เพลิงรุ้งเปิด มันไม่เหมือนดอกไม้สดใสสวยงามธรรมดาทั่วไป ทั้งๆที่ชื่อก็บ่งบอกอย่างหวานแหววว่าเป็นดอกหัวใจ คำถามพวกนี้ยังคงอยู่ในความคิดของเจ้าหญิงทั้งสี่จนกระทั่งชาเย็นพูดขึ้นมา

     

          “วารี ’’ เสียงชาเย็นตวาดเรียกคนใช้ที่ยืนอยู่ชิดริมหน้าต่างห้องด้วยความเย็นชานิดๆ

     

          “ พะ เพ ค่ะๆ เจ้าหญิงคนใช้ร่างอวบๆ ตอบกระอึกกระอัก กลัวนิดๆ เพราะสายตาเย็นชาของชาเย็นอาจทำให้ใครหัวใจวายไปก็ได้อย่างง่ายดาย

     

          “พวกเราจะไปไร่หัวใจ บอกให้คนเตรียมรถให้เราด้วยเสียงเบาลงกว่าเดิม แต่ก็ทำให้คนรับใช้ฟังแล้วเย็นเฉียบไปถึงข้างใน

     

           “เพค่ะ เจ้าหญิงวารีรีบตอบและรีบหายไป

     

    ไร่หัวใจ อั้ยย่ะ อั้ยย่ะ

     

          “กร้ากกกก 5555555555555555” เจ้าหญิงทั้ง 4 หัวเราะไม่หยุดเมื่อเจอกับป้ายของไร่หัวใจ สีแดงใหญ่โตติดอยู่หน้าไร่

     

           “พอ   รีบไปหาห้องผู้ดูแลกันเถอะ  ป่ะ " ธารใสรีบฉุดกระชากลากถูเพื่อนๆ อีก 3 คนไปยังห้องผู้ดูแล.......อย่างตื่นเต้น

     

    ผู้ดูแลรัก จุ้บ

     

          “ฮ่า ชื่อห้องสยองจนไม่กล้าเข้าเลย”  ชาเย็นมองชื่อป้ายและหันไปบอกเพื่อนๆอย่างแปลกๆ งงๆ ตั้งแต่เกิดมายังไม่เคยเจอใครตั้งชื่อแบบนี้ หรือเพราะเธอชินกับในพระราชวังมากเกินไป

     

          “เออ ! ใช่เลย !”  อีก 3 คนตอบ แต่ยังไม่ทันที่จะเปิดประตูก็มีคนมาแตะไหล่ซะก่อน

     

          “พวกคุณเป็นใครครับเนี่ย ! เอ๋. เจ้าหญิงนี่นา!!ว้าววว! สวัสดีครับ ผมผู้ดูแลมีนามว่า ไสน์  อยากทราบ อะไรถามได้ อับดุล อับดุล" ชายวัยกลางคนตัวท้วมใหญ่ผู้ดูแลไร่หัวใจนี้ตั้งใจบริการเจ้าหญิงทั้งหมดอย่างเต็มที่ เพราะถือเป็นเกียรติที่ให้ยืนต่อหน้าของเจ้าหญิง

     

          “มันบ้าหรือเปล่า -_-; ”  เพลิงรุ้ง พูดแทรกขึ้นมา

     

          “นั่นน่ะสิ บ้าชัดๆ”  เปลวฟ้าตอบรับคำของเพลิงรุ้ง แต่บทสนทนาของธารใสกับไสน์ก็เกิดขึ้นแต่มีประโยชน์มิใช่น้อย

     

          “เอ่ออ  คือธารอยากรู้ว่า ประวัติของดอกหัวใจเป็นยังไงเหรอค่ะ ”  เสียงเล็กๆของธารใสกล่าวขึ้นมาด้วยความตื่นเต้น ติดๆขัดๆ เพราะกลัว. สีหน้าของไสน์

     

    ไสน์มองเจ้าหญิงทั้ง 4 ด้วยอารมณ์กลัว ๆนิดหน่อย...

     

    คือว่า........

     

           “เมื่อนานมาแล้วมีเจ้าหญิง 2 พระองค์นามว่า ไซรีย์ และ ลีอาร์ พวกเธอเป็นเพื่อนที่รักกันมาก ถึงขนาดสร้างดอกไม้ดอกหนึ่งขึ้นมานามว่า ' love ' รัก เพราะพวกเธอรักกันเกิดกว่าสิ่งใด แต่ปริศนาที่คนถูกฆ่าตายโดยการขวักหัวใจ'ก็มีขึ้นทุกวัน

    ลีอาร์และไซรีย์สงสัยจึงตามเข้าไปดู จึงพบ ท่าน พ่อ และ ท่านแม่ กำลังจะโดนดอกไม้ love ฆ่า แต่มี ลินไนต์ เจ้าชายผู้กล้า ปลิดชีพดอกไม้นั้นเสียก่อนลีอาร์และไซรีย์กำหนดพลังดอกหัวใจให้กำเริบแค่ตอนพระจันทร์เต็มดวงเท่านั้น

     

    ลีอาร์ ไซรีย์เกิดอาการตกหลุมรักลินไนต์ อย่างไม่ทันตั้งตัว......

     

    พวกเธอให้สิ่งที่ชายนั่นปราถนา ..........

     

    ลีอาร์เธอเสนอ อำนาจ ความยิ่งใหญ่.....

     

    ไซรีย์เสนอ ความรัก ความห่วงใย...

     

    ลินไนต์เลือกที่จะได้ความรัก ความห่วงใย ทำให้ลีอาร์ถึงกับช็อก เธอเจ็บไปในหัวใจเหมือนจะแหลกละเอียด ......

     

    เธอเฝ้าคิดถึงลินไนต์ที่เสวยสุขกับไซรีย์ไม่เป็นอันกินอันนอน นับวันยิ่งเจ็บฝังใจ..

     

    ลีอาร์เลือกที่จะไป ไร่หัวใจ ตอนพระจันทร์เต็มดวง เธอเฝ้ามองตอนดอกหัวใจกำเริบ

     

    เธอร้องไห้ออกมาพร้อมกับพูดตราที่ประทับความรักไว้

     

    เจ็บเจียนตาย เพราเพื่อนที่รัก ข้าขอควักหัวใจ ให้เป็นมิตรภาพอันยิ่งใหญ่ เจ้า ไซรีย์ ข้ารักเจ้ายิ่งนัก ข้าตัดใจจาก ลินไนต์ไม่ได้ โอ.. ดอกlove ได้โปรดปลิดชีพข้าทีเถิด.

     

    และการฆ่าก็เกิดขึ้น.ในคืนที่เงียบสงบ และน้ำตา..

     

    เมื่อไซรีย์มาพบศพของลีอาร์เธอถูกมองว่าเป็นคนฆ่าลีอาร์.......ลินไนต์หนีออกจากเมือง เนื่องจากว่า ลินไนต์ต้องการเพียงทำให้พวกเธอแตกแยกกัน

     

    เมื่อไซรีย์รู้ความจริงในขณะอยู่ทีห้องขัง เธอพังประตูไปที่ไร่หัวใจในคืนพระจันทร์เต็มดวง และได้ยินเสียงที่ลีอาร์พูดเสมอ เธอเอ่ยว่า โอ..ลีอาร์ข้าเข้าใจ บัดนี่ ข้าขอที่จะเป็นมิตรแท้กับเจ้า ข้าจะขอปลิดชีพเพื่อเจ้า และเมืองของข้า ข้าไม่อาจทนกับห้องขังนั่นได้

     

    และการฆ่าตกรรมก็เกิดขึ้นอีก........

     

    เมื่อมีคนรู้ทุกคนร่วมกันปิดพลังดอกหัวใจไว้...แต่ลีอาร์และไซรีย์ได้ทำให้ดอกหัวใจมีแต่ความสุขเท่านั้น....

     

     เมื่อจบคำพูดของไสน์ เจ้าหญิงทั้ง 4 อึ้งพอสมควร  แต่มันทำให้เปลวฟ้าน้ำตาค้างได้ในขณะที่ซบใหล่ชาเย็นอยู่ แปลกที่ตำนานดอกหัวใจไม่เห็นน่ารักสดใสเหมือนป้ายหน้าไร่เสียเลย

           “อือ พวกข้าเข้าใจแล้ว”  ธารใสตอบเศร้า

     

           “มันน่ากลัววะเปลวฟ้าพูดต่อจากธารใส ทำให้หางตาของไสน์เขยิบมาที่เปลวฟ้าเล็กน้อยแล้วกล่าวต่อ

     

           “อีกอย่างครับ มีบ่อน้ำวิเศษที่พาไปโลกมนุษย์ได้ด้วยล่ะ !!  เสียงที่ทำให้เจ้าหญิงทั้ง 4 ลุ้นขึ้นดังออกมาจากไสน์พอสมควร

     

    เพลิงรุ้งได้ยิน จึงบอกว่า "พาพวกเราไปหน่อยสิ" ด้วยความสงสัย อีกเช่นเคย

     

           “ด้วยความยินดีครับ ไสน์เดินนำไป

     

          “เอ่อ ผมต้องไปแล้วครับ เดินไปตามทางเลยครับ ”  ไสน์บอกอย่างร่าเริง

     

    อือ ทุกคนตอบขอบคุณ

     

           “ว้าววว นี่บ่อน้ำวิเศษ ”  สวยจริง ชาเย็นพูดขึ้นมาก่อนคนแรก

     

    อึก..อึก .... กรี๊ดดดดดดดดดดด  ธารใสกรีดร้องอย่างบ้าคลั่ง

     

            “ยัยธาร!! พลังปีศาจกำเริบ!!!”   ชาเย็นบอกเพื่อน   ในขณะที่ตอนนี้ธารใสเดินลงไปในบ่อน้ำวิเศษอย่างแทบควบคุมตัวเองเลยไม่ได้ซักนิด

     

           “ยายธาร  เธอจะไปไหน เฮ้ยย รอก่อนน”   เปลวฟ้าตะโกน พร้อมกับดึงตัวเพลิงรุ้งและชาเย็นไปด้วย

     

    พรึ่บ!!!! วูบ!!!!!!!!!!

     

    ความรู้สึกของเจ้าหญิงทั้ง 4 ที่กำลังเหมือนหายใจไม่ออก เจ้าหญิงทั้ง 4 เหมือนโดนแรงอัดดันกันอย่างพูดไม่ออก

     

    มันค่อนข้างทรมานนิดๆเมื่อได้สัมผัสกับความรู้สึกนี้ ทุกคนหน้ามืดแล้วปวดหัวในตามๆกันในขณะที่ทั้ง 4 เห็นสภาพแวดล้อมที่กำลังหมุนไป

     

    เรื่อยๆ เจ้าหญิงทั้ง 4 ตัวติดอัดกันแน่น กว่าจะหายอาการนั้น และความรู้สึกที่สัมผัสได้ถึงอากาศเย็นๆ ก็เริ่มเข้ามา

     

     

    และมันก็ว่างเปล่า.. โปรดติดตามตอนต่อไป



    :)  Shalunla
    ติดตามเรื่องนี้
    เก็บเข้าคอลเล็กชัน

    ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    อีบุ๊ก ดูทั้งหมด

    loading
    กำลังโหลด...

    ความคิดเห็น

    ×