รวมเรื่องตลกที่เคยเอามาให้อ่านในกระทู้
วันนี้ ผมมีโอกาศได้นำเรื่องตลกที่เตยเอาลงบอร์ดมาแล้ว เพื่อให้แฟนๆเรื่องตลกที่อ่านไม่หมดให้ได้อ่านอย่างเต็มอิ่มครับ
ผู้เข้าชมรวม
1,072
ผู้เข้าชมเดือนนี้
7
ผู้เข้าชมรวม
เนื้อเรื่อง
คุณแน่ใจว่าต้องการคืนค่าการตั้งค่าทั้งหมด ?
ครั้งที่ 1 เป็นเรื่องของคนบ้าครับ
คนบ้าคนหนึ่งในศรีธัญญา แกเอาเชือกผูกแปรงสีฟัน...แล้วเดินลาก...ไป....เดินผ่านทางที่ผมนั่ง....(ผมไปทำไมเหรอ) ไปเยี่ยมคุณไง...(ฮา)... บ้าแล้ว.... แค่เนี้ย ทำเป็นทำจำไม่ได้.. (ฮา) พอเดินมาถึงผม...หมอแก่ก็นั่งอยู่ด้วยก็ถาม "นี่...จะลากแปรงสีฟันไปไหนเนี่ย" คนบ้าบอกว่า....หมอนี่ท่าจะบ้า...คนขับรถบรรทุก...บอกลากแปรงสีฟัน...(ฮา) สักพัก....น่ะแหล่ะแกก็ลากแปรงสีฟันผ่านออกมาอีก หมอก็ถามอีก "นี่จะขับรถบรรทุกไปไหนเนี่ย ? คนบ้านั่นหันหน้ามาบอก "หมอนี่ถ้าจะบ้า...คนลากแปรงสีฟัน...บอกขับรถบรรทุก"...(ฮา) ดูมันจะเอายังไงกับคนบ้าไม่รู้ว่าวันไหนมันจะขับรถบรรทุกกันแน่..(ฮา)
ครั้งที่ 2 นี่ก็เป็นเรื่องของคนบ้าเหมือนกันคับ
คนบ้ากับคนบ้าคุยกันจะรู้เรื่องนะ สื่อกันรู้เรื่องคับ วันนึงคนบ้าสองคนนั่งกันอยู่กลางสนามนะคุยกัน อีกคนบอก
"ฉันอยากจะไปดวงอาทิตย์" อีกคนบอก " ไอ๊ บ้าเอ๊ย...แกจะไปยังไงร้อนตายชัก" อีกคนบอก โถ่! โง่ แกก็ไปกลางคืนซี่"...(ฮา) พอตกกลางคืน สองบ้าคนเก่านั่นแหละ มันก็มาที่เก่า นั่งคุยกัน เอาไฟฉายมากระบอกหนึ่ง อีกคนส่องไฟฉายขึ้นฟ้าแล้วบอก "นี่น่ะ...ถ้าแกอยากไปดวงอาทิตย์นะ แกก็ไต่ตามแสงไฟนี่ไป แกก็จะถึงดวงอาทิตย์" อีกคนบอก "โอ้โฮ่... ไอ๊บ้าเอ๊ยฉันไม่โง่หรอก ถ้าเกิดฉันกำลังไต่อยู่..แล้วแกดับไฟ้นมา ฉันก็ร่วง ตุ๊บ !น่ะซี่"...(ฮา)
หมอในโรงพยาบาลต้องประสาทแข็งจริง ๆ ไม่งั้นบ้านะ เพราะเหตุการณ์แต่ละวันมันสับสน..มีหมอคนหนึ่ง กำลังเดินตรวจคนไข้ แล้วปรากฏมีคนไข้คนหนึ่งเดินมาสะกิดหมอ " หมอ ๆ เมื่อเช้าเนี้ย ผมไปกินข้าวกับนายกทักษิณมา" คนบ้าเตียงข้าง ๆ ได้ยิน ก็ลุกขึ้นโวยวายมา (โบกไม้โบกมือ) "หมอ !...อย่าไปเชื่อมัน มันไม่เคยไปกินกับผมเลย"...(ฮา) หึ ๆๆมันนึกว่ามันเป็นนายกทักษิณ
ครั้งที่ 3 เป็นเรื่องของคนบ้าตอนสุดท้ายครับ (ไตรภาคพอดี)
ยังมีเรื่องคนบ้าอีกเรื่อง...คนบ้าที่ปากคลองสาน วันนึง พอถึงเวลาหมอก็ไปตรวจ ไปตรวจไข้ ก็ไปเจอคนบ้าคนหนึ่ง หมอน่ะไปเจอคนบ้าคนหนึ่งมันกำลังนั่งเขียนหนังสืออยู่...หมอก็ถาม "เขียนอะไร?" "เขียนจดหมาย" คน บ้าตอบ... "เขียนถึงใครล่ะ ?" "เขียนถึงตัวผมเอง" ...(ฮา) หมอถามอีก "แล้วเขียนว่ายังไง" คน บ้าตอบ "เอ๊...ยังไม่ได้เขียนเสร็จเลย แล้วยังไม่ได้เอาไปใส่ตู้ไปรษณีย์เลย ไอ๊ไปรษณีย์มันก็ยังไม่ได้เอามาส่ง ยังไม่ได้ฉีกอ่านเลย จะรู้ได้ยังไงว่าเขียนว่ายังไง ถามเป็นบ้าไปได้"...(ฮา) เออ ...มันมีเหตุผลเหมือนกัน
คนบ้ารายที่สอง... คนนี้เขียนตัวหนังยึกยือ เขียนใหญ่เลย พอหมอเดินไปตรวจอีก หมอเห็น หมอหัวเราะก็หมอรู้นี่ว่าคนบ้า มันก็ต้องเป็นอย่างนั้น หมอก็ถามเขียนอะไร ? "เขียนจดหมาย" "เขียนถึงใคร ?" "เขียนถึงเพื่อน" "เอ...นี่มันไม่เป็นตัวหนังสือนี่ แล้วเพื่อนเธอจะอ่านออกรึ ?" "อ่ะ...ก็ต้องเขียนอย่างนี้ซิ เพื่อนผมมันอ่านตัวหนังสือไม่ออกหรอก"....(ฮา) เออ...ฟังมันซิ มันก็มีเหตุผล
ครั้งที่ 4 เป็นเรื่องของความรีบร้อน อ่านดูดีๆนะครับ ไม่ต้องรีบอ่าน เดี๋ยวจะสับสนเหมือนเรื่องนี้
มีผู้ชาย ๓ คน เขานั่งคุยกันอยู่หัวลำโพง นั่งคุยกันเพลินไปหน่อยจนรถไฟออกไป อีกคนหันไปเห็น "เฮ้ย...รถไฟออกแล้ว" ทั้ง ๓ ก็พากันวิ่งไป รถไฟก็วิ่งเร็วขึ้น...เร็วขึ้น ชาย ๓ คนก็วิ่งไปเร็ว ๆ ขึ้นๆ หวังจะตามรถไฟให้ทัน เพื่อจะไม่ตกรถ ชาย ๒ คนวิ่งทันก่อน ก็กระโดดขึ้นไปบนรถไฟ อีกคนกระโดขึ้นรถไฟไม่ทัน เห็นเพื่อน ๒ คนยืนอยู่บนรถไฟก็โบกมือเรียก พอโบกเสร็จเลยยืนหัวเราะจนตัวงอ จนผู้คนสงสัย เดินมาถาม "พี่ ๆ ขำอะไรครับ ขึ้นรถไฟไม่ทันแค่เนี้ยนะ" ชายคนนั้นเลยบอกไป "จะไม่ให้ผมขำได้ยังไง ...ก็เพื่อนผม ๒ คนนั่นมันมาส่งผม" ...(ฮา) อ้าว ! แล้วมันจะวิ่งขึ้นไปทำไมว่ะน่ะ ? ...(ฮา)
ครั้ง ที่ 5 ครับ เป็นเรื่องของความรีบร้อนเหมือนกัน แต่เป็นความรับร้อนในการใช้โทรศัพท์ ทุกๆคนก็เหมือนกันนะครับเวลาใช้โทรศัพท์คค่อยๆพูดค่อยๆจากันก็ได้ เดี๋ยวจะคุยกันไม่รู้เรื่อง......... ไม่ต้องว่าคนอื่นจะแย่งพูดหรอกคัรบ (ฮา) ลองอ่านเรื่องนี้กัน
เรื่องความรีบร้อน ต้องยกให้โรงพยาบาลรามา...วันนั้นผมโทรศัพท์ไป...ไปที่แผนกหู คอ จมูก ปาก พยาบาลที่รับสายฟังดูท่าทางจะรีบร้อนมาก...พอแกรับสายก็พูดเลย.. "ฮัลโล...แผนกหูคอจมากปูกค่า..." ...(ฮา) ...ไม่รู้จะรีบร้อนไปไหนของเค้า
เรื่อง การใช้โทรศัพท์เนี่ย...คนเราชอบใช้แบบขาดสติ...ไม่ค่อยคิดซะก่อน...อย่าง ที่โรงพยาบาลตำรวจเนี่ย...วันหนึ่งมีคนโดนรถชน...แล้วเสียชีวิต...ตำรวจค้น บัตรประชาชน...เจอ...ชื่อนายสันทัศน์ ผู้เสียชีวิต ชื่อนายสันทัศน์...แล้วก็มีเบอร์โทร...ก็ให้พลตำรวจโทรไปที่บ้าน...ให้มา รับศพนายสันทัศน์ด้วย...เค้าก็โทร.ไปเลย...ไม่ใช่จังหวัดเลยนะ...(ฮา) โทร. ไปบ้านนายสันทัศน์...แต่ทางโน้นเค้าไม่อยู่บ้าน...เค้าตั้งโทรศัพท์ไว้แบบอัตโนมัติ...แบบบันทึกข้อความ...พอโทรไป โทรศัพท์ดัง กริ๊ง! ...ทางโน้น...ทางเครื่องอัตโนมัติทำงาน... "ฮัลโหล...ผมสันทัศน์ครับ...ขณะนี้ผมไม่อยู่บ้าน...ถ้าหากมีธุระอะไร ให้ฝากข้อความไว้ หลังจากหมดสัญญาณนี้ ตุ๊ด ๆ ..." พอหมดสัญญาน นั่นเอาเลย "ฮัลโหล...สันทัศน์เรอะ...ฮ่ะ!..คุณตายแล้วน่ะ...(ฮา)...ยังไงก็ให้มารับศพด้วย...ที่โรงบาล ฯ ตำรวจ...แค่นี้น่ะ..." (ฮา) แหม! มันไม่คิดไม่ควรซะหน่อย..มันสักแต่จะใช้ก็ใช้...ไม่รู้จะรีบร้อนไปไหน
ครั้งที่ 6 เป็นเรื่องการโต้วาทีของพ่อและลูกในสมัยก่อนๆที่ยังใช้โทรเลข ขอเงินกัน
มีพ่อลูกคู่หนึ่ง โต้วาทีกันทางโทรเลข มันน่าดู....พ่ออยู่ต่างจังหวัด ส่งลูกมาเรียน กทม. เจ้าลูกชายดันใช้จ่ายฟุ่มเฟือยจนเงินหมดซะก่อน เลยรีบตะแล้ปแก๊ปถึงพ่อ " พ่อ...ข้อความเหมือนเดิมเพิ่ม-๑,๐๐๐"....( ฮา ) โอ้โฮ...สำนวนคม....เฉียบ พ่อก็สวมวิญญาณนักโต้สวนกลับทันควัน " ไอ๊ตี๋ลูกรัก...ข้อความไม่ซัดตัด ๕๐๐..." ( ฮา ) อะห๊า...คม...บาดลึก อย่างนี้เขาเรียกว่าทันกัน
มีอีกครั้ง ลูกสุดที่รักเงินหมดอีกก็ส่งโทรเลขไปหาพ่ออีกอีก " พ่อ...เงินไม่มีให้กินขี้หรือยังไง"....( ฮา ) โอ้โฮ...สำนวนคม ( อีกแล้ว ) พ่อก็โต้ตอบสวนทันทีเหมือนกัน " ลูก...เงินไม่มีกินขี้ไปก่อนแล้วกัน.......( ฮา ).....นี่.....คม...บาดลึกกว่าเดิม.....บาดไปถึงทวารทั้งเก้าเลย
แถมหนึ่งเรื่องครับ แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องโต้วาที
เมื่อตอนผมเป็นเด็ก วันนั้นตำรวจจับพวกเล่นไพ่ บางคนวิ่งหนี บางคนแกล้งทำเป็นคนป่วยนอนสั่น ตำรวจเห็นคนนอนป่วยอยู่ จึงถามว่า "ยาย ยายเป็นอะไรน่ะ" ยายแกเผลอตอบออกไป " เป็นเจ้ามือค่ะ .." (อ้าว ซวย!)...(ฮา)
ครั้ง ที่ 7 ครับ รวมหลายเรื่องเลยที่ เดียว
1.เรื่อง ของแม่ๆลูกๆ
● แม่ : นี่เปี๊ยก ไปเปิดไฟที่ศาลพระภูมิหน่อยสิลูก จะค่ำแล้ว
เปี๊ยก : โธ่แม่ ท่านมีอิทธิฤทธิ์มากมิใช่หรือ ให้ท่านเปิดเอาเองสักวันเถอะ
แม่ : X นี่ ล้อเล่นกับจงกับเจ้าหรือ เดี๋ยวท่านก็มาหักคอเอาหรอก
เปี๊ยก : ไม่มีทางหรอกแม่ กะอีแค่สวิทต์ไฟยังกดไม่ลง เรื่องอะไรจะมาหักคอผมได้
● แดง : แม่ฮะ...ทำไมผมของคุณแม่หงอก
แม่ : ก็เพราะลูกไม่เชื่อฟังแม่นะสิ ไม่เชื่อฟังครั้งหนึ่งก็หงอกไปเส้นหนึ่ง
แดง : อ้อ ! ผมเข้าใจละ ที่ผมคุณยายหงอกทั้งหัวก็เพราะคุณแม่ไม่เชื่อฟังคุณยาย นี่เอง คุณแม่คงซนมากเลยซินะ...(ฮา)
● "แม่ครับ ทำไมรถมันวิ่งได้"
"มันมีล้อนะลูก"
"แล้วคนไม่มีล้อทำไมวิ่งได้ครับ"
ก็..คนมีขานะลูก"
"แล้วโต๊ะมีขาทำไม่วิ่งไม่ได้ล่ะครับแม่"
".............???............."...(ฮา)
2.เรื่อง ของ ไกด์
๏ ฝรั่งเห็นยักษ์ที่วัดโพธิ์ เกิดความสงสัยเลยถามไกด์
ฝรั่ง : What is this ?
ไกด์ : It is a ยักษ์...(ฮา)
ฝรั่ง : What is a ยักษ์ ?
ไกด์ : ยักษ์ is a ทศกัณฑ์...(ฮา)
ฝรั่ง : What is a ทศกัณฑ์
ไกด์ : ทศกัณฑ์ is a ยักษ์ .. X เปรต...(ฮา)
3.เรื่อง กวนๆของหนุ่ม สาว
วันเสาร์ที่ผ่านมา ยืนรอรถเมล์อยู่ตรงแถวสนามหลวง ...มีนักเรียนชายคนหนึ่งไปยืนจ้องหน้าผู้หญิงนักเรียนด้วยกันตาแป๋ว จ้องอยู่นานจนเธอรำคาญถามมาว่า
"นี่มายืนมองอะไร จะเอาอะไรก็ว่ามา"
ถ้าเป็นผมโดนถามอย่างนี้ จะตอบไปว่า "มองได้อะไรก็เอาอันนั้นแหละ"...(ฮา) แต่ นักเรียนชายคนนั้นมันกลับตอบไปว่า "ยืนมองคนสวยครับ" เออ...พูดจาเข้าทีแฮะ เธอเริ่มยิ้มระรื่นจนแก้มแดง แล้วตัดเพ้อกลับไปว่า
"ก็เห็นแล้วทำไมไม่ไปเสียทีล่ะ"
พ่อเจ้าประคุณกลับตอบแบบย้อนศรหน้าตาเฉยว่า
"ยังไปไม่ได้หรอกครับ...ยังหาความสวยไม่เจอเลย"...(ฮา)
ครั้งที่ 8 ครั้งสุดท้ายแล้วคับที่เอาลง มีหลายเรื่องเหมือนกันคับ
1.เรื่อง เพราะพ่อนะ แหละ!!!!!!
มีนักเรียนหญิงคนหนึ่ง แกจบ ม.๑ แต่แกไม่จบ ม.๓ เพราะแกไม่จบ ม. ๒ จะขึ้น ม. ๓ อยู่แล้ว แต่โดนไล่ออก เพราะแกเป็นโรคเนื้องอก โรคนี้ตอนแรกๆ จะไม่รู้ตัวไม่มีอาการ แต่ช่วงระยะฟักตัว ๒ ๓ อาทิตย์ มันจะค่อยๆ ปรากฏอาการคือ ท้องจะอืดโตขึ้นจนถึง ๙ เดือน หมอก็จะผ่าออกถ้าไม่ผ่าท้องจะแตก พ่อรู้พ่อก็โกรธเรียกมาถามว่า
พ่อ : เอ็งไปท้องกับใครมา
พ่อทั้งด่า ทั้งตบ ตบซ้ายตบขวา ตบขวาตบซ้าย (คนโดนตบเจ็บไหม ?)... (เจ็บ!) แสดงว่า......โดนบ่อย (ฮา... ปรบมือ)
ลูก : เป็นเพราะพ่อแหละ บังคับหนูนักบังคับหนูหนา ไม่ให้ไปกับผู้ชาย ๒ ต่อ ๒ หนูก็ไปกับมันทั้งกลุ่มน่ะซิ...(ฮา)
2.เรื่องของความเปลี่ยนแปลงของกาลเวลา และจิตใจ
ว่ามั้ยครับ ตอนเป็นแฟนกันดูอะไรก็ดีไปหมด จะสอนอะไรก็ต้องสอนตอนเป็นแฟนกัน สังเกตดูได้ ถ้ายังไม่มีอะไรกัน คือผู้ชายยังหวังสิ่งที่ยังไม่ได้อีกเยอะ...ว่ามั้ยครับ...(ฮา) ยังหวังสอนอย่าคิดมาก...(ฮา) เช่นสอนขับรถ เนี่ยอารมณ์ดี
แฟนผู้ชายสอนแฟนผู้หญิง
"อ้าว...เหยียบครัชจ๊ะ...เหยียบครัช" ...(ฮา)
"อ้าว...เหยียบเร้ว...เหยียบหน่อย ๆ เอ้อ...ค่อย ๆ ผ่อนนะจ๊ะ เร่งนิดหนึ่งเดี๋ยวดับ ๆ ...มองไปข้างหน้ามั่งเดี๋ยวดับ ๆ ฃึกๆๆ(รถดับ) ...อ้าว...ดับแล้วเห็นม๊า.. " (ฮา)
โอ๊ย...น่ารักกันทุกคนนะ...(ฮา) ผู้ชายตอนเป็นแฟนว่ามั้ย แถมยังเอาอีก ...
"มาสตาร์ทใหม่คนเรามันผิดพลาดกันได้" (ฮา)
"มาพี่จับให้ " พูดจบ มันจะข้ามมาฝั่งเราแล้วครับ...แป๊บเดียว...มันมายังไงวะเนี่ย มานั่งฝั่งเดียวกันได้ยังไง (ฮา)
สอน ขับรถบรรยากาศแบบนี้ไม่เหลือแล้วครับพี่น้องงง จะเหลืออาร้าย..
แต่ถ้ามีลูก ๓ แล้ว คนจะสอนยังไงครับ.. มาดูกัน
แฟนผู้ขายสอนเหมือนเดิม
"ครัช" (ทำเสียงแข็ง) (ฮา..)
"เหยียบซิเหยียบ (ทำเสียงตะคอก) ค่อย ๆ ผ่อนเดี๋ยวดับ ค่อย ๆ ผ่อน มองไปข้างหน้า...เบา ๆ ...เดี๋ยวดับ เอ้ย...เดี๋ยวดับ ๆ ๆ.." (ตะโกนสุดเสียง) (ฮา) ขึงๆๆๆ......ตู๊มมม!!!!!!!! ถีบกระเด็นออกไปนอกรถ แค่ออกรถดับหน่อยเดียว...(ฮา)
แถมท้ายด้วยกลอน ตลกๆ นิดๆ ก็แล้วกัน
กันมีเพื่อนเพื่อนกันไม่กันเพื่อน
เพื่อนกันเพื่อนเพื่อนกันกันไม่ได้
เพื่อนกันเพื่อนเพื่อนกันกันทำไม
โธ่แล้วไย...เพื่อนกันมากันกัน...
คบคนพาลพาลพาไปหาผิด
คบบัณฑิตบัณฑิตพาไปหาผล
คบหมอนวดปวดคลายหายกังวล
คบผิดคนระวังเด้อน้อง...จะท้องโต
พอหน้าท้องของแม่เริ่มป่องออก
พ่อก็บอกอยากให้ลูกเป็นด็อกตอร์
ย่าก็อยากให้หลานเป็นนายอำเภอ
แต่ต้องเก้อหมอบอกแม่แค่ลงพุง
เขาย่อมเปรียบเทียบความว่ายามรัก
แม้น้ำผักต้มขมชมว่าหวาน
ครั้นจืดจางห่างเหินไปเนิ่นนาน
อกตั้ง ๆ ยังว่ายานไม่เหลียวแล
เรารักเขาข้างเดียวเหมือนเกลียวเชือก
เขารักเราเผื่อเลือกหารู้ไม่
เขาไม่รักเราแล้วก็แล้วไป
ไม่เป็นไรเอ๋ย...กระเทยมี !
ยามบุญมากาไก่กลายเป็นหงส์
ยามบุญหลงหงส์เป็นกาน่าฉงน
ยามบุญมาหมูหมาก็ว่าคน
ยามบุญหล่นคนเป็นหมาน่าอัศจรรย์
จากหมาไปสามวันยังถิ่นอื่น
ย้อนกลับคืนหมายังจำว่าเจ้าของ
จากนารีวันเดียวไม่เหลียวมอง
น้ำใจน้องเลวกว่าหมา อีห่ากิน! ...
ดูกระดานไหนจะสู้ดูครูสาว
ดูดวงดาวไหนจะสู้ดูตาหวาน
มองขาครูดีกว่ามองกระดาน
มองนาน ๆ กูจะบ้าเพราะขาครู
เกิดเป็นหญิงปากดีราศีช่วย
ปากสวย ๆ พูดดี ๆ ที่สร้างสรรค์
ปากสวย ๆ พูดไม่สวยซวยทุกวัน
ไม่นานวันฟันเลือดกลบถูกตบเอย ฯ
จบแล้วคร้าบบ จะว่าไปแล้วมันก็ไม่ค่อยตลกอะนะครับ ถ้าไม่ปล่อยใจให้สบายๆ ก็ลองอ่านแบบช้าๆ แล้วอิน เข้าในเรื่องดูดิครับ มันก็คลายเครียดดีอะนะครับ ว่าป๊ะ
ผลงานอื่นๆ ของ ริคาโด้ กาก้า ดูทั้งหมด
ผลงานอื่นๆ ของ ริคาโด้ กาก้า
ความคิดเห็น